อ่านละคร แก้วกลางดง ตอนที่ 4 วันที่ 1 พ.ค. 55

{[['']]}
อ่านละคร แก้วกลางดง ตอนที่ 4 วันที่ 1 พ.ค. 55
เมียวดีกับทรงเผ่าช่วยกันลากศพ ผลักทิ้งลงเหว
“ทำแบบนี้ จะได้ไม่ทิ้งร่องรอย ถ้าไม่ค้างบนกิ่งไม้ ก็คงไม่เห็นศพ”
“แต่อีกไม่นานพวกมันต้องรู้แน่ ว่าคนของมันหายไป”
“ใช่...แล้วแถวนี้คงใกล้ที่อยู่ของพวกมันแล้ว ถึงมีพวกมันเต็มไปหมด เราคงต้องรีบหาที่อยู่ใหม่” เมียวดีมองทรงเผ่า “นายไหวมั้ย”
ทรงเผ่าฝืนยิ้ม
“สบายมาก”
“ดี...แต่จำไว้นะ จากนี้ไป นายต้องเดินตามหลังเราตลอด เราไปซ้ายนายก็ต้องซ้าย เราก้มนายต้องก้ม อย่าออกนอกทางเด็ดขาด”
“ทำไม!”
เมียวดีไม่ตอบ เดินนำอย่างรีบเร่งมาทางหนึ่งในป่า ทรงเผ่าเดินตามข้างหลังเริ่มเหนื่อย หยุดหายใจ แล้วก็กัดฟันเดินต่อ กิ่งไม้ลงมาบังตาเขาปัดออกแต่กลับเซออกนอกทางเท้าไปโดนสายเถาวัลย์ที่ขึงไว้ ทันใดนั้นเขารู้สึกเหมือนมีอะไรพุ่งออกมาทันที เมียวดีหันมาอย่างตกใจ
“นาย!”
ทรงเผ่ายืนนิ่งหอก ไม้ไผ่ปักอยู่ที่ต้นไม้ด้านหลังของเขาเฉียดคอไปนิดเดียว
“มันวางกับดับไว้เป็นระยะๆ คราวนี้นายคงรู้แล้วว่าทำไมเราถึงให้นายเดินตาม”

เมียวดีบอก สีหน้าเครียดๆ
ทนงหันหน้าไปทางทิศที่เข้าป่า มองอย่างกังวล แจ้งเดินเข้ามาหา พลางชวน

“ไปกินข้าวเถอะนาย แม่ไอ้เหินฟ้าเตรียมไว้ให้แล้ว”
“ฉันยังไม่หิวเลย” ทนงถอนหายใจ หันมามอง “ถามจริงๆ เราเชื่อฟ้าลั่นได้แค่ไหน”
“ไอ้ฟ้าลั่นมันก็ลูกพรานเหมือนกัน เรื่องแกะรอยมันก็ไม่แพ้ใครหรอก ถ้าอีเมียวทำเครื่องหมายไว้ให้มันจริงอย่างมันบอก มันก็คงเจอ”


ทนงถอนหายใจอีกครั้ง
“ไม่รู้ฉันคิดถูกหรือผิด ที่เชื่อฟ้าลั่น ขอให้การตัดสินใจครั้งนี้ของฉันถูกด้วยเถอะ”
“ก็ต้องรอจนกว่า ไอ้ฟ้าลั่นมันพาเจ้าหน้าที่ไปเจออีเมียวกับนายเผ่าแล้วพากลับมานั้นแหละ เราถึงรู้นาย”
ทนงต้องถอนหายใจอีกรอบ กับคำตอบของแจ้ง

ทรงเผ่าทิ้งตัวข้างซอกหินอย่างหมดแรงไข้เริ่มขึ้น เมียวดีหันมาหา
“ต่อจากนี้ไปเราจะเดินทางกลางคืน แล้วก็พักตอนกลางวันแทน จะได้ไม่เป็นที่สะดุดตาพวกมัน”
“ก็แล้วแต่เธอ ตอนนี้เธอเป็นผู้นำแล้วนี่”
“นายยอมรับแล้วซิ ว่า เราเก่งเท่าพ่อ เก่งกว่าไอ้ฟ้าลั่น เก่งกว่าไอ้เหินฟ้า เก่งกว่าไอ้...”
ทรงเผ่ารีบเบรก
“เอาล่ะๆ พอๆ เป็นอันว่าเธอเก่งกว่าฉัน”
เมียวดียิ้มแป้นอย่างพอใจ
“ดี...งั้น เราให้นายพักตรงนี้ก่อน ดูท่าไข้ขึ้นอีกแล้ว”
“ฉันยังไปไหว”
“ไหนว่าให้เราเป็นคนนำไง เก็บแรงเถอะนาย คืนนี้ เรามีงานใหญ่รออยู่”
เมียวดีบอกด้วยน้ำเสียงเครียดๆ จนทรงเผ่าต้องหยุดฟัง

ค่ำคืนนั้น...พระจันทร์ลอยอยู่เหนือภูเขาสูง เมียวดีกับทรงเผ่ายืนอยู่ที่ข้างล่างตีนหน้าผา มองขึ้นไปเห็นหน้าผาสูงตระหง่าน
“นี่ไม่มีทางอื่นอีกแล้วเหรอ”
“ก็มีอยู่ทางเดียว ที่พวกมันจะไม่เห็น มันถึงไม่กลัวใครขึ้นมาทางนี่ไงนาย”
เมียวดีหมุนเถาวัลย์ทำเป็นเชือกยาว โยนขึ้นไป สองสามครั้ง แต่ก็ไม่สามารถคล้องเกาะกับอะไรได้
“มาให้ฉันลองบ้าง”
“นายเพิ่งฟื้นไข้” เมียวดีแอบดูถูกนิดๆ “จะไหวเหรอ”
ทรงเผ่าเหวี่ยงเถาวัลย์ไปสองครั้งก็เกาะติดกับแง่งหิน หันมามองหน้าเมียวดียักคิ้วให้
“เห็นฝีมือฉันหรือยัง”
เมียวดีหมั่นไส้
“บังเอิญเสียมากกว่า”
ทรงเผ่าอ้าปากจะโวย แต่เมียวดีรีบยกมือห้ามตัดบท
“ไม่ต้องพูดมาก รีบขึ้นไปเถอะ เดี๋ยวก็เช้ากันพอดี”
เมียวดีรีบปีนนำขึ้นไป

เมียวดี ขึ้นมาถึงด้านบนก่อนแล้วช่วยดึงทรงเผ่าขึ้นมา สักครู่เธอก็เดินไปปลดเถาวัลย์โยนทิ้งลงไป ทรงเผ่าที่หอบเหนื่อยถามอย่างสงสัย
“เฮ้ย แล้วเดี๋ยวจะลงยังไง”
“ค่อยว่ากันซินาย แต่ขืนไว้แบบนี้ พวกมันมาเห็นก็จบกันพอดี”
เมียวดีกับทรงเผ่าเดินกึ่งหมอบเข้ามาที่พงหญ้า มองไปเห็นโรงงานตั้งอยู่สองสามหลังข้างล่าง มียามถือปืน เฝ้าอยู่เป็นระยะ
“เข้าไปดูใกล้กว่านี้มั้ยนาย”
“มาถึงขนาดนี้แล้ว จะรออะไรล่ะ”
ทรงเผ่ากับเมียวดีมองหน้ากัน แล้วพยักหน้าเป็นอันรู้กัน เตรียมตัวลุกขึ้นเพื่อเข้าไปใกล้ๆ แต่ต้องชะงักเมื่อ ยามพร้อมปืนเดินขึ้นเนินมา ทั้งสองรีบกลิ้งหลบไปอยู่หลังพงหญ้าสูง ยามเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เมียวดีค่อยๆ เอื้อมมือไปแตะมีดสั้นที่เสียบไว้ที่เอวอย่างเตรียมพร้อม ทรงทรงเผ่าเอื้อมมือมาแตะไว้ ส่ายหน้าห้ามไม่ให้รีบลงมือ ยามเห็นพงหญ้าไหวๆ ยกปืนขึ้นเตรียมพร้อม ค่อยๆ เดินเข้ามา ทรงเผ่า กับเมียวดีหายใจแรงอย่างตื่นเต้น ยามเตรียมง้างนกปืน ทันใดนั้นเสียงผู้หญิงก็ดังขึ้น
“พี่!”
ยามหันกลับไป หญิงสาวเดินเข้ามา ทรงเผ่ากับเมียวดีถอนหายใจอย่างโล่งอก
“รอนานมั้ยจ๊ะพี่ ก็พี่แสงนะซิ กว่าจะหลับได้”
“นานแค่ไหนพี่ก็รอได้ พี่คิดถึงเอ็งเหลือเกินอีแดง”
สองคนลักลอบมาพบกัน โผตรงเข้ากอดกันทันที อย่างไม่รอช้า แล้วก็พากันโน้มตัวลงนอนกับพื้น ทรงเผ่าหันมามองเมียวดีที่จ้องเขม็งมองภาพข้างหน้า เขารีบปิดตาของเธอ เมียวดีพยายามแกะมือออก แต่เขาจับไว้แน่น
“ปล่อยซินาย” เมียวดีกระซิบ
ทรงเผ่าไม่ปล่อย แต่รีบดึงเธอให้ออกไปจากตรงนั้น

ทรงเผ่าดึงออกมา เมียวดีสะบัดมือออก
“โหย...ดึงเราออกมาทำไมล่ะนาย”
“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก”
เมียวดียิ้ม รู้ทัน
“แต่เราไม่เด็กแล้วนะ ไอ้เหินฟ้ามันยังคิดจะเอาเราทำเมียคนที่สามของมันเลย”
ทรงเผ่าไม่รู้จะพูดยังไง
“แก่แดด ดูเรื่องที่ไม่ควรดู”
“อ้าว ถ้าไม่ดูแล้วจะรู้เหรอ ว่าพวกมันเผลอเมื่อไหร่”
เขาส่ายหน้ากับคำแก้ตัวของเธอ ทันใดนั้นเสียงเสือคำรามเบาๆดังแว่วๆมา ทรงเผ่ากับเมียวดีตะแคงหูฟังให้แน่ใจ
“ไอ้ลาย! นี่มันตามเรามาเหรอ”
“ไม่รู้ซินาย แต่มันอาจจะมาหาอาหารก็ได้ เสือตัวไหนที่มันได้ลองกินเนื้อคนแล้ว มันจะไม่กลับไปกินสัตว์อื่นอีกหรอก แล้วแถวนี้ ก็มีอาหารให้มันเยอะเสียด้วย” เมียวดีพยักเพยิดไปทางค่าย “ไม่แน่ เราอาจจะได้ล่าทั้งคน ทั้งไอ้แมวยักษ์ ไปพร้อมกันเลยก็ได้ ใครจะรู้”
เมียวดีบอกอย่างมีความหวัง

วันใหม่...ส่วย หัวหน้าที่คุมโรงงานผลิต คุยวิทยุอยู่ในโรงงานผลิตยาเสพติด ที่ทรงเผ่ากับเมียวดีเฝ้าดูอยู่
“อีกวันสองวัน ของก็จะเสร็จแล้วตามที่นายสั่ง”
ขณะเดียวกัน...บนตึกสูงในกรุงเทพฯ สาทิศยืนหันหลังคุยโทรศัพท์ มองวิวสูงในกรุงเทพยามเช้า
“ดี...ของล็อตนี้ฉันจะส่งไปอเมริกา แล้วแกก็เตรียมผลิตล็อตต่อไปได้เลย เอาเกรดเอเหมือนเดิมนะ”
“ครับนาย”
“ถ้าขาดอะไรก็บอกมา เดี๋ยวฉันจะส่งไปให้ อ้อ...แล้วก็ดูพวกเวรยาม ให้ดีๆ อย่าประมาทล่ะ”
“ไม่ต้องห่วงนาย ฐานเราอยู่ลึกแล้วก็สูงแบบนี้ ทางการไม่มีทางหาเจอ”
ทันใดนั้นเสียงร้องกรี๊ดของผู้หญิงดังขึ้น ตามด้วยเสียงปืน
“ปัง! ปัง! ปัง”
ส่วยชะงัก

เมียวดีกับทรงเผ่าที่นอนหลับอยู่สะดุ้งตื่นเช่นกัน
“มันรู้ตัวแล้ว”
“ไม่ใช่หรอกนาย เสียงมันคนละทางกับที่เราอยู่”
“งั้นเรื่องอะไรล่ะ”
“เรื่องอะไรก็ช่างอย่าเพิ่งสนใจเลย แต่เราไปให้พ้นเขตนี้ก่อนดีกว่าเพื่อความปลอดภัย”
สองคนรีบคว้าปืนทันที ลุกขึ้น

ฟ้าลั่นกับตำรวจตระเวนชายแดน 7-8 คน ที่กำลังเดินอยู่ในป่า ต่างก็ชะงัก
“เสียงมันมาจากทางโน้น นาย”
ทั้งหมดรีบเดินกึ่งวิ่งให้เร็วขึ้น
ขณะเดียวกัน ส่วยถือปืนวิ่งออกมาด้านนอก ลูกน้องวิ่งไปมาอลหม่าน ก่อนจะวิ่งมารายงาน
“มีอะไร” ส่วยถามอย่างออย่างสงสัย
“เสือลายพาดกลอนพี่ มันบุกมาลากนังแดง กับไอ้ชิน ไปกิน”
“บ้าจริง มันมาจากไหนวะ”
ส่วยรีบออกไป พร้อมลูกน้อง

เมียวดีกับทรงเผ่า รีบวิ่งออกมา เจอ ส่วยกับลูกน้องมาอีกทางเจอกันพอดี ต่างคนต่างตกใจ
“เฮ้ย! พวกเอ็งเป็นใคร”
เมียวดีรีบฉวยจังหวะ ซัดมีดสั้นออกไป ส่วยกับลูกน้องหันหลบ เธอฉวยจังหวะดึงทรงเผ่าพุ่งไปหลบที่ต้นไม้ จากนั้นก็ลงมือยิงโต้ตอบกัน ส่วยกับลูกน้อง ยิงสวนกลับมา
“ถอยเถอะนาย”
“ทำไมฟ้าลั่นถึงไม่มาซักที”
“ช่างหัวมันเถอะ ตอนนี้เราต้องหาทางเอาตัวรอดกันก่อน”
เมียวดีถอย ทรงเผ่าถอยตาม ส่วยส่งสัญญาณกับลูกน้อง
“ตาม จับมันให้ได้”
ส่วยกำลังจะลุกขึ้นตามแต่ปรากฏว่าเสียงปืนมาจากด้านหลัง กระสุนถากไปโดนต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ ส่วยหันมายิงโต้ตอบ ทำให้เสียจังหวะการตามเมียวดี
ฟ้าลั่น กับเจ้าหน้าที่ บุกเข้ามายิงกับคนร้าย ฟ้าลั่นพยายามมองหาเมียวดี กับทรงเผ่าระหว่างการยิงก่อนจะตะโกนไปส่งๆ
“นาย อีเมียว ฟ้าลั่นมาแล้ว”
ขาดคำเขารีบหลบทันที เมื่อลูกปืนสวนมา

ในหมู่บ้าน...ทนงนั่งอยู่กับเจ้าหน้าที่ หน้าเครื่องส่งวิทยุ สัญญาณวิทยุดังขึ้น
“เสือสมิงเรียกฐาน ทราบแล้วเปลี่ยน”
ทนงตื่นเต้น
“ติดต่อกลับมาแล้ว!”
เจ้าหน้าที่โต้ตอบในวิทยุ
“ฐานทราบแล้ว”
“เจอเป้าหมายใหญ่แล้ว เกิดการปะทะ หนัก ขอกำลังเสริม ภาคอากาศด้วยเปลี่ยน”
ทนงนั่งลุ้นมาก

เมียวดี กับทรงเผ่าถอยร่นหนีมา ทรงเผ่าสะดุดเซแต่ไม่ล้มเหงื่อออกเต็มหน้าบ่นกับตัวเอง
“บ้าจริง ทำไมต้องมาไข้ขึ้นตอนนี้”
เมียวดีมัวแต่มองข้างหลังดูว่ามีใครตามมาหรือเปล่าเลยไม่ได้หันมาดู ทรงเผ่ากัดฟันลุกขึ้นเดินต่อ ทันใดนั้นเสียงคำรามดังขึ้น
“โฮกก!”
เสือกระโจนออกมา
“ระวัง!”
ทรงเผ่ากระโดดผลักเมียวดีออกไปจากทางที่เสือกระโจน ขาของทรงเผ่าพอเหยียบลงไป ที่พื้นดิน ก็ร่วงตกลงไป เสือก็ร่วงไปด้วย
“เฮ้ย!”
เมียวดีหันมามองอย่างตกใจ
“นาย!”
ทรงเผ่าร่วงลงไปในกับดักข้างล่างเป็นหลุมใหญ่ มีไม้ไผ่แหลมปักอยู่เต็มไปหมด ขาของเขาถูกไม้ไผ่แหลมแทงทะลุกับปักที่ซีโครงด้านข้างเลือดหยดตามไม้ไผ่ เมียวดีตั้งหลักได้รีบวิ่งมาดูที่ปากหลุมเห็นเสือโดนไม้ไผ่ปักตายอยู่กลางหลุม แต่ไม่มีทรงเผ่า
“นาย!”
ทรงเผ่าห้อยอยู่ริมปากหลุมจับตาข่ายที่วางคลุมไว้บนดินเอาไว้ได้
“ยึดไว้นายอย่าปล่อย”
เมียวดีออกแรงดึงตาข่ายที่อยู่บนดินเต็มที่ ทรงเผ่าเอง ก็ออกแรงช่วยด้วย ไม้ไผ่ที่ปักเขาหลุดออก
“โอ๊ยย”
ในที่สุดทรงเผ่าก็ขึ้นมาได้สำเร็จ นอนหอบอยู่ เมียวดีแกะผ้าที่พันมวยผมออกมาผูกห้ามเลือดให้
“เธอรีบไปเถอะก่อนพวกมันตามมา ทิ้งฉันไว้ที่นี่แหละ”
“ไม่ได้ ไปก็ต้องไปด้วยกัน”
ทรงเผ่าส่ายหน้าประมาณว่าไม่ไหวแล้ว
“ขอบใจเธอมากนะ สำหรับเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมา มีอีกอย่างที่ฉันอยากขอให้เธอทำ ฉันอยากให้เธอไปกรุงเทพ ไปหาพ่อฉัน แล้วเล่าให้พ่อฉันฟัง ว่าฉันทำอะไรบ้าง”
“แข็งใจอีกนิดนาย เดี๋ยวเราก็เจอไอ้ฟ้าลั่นแล้ว นายไม่เป็นไรหรอก”
“ฉันไม่ไหวแล้วเมียวดี” เขายิ้ม ไม่สนใจที่เธอพูด พูดเรื่องตัวเองต่อ “ตอนพ่อเธอ เธอยังอยากรู้ ถึงคราวฉันพ่อฉันคงอยากรู้เช่นกัน ฉันฝากเธอด้วยนะ”
เมียวดีน้ำตาเริ่มเอ่อ
“ไม่...เราไม่บอกให้นายหรอก นายกลับไปบอกเองซิ เราจะพานายกลับไป”
เมียวดีตั้งท่า พยุงทรงเผ่าจะลุกขึ้น แต่ปรากฏว่าเงาดำทาบลงมา ทรงเผ่าเงยหน้าขึ้นไปมอง เห็นผู้ร้ายคนหนึ่งยืนอยู่เล็งปืนมาที่ทั้งสอง
“ตายเสียเถอะ”
ทรงเผ่า มองคนร้าย ค่อยๆมัวไม่ชัด
“ปัง!”
ทรงเผ่าหลับตาไปมือตก สลบไป เมียวดีตกใจ
“นายๆ”
คนร้ายค่อยๆ ล้มลงหลังยิงเสร็จยิงไม่โดน ข้างหลังมันมีมีดปักอยู่ตายตาค้าง ฟ้าลั่นยืนยิ้มแถมยักคิ้วให้อีก
“เห็นฝีมือข้าหรือยังอีเมียว”

เจ้าหน้าที่เข็นทรงเผ่าที่นอนอยู่บนเตียงตรงไปยังห้องฉุกเฉิน เมียวดี กับฟ้าลั่น เกาะเตียงวิ่งมาด้วยไม่ยอมห่าง เจ้าหน้าที่เข็นเตียงเข้าห้องผ่าตัด พยาบาลออกมากั้นเมียวดีไว้
“ญาติรอข้างนอกนะคะ”
“ปล่อยเรา เราจะเข้าไปกับนาย”
“ไม่ได้ นะคะ คุณหมอทำงานไม่สะดวก ต้องรอข้างนอกค่ะ”
เมียวดีผลักพยาบาลออกไปเซปะทะกำแพง พยาบาลหันไปพยักหน้าเรียกเจ้าหน้าที่ผู้ชายสองคนมาจับเมียวดีไว้
“ทำไมไม่ได้ คนอยู่ป่าถ้าเพื่อนไม่หายหรือไม่ตาย ยังทิ้งกันไม่ได้หรอก เราจะเข้าไปดูนาย ปล่อยเรา”
ทนงเข้ามา
“พูดได้ดี อีหนู”
เมียวดีหันไปดู เห็นทนงเดินมา
“เราไม่ได้ชื่อ อีหนู เราชื่อเมียวดี”
“เมียวดี อ๋อ...เจ้าเหมียว ลูกตาจั่นใช่มั้ย เคยเห็นตั้งแต่ตอนเด็กๆ จำฉันได้มั้ย”
เมียวดียิ่งสงสัย ฟ้าลั่นเลยบอก
“นี่ก็คือพ่อนายไง อีเมียว”
เมียวดีเลยยอมยกมือไหว้

อ่านละคร แก้วกลางดง ตอนที่ 4 วันที่ 1 พ.ค. 55
ติดตามละคร แก้วกลางดง ได้ทุกวัน จันทร์ - อาทิตย์ เวลา 7.30 ,10.30 ,20.00 และ 23.00 ทาง ช่อง 8
ละคร แก้วกลางดง ประพันธ์ โดย ทมยันตี
ละคร แก้วกลางดง บทโทรทัศน์โดย ธนินทร อุชุภาพ
ที่มา manager.co.th
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ