อ่านละคร แก้วกลางดง ตอนที่ 2/2 วันที่ 28 เม.ย. 55

{[['']]}
อ่านละคร แก้วกลางดง ตอนที่ 2/2 วันที่ 28 เม.ย. 55
ที่ร้านขายของชำนอกหมู่บ้าน แม่ค้าส่งถุงของให้ ฟ้าลั่นแอบจับมือส่งตาหวาน ทรงเผ่าคุยโทรศัพท์ยู่ไม่ไกลนัก
“ตาจั่น ตายแล้วครับพ่อ”
“ฮ้า!”ทนงตกใจ

บัวคลี่และวงศ์นั่งร้องไห้ ทนงส่ายหน้า
“เอ๊า...ทั้งสองคนจะร้องไห้ทำไม ไอ้เผ่ามันยังไม่ตาย มันแค่จะออกไปล่าเสือเท่านั้น”
“นั้นล่ะคะ คุณเผ่านะไม่ใช่พรานนะคะ ขนาดพรานฝีมือดีตาจั่นยัง...” บัวคลี่ไม่กล้าพูดต่อ “ถึงคุณเผ่าจะไม่ใช่ลูกดิฉัน แต่ดิฉันก็เลี้ยงของดิฉันมา เหมือนลูกคนหนึ่ง ในเมื่ออันตรายขนาดนี้จะให้ดิฉันสบายใจได้ยังไง”
วงศ์เห็นด้วย
“ใช่ค่ะ แล้วเสือในป่าไม่ได้มีแค่ตัวเดียวนะคะ จะรู้ได้ยังไงว่าตัวไหนที่ มันกัดพรานจั่น ตามคุณเผ่ากลับมาเถอะค่ะ”
ทนงถอนใจ
“พูดไปให้เปลืองน้ำลายเปล่า ไอ้เผ่ามันก็คงไม่เปลี่ยนใจหรอก เป็นลูกผู้ชาย เมื่อสัญญาก็ต้องรักษาสัญญา มันก็ทำถูกแล้วนะ”
บัวคลี่กับวงศ์ร้องขึ้นพร้อมกัน
“คุณพี่” / “คุณผู้ชาย”
“อ่ะน่า ฉันว่าทุกคนกังวลเกินไปแล้ว มันไม่ได้ไปสู้เสือมือเปล่านะ...ปืนไรเฟินอย่างดียิงช้างยังล้มเลย”
“เอามาจากไหนค่ะ” บัวคลี่ถามอย่างสงสัย
ทนงมั่วไป
“เดี๋ยวผมจะส่งไปให้เอง แถมมีพรานฝีมือดีไม่แพ้ตาจั่นคอยช่วยอีก โอเคนะ คิดบวกนะรู้จักมั้ย อย่าลืมซิ ไอ้เผ่านะมันลูกผม มันได้เชื้อความเก่งจากผม ไปเยอะ”
บัวคลี่กับวงศ์ค่อยสบายใจ พยักหน้า ทนงทำเป็นขำต่อ
“มางั้นชื่นใจที”
ทนงโอบบัวคลี่มากอดไว้ วงศ์ส่ายหน้ากับความสบายๆของทนง แต่จริงๆแล้วทนงแอบไม่สบายใจ เพราะคำพูดของทรงเผ่าที่คุยโทรศัพท์กับเขาเมื่อครู่
‘ผมอาจจะบาดเจ็บ หรือตาย ก็ได้นะครับพ่องานนี้ แต่ผมคิดว่า ตายอย่างลูกผู้ชาย ดีกว่าหน้าตัวเมีย ที่ไม่รักษาสัญญา ซึ่งจะทำให้พ่อ กับตาจั่น โดนคนในหมู่บ้านดูถูกไปด้วย’
บัวคลี่สะกิดเรียกทนงที่นิ่งไป
“คุณพี่คะ คุณพี่ แล้วคุณหวานล่ะคะ คุณเผ่าบอกเรื่องนี้กับคุณหวานหรือยัง”

ทนงส่ายหน้าว่าไม่รู้
ทรงเผ่ากดโทรศัพท์ค้นหาชื่ออัญชิสา สักครู่หน้าจอก็ขึ้นชื่อหวาน เขาตั้งท่าจะกดโทร. แต่ฟ้าลั่นเดินเข้ามาหาหน้าตาจริงจังเสียก่อน


“นาย! ธุระนายเสร็จหรือยัง”
“ทำไม นายจะขอต่อเวลาจีบแม่ค้าอีกหน่อยเหรอ ตามสบาย”
“คือ...ฟ้าลั่นได้ยินเหมือนเสียงกลอง ดังมาจากทางหมู่บ้านเรา”
ทรงเผ่าปิดโทรศัพท์ เดินออกไปกับฟ้าลั่นทันที

ทรงเผ่า กับฟ้าลั่นรีบเดินเข้ามาหน้ากระท่อม ชาวบ้านมุงอยู่ด้านล่างกระท่อม ฟ้าลั่นเข้าไปถามเหินฟ้า
“มีอะไร ข้าได้ยินเสียงกลอง”
“ไอ้ปัน มันเข้าไปตัดหน่อไม้ในป่าด้านหลังหมู่บ้าน เจอไอ้แมวยักษ์ มันไล่งับ แขนขาด”
ขาดคำของเหินฟ้า เสียงดังโหยหวนก็ดังมาจากในกระท่อม ทุกคนมองหน้ากัน
“แล้วตอนนี้เป็นไง” ทรงเผ่าถามอย่างเป็นห่วง
“พ่อข้ากำลังช่วยทำแผลให้มันอยู่” เหินฟ้าบอก
ทรงเผ่าเป็นห่วงคนเจ็บรีบอาสา
“ให้ฉันช่วยดีกว่า ฉันมียาดี ๆ ที่พกมาอยู่หลายตัว”
เมียวดีรีบห้าม
“ไม่ต้อง! สิ่งที่นายควรทำ คือรีบกลับไปให้เร็วที่สุด นายคงยังไม่รู้ ว่าไอ้ปันมันบอกว่า ตัวที่มันเห็นเดินขาหน้าเขยกเสียด้วย”
ฟ้าลั่นหน้าตื่น
“มันกล้าลงมาใกล้หมู่บ้านขนาดนี้เชียวเหรอ”
ทรงเผ่าครุ่นคิด
“ดูท่ามันจะกลายเป็นเสือลำบากเสียแล้ว ทำให้ คนในหมู่บ้านเดือดร้อนแบบนี้ ฉันยิ่งต้องรับผิดชอบ ฉันไม่ยอมทิ้งไปหรอก จะให้เด็กอย่างเธอจัดการได้ยังไง”
เมียวดีเชิดถือดี
“ถ้าพ่อคิดว่าเราเด็ก คงไม่บอกให้เราไปจัดการ...พ่อต้องเห็นว่าเราทำได้ดีกว่านาย”
ทรงเผ่าชักฉุน
“นี่เธอจะยั่วโมโหฉันทุกครั้งหรือไง เอาล่ะงั้น เธอทำตามคำสั่งพ่อเธอก็ได้ แต่ฉันจะทำตามสัญญาของฉัน”
“งั้น เราต่างคนต่างล่าไอ้แมวยักษ์ดีมั้ย”
“ได้...เธอล่าของเธอ ฉันล่าของฉัน”
เมียวเดินลอยหน้าออกไป พอผ่านหน้าทรงเผ่า ก็แกล้งถ่มน้ำลาย ผ่านหน้า
“แหม...น้ำลายติดคอพอดี”
ทรงเผ่า ได้แต่เข่นเขี้ยว

ค่ำนั้น...ทรงเผ่าเดินกลับมาที่เต้น ฟ้าลั่นเดินตามมาเรียกไว้
“นาย เอาจริงแน่เหรอ อีเมียวนะมันกระแตป่า ป่าคือบ้านมันนะ”
ทรงเผ่านิ่งไป ยังไม่ตอบ แต่ย้อนถาม
“ถ้าเป็นนายล่ะ นายกล้าสู้กับเมียวดีมั้ย”
“โอ๊ย...แน่นอนอยู่แล้ว นังเมียวถึงมันจะปราดเปรียว แต่มันก็เป็นผู้หญิง เรี่ยวแรงมันจะมาสู้ผู้ชายอย่างฟ้าลั่นได้ยังไง ที่ผ่านมาฟ้าลั่นก็ยอมมันไปงั้นแหละ”
“ฉันก็เชื่อว่าฝีมือนายไม่เป็นรองใคร”
ฟ้าลั่นยิ้มอย่างภูมิใจ
“แล้วถ้าเจอกับไอ้ลายล่ะ นายกล้ามั้ย ฉันหมายถึง นาย พอจะนำทางฉันไปล่าไอ้แมวยักษ์นั่นได้มั้ย!”

วันใหม่...ฟ้าลั่นกับเหินฟ้า นั่งคุยกันในหมู่บ้าน ทั้งสองพนันกันว่าระหว่าง เมียวดีกับทรงเผ่าใครจะล่าเสือได้สำเร็จ
“ข้าให้ไก่สามตัวเลยเอ๊า ยังไงน้องเมียวก็ชนะแน่นอนแล้วเอ็งล่ะไอ้ฟ้าลั่น เอ็งถือข้างใครว่ะ”
“จริง ข้าก็อยากถือข้างอีเมียว แต่...ข้ารับปากนำทางให้นายไว้ เอางี้ได้มั้ยว่ะ ข้าขออยู่ฝั่งเอ็ง แต่รับตังค์นาย”
“ไม่ได้โว้ย เอ็งจะเอาสองทางได้ไง ไอ้นกสองหัว”
“ทีเอ็งล่ะไอ้เหินฟ้า หน้ายังกับอีเห็นยังมีเมียตั้งสองคน เออ...ก็ได้ว่ะ ค่าแรงนำทางที่นายให้ซื้อไก่ได้ตั้งสิบ ๆ ตัว งั้นข้าถือข้างนายโว้ย”
เหินฟ้าตาลุกอยากได้เงินขึ้นมา
“ไอ้ฟ้าลั่น! นาย ให้ค่าจ้างดีจริงเหรอว่ะ งั้น นายยังรับอีกมั้ย”
เมียวดีเดินมาได้ยินก็ด่าทันที
“ไอ้หมูฟ้า ไอ้หมาลั่น เอ็งสองตัวมันหน้าเงิน เห็นเงินเข้าหน่อยก็ตาโต”
“ข้าไม่ได้เห็นแก่เงิน ข้าเห็นแก่นายต่างหาก เอ็งกลัวฝีมือแกะรอยของข้าละซิ เอาเถอะอีเมียว ถ้าเอ็งยอมกราบตีนข้าบางที ข้าอาจจะอ่อนข้อให้เอ็งบ้างก็ได้” ฟ้าลั่นพูดอย่างถือดี
“ข้าเนี่ยนะ กลัวเอ็ง ไอ้ขี้โม้ งั้นตอนนี้เลยก็ได้”
เมียวดีควักหนังสติ๊กที่เหน็บหลังออกมาหยิบกระสุนดินจากย่ามที่สะพาย มายิงใส่ไม่ยั้ง ฟ้าลั่นกระโจนหนีร้องลั่น
“โอ๊ย...อีเมียว เอ็งเล่นทีเผลอเหรอวะ”
เหินฟ้าโบกมือ
“น้องเมียว พี่เหินฟ้าไม่เกี่ยวนะ โอ๊ย”
สองหนุ่มหลบกันให้วุ่น ก่อนจะวิ่งกันขึ้นไปบนกระท่อม ทรงเผ่าวิ่งเข้ามา
“เมียวดี หยุดนะ ฉันบอกให้หยุด”
เมียวดีหันมา
“หยุดเหรอนาย”
เมียวดีหันมาเล็งใส่
“เฮ้ย ๆ อย่า...อย่านะ”
ทรงเผ่ารีบวิ่งหนี เมียวดี แกล้งยิงให้โดน ใกล้ๆเท้า ทรงเผ่าวิ่งหลบขึ้นไปบนลานกระท่อม เมียวดีหัวเราะสะใจ
“ฮะๆ ๆ ๆ ใครอยู่ข้างบนเป็นลิงเป็นคาง ใครอยู่ข้างล่างขว้างได้ขว้างเอา”
“หยุดเล่นเป็นเด็กได้แล้วเมียวดี ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมตาจั่นถึงฝากเธอไว้กับฉัน”
ขาดคำของเขา เมียวดีถึงกับชะงัก ง้างหนังสติ๊กค้าง
“มีอีกข้อที่ฉันสัญญากับตาจั่น คือฉันจะดูแลเธอ”
ขาดคำ ก้อนหินก็โดนตรงหน้าผากทรงเผ่าพอดีเลือดไหลออกมา เมียวดีหยุดมองหน้าเขา
“เราโตแล้ว ปกครองตัวเองได้ไม่ต้องมีใครดูแล”
เมียวดี หายแว่บออกไป ฟ้าลั่นโผล่ออกมา
“เห็นฤทธิ์มันหรือยังนาย”
ทรงเผ่าได้แต่ส่ายหน้า

เมียวดีเอาดอกไม้เล็กๆวางลงบนหลุมศพพ่อ
“พ่อพูดแบบนั้นจริงๆเหรอ”
เธอยืนนิ่งหน้าหลุมศพอย่างเนิ่นนานดูไม่ออกว่าคิดอะไร

วันต่อมาที่บ้านอัญชิสา...รำพามารดาของเธอ กับเพื่อนคุณนายอีกสามคน กำลังเล่นไพ่กันอยู่
“อุ๊ย...คุณน้องขา ทิ้งตัวนี้ คุณพี่ก็กินเรียบซิคะ ฮะๆๆๆ”
ทันใดนั้นเสียงกริ่งดังขึ้น รำพาที่กำลังทำไพ่หันไปถามคนใช้
“ใครนะนังน้อย”
น้อยเข้ามาลนลาน
“คุณนายขา มีตำรวจมาอยู่หน้าบ้านเราค่ะ”
“งั้นเหรอแกก็เปิดประตูให้เข้าเข้ามาซิ” รำพานึกได้ก็หน้าตื่น “ห๊า ตำรวจ!”
เหตุการณ์โกลาหลไปหมด รำพากับเพื่อนช่วยกันเก็บไพ่วิ่งหนีกันวุ่นวาย สักครู่รำพาก็หยุดหอบแล้วก็ตัดสินใจแอบมองทางผ้าม่านออกไปเห็นรถมอร์เตอร์ไซค์สายตรวจคุยอยู่กับบัวคลี่ โดยมีคนขับรถที่ดูป้ายทะเบียนท้ายรถกันอยู่
“ขอบคุณนะคะ คุณตำรวจ ที่อุตส่าห์ขับตามมาเตือน ไม่ทันสังเกตเลยว่าป้ายทะเบียนจะหลุด”
“ไม่เป็นไรครับ”
ตำรวจขับรถออกไป บัวคลี่หันมาสั่งคนขับรถ
“จัดการให้เรียบร้อยเสียนะ”
บัวคลี่เดินเลยมากดกริ่ง...รำพาที่แอบดูอยู่ถอนใจออกมาโล่งอก
“นั่นมันคุณบัวคลี่ แม่เลี้ยงคุณทรงเผ่านี่...ตำรวจที่ไหนกันนังน้อย”
รำพาเขกหัวคนใช้ ที่ทำให้วุ่นวาย

รำพาพาบัวคลี่เข้ามาในห้องรับแขก
“ลูกหวานไปงานที่สมาคมแทนดิฉันนะคะ พอดีดิฉันไม่สบาย”
รำพาทำเป็นกระแอมประมาณว่าเจ็บคอ
“อ้าว งั้นเหรอค่ะ ดิฉันเพิ่งกลับมาจากสมาคม ทำไมไม่เจอ”
“อุ๊ยตาย จำผิดค่ะ คุณพี่ แหมๆทำไมถึงเลอะเลือนแบบนี้ ลูกหวานบอกดิฉันแล้วติดงานเดินแบบไปงานสมาคมแทนไม่ได้”
“ดิฉันก็ร้อนใจนะคะ รู้ว่าไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง แต่เราเป็นผู้หญิง เข้าใจจิตใจผู้หญิงด้วยกัน ก็เลยต้องมาอธิบายเรื่องนี้ให้คุณหวานเข้าใจ”
“มีเรื่องอะไรเหรอค่ะ”
รำพาถามอย่างร้อนใจ

อัญชิสา อยู่ในชุดเพิ่งกลับจากข้างนอกยังสะพานกระเป๋าอยู่ ได้ยินสิ่งที่รำพาบอกก็ตกใจ
“คุณเผ่าไปล่าเสือ! จากถ่ายรูปกล้วยไม้ป่าไปล่าเสือได้ยังไงแล้วไอ้ล่าเสือเนี่ย มันผิดกฎหมายไม่ใช่เหรอ”
“ถามแม่เหรอจ๊ะ แม่ก็ไม่รู้หรอก ต้องถามกรมคุ้มครองสัตว์ป่า เดี๋ยวแม่จะให้เพื่อนๆที่สมาคมโทรถามให้”
“แม่ค่ะ...แม่ก็รู้นี่ว่าหนูไม่ได้ต้องการรู้จริง ๆ แต่ทำไมเรื่องสำคัญขนาดนี้ ทรงเผ่าถึงไม่โทรมาบอกหนูสักคำ”
“คุณบัวคลี่เค้าถึงต้องมาอธิบาย ที่ไม่บอกเพราะไม่อยากให้ลูกตกใจ”
“ตกลงเค้าจะทำงานอะไรกันแน่ค่ะ ช่างภาพ หรือว่าพราน”
“คงทั้งสองอย่างมั่งค่ะ ลูก จ็อบหลักเป็นช่างภาพหนังสือสารคดี แต่จ็อบรอง เป็นพรานป่า แม่ว่าก็เก๋ดีออกนะคะ แหมแต่อย่างคุณเผ่านะ ไม่ทำงานก็ยังได้”
“แล้วเมื่อไหร่จะกลับคะ”
“เออ ลูกขาไปล่าเสือนะคะ ไม่ใช่ไปเดินช้อปปิ้ง”
“หนูถึงเบื่อไงคะ คุณเผ่าก็เป็นแบบนี้ทุกที คราวที่แล้วไปกัวเตมาลา ก็หายไปเป็นเดือนๆเหมือนกัน ไม่มีอะไรแน่นอนเลย” อัญชิสา ถอนหายใจเซ็ง ๆ “หนูไปอาบน้ำดีกว่าเหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว”
รำพากระแอม
“หวานจ๊ะ ลูกลืม อะไรหรือเปล่า” รำพาแบมือ “แม่เกือบโดนคุณบัวคลี่ถอนหงอก เรื่องที่โกหกให้ลูกให้ว่าไปสมาคม แต่จริง ๆ ไปกินดินเนอร์กับ...”
อัญชิสา ควักเงินให้แม่อย่างเซ็งๆ
“หวานยังไม่ได้แต่งงาน หวานมีสิทธิเลือกคนที่ดีที่สุดนะคะ”

ทรงเผ่าเก็บข้าวของ รูปอัญชิสา ที่สอดไว้อยู่ในหนังสือหล่นเขาหยิบขึ้นมาดู
“ผมรู้ว่าคุณต้องเข้าใจ”
ขณะเดียวกันนั้นเสียงฟ้าลั่นดังมา
“นาย!”
ทรงเผ่ารีบเก็บรูปสอดไว้เหมือนเดิม ฟ้าลั่นเข้ามา
“ฟ้าลั่นหาลูกหาบมาให้นายได้แล้วนะ”
“ดี...เดี๋ยวฉันจะจ่ายค่าจ้างส่วนหนึ่งให้ก่อนจะได้เอาไว้ให้ลูกเมีย ส่วนที่เหลือหลังงานเสร็จ แล้วก็ถ้าเราล่าเสือได้ ฉันจะมีรางวัลเพิ่มให้อีก”
“ไม่ต้องหรอกนาย คนที่ไปก็คนที่พ่อนายเคยช่วยทั้งนั้น”
“ขอบใจนะ ฟ้าลั่น”
“แล้วนี่นายจะออกเดินทางเมื่อไหร่”
“ไปเร็วเท่าไหร่ ก็กลับเร็วเท่านั้น พรุ่งนี้เช้า...ถ้าทุกคนเตรียมตัวพร้อม”
ทรงเผ่าบอกอยางมุ่งมั่น

เย็นนั้น...ทรงเผ่าก้าวลงไปที่น้ำตกแช่น้ำเพื่อผ่อนคลาย เขานึกถึงตำพูดของฟ้าลั่นที่คุยกับเขาเมื่อบ่ายที่ผ่านมา
‘คนที่นี่พร้อมเสมอ นายนั้นแหละรีบนอนเถอะ พักผ่อนให้พอ เพราะเมื่อเข้าป่า นายจะไม่ได้นอนหลับสนิทอีก’
‘เพราะฉันแท้ๆที่ทำให้ยุ่ง ถ้าฉันไม่รั้นออกไป ตาจั่นก็คงจัดการมันได้หรืออย่างน้อย แกคง...ไม่ตาย’
‘มีใครไม่ตายบ้างนาย...สัตว์มันมีสิทธิล่าเรา เท่าๆกับที่เราล่ามัน ถ้าเราไม่ตายมันก็ตาย แค่นั้นเองแหละนาย’
ทรงเผ่ามุดหัวลงในน้ำ เหมือนอยากสลัดเรื่องทุกอย่าง
“นาย!”
ทรงเผ่าได้ยินเสียงเรียกแว่ว ๆ รีบโผล่ขึ้นมา หันไปดูเห็นเมียวดีนั่งชันเขาอยู่ริมโขดหิน หน้าตาเรียบเฉย ทรงเผ่าตกใจรีบเลื่อนตัวลงน้ำเพราะตนเองเปลือยอยู่
“เฮ้ย...ไปให้พ้น ฉันบอกแล้วไง อย่าเข้ามาแบบนี้ นี่ครั้งที่ 2 แล้วนะ”
เมียวดียักไหล่ไม่สน
“เรามาพนันกันมั้ยล่ะเรื่องไอ้แมวยักษ์”
“จะพนันอะไร ให้ฉันขึ้นจากน้ำก่อนได้มั้ย”
“ก็ขึ้นมาซิ”
“วะ! นี่เธอคิดว่าฉันไม่กล้าเดินขึ้นไปเหรอ”
“มันไม่เกี่ยวว่ากล้าหรือไม่กล้า แต่อยู่ที่ว่า...” เมียวดียิ้มเจ้าเล่ห์ “นายจะขึ้นมาเอาของเจอหรือเปล่า”
“เธอเอาเสื้อผ้าฉันไปไหน!”
เมียวดียิ้มเป็นต่อ
“ต้องพูดกันก่อนแล้วค่อยบอก”
ทรงเผ่าได้แต่โมโห เมียวดีท้าทาย
“เรามาพนันกันมั้ย ถ้าเราล่าไอ้ลายได้ก่อนนาย...”
“เธอจะให้ฉันอยู่ที่นี่กับเธอเหรอ”
“เหอะ อย่างนายเอาไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ทำไร่ก็ไม่ไหว ให้หาของป่าก็คงวิ่งป่าราบ”
“แล้วจะเอายังไง ก็ว่ามา แช่น้ำแบบนี้ได้เป็นไข้ป่ากันพอดี”
“ถ้าเราล่าไอ้ลายได้ก่อน นายต้องกราบเรากลางหมู่บ้าน”
“เฮ้ย...มากไปแล้ว”
ทรงเผ่าเผลอตัวยื่น แล้วก็คิดได้ รีบมุดไปอีก
“ก็ตามใจ งั้นนายก็เดินเป็นชีเปลือยกลับหมู่บ้านไปก็แล้วกัน”
เมียวดีลุกขึ้นเดิน ทรงเผ่าหงุดหงิด แต่ต้องตัดสินใจ
“เดี๋ยวเมียวดี ก็ได้ ฉันตกลง”
“แน่นะ”
“แน่นอน”
เมียวดีหันกลับมายิ้มแป้น
“คราวนี้ ใครต่อใครจะได้ นับถือเมียวดีเป็นพรานใหญ่เหมือนพ่อ”
พูดจบก็หันหลังเดินไป ทรงเผ่าตกใจ
“เมียวดี แล้วเสื้อผ้าฉันล่ะ เดี๋ยวก่อน”
เมียวดีไม่หันกลับมา
“มันก็อยู่ที่เดิมนั้นแหละ มันมีตีนเสียที่ไหน ฮะ ๆๆๆๆ”
ทรงเผ่าได้แต่โมโห
“เสียท่าอีกจนได้”

เมียวดีเดินเล่นแถวบ้านของเธอเคี้ยวท่อนอ้อยกินเล่นอย่างอารมณ์ดี ทรงเผ่ายืนดักรออยู่
“หาเสื้อเจอแล้วนี่ มันเดินมาหาหรือนาย”
“ฉันเอาของที่ไม่จำเป็นบางอย่างมาฝากไว้บ้านเธอ ได้มั้ย”
“อืม...ก็เอามาวางไปแล้วนี่ งั้นก็...คงได้”
“เดี๋ยว เรื่องที่เธอพนันกับฉัน ยังไม่จบ”
“อ๋อ นี่นายจะเบี้ยวเหรอ ไหนว่ารักษาสัญญานักไง โธ่เอ๋ย คนเมืองก็แบบนี้ละว่ะ ขี้โม้ทั้งนั้น”
ทรงเผ่าขึ้นเสียงบ้าง
“นี่! ฟังก่อนได้มั้ย อย่าเพิ่งโวยวาย...เธอบอกแต่ว่า ถ้าเธอล่าได้ก่อนจะให้ฉันกราบเธอ แล้วถ้าฉันล่าได้ก่อนล่ะ จะทำยังไงเธอยังไม่ได้บอกเลย”
เมียวดีอึ้งไปนิด ก่อนตัดสินใจ
“เราจะยอมเป็นเมียนาย”
ทรงเผ่าสะดุ้ง
“เฮ้ย”
“อ้าว...ถ้าไม่เอาเป็นเมียแล้วเอาไปทำไม ก็ไหนนายว่าจะเอาเราไปด้วย ตามที่พ่อสั่งไว้”
ทรงเผ่าถอนหายใจกับความซื่อของคนในป่า
“ใช่...แต่ว่าไม่ใช่...” ทรงเผ่าถอนหายใจ “โอ๊ย...พูดกันไม่รู้เรื่อง เอาเป็นว่าถ้าเธอแพ้เธอต้องไปกับฉัน ตกลงมั้ย”
“ถ้านายรักษาคำมั่นสัญญาของนาย เราก็รักษาคำมั่นสัญญาของเรา”

เมียวดีมองหน้าทรงเผ่าอย่างจริงจัง ให้คำสัญญา

จบตอนที่ 2

อ่านละคร แก้วกลางดง ตอนที่ 2/2 วันที่ 28 เม.ย. 55
ติดตามละคร แก้วกลางดง ได้ทุกวัน จันทร์ - อาทิตย์ เวลา 7.30 ,10.30 ,20.00 และ 23.00 ทาง ช่อง 8
ละคร แก้วกลางดง ประพันธ์ โดย ทมยันตี
ละคร แก้วกลางดง บทโทรทัศน์โดย ธนินทร อุชุภาพ
ที่มา manager.co.th
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ