อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 7 วันที่ 2 พ.ค. 55

{[['']]}
อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 7 วันที่ 2 พ.ค. 55
นิติภูมิที่เข้ามากับแวว มองจักรแล้วมองนำพลอย่างจับผิด จักรที่ยืนฟังอยู่ตรงประตูจึงเดินออกไปเสีย

ooooooo
แววไปเล่าให้หลินฟังเรื่องอาฟงมีข้อแม้ว่าต้องให้สยุมภูว์ไปขอเองจึงจะมา ช่วย หลินเปรยๆว่า ถ้าอย่างนั้นสยุมภูว์คงหนักใจหน่อยแล้ว แววกับนิติภูมิถามว่าทำไม เพราะแค่ไปหาอาฟงไม่เห็นจะยากตรงไหน
“อาฟงเคยมีเรื่องเข้าใจผิดกับคุณสีหราชน่ะค่ะ ก็เลยลาออกจากที่นี่ไป แล้วก็ไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย”

แววติงว่าเรื่องมันนานมาแล้วไม่ใช่หรือ หลินบอกว่าท่าทางอาฟงคงไม่ลืมง่าย ไม่อย่างนั้นคงไม่เรียกร้องให้สยุมภูว์ไปง้อถึงบ้านหรอก

“ถ้าผมเป็นสยุมภูว์ ผมคงต้องยอมแลกล่ะครับ แค่ยอมเสียหน้าสักหน่อยดีกว่าจะปล่อยให้ไร่ชาและทศพลกรุ๊ปเสียหายมากไปกว่านี้” นิติภูมิพูดเชิงยุ หลินบอกว่าตนก็เดาใจสยุมภูว์ไม่ออกเหมือนกัน

เมื่อจักรโทรศัพท์คุยกับเพิ่มพงษ์ เพิ่มพงษ์ขอร้องอย่าเพิ่งไป ให้ระวังตัวไว้ก่อนดีกว่า

“แล้วจะให้คุณนำพลไปหรือไง อาฟงรู้อยู่แล้วว่า คุณนำพลเป็นใคร อีกอย่างนะ พวกนั้นมันไม่รู้ว่าผมคือ สยุมภูว์” เพิ่มพงษ์ไม่เห็นด้วย เสนอจะไปคุยกับอาฟงเอง จักรติงว่า “ผมว่า อาฟงยื่นคำขาดมาแล้ว คุณเพิ่มพงษ์ไป ก็เสียเวลาเปล่าๆแล้วที่เขายื่นข้อเสนอนี้มา มันแปลว่าเขา คงมั่นใจมากว่าช่วยเราได้จริงๆ”

“ถ้ามันเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นมาล่ะครับ คุณสยุมภูว์ คิดว่ามันคุ้มหรือครับที่จะแลกชีวิตตัวเองกับไร่ชาที่เรา พร้อมจะทำขึ้นมาใหม่เมื่อไรก็ได้”


ฟังเพิ่มพงษ์แล้วจักรนิ่งไปอย่างตรึกตรอง

เวลาเดียวกัน นิติภูมิก็เคลื่อนไหวนัดพบกับศักดา คุยกันแล้วศักดาถามว่าจะให้ตนตามไปจัดการสยุมภูว์เลยหรือ

“ยังไม่ใช่ตอนนี้ สยุมภูว์มันต้องรู้ดีว่าอาฟงเป็นคนเก่าคนแก่ที่รู้จักมันดี ถ้ามันไปหาอาฟง ก็เท่ากับว่ามันยอมเปิดเผยตัวเอง แต่ถ้าไม่ไป เราก็แน่ใจได้ว่าสยุมภูว์ที่ไร่นั่นแหละคือไอ้สยุมภูว์ เป้าหมายของเรา”

นิติภูมิยิ้มกริ่มอย่างมั่นใจกับการคาดคะเนของตน

ooooooo

เมื่อนำพลคุยโทรศัพท์กับเพิ่มพงษ์แล้ว เขาขอบคุณอย่างโล่งอกที่ไม่ต้องปลอมเป็นสยุมภูว์ไปพบอาฟง พอดีแววเข้ามา เขารีบวางสายจากเพิ่มพงษ์ ถาม แววว่ามีอะไรไหม?

แววเข้ามาเสนอตัวจะไปกล่อมอาฟงก่อนดีไหมเผื่ออาฟงจะใจอ่อน ซึ่งอาจจะสำเร็จหรือไม่ แต่ตนก็ไม่อยากอยู่เฉยๆทั้งที่ตัวเองเป็นเลขาของสยุมภูว์ นำพลขอคิดดูก่อน พอแววออกไปเขากดโทรศัพท์ถึงสยุมภูว์ทันที

ตกเย็น แววกับหลินก็พากันเดินทางเข้าหมู่บ้านเพื่อไปหาอาฟง หลินบอกว่าสยุมภูว์ให้แววไปคุยกับอาฟง แสดงว่าเขาไว้ใจแววมาก ทั้งสองเร่งฝีเท้าเกรงว่าค่ำแล้ว จะลงมาลำบาก

นิติภูมิส่องกล้องดูอยู่ เขาเชื่อว่าสยุมภูว์คงไม่ปล่อยให้แววมาคนเดียว พอเห็นแววมากับหลินก็แปลกใจ แต่อึดใจต่อมาก็เห็นจักรโผล่มาเดินประกบสองคน

“ไอ้จักร!! โผล่มาได้ไงวะเนี่ย??” นิติภูมิลดกล้องลงงงๆ

จักรเดินมาประกบแล้วเห็นหลินทำหน้างงๆ เขาชี้แจงว่า สยุมภูว์เห็นว่าสองคนน่าจะคุยกับอาฟงจนดึกเลยให้ตนมาช่วยดูแล

ooooooo

เมื่อไปถึงลานหมู่บ้าน แววเห็นลุงแก่ๆ คนหนึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ท่าทางน่าจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน แววชี้ให้หลินกับจักรดู

“นั่นต้องเป็นอาฟงแน่ๆเลยใช่ไหมคะ” ถามแล้วก้าวเข้าไปหาอย่างเร็ว จนหลินกับจักรทักท้วงไม่ทัน แววเข้าไปทักลุงแก่คนนั้นอย่างอ่อนน้อม “สวัสดีค่ะอาฟง หนูชื่อแววนะคะ แววเป็นเลขาคุณสยุมภูว์ค่ะ”

“เลขาสยุมภูว์...มากันแล้วเหรอ” เสียงอาฟงทักมาจากอีกมุมหนึ่งพร้อมกับก้าวออกมาในชุดชาวเขาเต็มยศ มือถือไปป์ ท่าทางน่าเกรงขาม เขามองหาสยุมภูว์ ไปหยุดที่จักร ทั้งสองมองหน้ากันนิ่ง จักรพยายามไม่แสดงพิรุธ

อาฟงชี้ไปที่จักร ถามว่านั่นน่ะหรือสยุมภูว์ แววรีบบอกว่าไม่ใช่ เขาชื่อจักร อาฟงถามว่าแล้วสยุมภูว์ล่ะ

“เจ้านายแววไม่สะดวกมาน่ะค่ะ อาฟงคุยกับแววก่อนได้ไหมคะ”

“เขาเห็นอาฟงเป็นอะไร ถึงได้ส่งเลขาหน้าเซ่อๆ ทักคนผิดๆถูกๆมาคุยด้วย”

แววจ๋อยไปอย่างรู้สึกผิด หลินช่วยพูดว่าแววเพิ่งมาทำงานกับสยุมภูว์ อาฟงตัดบทว่า

“เอาเหอะ เรื่องเลขาอาฟงไม่สน ถ้าเจ้านายเขาไม่กล้ามาเจออาฟง อย่าคิดว่าอาฟงจะคุยด้วยนะ”

แววพูดเสียงอ่อนว่าไม่คุยก็ได้แต่ขอนั่งจิบน้ำชาหน่อย กว่าจะเดินขึ้นมาถึงตนเมื่อยแทบแย่ เหมยลูกสาว อาฟงจึงเอาน้ำชามาให้ หลินทักอย่างคนคุ้นเคยว่าไม่ เจอกันตั้งนานโตเป็นสาวแล้วนะ

พอแววจิบน้ำชาก็ชมอย่างตื่นเต้นว่าหอมจัง ถามว่านี่ชาอะไรหรือ เหมยบอกว่าชื่อชา หอมหมื่นลี้

“ที่ไร่คุณไม่มีอย่างนี้หรอกนะ ไร่คุณน่ะปลูกได้แต่ชาราคาถูก” อาฟงพูดอย่างดูแคลน

หลินชี้แจงว่า อาฟงไม่ได้ไปที่ไร่นานแล้ว เลยไม่รู้ว่าที่ไร่ทำชาตัวนี้ส่งนอกด้วย เหมยพูดอย่างตื่นเต้นว่าดีจังเลย แล้วหันไปทางอาฟง “เห็นไหมป๊า ยังไงคุณสีหราชเขาก็ทำตามคำแนะนำของป๊าอยู่ดี ถึงจะช้าหน่อยแต่ก็ทำ” เลยถูกอาฟงตวาดให้เงียบ ตนไม่ได้สั่งให้พูด

แววถามว่าอาฟงยังโกรธเรื่องนี้อยู่หรือ อาฟงบอกว่าตนไม่ได้แค้นฝังหุ่นขนาดนั้น ถูกเหมยแฉว่าอย่าไปเชื่อ ป๊าพูดเรื่องนี้จนตนเบื่อจะแย่แล้ว บอกแววว่าเรื่องนี้ทำให้ป๊าเสียหน้ามากเลย เหมยถูกอาฟงไล่จะไปไหนก็ไปให้พ้น

“อาฟงลองคิดดูนะ ว่าถ้าตอนนั้นคุณสีหราชยอมปลูกชาตามใจอาฟงแล้วขายไม่ได้เพราะไม่มีตลาด อาฟงจะเสียหน้ายิ่งกว่าการที่ท่านปฏิเสธรึเปล่า” จักรหว่านล้อม

ทั้งอาฟงและจักรโดยมีแววช่วย ต่างพูดถึงเรื่องที่ผิดใจกันในอดีตระหว่างสีหราชกับอาฟง สุดท้ายอาฟงยืนกรานว่า

“คุณเลขากลับไปบอกนายสยุมภูว์ด้วยว่า ถ้าไม่อยากให้ชาตายหมดไร่ก็มาหาอาฟงเสียดีๆ” จักรถามว่าถ้ามาแล้วอาฟงจะทำอะไรเขา อาฟงมองขวับถามก่อนเดินออกไปว่า “จะอยากรู้ทำไมล่ะ แกคือนายสยุมภูว์หรือ”

เหมยมากระซิบบอกแววว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวตนช่วยอ้อนวอนให้ หลินบอกว่าท่าทางจะยาก เหมยทำตาเจ้าเล่ห์บอกว่า

“ถ้ายากขนาดนั้น เหมยก็มีวิธีของเหมยค่ะพี่หลิน” แววทำตาโตถามว่าจะขโมยหรือ “โอ๊ย...พี่แววนี่รู้ทัน...แต่ได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องนะคะ พรุ่งนี้เหมยจะไปส่งข่าวที่ไร่นะ”

“ขอบใจมากนะเหมย พี่เอาใจช่วยนะ” แววลุ้นเต็มที่ เหมยพยักหน้าอย่างมั่นใจมากๆ

ooooooo

เจรจาออดอ้อนอาฟงไม่สำเร็จ แววรู้สึกตัวเองเป็นเลขาที่บกพร่องช่วยอะไรเจ้านายไม่ได้ หลินเชื่อว่าสยุมภูว์ต้องหาทางออกได้ พูดแล้วก็เปรยๆว่า

“จะว่าไปนะคะ คุณสีหราชเป็นยังไง คุณสยุมภูว์ ก็เป็นอย่างนั้น อ่านคนออก เป็นห่วงคนรอบข้าง อยู่ด้วยแล้วมีความสุข แถมยังเป็นขวัญใจเด็กอีกต่างหาก”

แววฟังแล้วเก็บไปคิดเงียบๆ

รุ่งขึ้น สยุมภูว์ก็ขึ้นไปหาอาฟงที่บ้าน เขาไม่ได้คาดหวังว่าอาฟงจะยอมช่วย แต่อย่างน้อยก็เป็นตัวแทนของพ่อที่มาบอกว่าพ่อไม่ได้ต้องการทำให้อาฟงเสียหน้าที่ไม่ได้ปลูกชาตามคำแนะนำในทันทีทันใด

เวลาเดียวกัน นิติภูมิเรียกศักดาไปพบที่ร้านกาแฟ วิเคราะห์กันว่า สยุมภูว์ที่ไร่ชานั้นเป็นตัวจริงหรือไม่ แต่การที่เขาส่งแววไปพบอาฟงแทนนั้น เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นตัวจริง

ตกลงกันว่า เราคงทำอะไรสยุมภูว์ได้ไม่ง่าย ถ้ารู้ว่าสยุมภูว์ออกจากไร่เมื่อไรค่อยจัดการ นิติภูมิพูดอย่างมั่นใจว่า

“อะไรต่ออะไรมันเริ่มจะเข้าที่เข้าทางของมัน แล้วสินะ”

ooooooo

จักรในนามสยุมภูว์กับเพิ่มพงษ์ไปพบอาฟงแต่เช้า อาฟงเปิดประตูออกมาพร้อมกับไปป์ยาสูบ เพิ่มพงษ์ทักขึ้นก่อนว่าจำตนได้ไหม อาฟงพยักหน้าแต่ถามหาสยุมภูว์ บอกว่าถ้าสยุมภูว์ไม่มาเองก็ไม่ ต้องคุย ด่าว่าพูดภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง

เพิ่มพงษ์บ่นขำๆว่าเจอกันก็ใส่เลย อาฟงยืนกรานคำเดิมถ้าทำไม่ได้ก็กลับไปเสีย

ขณะนั้นเอง จักรที่ยืนอยู่ก็ถามอาฟงว่าจำตนไม่ได้หรือ อาฟงมองนิ่ง ยกไปป์ขึ้นสูบ สยุมภูว์เอ่ยขึ้นว่า

“พ่อผมคงดีใจนะที่อาฟงยังไม่เกลียดท่านถึงกับจะยกเลิกใช้ไปป์อันนั้น”

จากไปป์อันนี้เอง นำไปสู่การเล่าเรื่องเก่าๆที่สยุมภูว์ทำไปป์อาฟงหักและยังช่วยปิดบังไม่ให้พ่อรู้ด้วย ทำให้อาฟงเชื่อว่าจักรคือสยุมภูว์จริงๆ แต่คุยกันแล้ว อาฟงก็ยังไม่ยอมช่วยแก้ปัญหายอดชาเน่าอยู่ดี เพราะถือว่าสีหราชทำให้ตนเสียหน้าที่ไม่ทำตามคำแนะนำให้ปลูกชาพันธุ์ใหม่ที่ตนไปหามาจากเมืองจีน แม้สยุมภูว์จะบอกว่าเวลานี้ปลูกชาพันธุ์นี้แล้ว แต่อาฟงก็ยังเล่นแง่ว่า ไม่ใช่คำพูดของสีหราชเอง

อาฟงหารู้ไม่ว่า เหมยเข้าไปขโมย “คัมภีร์ชา” ที่อาฟงเก็บซ่อนไว้อย่างดีไปให้นำพลที่สวมรอยเป็นสยุมภูว์แล้ว เหมยบอกว่าให้ถ่ายเอกสารไว้ทั้งเล่มเลยเพราะตนก็ไม่รู้ว่าสูตรไหนที่ทางนี้ต้องการ วันหลังจะได้ไม่ต้องขโมยมาอีก นำพลในคราบสยุมภูว์จึงสั่งแววให้ไปถ่ายเอกสารไว้

ขณะที่สยุมภูว์ในคราบของจักรกลับมากับเพิ่มพงษ์อย่างห่อเหี่ยวที่ต้องแก้ปัญหาด้วยการรื้อไร่ชาเก่าแล้วปลูกใหม่ทั้งหมด ส่วนอาฟงก็เรียกหาเหมย เมื่อไม่มีเสียงตอบก็เดินหาไปถึงห้องเก็บของ

อาฟงมองที่หีบเก็บของอย่างใช้ความคิดแล้ว ตัดสินใจไขกุญแจเปิดหีบออก อาฟงผงะเมื่อคัมภีร์ชาหายไป อาฟงพึมพำด้วยสีหน้าสะพรึงกลัว “อาเหมย...ไม่นะ!!”

ooooooo

แววถ่ายเอกสารเสร็จบอกเหมยให้รีบกลับเสียเดี๋ยวอาฟงจะสงสัย เหมยแกล้งทำเสียงหลอนๆบอกว่า

“ป๊าเคยบอกว่าคัมภีร์เล่มนี้มีคำสาป ใครขโมยไปต้องมีอันเป็นไป” แล้วพูดยิ้มๆว่า “ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดกับเหมยนะคะ” พูดแล้วเห็นแววกับหลินทำท่ากลัว เหมยหัวเราะถามว่าพี่สองคนเชื่อด้วยหรือ บอกว่า “ป๊าเขาก็ขู่ไปอย่างนั้นล่ะค่ะ จริงไม่จริงใครจะรู้ล่ะคะ เหมยเพิ่งเคยลองเป็นครั้งแรกเสียด้วย” เหมยยิ้มขำๆ แววกับหลินเลยถอนใจโล่งอก

แววบอกเหมยว่า สยุมภูว์จัดรถไปส่งเหมยด้วย หลินบอกว่าส่งแค่ปากทางก็พอ ถ้าไปถึงบ้านเดี๋ยวอาฟงจะสงสัย ระหว่างหลินไปตามคนขับรถนั้น แววพูดกับเหมยอย่างซึ้งใจว่า ไม่รู้จะขอบคุณเหมยยังไงแล้ว เหมยชมว่าสยุมภูว์โชคดีที่มีเลขาที่แสนจะทุ่มเทอย่างแวว

เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เมื่อเหมยขึ้นนั่งรถ มีงูเลื้อยออกมาใต้เบาะกัดขาเหมยแล้วเลื้อยหายไปในพุ่มไม้ข้างทาง พอเห็นรอยเขี้ยวงู แววดูออกว่าเป็นงูพิษ จึงรีบพาไปส่งอนามัยทันที

ข่าวนี้รู้ถึงอาฟง เขารีบขี่มอเตอร์ไซค์มาด้วยความเป็นห่วงเหมย หมอบอกว่าต้องรอผลการตรวจจากกรุงเทพฯจึงจะรู้ว่าเป็นงูแมวเซาหรืองูกะปะ อาฟงเอะอะโวยวายว่ารอถึงตอนนั้นเหมยก็ตายพอดี ยาอะไรก็ฉีดๆเข้าไปเถอะ พอดีพยาบาลมาบอกว่าทางกรุงเทพฯส่งผลตรวจมาแล้ว

ระหว่างนั่งรอคำวินิจฉัยของหมออยู่ข้างนอก แววตัดสินใจเอาคัมภีร์ชาคืนให้อาฟงเอง อาฟงรับไปโดยไม่มองหน้า แววยกมือไหว้ขอโทษที่ตนเป็นต้นเหตุให้เหมยต้องเจอเรื่องแบบนี้

“เอาเถอะ...ยังไงเหมยก็ปลอดภัยแล้ว โดนกับตัวเองแบบนี้ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องเถียงกับอาฟงอีกว่าคำสาปมันมีจริงไหม” พูดแล้วอาฟงยิ้มกริ่ม แววบอกว่าถึงได้สูตรมาแต่ตนก็ไม่รู้วิธีใช้ได้ดีเท่าอาฟง ได้รับคำตอบอย่างไม่แยแสว่า “ถ้าจะให้ช่วยอีกก็เสียใจด้วยนะ ไปคลำต่อกันเองก็แล้วกัน”

พอดีพยาบาลมาบอกว่าหมออนุญาตให้เข้าเยี่ยมคนป่วยได้แล้ว อาฟงดีใจรีบตามพยาบาลเข้าไป เหมยบอกว่าหายดีเมื่อไรตนจะมาช่วยแววที่ไร่ตอบแทนที่แววพาส่งอนามัยได้ทันกาล สุดท้ายอาฟงก็ยอมที่จะมาช่วยพูดแก้เกี้ยวว่า ที่ยอมเพราะเห็นแก่แวว จักรยืนฟังอยู่หน้าห้องเขายิ้มออกอย่างโล่งใจ

ooooooo

ระหว่างที่อาฟงมาช่วยผสมสมุนไพรให้คนงานฉีดเพื่อรักษาชาที่ยอดเน่านั้น เขาเห็นแววนั่งจดบันทึกอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ อาฟงเดินเข้ามาลูบคลำต้นไม้พูดเหมือนคุ้นเคยกันมานานว่า ไม่น่าเชื่อว่ามันยังอยู่

มันคือต้นไม้ที่อาฟงกับสีหราชช่วยกันปลูกไว้นั่นเอง แววปรารภว่าตนมีหน้าที่ดูแลให้มันแข็งแรงแต่น่าเสียดายที่มันไม่ออกดอกออกผลแล้ว อาฟงย้อนถามแววว่าถ้าตนทำให้มันออกดอกออกผลได้ล่ะ แววดีใจถามว่าอาฟงมีปุ๋ยสูตรนั้นหรือ

“ไม่มีหรอก...ถ้าความรักทำให้มันยืนต้นมาจนถึงวันนี้ แล้วหนูคิดว่าความรักจะทำให้มันออกดอกได้อีกครั้งไหมล่ะ”

“งั้น...เราคงต้องลองดูใช่ไหมคะ” แววยิ้มอย่างมีความหวัง

นิติภูมิสบโอกาสเมื่อรู้จากแววว่าวันนี้สยุมภูว์จะไปทำธุระที่ธนาคารในเมือง เขารีบโทร.บอกศักดาให้หาโอกาสลงมือเลย ย้ำว่ามีเวลาหนึ่งชั่วโมงที่จะจัดการกับสยุมภูว์ สั่งว่า

“จัดการให้เรียบร้อยนะ ฉันจะไปรอฟังข่าวดีที่โรงแรม”

ศักดารับคำอย่างมั่นใจแล้วเตรียมออกดำเนินการทันที

เพราะนำพลในคราบของสยุมภูว์เคยได้ยินเพิ่ม-พงษ์บอกว่าที่สยุมภูว์ต้องเก็บตัวเพราะกลัวถูกตาม วันนี้เขาจึงระมัดระวังตัว แล้วก็รู้ตัวว่ามีรถขับตามมาอย่างผิดสังเกต นำพลแกล้งขับรถให้ผิดปกติผิดเส้นทาง รถ คันนั้นก็ยังตามไปติดๆ

เพื่อให้เห็นหน้าคนตามชัดๆ นำพลเร่งรถไปข้างหน้าแล้วขับสวนมาราวกับจะประสานงากัน ทำให้เห็นหน้าศักดาชัดเจน เมื่อเขาโทร.บอกเพิ่มพงษ์ ว่าเห็นหน้ามันแล้ว เพิ่มพงษ์จึงส่งคลิปไอ้หน้าโหด ที่สยุมภูว์ถ่ายรูปไว้ได้ตอนแสดงภาพวาดของแววมาให้ดูว่าเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า

“ครับคุณเพิ่มพงษ์ ถึงไร่แล้วผมจะรีบเปิดดู”

หลังจากนั้น ตงตงก็มาตามจักรที่กำลังแกล้งยั่วแววที่วาดรูปอยู่ที่ระเบียงบ้านพัก ว่าสยุมภูว์ให้มาตามไปที่สำนักงาน แววสงสัยว่าสยุมภูว์เรียกจักรไปทำอะไรจะไปด้วย ตงตงบอกว่าสยุมภูว์อยากเจอจักรคนเดียว แววเลยชะงัก

ooooooo

อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 7 วันที่ 2 พ.ค. 55
ละคร แววมยุรา บทประพันธ์โดย : พนมเทียน
ละคร แววมยุรา บทโทรทัศน์ : ทองเอก และ วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ละคร แววมยุรา กำกับการแสดง : ชานนท์ สัมฤทธิ์
ละคร แววมยุรา แนวละคร : โรแมนติก
ละคร แววมยุรา ผลิต : บริษัท เวฟมีเดีย เวิลด์ จำกัด โดย ตู่-ปิยวดี มาลีนนท์
ละคร แววมยุรา ออกอากาศทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.30 น.ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ