อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 13/2 วันที่ 2 พ.ค. 55

{[['']]}
อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 13/2 วันที่ 2 พ.ค. 55
เวลาเดียวกันอัศนัยอยู่ในห้องนอนแล้ว นั่งมองทอดสายตาออกไปข้างนอก ใคร่ครวญ หวนนึกถึงคำพูดเด็กสาวที่เขารักใคร่พันผูก
“ใช่ ดอกโศกรักคุณนัยจ้ะยาย”
สองคนหวนนึกถึงเรื่องเมื่อตอนหัวค่ำ
สมใจงง เพราะต่างคนต่างรัก “อ้าวก็จะมีปัญหาอะไรล่ะ”
“ตอนนี้ดอกโศกยังเรียนหนังสือ รักใครไม่ได้จ้ะยายจนกว่าจะเรียนจบ” ดอกโศกบอกยาย

เสียงอัศนัยสวนคำออกมา “ทำไมถึงจะรักไม่ได้ รักคุณนัยเหมือนที่ดอกโศกรักอยู่ทุกวันนี้”

เสียงนั้นดังก้องกังาน ใบหน้าขึงขังจริงจังวนเวียนในความคิดคำนึง ดอกโศกรู้สึกปวดร้าวใจ

“คณนัยมีคู่รักอยู่แล้วจ้ะยาย” ดอกโศกบอกสมใจ
สมใจงง “อ้าว...จริงเหรอคุณนัย”
สมปองกังวล “ตายละวา”
“ผมรู้จักผู้หญิงคนนี้มานาน เขาชื่อปรียากมล” อัศนัยบอกสมใจ
“โห...ชื่อยาวเป็นวา” สมใจว่า
“อภิรมย์ฤดีก็ยาว แล้วยังนามสกุลรัตนชาติพัลลภ รวมกันยาวจริง”
“แล้วแม่มน....มนเนี่ย เค้านามสกุลอะไรเหรอคุณนัย” สมใจถาม
“เขานามสกุล ซิม”
สองคนหน้าเหวอ
สมปองถามก่อนใคร “ซิมอะไร”
“ซิมเฉยๆ”
“เอ๋อ” สมปองหน้าเหวอ
“ทำไมสั้นกุ๊ด” สมใจว่า
อัศนัยสัพยอก “เลยกลายเป็นคุยเรื่องนามสกุล”
บรรยากาศเริ่มดีขึ้น สองแม่ลูกหัวเราะเบาๆ แต่ดอกโศกหน้าเฉยนิ่ง
อัศนัยเล่าต่อ
“เราเคยเป็นแฟนกัน แต่ตอนนี้” ดอกโศกลุกไม่อยากฟัง อัศนัยฉวยแขนไว้ให้นั่งลง “อย่าเพิ่งไปไหน” น้ำเสียงเข้มดุ “ขอให้มีเหตุผลหน่อยเรากำลังพูดเรื่องสำคัญ...สำคัญที่สุดในชีวิตผมครับยาย ผมขอยืนยัน สาบานว่าไม่มีอะไร ผู้หญิงคนนั้นเป็นเพียงอดีตที่นับวันจะหายไปจากชีวิตผม”


ดอกโศกเถียงทันควัน “ไม่จริง”
“ตอนนี้เขาอาจจะยังอยู่ แต่เป็นหน้าที่ของคุณนัยที่จะทำให้เขาหายไป”
“ไม่....เขาจะไม่หายไป” ดอกโศกของขึ้น
“ดอกโศก ถ้าคุณนัยพูดถึงขนาดนี้ดอกโศกยังไม่เชื่อ เราก็ไม่มีอะไรจะพูดกันอีกแล้ว”
ดอกโศกกัดฟันแน่น กลั้นก้อนน้ำตาสุดแรงเกิด
“ถ้ายังนับถือ และถ้ายังรัก..” อัศนัยมองเข้าไปในดวงตาดอกโศก “ขอให้เชื่อ ถ้าสิ้นนับถือ ถ้าสิ้นรัก ก็บอกมาเลยดอกโศกต่อหน้ายาย ต่อหน้าน้าปอง คุณนัยจะไปจากตรงนี้ เราจะไม่พบกันอีกจนตาย”
ฟังคำนี้ดอกโศกน้ำตาทะลักทะลาย ก้มหน้าร้องไห้จนตัวสั่น
อัศนัยเข้ากอด ดอกโศกส่ายหน้าไม่ยอม จะเข้าบ้านอัดอั้นตันใจที่สุด
อัศนัย กอด..รั้งร่างสั่นสะท้านของดอกโศกเข้าไว้ในอ้อมอก หลั่งความรักและอุ่นไอปลอบโยนไปเต็มๆ
จนดอกโศกนิ่งอยู่กับอก
มีชาวบ้านคนหนึ่งเดินมาแต่ไกล
สมใจเห็นแตะอัศนัยให้ปล่อย
ดอกโศกพูดไปสะอื้นไป กลัวปรียากมลจับจิตอย่างไม่มีเหตุผล “ถ้าคุณปรียากมลเขามาพูดกับดอกโศกอย่างที่เขาเคยพูด...ถ้าเขามาอีกครั้ง ดอกโศก...กลัวเขา”
“คุณนัยพูดกับเขา หวังว่าเขาคงเข้าใจไม่มาอีก” อัศนัยบอก...ทั้งที่ไม่แน่ใจว่าปรียากมลจะหยุด
“แหม...ความรักนะพูดยาก” สมปองส่ายหน้า
“ถ้าเขายังมา ปองต้องคอยดูแลหลานอย่าให้ดอกโศกเผชิญหน้ากับเขาสองคน ปองไปส่งไปรับจากโรงเรียน อีกไม่กี่วันสอบเสร็จแล้วก็อยู่บ้าน รอมหาวิทยาลัยเปิด”

นึกถึงตอนนี้ ดอกโศกถอนหายใจแรง พลิกตัวนอนตะแคงหันไปทางน้าสาวมาดเท่ สมปองนอนมองตาแป๋ว
“น้าปอง”
สมปองตบไหล่ปลอบเบาๆ “นอนให้หลับเดี๋ยวไม่สบาย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด...ใครจะห้ามได้”
ดอกโศกกระซิบถามเบาๆ “อะไร”
“ทุกอย่าง เตรียมตัวตั้งรับไว้แล้วกัน มันคงจบยากฟังๆ ดู ผู้หญิงคนนี้คงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ” สมปองมั่นใจ

เวลาเดียวกันนั้นในแสงไฟสลัวราง....เกือบมืดมิด จนทุกอย่างในห้องคอนโดของปรียากมลเห็นเป็นเพียงเงาตะคุ่มๆ ร่างชายหญิงทั้งสองกำลังกอด...จูบซุกไซ้เริงโลดโผนทะยานไปตามแรงอารมณ์
เป็นตระกูล กับ ปรียากมล!!
ตระกูลรุกไล่ไปเรื่อยๆ ในแสงสลัวนั้น สักครู่เดียวปรียากมล ก็ยันตัวตระกูลออกไป ไฟเปิดสว่างพรึ่บ ปรียากมลลุกขึ้นจัดเสื้อผ้า
ตระกูลอารมณ์ค้างคา “ปรียากมล”
“ฉันเรียกคุณมาอยู่เป็นเพื่อน ไม่ใช่เรียกคุณมานอนกับฉัน”
“ก็เกือบแล้ว” เสียงตระกูลพูดครางเบาๆ
“ต่อไปไม่ต้องมาอีก ถ้าคิดแค่นั้น”
“โธ่เอ้ย...ก็คนรักจนจะบ้าตายอยู่แล้ว” ตระกูลรำพัน มีอารมณ์นิดๆ
“ไปได้แล้ว จำไว้นะไม่มีอะไรมากกว่านี้ ฉันรักอัศนัยไม่ได้รักคุณ”
ปรียากมลตอกผาโลง ตระกูลนั่งนิ่งอึ้ง สีหน้าเจ็บปวดอยู่สักครู่ ไม่ยอมขยับไปไหน
ปรียากมลหยิบกุญแจรถส่งให้ “กลับไปรีบถอดเสื้ออาบน้ำซะ กลิ่นตัวฉันติดตัวคุณเต็มไปหมด เมียคุณไม่โง่นะ”
“ไม่ต้องพูด ผมไม่ลืมหรอกว่าผมมีเมีย”
“เมียที่เกื้อหนุนคุณซะด้วย” น้ำเสียงปรียากมลเยาะแกมหยัน
ตระกูลทำอะไรไม่ถูก ปากุญแจรถที่รับมาไปเต็มแรง เพื่อปลดปล่อยอารมณ์
ปรียากมลนิ่ง ตระกูลลุกอย่างแรงไปหยิบกุญแจรถแล้วออกไป ปิดประตูดังเปรี้ยง!!

กลางดึกคืนเดียวกันที่บ้านรัตนชาติพัลลภ อุ๊ถือหนังสือเรียนอยู่ในมือ แนบหูฟังอยู่หน้าห้องเพ็ญพักตร์ เสียงพ่อกับแม่ทะเลาะกันแว่วๆ

อารมณ์ของสองคนด้านในห้องเตลิดไปตามความรู้สึก แตกต่างแต่รุนแรงพอกัน
เพ็ญพักตร์นั้นอารมณ์ถึงขีดสุดแล้ว “ฉันไม่ฟังคำแก้ตัวของคุณอีกต่อไป กี่คืนที่คุณกลับบ้านดึกขนาดนี้” ยกมือห้าม “ไม่ต้องอ้างเรื่องงานมันไม่จริง บอกฉันมาคุณไปกับแม่ม่ายนั่นใช่มั้ย”
“แม่ม่ายไหน”
เพ็ญพักตร์สะบัดมือฟาดไปที่ใบหน้าตระกูลทันที “ถามทำไมแม่ม่ายไหน คุณมีแม่ม่ายกี่คน”
ตระกูลโกรธแล้ว “ทำไมต้องตบหน้า”
“ชั้นจะตบจะทำไม...ทำผิดจะให้ลอยนวลงั้นรึ”
“ผมทำอะไรผิดคุณเพ็ญ คุณหาเรื่องเองทั้งหมด”
เพ็ญพักตร์ปราดเข้ามาหา ตบอย่างแรงอีกฉาด เสียงดังสนั่น “นี่แน่ะหาเรื่อง” ทั้งทุบ....ตี...เหวี่ยง “หาเรื่อง....นี่แน่ะ...นี่แน่ะ”

อุ๊ ทนฟังอีกไม่ไหวแล้วตัดสินใจทุบประตู ปัง...ปัง... เพ็ญพักตร์เปิดประตูอย่างแรง
“เป็นบ้าอะไรยายอุ๊ เคาะประตูดังอย่างงี้ได้ไง” ตวาดลูกสาวอย่างมีโทสะ
“คุณพ่อ...” เพ็ญตระการโผเข้าไปหาพ่อ
ตระกูลรีบบอก “อุ๊ไปนอนลูก”
“คุณแม่ทำคุณพ่อเจ็บ...ทำไมต้องรุนแรง”
เพ็ญพักตร์ข่มเสียงแต่ยังเป็นตวาด “กลับไปนอน”
“ไม่นอน อุ๊ต้องดูหนังสือ” อุ๊ชูหนังสือ “จะสอบแล้ว ดูไม่ได้เพราะคุณพ่อคุณแม่ทะเลาะกัน เสียงดังใส่กัน” น้ำตากระจุกมาเป็นริ้วๆ “ได้ยินมาหลายคืนแล้วด้วย ทะเลาะกันทำไมเรื่องอะไร”
เพ็ญพักตร์เยาะ “ถามพ่อเธอ”
“อุ๊...ลูกรัก ไม่มีอะไรหรอกลูกเป็นธรรมดาพ่อแม่คนอื่นๆ เขาก็มีมีกระทบกระทั่งกันแบบนี้”
อุ๊ไม่เชื่อ ไม่ฟัง “ตีกันด้วย คุณแม่ทำไมต้องตีคุณพ่อ ไหนคุณแม่เคยบอกว่าคุณแม่เป็นผู้ดี คุณแม่ไม่ตบไม่ตีหรอก”
เหมือนโดนลูกสาวด่า เพ็ญพักตร์สวนคำ “ก็ชั้นบอกให้ถามพ่อเธอ ถามสิ ถามเค้าว่าไปนอนกะใครมา”
ดวงตาเพ็ญตระการเบิกกว้าง จ้องหน้าพ่อเขม็ง ไม่อยากเชื่อ คาดไม่ถึง
“คุณเพ็ญ ลูกกำลังจะสอบพูดอะไรคิดถึงใจลูกมั่ง” ตระกูลโอบร่างลูกสาวไว้
“คุณพ่อ” อุ๊สะบัดตัวตวัดเสียง “จริงเหรอคะ คุณพ่อไป...คุณพ่อมีเมียน้อยหรือคะ”
“อุ๊...ไม่ใช่” ตระกูลหันมาทางภรรยา “คุณเพ็ญคุณต้องระวังหน่อย เห็นมั้ยพูกแล้วได้อะไรขึ้นมานอกจากทำให้ลูกเสียใจ คุณทำร้ายลูกนะ”
“คุณต่างหาก....ถ้าคุณไม่ทำชั้นจะมีอะไรพูด”
“คุณเพ็ญ จนจะแก่ตายไม่รู้เหรอบางสถานการณ์เราต้องเลือกที่จะไม่พูด” ตระกูลด่า เหลืออดแล้ว
เพ็ญพักตร์ปรี๊ด “คุณว่าชั้นแก่เรอะ ว่าชั้นแก่ไม่มีความคิดเหรอ”
“ไม่ได้ว่าผมเปรียบเทียบ”
สองคนขึ้นเสียงใส่กัน แรงขึ้นอีกทั้งสองคน
“หยุด...หยุด ไม่ฟังแล้ว พอ....” อุ๊เดินจะออก หันมาปาหนังสือเต็มแรง “ไม่สอบด้วย ให้มันตกไปเลย”
อุ๊พุ่งตัวออกจากห้องประตูปิดดังเปรี้ยง

ตี 4 วันคืนอันแสนยาวของหลายคน สมปองพลิกตัวมองดู เห็นดอกโศกหลับสนิทแล้ว สมปองขยับตัวลุกขึ้นจะออกจากมุ้ง หันมาทางดอกโศกอีกที เห็นดอกโศกลืมตามองตาแป๋ว
“ไปไหน” ดอกโศกถามเสียงเบา
สมปองตบแก้มหลานสาวเบาๆ “แกนอนต่อ น้าจะไปช่วยยายทำขนม”
ดอกโศกขยับตัวตาม
สมปองจับตัวไว้ กรีดสองตาให้หลับ “นอนๆ...” ไล้มือขึ้นไปลูบผมเบาๆ “เอ่อ...เอ๊ย” ร้องเพลงกล่อม
ดอกโศกหัวเราะคิก ขำท่าทางน้า สมปองเองก็หัวเราะ

ระหว่างนั้นสมใจเปิดมุ้งโผล่หน้าเข้ามา
“โศก....ไม่ต้องช่วยทำขนม ยายทำคนเดียว” ออกไปทันที
สมปองเปิดมุ้งตามแม่ ต่อคำตามนิสัย “อ๊ะ...มีลูกสาวไว้ทำไม”
เสียงยายสมใจเย้าดังแว่วมา “ลูกสาวเหรอ ไม่ใช่ลูกชายเหรอ”
สมปองโต้กลับไป “ครับผม...ลูกชายครับผม”

หลานวันผ่านไป วันนี้ดอกโศกนั่งดูหนังสืออยู่ที่บ้านคุณนายประดับ
คุณนายเดินเข้ามาบอกเสียงเรียบ “เขามา” หมายถึงเขา...อัศนัยนั่นเอง
“คะ....คุณนายบอกเขาว่าไงคะ”
“ยังไม่ได้บอกอะไรเลย”

ครู่ต่อมาคุณนายประดับเดินมาบอกอัศนัยที่รออยู่หน้าบ้าน
“ดอกโศกให้มาบอกคุณว่ากำลังดูหนังสือ สอบพรุ่งนี้”
“ผมซื้อขนมมาฝาก ขอพบ 1 นาทีครับคุณนาย” อัศนัยต่อรอง...ร้องขอ
“คุณคิดว่าคุณทำได้หรือ....เวลาของความรักมันเร็วมากนะคุณ”
อัศนัยหน้าหมองลง “ผม....คิดถึงดอกโศกเหลือเกินครับ”
คุณนายประดับบอกเสียงเรียบ “ความคิดถึงไม่ทำให้คนตาย”
อัศนัยยืนนิ่งอึ้ง พูดไม่ออก
“เขายังเด็ก เขารับกับเรื่องอย่างนี้ไม่ไหว อย่าเพิ่งรีบร้อน”
“ครับ”
“ถ้าเขาพบคุณเขาสอบตกแน่” คุณนายยิ้มน้อยๆ “แล้วคุณอาจจะไม่ได้พบเขาอีกเลย”

เวลาเคลื่อนคล้อย สองอาทิตย์ผ่านไป ดอกโศกสอบเสร็จแล้ว
เช้าวันหนึ่ง ดอกโศกแต่งตัวเตรียมไปสมัครงาน สมใจเดินเข้ามาถือสร้อย และจี้ตัวอักษร จีบี (GB) ที่เก็บมานาน สวมใส่ให้หลานสาว
“หนูคิดว่ายายขายไปแล้ว”
“ของของเอ็ง ใส่ไปจะได้ไม่ดูกระจอกเกินไป” สมใจว่า
ดอกโศกยิ้มหวาน “ไปสมัครงานไม่ต้องหรูหรอกจ้ะยาย”
“งั้นก็อาจเป็นเหรียญโชคดี” สมใจยิ้ม

ภักดิ์ภูมิ นั่งดูเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงานในออฟิศหรูหรา สักครู่ เสียงเลขาเคาะประตู แล้วเข้ามาบอก
“มิสซิสเบนส์ค่ะ”
“อ๋อ” ภักดิ์ภูมิลุกขึ้น “เชิญห้องโน้น”
มิสซีสเบนส์เดินตามเข้ามาพอดี “ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว” หันไปทางหลานชาย “เอ็ดดี้”
ภักดิ์ภูมิทักทาย “Good morning Eddie you ‘ re still in Bangkok - สวัสดีครับ เอ็ดดี้คุณยังอยู่กรุงเทพเหรอครับ”
“Will be going to Hue Hin with grandma - จะกลับหัวหินพร้อมคุณย่า” เอ็ดดี้ตอบ
“Look who’s with me - ดูสิใครมากับฉัน”
ดอกโศกขยับตัวออกมาไหว้ภักดิ์ภูมิ
“เดินอยู่ที่ลอบบี้...ฉันถาม...มาทำไมรู้มั้ย” มิสซีสเบนส์ทอดคำไว้แค่นั้น
“ครับ” ภักดิ์ภูมิงง นัยน์ตามองดอกโศก
“มาสมัครงานค่ะ ตามประกาศ”
“อ๋อ” ภักดิ์ภูมิถึงบางอ้อ
ดอกโศกขอตัว “ขอตัวไปแผนกบุคคลนะคะ”
มิสซีสเบนส์สวนออกมา “No…No ที่นี่ เจ้าของอยู่นี่แล้ว”
ภักดิ์ภูมิ รีบรับ “เชิญครับ....สมัครกับผมก็ได้”
“ไม่ค่ะ...มันไม่ถูก” ดอกโศกขยับลุกขึ้นยืน “ดิฉันจะไป”
ของบางอย่างตก ดอกโศกก้มลงเก็บ สร้อยจี้ GB หลุดจากที่ใส่ไว้ในเสื้อ ออกมาแกว่งไกวในจังหวะนั้น

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 13/2 วันที่ 2 พ.ค. 55
ละครเรื่อง ดอกโศก บทประพันธ์ : ศรีทอง ลดาวัลย์
ละครเรื่อง ดอกโศก บทโทรทัศน์ : ศัลยา
ละครเรื่อง ดอกโศก กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ
ละครเรื่อง ดอกโศก ผลิต : บ. เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง ดอกโศก แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง ดอกโศก ออกอากาศทุกวัน จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง ดอกโศก ออกอากาศตอนแรก เริ่มวันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ