อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 4 วันที่ 23 เม.ย. 55

{[['']]}
อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 4
ส่วนแจ็คก็ยังสอดรู้สอดเห็น พยายามที่จะรู้ให้ได้ว่าในห้องทำงานของจักรกับเพิ่มพงษ์มีอะไร ขณะแอบดูเพิ่มพงษ์มาเจอพอดี เลยสั่งสอนแล้วขู่ว่า ถ้ายังไม่เลิกนิสัยสอดรู้สอดเห็นอีกจะไล่ออกจากงานและไล่ออกจากบ้านด้วย แจ็คเลยจ๋อยไป

หลังจากจ้างแววเป็นเลขาแล้ว จักรที่แต่งเป็นสยุมภูว์ครึ่งตัวบน ส่วนครึ่งตัวล่างยังเป็นจักรคนขายต้นไม้ตามเดิม ถามเพิ่มพงษ์ว่าตนจะสั่งงานเลขาได้หรือยัง เพิ่มพงษ์บอกว่านิติธรกำลังจัดการให้อยู่ สักครู่คงสั่งงานได้ เพิ่มพงษ์เตือนอย่างเป็นห่วงให้เขาจัดลำดับความสำคัญให้ดี ควรทำเรื่องใหญ่ๆสำคัญๆก่อน เรื่องส่วนตัวเรื่องหัวใจให้เป็นเรื่องรอง

“แล้วใครบอกน้าเพิ่มล่ะว่าเรื่องหัวใจสำคัญน้อยกว่าเรื่องงาน ผมก็เรียงลำดับความสำคัญถูกต้องแล้วไง สำหรับผม เรื่องหัวใจไม่ได้สำคัญน้อยกว่าเรื่องธุรกิจเรามาช่วยกันหาภารกิจทดสอบเลขาคนใหม่คนนี้กันดีกว่า”


ooooooo

นิติธรเอาไอโฟนและไอแพดไปให้แวว วัณณรียื่นมือมารับราวกับเป็นของตัวเอง นิติธรบอกว่านี่คืออุปกรณ์สำนักงานที่จะเรียกคืนเมื่อเลิกจ้าง วัณณรีบ่นเสียดาย ส่วนมาลตีก็ถามว่า เงินเดือนเดือนแรกจะเบิกก่อนได้ไหม

แววอับอายขายหน้ามาก ขอร้องแม่กับน้องว่าตนขอคุยกับนิติธรเป็นการส่วนตัวได้ไหม รวมทั้งไล่โรสที่ยืนเจ๋ออยู่ด้วย พอทั้งสามคนกระฟัดกระเฟียดออกไปแล้ว แววถามนิติธรว่า

“ฉันรับเงินเดือนสูงขนาดนี้ คุณสยุมภูว์คาดหวังให้ฉันต้องรับผิดชอบงานอะไรบ้าง”

นิติธรถามว่ากลัวสยุมภูว์จะมอบงานให้ยากเกินความสามารถหรือ แววตอบอย่างกระตือรือร้นว่าตรงกันข้าม ตนรอโอกาสนี้มานานทั้งชีวิตแล้ว โอกาสที่จะได้ทำงานที่ยากๆ ท้าทาย และได้ใช้ความสามารถของตัวเองจริงๆ

หลังจากนิติธรกลับไปแล้ว แววเตือนตัวเองว่า ห้ามอยู่ห่างจากไอ้เจ้าสองอันนี้เด็ดขาด จะไปไหนก็คอยชำเลืองดูว่าเจ้านายจะเรียกหรือไม่ แล้วก็ตื่นเต้นเมื่อมีสัญญาณเฟซไทม์ดังขึ้น เธอรีบไปหยิบมาดู

บนจอไอแพด เห็นชายคนหนึ่งใส่สูท แต่เห็นแค่ครึ่งตัว จากเอวไปถึงแค่คาง แม้แต่ริมฝีปากก็ยังไม่เห็น ได้ยินเสียงสั่งงานว่า

“แวว...นี่ผมเอง สยุมภูว์ ขอต้อนรับเข้าสู่ทศพลกรุ๊ปนะแวว”

“ค่ะ” แววยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะคุณสยุมภูว์” แล้วแอบบ่นเบาๆ “ไม่ให้เห็นหน้าอีกต่างหาก...”

ooooooo

ที่ห้องทำงานลับหลังร้านขายต้นไม้ จักรกับเพิ่มพงษ์นั่งดูจอไอแพดด้วยกัน เห็นแววในจอแค่นั้นเขาก็มีความสุขแล้ว

แววถามว่ามีงานอะไรจะต้องทำบ้าง สยุมภูว์บอกว่ามีแน่นอน แววแสดงความเอาการเอางาน บอกว่าให้บอกมาเลย งานยากงานหนักแค่ไหนตนก็ไม่กลัว

สยุมภูว์ชมว่าดี เอาการเอางานดี เย็นนี้ตนอยากทานไอศกรีมหน่อย แววถามว่าชอบทานไอศกรีมยี่ห้ออะไร เขาบอกว่ายี่ห้ออะไรก็ได้ แววงง ถามว่าแล้วชอบรสอะไร วนิลา ช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่ หรือว่า...

“รสหูฉลาม” สยุมภูว์ตัดบท แววตาเหลือกไม่เชื่อหูตัวเอง ขอทวนอีกที เขาสั่งช้าๆ ชัดๆว่า “ผมอยากทานไอศกรีมรสหูฉลามในเย็นวันนี้” พูดเสร็จจอก็ดับวูบลง

แววฟังแล้วมึนตื้อไปเลย!!

ooooooo

วันนี้ ที่หน้าคฤหาสน์ของสยุมภูว์ รถหรูของสยุมภูว์แล่นเข้ามาจอด เพิ่มพงษ์ลงมาเปิดประตูรถให้ สยุมภูว์เดินนำเข้าไปในคฤหาสน์ ส่วนเพิ่มพงษ์ถือกระเป๋าเอกสารและสะพายกระเป๋าใส่โน้ตบุ๊กคอม-พิวเตอร์ตามมาด้วยสีระแวง จนสยุมภูว์ถามว่า ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ เพิ่มพงษ์บอกว่ามีหลายเรื่องเลย พอสยุมภูว์ให้พูดมา เขาพูดทีละเรื่องว่า

“อย่างแรกเลย เรื่องยัยคุณแววนั้น คุณรับเข้ามาเพื่อทำงานให้กับทศพลกรุ๊ป แต่ที่ไหนได้ คุณกลับไปใช้ให้แววทำเรื่องที่ไม่มีประโยชน์กับธุรกิจของเราเลย”

“ไม่มีประโยชน์ยังไง นี่ผมกำลังฝึกอบรมพนักงานใหม่อยู่นะ” สยุมภูว์ตะแบง ครั้นเพิ่มพงษ์ถามว่าด้วยการให้แววไปหาไอศกรีมรสหูฉลามที่ในโลกนี้ไม่มีใครทำขายเนี่ยนะครับ”

“ใช่! ถ้าจะเป็นเลขาผมในอนาคตได้ เมื่อผมต้องการอะไร เขาต้องจัดหามาให้ผมได้ทุกอย่าง”

“สรุปว่า คุณสยุมภูว์ต้องการทดสอบกึ๋นของแวว”

สยุมภูว์พยักหน้า แล้วดักคอว่า “ส่วนเรื่องที่สอง ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นเรื่องที่ผมนัดคุยงานกันกับอาธรที่นี่?”

“ใช่สิครับ จะมาถึงนี่ทำไม ก็สั่งงานผ่านทางวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ก็ได้ เพื่อความปลอดภัย ควรให้คนเห็นหน้าคุณสยุมภูว์น้อยที่สุด ยังไม่ควรไปที่ไหนทั้งนั้น”

สยุมภูว์โต้ว่าที่นี่เป็นบ้านตน พอเพิ่มพงษ์จะพูด ถูกเขาตัดบทว่า จะพูดให้ตนระแวงนิติภูมิลูกชายนิติธรอีกใช่ไหม เพิ่มพงษ์บอกว่าตนแค่เป็นห่วงเขา สยุมภูว์ขัดขึ้นเสียงจริงจังว่า

“ก็ดี ถ้าเป็นห่วงก็ห่วงในฐานะผู้ช่วยผม ไม่ใช่เป็นห่วงในฐานะผู้ปกครอง ที่จะคอยสั่งหรือจำกัดบริเวณผมอย่างนี้”

เพิ่มพงษ์จำต้องรับคำ แล้วบ่นอุบอิบว่า อุตส่าห์พาหลบอันตรายไปอยู่ที่อื่น ดั้น...กลับมาเป็นเป้าซะงั้น...

สยุมภูว์สั่งให้หยุดบ่น แล้วเดินนำเข้าคฤหาสน์ไป เพิ่มพงษ์หยุดบ่นเดินตามไปจ๋องๆ

แต่เมื่อเข้าไปนั่งที่มุมหนึ่งในคฤหาสน์ เพิ่มพงษ์ยังระแวงทุกคน แม้แต่คนรับใช้ที่เอาชุดชามาเสิร์ฟ เขาก็ยังตรวจตัวและชิมชาก่อน สยุมภูว์ถามว่าระแวงเกินเหตุไปหรือเปล่า พอดีคนรับใช้มาบอกว่า นิติธรสั่งว่ากราบขออภัย ท่านกำลังลงมา สยุมภูว์บอกว่าไม่เป็นไร

พอคนรับใช้เดินไป เพิ่มพงษ์เตือนอีกว่า ทำไมยังนั่งสบายใจอยู่ได้ ที่นี่มันไม่ปลอดภัยสำหรับเขา

“ผมรู้นะว่าน้าเพิ่มเป็นห่วงผม แต่ขอให้ผมได้มีความสุขที่ได้อยู่ในบ้านตัวเองสักหน่อยเถอะครับ อย่างน้อย มุมนี้ผมก็เคยเล่นสนุกกับคุณพ่อบ่อยๆ”

เพิ่มพงษ์จึงเข้าใจความรู้สึกของเขา ปล่อยให้สยุมภูว์ได้ดื่มดํ่ากับบรรยากาศในคฤหาสน์ของตัวเอง คิดถึงเรื่องราวในวัยเยาว์ของตัวเองอย่างมีความสุข

ooooooo

แววปวดหัวหนัก ไปปรึกษาเพื่อนๆที่ร้านกาแฟต่างก็มืดแปดด้านกับไอศกรีมรสหูฉลาม แววนัดเอก-รินทร์มารับให้ตระเวนหาตามร้านต่างๆ เอกรินทร์พาไปแถวเยาวราช เข้าไปถามสองสามร้าน บางร้านก็ไล่ตะเพิดเพราะคิดว่ามากวนประสาทเล่น

เอกรินทร์เสนอว่า เราตระเวนหาจนทั่วแล้ว ให้บอกสยุมภูว์ไปตรงๆเลยดีไหมว่าหาไม่ได้ แววบอกว่าไม่ได้เด็ดขาด เพราะถ้าทำอย่างนี้เท่ากับตนทำงานล้มเหลวมีหวังถูกเลิกจ้างแน่ๆ

พลันโทรศัพท์มือถือของแววก็ดังขึ้น แววรีบกดรับทักทายด้วยนํ้าเสียงตื่นเต้นว่าอายุยืนจริงๆ ตนเพิ่งหยิบดาวที่เขาให้ขึ้นมาดูเขาก็โทร.มาพอดี

แววบอกอย่างตื่นเต้นว่า คราวที่แล้วตนอธิษฐานของานดีๆเงินดีๆก็ได้ตามที่ขอ แล้วก็ทำเสียงเศร้าบอกว่า แต่ตอนนี้คงจะถูกไล่ออกจากงานแล้ว เพราะหาไอศกรีมรสหูฉลามให้เจ้านายไม่ได้ ตนเอาหูฉลามไปขอร้านทำไอศกรีมให้ช่วยปั่นใส่ไอศกรีมก็ไม่มีใครทำให้

“ทำไมไม่มองหาตามตลาดหรือตามข้างทางบ้าง เธอเคยเห็นไอติมกะทิรถเข็นหรือที่เขาตั้งถังไอติมขายอยู่ตามข้างทางไหมล่ะ”

“จริงด้วยสิ ฉันเคยเห็นบางเจ้าเขาใส่ไข่แดงสดๆ

ลงไปคลุกในไอติมด้วย ถ้าขอให้เขาใส่หูฉลามลงไปก็น่าจะเป็นไปได้นะ” แววตื่นเต้นดีใจมาก จักรบอกให้วางสายแล้วไปหาซื้อหูฉลามรีบไปจัดการเลย

แววกดตัดสายแล้วหันบอกเอกรินทร์ว่า รู้แล้วว่าจะไปไหน เอกรินทร์พยักหน้าเนือยๆ เสียความรู้สึกที่แววคุยกับจักรอย่างสดชื่น แต่ก็รีบพาเธอไปตามที่ต้องการ

เอกรินทร์พาตระเวนไปจนเจอรถเข็นขายไอศกรีมที่คนไข่แดงใส่ไปด้วย ทั้งสองรีบเข้าไปซื้อเอาใจก่อน แล้วให้ช่วยเอาหูฉลามใส่แทนไข่แดง แววขอร้องให้ช่วยหน่อย คนขายลังเลไม่มั่นใจ เอกรินทร์ต่อรองว่าถ้าทำให้ ตนจะเหมาไอติมหมดถังเลย

คนขายไอติมสนใจมาก ถามว่าแน่นะ ส่วนแววสะกิดติงเอกรินทร์ว่าวู่วามไปรึเปล่า

“เราไม่มีเวลาแล้ว...ว่ามาเลยพี่ ทั้งหมดนี่เท่าไหร่ครับ” เอกรินทร์รวบรัด คนขายยิ้มดีใจ เอกรินทร์ยิ้มดีใจยิ่งกว่าที่ช่วยแววได้สำเร็จ แม้แววจะดีใจแต่ก็เกรงใจ

เอกรินทร์ที่ทุ่มเทช่วยตนเต็มที่...

ooooooo

เมื่อนิติธรลงมา เขาขอโทษที่ให้รอ สยุมภูว์พูดสบายๆว่าไม่เป็นไรเพราะตนเป็นคนมาก่อนเวลาเอง นิติธรถามว่าเราเริ่มคุยงานกันเลยไหม เพิ่มพงษ์ รีบเห็นด้วยเสร็จแล้วจะได้รีบกลับกัน

“ที่จริงแล้วผมคิดว่า คุณสยุมภูว์จะกลับมาอยู่บ้านแล้วเสียอีก” นิติธรพูดอย่างเกรงใจ เพิ่มพงษ์รีบบอกว่ายังไม่ใช่ตอนนี้ ครั้นนิติธรปรารภว่าไม่เข้าใจเลยว่าทำไมสยุมภูว์ถึงต้องออกไปอยู่ที่อื่น สยุมภูว์ตอบเชิงเหน็บ

เพิ่มพงษ์นิดๆว่า

“ก็ตามสไตล์น้าเพิ่มน่ะครับ...ห่วงความปลอดภัยของผม”

ระหว่างนั้น เพิ่มพงษ์ถามว่านิติภูมิอยู่ไหม นิติธร บอกว่าไม่อยู่อีกประเดี๋ยวคงกลับมา ถามว่ามีอะไรหรือเปล่า

“อ๋อ...ปะ...เปล่า ไม่มีอะไรครับ” เพิ่มพงษ์ปฏิเสธแล้วรีบคุยงานกัน ระหว่างนั้น นิติธรเอ่ยชื่นชมการทำงานของสยุมภูว์ แล้วก็ตำหนิลูกชายตัวเองว่าอายุไล่เลี่ยกันแต่ไม่ได้เศษเสี้ยวของสยุมภูว์เลย

นิติธรบอกว่า เดี๋ยวนิติภูมิกลับมาจะให้ฝากเนื้อ ฝากตัวกับสยุมภูว์ เพิ่มพงษ์ฟังแล้วร้อนใจ เร่งสยุมภูว์ให้รีบกลับกันดีกว่า รีบกลับเสียจนนิติธรถามว่า ทำไมจู่ๆถึงได้รีบกลับ

ooooooo

เมื่อรีบพาสยุมภูว์ออกจากคฤหาสน์แล้ว สยุมภูว์ ถามว่าจะไม่เป็นการเสียมารยาทไปหน่อยหรือ เพิ่มพงษ์ พูดอย่างตึงเครียดว่า การรักษาชีวิตสำคัญกว่าการรักษามารยาท

“น้าเพิ่มแน่ใจได้ยังไงว่านายภูมิเขาเป็นตัวอันตราย แบบ...นั้น...”

สยุมภูว์พูดไม่ทันขาดคำ นิติภูมิก็กลับมาถึง นิติธร รีบแนะนำลูกชายแก่สยุมภูว์ ซึ่งเขาก็ทักทายอย่างเป็นมิตร แล้วขอตัวไว้โอกาสหน้าค่อยพบกัน นิติภูมิเอ่ยฝากเนื้อ ฝากตัวทั้งที่สีหน้าและแววตาแสดงถึงความเกลียดชังสยุมภูว์อย่างชัดเจน

หลังจากนั้น นิติธรขอบใจลูกชายที่ยังไว้หน้าตนไม่แสดงกิริยาไม่ดีต่อหน้าสยุมภูว์ ถามว่าคิดอย่างไรถ้าตนจะฝากเข้าทำงานกับสยุมภูว์ คิดอยากทำอะไร ตรงส่วนไหนดี

“ก็ได้ ถ้าทำงานใกล้ๆกับคุณสยุมภูว์ก็คงจะก้าวหน้าดีใช่ไหมครับ”

“ใช่สิลูก...ได้เลย พ่อก็คิดแบบนั้นอยู่แล้วเหมือนกัน ไว้พ่อจะรีบคุยกับสยุมภูว์ให้นะ” นิติธรยิ้มแย้มยินดีที่กล่อมลูกได้สำเร็จ ในขณะที่นิติภูมิรับปากพ่อด้วยดี แต่ในใจนั้นมีแต่ความเกลียดแค้นสยุมภูว์อยู่เต็มอก

ooooooo

หลังจากหาไอศกรีมรสหูฉลามได้แล้ว แววก็เอาไอศกรีมนั้นไปนั่งรอที่ศาลาที่พักผู้โดยสารรถเมล์ตามที่สยุมภูว์สั่ง เขาส่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปรับ พร้อมกับฝากจดหมายใส่ซองมาให้แววด้วย

เอกรินทร์แปลกใจว่า ทำไมสยุมภูว์ถึงต้องเก็บตัวมิดชิดจนขนาดนี้ แววบอกว่าทั้งบริษัทก็มีแต่นิติธร

คนเดียวที่เคยได้เห็นหน้าเขา แต่ตนไม่สนใจ ขอเพียงถึงสิ้นเดือน โอนเงินเดือนเข้าบัญชีตนให้ครบถ้วนก็พอแล้ว

เมื่อพากันกลับไปที่ร้านกาแฟ ทั้งชลธิชาและเริงใจดีใจกับเพื่อนที่บรรลุหน้าที่ตามคำสั่งเจ้านายได้ ถามว่าแล้วรสชาติเป็นอย่างไร เอกรินทร์บอกว่าของคาวกับของหวานมาผสมกันยังไงก็ไม่ค่อยเข้ากันอยู่แล้ว นึกได้ถามแววว่า เห็นเขาฝากจดหมายมาด้วย ว่ายังไงบ้าง

“ไม่มีอะไรหรอก แค่บอกให้รีบกลับบ้านพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวรับภารกิจใหม่ตอนเช้าวันพรุ่งนี้ ฉันก็กำลังจะบอกทุกคนอยู่พอดีว่า ขอตัวกลับก่อนนะ” เอกรินทร์ จะไปส่ง แววขอบใจแต่ไม่ดีกว่าเพราะวันนี้รบกวนเขามากเกินไปแล้ว

เริงใจพูดอย่างก๋ากั่นว่าดี จะได้เป็นคิวของพวกตนบ้าง ส่วนเอกรินทร์ก็บอกว่า วันนี้พาแววตะลอนไปทั้งวัน ได้นั่งพักบ้างก็ดีเหมือนกัน แล้วนึกได้ถามสองสาวอย่างกระตือรือร้นว่า

“ว่าแต่...ไอติมที่ผมเหมามาเหลืออีกตั้งเยอะ เดี๋ยวผมตักมาเสิร์ฟให้อีกนะ”

ชลธิชากับเริงใจสบตากันแบบเบื่อๆเพราะถูกตักให้กินมาหลายถ้วยแล้ว...

ooooooo

ที่ร้านขายต้นไม้ เมื่อจักรได้รับไอศกรีมรสหูฉลามแล้วก็ชวนเพิ่มพงษ์มากินกัน พูดแบบขำๆว่าจะกินได้รึเปล่าก็ไม่รู้แต่พอกินคำแรก ต่างก็มองหน้ากัน จักรบอกว่าก็พอได้นะ เพิ่มพงษ์บอกว่าอร่อยกว่าที่คิด ขนาดนี้ทำขายได้เลยนะเนี่ย

แจ็คสาระแนมาอีกแล้ว ทำเป็นโผล่หน้ามาอำๆว่าทำอะไรกันกะหนุงกะหนิง มีของอร่อยไม่แบ่งกินกันบ้างเลย เพิ่มพงษ์เลยบอกให้ลองกินดูเลื่อนถ้วยตัวเองให้บอกว่า “ชิมจากถ้วยฉันก็ได้”

แจ็คบอกว่าไม่เป็นไรตนกินกับจักรก็ได้ แล้วเข้ามายืนค้ำหัวจักรหยิบช้อนตักจากถ้วยจักรไปชิม พอไอศกรีมเข้าปากเท่านั้นแจ็คทำเสียงแหวะ แล้วถุยทิ้ง คว้ากล่องใส่ไอศกรีมขึ้นดู พูดอย่างสมเพชว่า

“โห...ดูจากสภาพกล่องโฟมแล้ว ไม่เกินสิบบาทหรอก” พูดแล้ววางกล่องเดินส่ายหัวดิกไป

“โถ...ไอ้ลิ้นตะเข้ไอ้รสนิยมต่ำ” เพิ่มพงษ์ด่าตามหลังไปอย่างหมั่นไส้ แล้วหันมายิ้มกับจักรขำๆ

ooooooo

แววกลับมาถึง แค่เปิดประตูรั้วก็ถูกจักรทักราวกับมาดักอยู่ว่าเริ่มงานวันแรกก็โดดงานเลยนะ แววบอกว่าตนทำงานเสร็จแล้วต่างหาก จักรประชดว่าน่าอิจฉาตนทำงานทั้งปียังได้ไม่เท่าเธอทำเดือนเดียวเลย แววแกล้งยั่วว่า โบราณเขาถึงว่าไงว่าแข่งเรือแข่งพายน่ะแข่งกันได้แต่แข่งบุญวาสนาน่ะแข่งกันไม่ได้

จักรแกล้งยั่วคืนว่า พอได้เงินเดือนเป็นแสนก็ทำตัวเป็นคางคกขึ้นวอเชียว ทั้งสองต่างเหน็บแนมโต้เถียงกันทีเล่นทีจริงพอเจ็บๆคันๆแล้วแววก็บอกว่า ทีแรกตั้งใจว่ากลับมาเจอจะขอบคุณสักหน่อยที่แนะนำเรื่องไอศกรีมรสหูฉลามให้ แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว พูดแล้วเดินเข้าบ้านไปเลย จักรยิ้มๆรู้สึกสนุกที่ได้ยั่วเธอเล่น

อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 4 วันที่ 23 เม.ย. 55
ละคร แววมยุรา บทประพันธ์โดย : พนมเทียน
ละคร แววมยุรา บทโทรทัศน์ : ทองเอก และ วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ละคร แววมยุรา กำกับการแสดง : ชานนท์ สัมฤทธิ์
ละคร แววมยุรา แนวละคร : โรแมนติก
ละคร แววมยุรา ผลิต : บริษัท เวฟมีเดีย เวิลด์ จำกัด โดย ตู่-ปิยวดี มาลีนนท์
ละคร แววมยุรา ออกอากาศทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.30 น.ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละคร แววมยุรา ออกอากาศวันแรกเริ่ม อาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555
ที่มา ไทยรัฐ
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ