อ่านละคร แก้วกลางดง ตอนที่ 4/2 วันที่ 1 พ.ค. 55

{[['']]}
อ่านละคร แก้วกลางดง ตอนที่ 4/2 วันที่ 1 พ.ค. 55
วันใหม่...รำพาเพิ่งกลับมาถึงบ้าน เรียกหาอัญชิสา เมื่อเห็นว่าที่ห้องรับแขกลูกสาวไม่อยู่
“หวาน น้ำหวาน ลูกหวาน”
อัญชิสา เพิ่งตื่นลงมา
“อะไรคะ คุณแม่ วันนี้กลับมาเร็วจัง หรือว่าขาขาด”
“ลูกขา ถ้าขาขาดแม่ก็เดินไม่ได้ซิ โอ๊ย...ไม่ใช่ นี่หนูดูหนังสือพิมพ์ ฉบับเช้านี้หรือยัง”
“ยังเลยค่ะ แล้วแม่คะ ตอนนี้ไม่มีใครอ่านหนังสือพิมพ์แล้ว เค้าเช็คข่าวจากเฟสบุ๊ค หรือไม่ก็ทวิสเตอร์กัน”
“อะไรก็ได้ เปิดด่วนเลย โอ๊ย...ชักช้านี้ดีกว่า แม่หยิบมาให้แล้ว”
รำพาหยิบหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง ที่พับใส่กระเป๋าออกมาชี้ให้ลูกสาวอ่าน อัญชิสา ยอมอ่านอย่างเซ็ง ๆ
“ตะลึงพบโรงงานผลิตเฮโรอินใหญ่ กลางป่า ฮีโร่หนุ่มพาเจ้าหน้าที่บุกจับตาย”
ในข่าวมีรูปทรงเผ่านอนสลบอยู่เตียงพยาบาลตอนนำส่งโรงพยาบาล มีเมียวดีเกาะอยู่ไม่ห่าง
“เอ๊ะ นี่มันคุณเผ่านี่คะ คุณแม่”
รำพาอยากรู้รอลูกสาวคุยโทรศัพท์อยู่ อัญชิสา วางหูแล้วเดินออกมา
“คุณบัวคลี่ก็ยังไม่ทราบรายละเอียด รู้แต่ว่า คุณพ่อคุณเผ่า พาตัวมารักษาที่กรุงเทพแล้ว”
“งั้นเหรอ แม่งงไปหมดแล้วเรื่องมันยังไงกันคะ ไหนหนูบอกว่าคุณเผ่าเป็นช่างภาพไง ที่แท้ก็เป็นสายลับนี่เอง ต๊าย เหมือนหนังไทยสมัยแม่สาวๆเลยนะ ความจริงแล้วผมคือ ร้อยตำรวจเอกทรงเผ่าปลอมตัวมา ฮะ ๆๆ”
“แม่คะ ไม่ตลกเลยนะคะ”
รำพาเลยเงียบ
“หวานเป็นแฟนเค้าแท้ๆแต่เค้าเห็นหวานเป็นอะไร จะทำอะไรก็ไม่ยอมบอก แถมยังชอบทำอะไรเสี่ยงๆไม่เข้าท่า”
“หวานจ๊ะ แม่ว่าใจเย็นๆ ดีกว่านะ”


ขณะเดียวกันนั้นคนใช้เข้ามาหา
“คุณคะ มีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ คุณน้ำหวานอยู่หน้าบ้านค่ะ”
รำพาตาโต
“ต๊าย ลูกหวานขา ดังใหญ่แล้ว” รำพารีบสั่งคนใช้ “แกไปบอกเค้า ว่าอีกหนึ่งชั่วโมงมาใหม่ ให้ลูกหวานอาบน้ำ แต่งตัว แต่งหน้าก่อน”
“ไม่ต้อง!” อัญชิสาเสียงแข็ง
“อุ๊ย...ชั่วโมงหนึ่งไม่ทันเหรอคะ งั้นเป็นชั่วโมงครึ่งก็แล้วกัน เดี๋ยวช้ากว่านี้นักข่าวจะไม่รอ”
“ไม่ใช่ค่ะ แต่หนูจะไม่ให้สัมภาษณ์อะไรทั้งนั้น แม่คิดดูซิคะ หวานไม่รู้อะไรเลย แล้วจะให้หวานตอบอะไร ขายหน้าเปล่าๆ ไม่เอาหรอกค่ะ”
“จ๊ะๆไม่เป็นไร งั้น ไปอาบน้ำอาบท่า ไปเยี่ยมคุณเผ่ากันดีกว่า”
“ไม่ค่ะ คุณเผ่าทำแบบนี้ไม่ให้เกียรติหวานซักนิด เหมือนไม่สนใจว่าหวานเป็นแฟน หวานก็ไม่เห็นต้องแคร์เค้าเลย จะเป็นจะตายก็ช่าง”
“หวาน...แม่เข้าใจว่าลูกน้อยใจคุณเผ่า แต่ว่าเอาแต่พองามดีมั้ย ทำแบบนี้มันเสียคะแนนนะคะ แล้วถ้าลูกคิดจะเปิดตัวให้สังคมรับรู้ เวลานี้ก็เป็นเวลาที่ดีที่สุดแล้ว”

คราวนี้อัญชิสา ฉุกคิดบ้าง

ในห้องพักคนไข้ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ...เมียวดีนั่งยองๆ เฝ้ามองทรงเผ่าไม่คลาดสายตาอย่างเป็นห่วง แต่ไม่พูดอะไร ทรงเผ่ายังสลบอยู่บนเตียง ฟ้าลั่นนั่งหลับกรนเสียงดัง บัวคลี่กับทนงเข้ามา ฟ้าลั่นตื่นรีบเช็ดน้ำลาย บัวคลี่เห็นทรงเผ่าก็อดร้องไห้ไม่ได้

“คุณเผ่า โธ่ ฮือ ๆๆ”
“นายยังไม่ตายสักหน่อย ร้องไห้ทำไม” เมียวดีพูดขึ้น
บัวคลี่ถึงกับมองหน้าเมียวดีคิดไม่ถึงว่าจะโดนถอนหงอก หันไปมองทนง
“ก็จริงของเด็กมันนะคุณ หมอบอกว่าเจ้าเผ่ามันปลอดภัยแล้ว ที่แผลฟกช้ำอีกไม่นานก็หาย เหลือก็แค่ ซี่โครงหัก แล้วก็ไข้ป่าเท่านั้น”
“เท่านั้นหรือค่ะ นี่มันไม่ใช่น้อยๆเลยนะ โธ่ คุณเผ่า คงเจ็บมาก น่าสงสารจริงๆ”
บัวคลี่เริ่มน้ำตาไหลอีก ยกผ้าขึ้นเช็ดน้ำตาป้อยๆ
“อ้าว น้ำตาไหลอีกแล้ว นี่ถ้าแม่วงศ์มาอีกคน คงได้ร้องกันไม่เลิก เดี๋ยวนังเหมียวมันก็ได้ถามอีกหรอก ว่าวันนี้จะเผาเจ้าเผ่าแล้วหรือยังไง”
บัวคลี่ค้อนให้
“คุณพี่อ่ะ”
ฟ้าลั่นมองบัวคลี่แล้วหันไปถามทนง
“นี่เมียนายเหรอ พ่อนาย อ้วนแล้วก็แก่แบบนี้ นายเอามาทำเมียทำไม ใช้งานอะไรก็ไม่ได้”
บัวคลี่สะดุดกึกตาโต ถึงกับจุกพูดไม่ออก ทนงขำ
“เฮ้ยไม่ใช่...ไอ้เผ่ามันไม่ชกข้ามรุ่นขนาดนั้นหรอก นี่เมียฉันเองชื่อคุณบัวคลี่ รู้จักไว้ซิ...นี่เมียวดี กับฟ้าลั่น ที่ผมเล่าให้ฟังไงคุณ”
บัวคลี่ยกมือจะรับไหว้ตามความเคยชิน แต่สองคนไม่ได้ไหว้กลับพุ่งไปสนใจทรงเผ่าเหมือนเดิม ทำให้บัวคลี่เก้อ

ทนงพาฟ้าลั่นกับเมียวดีมาที่บ้าน...ประตูรถเปิดอ้า ทนงกับบัวคลี่พยายามพูดให้เมียวดีลงมาจากรถโดยมีวงศ์ยืนอยู่ด้วย
“ลงมาซิเจ้าเหมียว ฟ้าลั่น ถึงบ้านแล้ว”
เมียวดีกับฟ้าลั่นอยู่ในรถสั่นหน้า
“เราอยากอยู่กับนายมากกว่า พ่อนาย”
“ถ้าอีเมียวไม่ลง ฟ้าลั่นก็ไม่ลง”
“ก็มาอยู่ที่นี่ก่อน ให้นายเค้าได้รักษาตัวก่อน ไม่ต้องห่วงหรอก เค้ามีพยาบาลดูแล” ทนงอธิบาย
เมียวดีส่ายหน้า
“แต่เราอยากเฝ้านาย กลับไปหานายดีกว่า”
ทนงส่ายหัว หันไปบ่นกับบัวคลี่
“มันดื้อตาใสเหลือเกิน”
บัวคลี่หันไปหาคนขับรถ
“นายสนไปลากตัวลงมาไป๊”
“ครับ”
สนเข้าไปลากตัว แต่เมียวดีกลับถีบเข้าให้จนกระเด็นออกมาลงไปกองกับพื้น วงศ์ตกใจ
“ตายแล้ว ทำไมฤทธิ์เดชมากมายขนาดนี้”
บัวคลี่ทนไม่ไหว จัดการขั้นเด็ดขาดตวาดเสียงเขียว
“นี่ ถ้าไม่ลงมา ฉันจะไม่พาไปหานายเธออีกนะ”
“ตัวก็ขาวอยู่หรอก แต่ใจดำเป็นอีกา”
บัวคลี่อ้าปากค้างพูดไม่ออก เมียวดีไม่สน
“เราไปเองก็ได้”
บัวคลี่กัดฟันขู่ต่อ
“นี่มันกรุงเทพนะ ไม่ใช่ป่าแถวบ้านตัว ถ้าไปถูกก็ไปซิ”
ทั้งสองมองวัดใจกันอยู่พัก เมียวดีจึงค่อยๆแหย่เท้า ลงมาจากรถ บัวคลี่แอบหันไปยิ้มกับทนงที่ทำสำเร็จ ฟ้าลั่นตามลงมา ก่อนจะมองสำรวจบ้าน
“โอ้โห้ นี่มันบ้านหรือว่าที่ว่าการอำเภอกันอีเหมียว ทำไมมันใหญ่จัง แบบนี้อยู่ทั้งหมู่บ้านยังได้เลยนะ”
ทนงขำ บัวคลี่หันมาบอกวงศ์
“แม่วงศ์ เดี๋ยวช่วยจัดการต่อทีเถอะ หาข้าวหาปลาให้กินด้วยนะ ฉันไม่ไหวแล้ว จะเป็นลม”
“ได้ค่ะ คุณ”
ทนงประคองบัวคลี่ออกไป แม่วงศ์หันมาดู เมียวดีแอบแลบลิ้นใส่

วงศ์พาเมียวดีกับฟ้าลั่นมากินข้าวกันในครัว เมียวดีพ่นข้าวกลับใส่จาน วงศ์ตกใจ
“ตายจริง ทำแบบนี้มันไม่ สุภาพเลยนะคะ นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นคนช่วยพาคุณเผ่าออกมาล่ะก้อ จะตีให้สักป้าบ”
เมียวดีตั้งการ์ดมวยทันที
“ก็มาซิ มือตีนเราก็มี”
“เท้าค่ะ คำว่าเอ่อ...ตีน นะ ที่นี่เค้าไม่เรียกกัน”
“บ้านเราใครๆก็เรียกตีน ตั้งแต่เล็ก พ่อเราก็เรียกตีน นี่ แกเรียกว่าอะไรไอ้หมาลั่น”
เมียวดียกเท้าขึ้นมาถาม
“ก็ตีนไงอีเมียวถามได้”
วงศ์ถอนใจส่ายหน้าระอา
“เอาเถอะๆ นั่นนะที่บ้านคุณ แต่เมื่อมาอยู่กรุงเทพ ก็ต้องพูดแบบคนกรุงเทพ เข้าใจมั้ยคะ แล้วนั้นไม่ กินข้าวต่อแล้วเหรอ”
“เรากินไม่ลง มันติดคอ”
ฟ้าลั่นเบ้หน้า
“จืดสนิท ไม่มีรดชาดเล้ย”
วงศ์โมโหนิดๆ ที่ถูกสบประมาท
“แล้วอยู่บ้านคุณ คุณกินยังไง ถึงเรียกว่าอร่อย”

ทนงนั่งอยู่กับบัวคลี่ในห้องนั่งเล่น วงศ์เข้ามารายงาน ทนงหัวเราะชอบใจ
“ฮะๆๆๆ กินข้าวกับพริกงั้นเหรอ”
“ค่ะ จัดสำหรับให้ก็ไม่ยอมกินค่ะ กินแต่ข้าวเปล่ากับ พริกขี้หนูเป็นกำๆ แล้วก็ไม่มีท่าทีว่าจะเผ็ดกันเลย ดิฉันเห็นแล้วก็หวาดเสียวแทน”
ทนงขำๆ
“แถวบ้านเค้ากินแบบนั้น กินข้าวกับเกลือ กับพริกแห้ง ก็ดีนะ ไม่เปลืองกับข้าวไงแม่วงศ์”
บัวคลี่ไม่ค่อยชอบใจนัก
“แต่แหม ทโมนเหลือเกินนะคะ คุณพี่ คำพูดคำจาแต่ละคำไม่มีความเป็นผู้หญิงเลย”
“มันโตมากับป่า จะให้นุ่มนวลยังไงกัน เอาน่า ช่วยดูแลกันไปก่อน เดี๋ยวเจ้าเผ่ามันหายมันก็มาจัดการของมันเองนั้นแหละ”
“งั้นคงต้องอบรมให้เป็นผู้เป็นคนกันหน่อยแล้วล่ะค่ะคุณพี่ เอ๊ะ ได้กลิ่นอะไรมั้ยคะ เหมือนใครมาเผาอะไรแถวนี้”
บัวคลี่ทำจมูกฟุตฟิต ทนงกับวงศ์พลอยสูดไปด้วย
“หอมๆกลิ่นเหมือนไก่ย่างมากกว่านะ”
วงศ์ดมๆ
“จริงด้วยค่ะ แต่ใครจะมาย่างไก่ในบ้านเราล่ะค่ะท่าน”
ทันใดนั้นเด็กรับใช้วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“คุณท่านคะ แย่แล้วค่ะ สองคนที่มากับท่าน เที่ยวไล่จับนกในกรง หนูห้ามเท่าไร ก็ไม่ฟัง”
วงศ์หน้าตื่น
“เห็นทีจะไม่ใช่ไก่ย่างเสียแล้วค่ะ น่าจะเป็นนกย่างเสียมากกว่า”
ทนงกับบัวคลี่มองหน้ากัน แล้วก็พอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เจ้าเหมียว!”
ทั้งหมดรีบออกไปที่สนามหญ้าหน้าบ้านเห็น เมียวดีแทะนกย่างกำลังควบคุมฟ้าลั่นที่ย่างนกอยู่
“อ้าว พ่อนาย มาพอดี กินนกย่างมั้ยอร่อยดีนะ”
ทั้งหมด หันไปมอง กรงนกที่วางอยู่ไม่ไกล เปิดอ้าอยู่ แต่ไม่มีนกในกรงแล้ว บัวคลี่อึ้ง
“นกในกรงนี่เหรอ”
เมียวดียิ้ม
“ใช่...แต่ผอมไปหน่อยนะ ไอ้หมาลั่น”
“ฮือ...สู้นกในป่าไม่ได้ เนื้อแน่นกว่านี้เยอะ”
“นกในกรงนั่น พวกเธอเอามา...กินเหรอ เอิ๊กก”
บัวคลี่ลมขึ้น ตั้งท่าจะเป็นลม ทนงรีบประคอง
“แม่วงศ์ พาคุณบัวคลี่เข้าข้างในไปก่อนไป”
“ค่ะ”
วงศ์ประคองบัวคลี่เข้าไป ทนงหันมาหาเมียวดี
“เจ้าเหมียว นกนั้นนะ เค้าไม่ได้เลี้ยงไว้กิน เค้าเลี้ยงไว้ดูเล่นกัน”
เมียวดีงงๆ
“คนกรุงเทพนี่ก็แปลกนะ เลี้ยงนกไว้ดูเฉยๆ แล้วจะเลี้ยงไว้ทำไม เปลืองข้าวเปลืองน้ำเปล่าๆ เมียพ่อนายจะตกใจทำไม”
ทนงมองอย่างเอ็นดู
“ที่นี่มันคือป่าคอนกรีต ไม่ใช่ป่าอย่างบ้านเราหรอกเจ้าเหมียว คนที่นี่ ก็ไม่เหมือนคนที่บ้านป่าที่เราเคยอยู่”
“ต่างกันยังไง มันก็คนเหมือนกัน กินแล้วก็ขี้เหมือนกัน”
“อยู่ๆไป เราก็รู้เองแหละ เหมียวเอ๊ย”
ทนงจับหัวอย่างเอ็นดู
“นี่ พ่อนายไม่โกรธเราเหรอ”
ทนงยิ้มรู้ทัน
“ไหนว่ามาซิ หิวเหรอถึงจับนกกิน หรือว่ากับข้าวไม่ถูกปาก”
เมียวดีอึ้งไปนิด ก่อนตัดสินใจบอก
“เราอยากไปหานาย เมื่อไหร่พ่อนายจะพาเราไปหานายเสียที”
ทนงยิ้มอย่างเอ็นดู เมื่อรู้ว่าจริงๆแล้วเมียวดีต้องการอะไร

บัวคลี่ยังนั่งกึ่งนอนพิงอยู่ที่เตียงพร้อมยาดม
“ตายจริง ที่ป่วนไปทั่ว ก็เพราะอยากไปเยี่ยมคุณเผ่างั้นเหรอค่ะ”
“ใช่...ยายเหมียวนะถึงชาวป่า ชาวดอย แต่ก็ไม่ได้โง่นักหรอกนะ คุณดูตาแกซิ ฉลาดเป็นกรดทีเดียว”
“ก็น่าจะใช่นะคะ เพราะไม่งั้นแกคงไม่พาคุณเผ่ารอดมาได้ ดูแกจงรักภักดีกับคุณเผ่าเหลือเกิน”
“ก็สองคนเค้าร่วมเป็นร่วมตายกันมานี่ จะทิ้งกันได้ไง”
“แล้วคุณพี่จะพาแกไปเยี่ยมคุณเผ่าเมื่อไหร่ล่ะคะ”
ทนงบอกให้รู้ว่าจะพาไปวันพรุ่งนี้

วันต่อมา...ทนง พา เมียวดี กับฟ้าลั่นมาเยี่ยมทรงเผ่า เมียวดีเปิดประตูเข้ามาอย่างดีใจ ทรงเผ่าฟื้นแล้ว พยาบาลมาวัดไข้แล้วออกไปพอดี
“นาย...นายฟื้นแล้วเหรอ”
เมียวดีพุ่งตรงมาเกาะขอบเตียงทันที ตาวาวอย่างดีใจ ทรงเผ่ายิ้มแย้มให้ทั้งสอง
“เมียวดี ฟ้าลั่น!”
ทนงดีใจที่ลูกชายอาการดีขึ้น
“เจ้าเหมียว มันอยากมาดูว่านายมันเป็นไงบ้าง”
“ดีขึ้นแล้วล่ะ”
“งั้นนายก็หายแล้วซิ นายหายเราก็กลับบ้านได้แล้วใช่มั้ย”
“อ้าว จะรีบกลับทำไม อยู่กรุงเทพไม่สนุกเหรอ ใครๆก็อยากอยู่กรุงเทพกันทั้งนั้น”
ฟ้าลั่นหันไปมองเมียวดี
“ถ้าอีเมียวอยู่ ฟ้าลั่นก็อยู่”
เมียวดีกัดปากตัดสินใจ
“ที่นี่ ไม่ใช่บ้านเรา”
ทรงเผ่ารีบดักคอ
“แต่อย่าลืมสัญญาซิ ฉันเป็นคนฆ่าไอ้ลาย”
“ไม่ใช่สักหน่อย ไอ้แมวยักษ์มันตกลงไปที่หลุมขวากเอง”
“ถ้าไม่เพราะฉัน ไอ้ลายก็ไม่ตกลงไปหรอก เพราะฉะนั้นก็ต้องเท่ากับว่าฉันฆ่ามันได้ เธอแพ้ฉัน เธอก็ต้องอยู่ในความดูแลของฉัน จำได้มั้ย เมียวดี”
เมียวดีเม้นปากไม่อยากเอ่ยปากยอมรับ ทนงพูดตัดบทขึ้น
“อย่าเพิ่งพูดเลย ไว้แผลหายดีก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน”
เมียวดีชะโงกมาดู
“เป็นแผล แต่ไม่เอายาพอกปากแผลไว้ มันจะหายได้ยังไง”
“นี่มันเป็นวิธีรักษาของหมอในเมือง”
เมียวดีเหลือบมองที่โต๊ะข้างๆ เห็นยาที่พยาบาลวางไว้ในแก้ว
“ยาก็กินนิดเดียว”
“หมอเค้ามียาฉีดด้วย ไม่ใช่แค่นี้”
“ยาฝรั่ง เหอะ” เมียวดีเบ้หน้าดูถูก “สู้ยาต้มไม่ได้หรอก แต่ ที่นี่จะไม่ใช่ป่าบ้านเรา คงหาตัวยาลำบาก”
ฟ้าลั่นนึกได้
“ลองไปหาดูก็ได้นะอีเมียวเผื่อจะมี ไปเถอะ ข้าไม่ชอบอยู่ในห้องแบบนี้เลย มันอึดอัด หายใจไม่ค่อยออกยังไงก็ไม่รู้”
ฟ้าลั่นเผ่นไปที่ประตูเปิดผางออกมา เจอกับรำพาที่ถือช่อดอกไม้ กำลังเปิดเข้ามาพอดีเช่นกัน
“ว๊าย...อกอีกแป้นแตก”
ต่างคนต่างมองหน้ากัน งงเพราะไม่เคยเจอกัน
“ใคร...อ้อรู้แล้ว แก่ๆแบบนี้ คงเป็นเมียอีกคนของพ่อนาย”
ทนงสะดุ้ง
“เฮ้ย...เจ้าฟ้าลั่นพูดอะไรวะ เดี๋ยวคุณบัวคลี่ได้ยิน คืนนี้ฉันโดนนอนนอกห้องแน่” ทนงรีบชะเง้อไปดู “คุณหญิง รำพา”
“สวัสดีค่ะ...ดิฉันกับลูก มาเยี่ยมคุณเผ่านะคะ”
รำพาถอยห่างจากประตูให้อัญชิสาก้าวเข้ามาในห้อง ทรงเผ่ายิ้มอย่างดีใจเมื่อเห็นหน้าคนรัก
“คุณหวาน”
อัญชิสา ยิ้มให้แล้วเดินเข้าไปกอดทรงเผ่าที่นอนอยู่ เมียวดีสังเกตดูอยู่อย่างเงียบๆ
“แม่เจ้าโวย...ผู้หญิงในกรุงเทพนี่ขาววอกจริงๆเลยนะอีเมียว”
เมียวดีหมั่นไส้ เลยแอบเคาะหัวฟ้าลั่นไปหนึ่งที แต่ตามองอัญชิสา กับทรงเผ่าไม่วางตา

อ่านละคร แก้วกลางดง ตอนที่ 4/2 วันที่ 1 พ.ค. 55
ติดตามละคร แก้วกลางดง ได้ทุกวัน จันทร์ - อาทิตย์ เวลา 7.30 ,10.30 ,20.00 และ 23.00 ทาง ช่อง 8
ละคร แก้วกลางดง ประพันธ์ โดย ทมยันตี
ละคร แก้วกลางดง บทโทรทัศน์โดย ธนินทร อุชุภาพ
ที่มา manager.co.th
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ