ธรณีนี่นี้ใครครอง ตอนที่ 3

{[['']]}
“เทพบุตรสุดหล่อของสาวๆ เดี๋ยวเถ๊อะ...หน้าได้เหลือ 2 นิ้วแน่” ดรุณียิ้มก่อนจะลุกขึ้นแล้วยุรยาตรเริ่ดๆเชิดๆออกไป ที่ลานนั่งเล่นหน้าบ้านพักอาทิจ ต๊อด อึ่ง พัน ลุงเกร็งตบมือ แหกปากร้องเพลง กำลังเมาได้ที่ อาทิจยกถาดใส่แก้วซึ่งมีน้ำสีใสกิ๊งเต็มล้นอยู่ในแก้วทั้ง 5 แก้ว เดินเข้ามาเสริฟ ทุกคนหยิบแก้วประจำตัวขึ้นมา รวมทั้งอาทิจ ต๊อดยกแก้วขึ้นมาชวนเชิญทุกคนในท่ามึนยืนเซไปมา “เอ้า...พวกเราดื่ม...ดื่มให้กับนายอาทิจที่อุตส่าห์ต้มเหล้าให้พวกเราคืนนี้ ดื่ม” อาทิจยิ้ม ในขณะที่ทุกคนลุกขึ้นยืนตัวเอนไปโอนมา แล้วพากันหัวเราะสนุกสนาน ก่อนจะชนแก้วแล้วดื่ม ทันใดนั้น เสียง ย่าแดงดังเข้มเข้ามา “ทำอะไรกัน!” ดรุณีประคองแขนคุณย่า โดยมีแก้วขนาบข้าง เดินเข้ามา ทุกคนซึ่งกำลังยกแก้วขึ้นซด ชะงักกึก อาทิจเข้ามายกมือไหว้ย่าแดง “ผมขอโทษนะครับคุณย่าที่เสียงดัง” “ไม่ใช่เรื่องเสียงดัง แต่ย่าอยากรู้ว่าไอ้ที่ดื่มกันอยู่นี่มันอะไร” ดรุณีลอยหน้าลอยตา “จะอะไรคะคุณย่า ถ้าไม่ใช่เหล้าเถื่อน นั่นไงคะ เตา หม้อต้ม อุปกรณ์ครบ” ลุงเกร็งพยายามอธิบาย “คือ...เอ่อ...มันไม่ใช่อย่างนั้นครับคุณหนูณี” ดรุณีเดินไปที่เตา ซึ่งมีหม้อตั้งอยู่บนนั้น แล้วเปิดดู “ไม่ใช่อะไรคะลุงเกร็ง หลักฐานมีออกทนโท่ ดูสิคะคุณย่า ต้มทั้งเหล้าขาว เหล้าโรงเลยค่ะ สีขาวสีทองมาครบ นี่ไงคะ” ดรุณีใช้ทัพพีตักน้ำในหม้อขึ้นมา แล้วเทโชว์น้ำสีน้ำตาลทองแบบเหล้าโรงกลับลงหม้อให้คุณย่าดู แก้วหันมาดุลุงเกร็งเสียงเขียว “ตาเกร็ง แกแก่ที่สุด แล้วยังไม่มีปัญญาคิด ปล่อยให้คุณอาทิจต้มเหล้าเถื่อนได้ยังไง รู้ทั้งรู้ว่าคุณย่าเกลียดเรื่องนี้ที่สุด แกทำไมไม่เตือนเธอ” พันหน้าเหวอพยายามบอก “คือ...มันไม่ใช่...” ดรุณีจ้องหน้า “เมาแอ๋ขนาดนี้แล้วยังจะเถียงอีกเหรอนายพัน” อึ่งพยายามอธิบาย “คือ...พวกผมไม่ได้เมาครับคุณณี แล้วไอ้ที่กินนี่...ถ้ามันเป็นเหล้าก็คงดี แต่นี่มันไม่ใช่ มัน...” อึ่งบีบเสียงพูดเหมือนเสียใจผสมเจ็บใจ “ไม่ใช่!” ย่าแดงงงๆ “อะไรของแกหา...” ลุงเกร็งหน้าตาจริงจังพูดขึ้น “มันยังนี้ครับคุณย่า” ทุกคนหันไปมองลุงเกร็งเป็นตาเดียว ก่อนหน้านี้...ลุงเกร็ง ต๊อด อึ่ง พัน ปะแป้งขาวแต่งตัวมาปาร์ตี้กันเต็มที่ ต่างคนต่างหิ้วปลาที่เพิ่งไป วางเบ็ดมาคนละตัวสองตัว อาทิจซึ่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว กำลังง่วนอยู่ที่หม้อต้มบนเตา พันชูปลาให้อาทิจดู “ปลามาคร้าบแล้วตามสัญญา แล้วเครื่องดื่มล่ะคร้าบ มาตามสัญญารึเปล่า” อาทิจหันไปยิ้มให้ “เสร็จพอดีเลย นี่ไง” ลุงเกร็งเห็นหม้อต้มอย่างเดียวเลยสงสัย “ไม่ต้องกรองต้องกลั่นเลยหรือครับ” อาทิจยิ้มๆ “สูตรใหม่ครับลุงเกร็ง ง่ายดี” ต๊อดลูบปาก “แหม...ไอ้ต๊อดเปรี้ยวปากอยากลองซด” “ได้เลย” ชายหนุ่มตักเครื่องดื่มสีน้ำตาลทองที่อยู่ในหม้อใส่แก้ว ส่งให้ต๊อด “เอ้า...ชิม ร้อนนิดนะ” ต๊อดรับมาพินิจ “เฮ้ย...ทำไมมันสีนี้วะ” “ก็นายบอกสูตรใหม่ไม่ได้ยินเหรอ สูตรใหม่ที่ต้มแล้วเหมือนเหล้าโรงไง...ไอ้โง่” อึ่งด่า พันเห็นด้วยกับอึ่ง “ถูก...เอ็งลืมแล้วรึไงไอ้ต๊อดว่านายจบเกษตรมา มันก็ต้องมีวิธีต้มแบบใหม่สิเว้ย” ต๊อดชิม “อึ่ม...หอมหวานละมุน” อึ่งดึงมาจิบบ้าง “กลิ่นก็ละไม” พันดึงแก้วจากอึ่งมาจิบชิม “ละมุนละไมเหมือน...เอ...ทำไมเหมือนน้ำมะตูมจังวะ” อาทิจขำๆ “ก็มันจะไม่เหมือนได้ยังไง ในเมื่อมันคือน้ำมะตูม” 3 เกลอโวยเป็นเสียงเดียว “โห...นายอะ!” ลุงเกร็งหัวเราะ “โดนคุณอาทิจเล่นซะแล้ว” ต๊อดทำโกรธ “โกรธ” อึ่งทำงอน “งอน” พันสะบัดบ๊อบใส่ “ไม่พูดด้วยแล้ว” “อย่าโกรธอย่างอนเลยน่า น้ำมะตูมน่ะมันแค่เรียกน้ำย่อย แต่ลองนี่ สูตรนี้ดื่มแล้วสดชื่น” อาทิจยกถาดซึ่งมีแก้วใส่น้ำใสบริสุทธิ์ 4 แก้วขึ้นมา ต๊อดตาโต “เฮ้ย...นี่มันเหล้าขาวนี่หว่า” อึ่งเหล่อาทิจ “ที่แท้นายก็แอบต้มไอ้นี่ไว้ให้พวกเราใช่มั้ย ขี้เล่นนะเนี่ย มีสับหลอกให้งงก่อนด้วย” พันคว้าแก้วมา “เอ้า...ดื่มเว้ยพวกเรา จะได้หายงง หมดแก้วเลยเว้ย” ต๊อดแกล้งทำเมา “มาวให้หัวทิ่มบ่อ” ทุกคนหัวเราะฮา ก่อนจะยกน้ำใสในแก้วขึ้นดื่มจนหมดแก้ว แล้วหันมามองหน้ากันอย่างเงียบเชียบ ลุงเกร็งวิเคราะห์ “เอ...รสคุ้นๆ เหมือน...เหมือน...” ต๊อดแหกปากทำท่าเหมือนจะปล่อยโฮร้องไห้ “น้ำเปล่า! น้ำเปล่าซิงๆ ไม่มีส่าเหล้าเจือเลยแม้แต่น้อย” อึ่ง ซึ่งอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ต่างจากต๊อด “ตกลงนายไม่ได้ลงทุนอะไรเลย มะตูมก็ไปเก็บจากท้ายสวนมาต้ม น้ำเปล่าก็ตักเอาน้ำฝนจากในตุ่มมาให้กิน” ดรุณีจับผิดไม่ยอมแพ้ “แล้วทำไมพวกนายถึงได้เมาแอ๋ขนาดนี้” ลุงเกร็งหันมาบอก “มันแกล้งเมาประชดคุณอาทิจกันน่ะครับ” ดรุณีหน้าม้านเหลือ 2 นิ้วซะเอง หญิงสาวเหล่มองอาทิจ ชายหนุ่มส่งยิ้มให้เป็นยิ้มของผู้บริสุทธิ์ที่ผ่านการพิจารณาของศาลแล้ว ย่าแดงถอนใจโล่งอก “ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไป แม่ณีไปได้ยินใครที่ไหนมา คิดเองเออเองอย่างนี้ใช้ได้ที่ไหน นี่ล่ะนะ โบราณเขาถึงว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เออ...กลิ่นอะไรหอมๆ” “ปลาเผาครับคุณย่า ว่าจะกินแกล้มเหล้าสักหน่อย แต่กลั้วกับน้ำมะตูมก็อร่อยดีเหมือนกันครับ” พันบอก “เมื่อกี้ย่าก็ร้อนใจรีบมาจนไม่ได้กินข้าว กินกับพวกเราสักมื้อคงไม่เป็นไรนะ ว่าไงแม่ณี” ดรุณียังเจ็บใจไม่หาย “เชิญคุณย่าเถอะค่ะ หนูไม่หิว หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ” ดรุณีหันหลังจะเดินกลับ ต๊อดพูดขึ้น “คุณณีรังเกียจพวกเราเหรอครับ พวกเรากลับก็ได้นะครับ คุณณีจะได้กินข้าวกับคนในครอบครัว ไป...พวกเรา” ดรุณีหันกลับมา “ฉันไม่เคยเห็นพวกเราเป็นคนอื่น เราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน” “งั้นก็กินข้าวด้วยกันสิครับ” อาทิจพูดอย่างแมนๆด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน แต่แฝงความจริงจังของพี่ที่กำลังอบรมบ่มนิสัยน้อง ดรุณีค้อน รู้ดีว่าประโยคธรรมดาๆของชายหนุ่ม มีนัยของการตำหนิและบังคับกลายๆแฝงอยู่ ค่ำนั้น...ที่โคนต้นไม้บริเวณธารน้ำตก ทองใบซึ่งโกนหนวดโกนเคราเรียบร้อยแล้ว นั่งตระกองกอดทองประศรีนัวเนีย “น้องศรีไม่ต้องกลัวนะ พี่จะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด พี่จะให้เจ้าพ่อกับเจ้าแม่ยกขันหมากมาสู่ขอน้องศรีอย่างสมเกียรติ” ทองประศรีตาเหลือกโต “เจ้าพ่อเจ้าแม่ นะ...นะ...นี่พ่อแม่พี่เป็นเจ้าเหรอจ๊ะ” “จ้ะ” ทองประศรีเอามือแตะปากตนเอง ตื่นเต้นเหมือนนางงามจักรวาลเพิ่งสวมมงกุฎ “อ๊ายย...แล้ว...แล้วศรีต้องเรียกพี่ว่า เจ้าพี่ รึเปล่า” “เรียกพี่ธรรมดาเถอะจ้ะ พี่ไม่ชอบถือยศถือศักดิ์เหมือนคนอื่น ถึงได้ออกมาลองใช้ชีวิตแบบสามัญชนนี่ไง” “โอ้ว...แม่เจ้า ศรีไม่คิดเลยว่าศรีจะได้เป็นสะใภ้เจ้าอย่างนี้ มัน...มัน...มันไกลเกินที่ฝันไว้จริงๆ” “ไม่มีอะไรไกลเกินฝันหรอกจ้ะ พี่ฝันว่าพี่จะได้เมียที่หวานและเซ็กซี่ไปทั้งตัวอย่างน้องศรี พี่ก็ได้ เห็นมั้ย เราจะแต่งงานกัน 2 รอบนะจ๊ะ ที่นี่และที่วังของพี่” ทองประศรีฉีกยิ้มปลื้มมาก “อ๊าย...วัง...วังเหรอจ๊ะ พี่พูดจริงๆนะ” “จริงสิจ๊ะ” ทองใบซุกไซ้คลุกวงใน เตรียมจะเผด็จศึกอีกรอบ ทองประศรีทำปัดป้อง “ศรีออกมานานแล้ว เดี๋ยวที่บ้านสงสัย” “อีกครั้ง นะ...นะ” ทองประศรีบิดอาย “เมื่อกี้ก็บอกว่า อีกครั้ง” “มีเมียสวยเซ็กเอ๊กส์แตกขนาดนี้ พี่ก็อยากจะพูด อีกครั้ง ไปทั้งคืนล่ะจ้ะ” ทองใบไม่พูดพล่าม ชายหนุ่มคลุกวงในจู่โจมทองประศรี โดยที่หญิงสาวยินยอมพร้อมใจอีกครั้ง ดรุณีนั่งแทะปลาเผาอย่างเอร็ดอร่อย ข้างๆย่าแดงและแก้ว อาทิจนั่งอยู่กับลุงเกร็ง โดยที่ต๊อด อึ่ง พัน นั่งเอาช้อนเคาะขวดเคาะจานร้องเพลง หัวเราะฮาเฮ เมาดิบกันถ้วนทั่ว ลุงเกร็งมองขำๆ “ไม่กินเหล้าก็แกล้งเมาก็สนุกกันได้นี่หว่า” ลุงเกร็งหันมาบอกย่าแดง “งานเลี้ยงปีใหม่ปีต่อๆไป ไม่ ต้องเลี้ยงเหล้าไอ้พวกนี้แล้วนะครับคุณย่า” ต๊อดชะงักกึก “อ้าว...น้าเกร็ง ไหงพูดขัดลาภปากกันอย่างงี้ล่ะ” “ที่จริง ย่าก็ไม่อยากมอมเมาพวกเราหรอกนะ แต่เห็นว่าปีหนึ่งหนหนึ่งก็ยอมๆกันไป เพราะถ้าไม่มีให้ดื่ม ก็ต้องแอบออกไปหาดื่มกันอยู่แล้ว จริงมั้ยล่ะ” อึ่งเห็นด้วย “มันก็...อย่างที่คุณย่าว่าล่ะครับ นานทีปีหน” “เออ...ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว ย่าอยากจะฟังเสียงแคนสักหน่อย เจ้าต๊อดเป่าให้ฟังหน่อยซิ” ต๊อดดีใจ “อยากฟังจริงๆหรือครับ” ดรุณีย้ำ “อยากสิ นายเป่าได้เพราะมาก ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าเสียงแคนจะไพเราะได้ขนาดนี้ จนกระทั่งได้ยินที่นายเป่านั่นแหละ” พันทำท่าอยากตาย “จะดีหรือครับคุณณี ที่พวกผมเคยได้ยินมันระคายหูมาก มันเป่าทีขี้หูผมร่วงออกมากองโดยไม่ต้องแคะ” อึ่งเสริม “สั้นๆก็คือ มันเป่าได้ห่วยแตกมากอะครับ” ต๊อดเดินไปหยิบแคนซึ่งวางอยู่ที่ระเบียงบ้านออกมาแล้ววางก้ามขึงขัง ยกแคนขึ้นเป่า ไม่แคร์สื่อ อึ่ง พัน ลุงเกร็ง ยกมือห้าม แล้วร้องเป็นเสียงเดียวกัน “ได้โปรด...อย่า!” ต๊อดชะงัก “ใครว่าข้าจะเป่า นี่...คนเป่าตัวจริงเสียงจริงอยู่นี่” ต๊อดส่งแคนให้อาทิจ “ไอ้ที่ ไพเราะเสนาะหูน่ะ ฝีมือนายครับ ไม่ใช่ผม เอ้า...โชว์เลยนาย จัดเต็มซวดๆเด้อ” ดรุณีหน้าม้าน เด๋อด๋าเป็นครั้งที่ 2 เพราะออกตัวชมอาทิจอย่างแรง อาทิจรับแคนมาเป่าเล่นเอาทุกคนเคลิ้มรวมทั้งดรุณี อาทิจแอบเหล่มาทางดรุณีในบางช่วงจังหวะของเพลง ดรุณีซึ่งนั่งเท้าคางฟังแถมยิ้มเพลิน สบตาชายหนุ่มแล้วยืดตัวตรง ทำเป็นไม่สนใจไม่ตั้งใจฟังซะงั้น ทองประศรีวิ่งกระโดดดีดส้นเท้าเป็นนางเอกบัลเล่ต์ กลับเข้าบ้านอย่างกระชุ่มกระชวย แต่แล้วหญิงสาวก็หน้าถอดสีเมื่อเห็น สิงห์ทอง คำมา ทองประสาน ทองประสม ยืนเรียงหน้ากระดานรออยู่ที่หน้าบ้าน คำมาตวาดแว้ด “ไปไหนมานังศรี!” ทองประศรีอึกอัก “เอ่อ...ฉัน...ฉันไปหาคุณอาทิจมาจ้ะ” สิงห์ทองถามเสียงแข็ง “อาทิจไหน” “ก็หลานคุณย่าแดง เจ้าของสวนแถวนี้ไงพ่อ พี่ศรีเขาเล็งไว้กะทำผัว” ทองประสานบอก สิงห์ทองโล่งใจ “เออ...ค่อยยังชั่ว จะมีผัวทั้งทีก็ต้องหาที่มันรวยๆเข้าไว้ อย่าไปเอาพวกขี้เมาไก่กา แถวนี้” คำมาเสริมสามี “ไอ้ประเภทไม่เป็นหลักแหล่ง อย่างไอ้เซลล์ขายยาถ่ายนั่นก็ไม่เอา” ทองประศรีเถียงทันที “พี่เขาไม่ใช่เซลล์ เขาเป็นเจ้าของกิจการ” ทองประสมสงสัย “ทำไมต้องออกตัวแทนเขาด้วยล่ะพี่ศรี” ทองประศรีกลบเกลื่อน “ออกตัวอะไร ฉันเพียงแต่คิดว่าอย่ามองคนแค่ภายนอก พี่เขาอาจจะรวย มีชาติตระกูลดี พ่อแม่เขาอาจจะเป็นเจ้าก็ได้เว้ย” คำมาขำกลิ้ง “เจ้าพ่อเจ้าแม่เข้าทรงเหรอวะ ถ้ารวยขนาดนั้นจะมาเร่ขายของต๊อกต๋อยทำไม” ทองประสานนึกได้ “ก็...แบบในละครไงแม่ พระเอกเป็นเศรษฐีพันล้านที่ต้องการตามหารักแท้” ทองประสมพูดต่อ “เลยปลอมตัวเป็นเซลล์ขายยาถ่าย เพื่อพิสูจน์รักแท้กับสาวบ้านไร่” คำมาด่าทันที “โธ่...อีบ้า! เรื่องแบบนี้มันมีแต่ในนิยายเท่านั้นเว้ย” สิงห์ทองคิดๆก่อนจะออกความเห็น “ข้าว่า...จับคุณอาทิจให้อยู่หมัด ยังจะง่ายกว่าหาพระเอกในนิยายเน่าๆแบบนั้นนะ” ทองประศรีได้แต่ยืนเก็บกด หญิงสาวอยากจะตะโกนบอกทุกคนเหลือเกินว่า ผัวฉันเป็นเจ้า เช้าวันใหม่...อาทิจกับต๊อดกำลังฉีดน้ำจากสายยางรดแปลงดิน ที่ปูด้วยฟางข้าวแห้งเรียบร้อยแล้ว “นายเข้าไปช่วยพี่ฑูรเก็บส้มก่อนไป เดี๋ยวไม่ทันส่งลูกค้า บอกพี่ฑูรว่าฉันรดน้ำเสร็จแล้วจะตามไป เอาจักรยานฉันไปก็ได้” “ครับ นาย” ต๊อดเดินไปปิดน้ำจากทางฝั่งตัวเอง แล้ววิ่งไปที่จักรยานอาทิจก่อนจะถีบออกไป สักครู่ดรุณีถีบจักรยานเข้ามาจากอีกทาง ตะโกนเรียก “นายอาทิจ คุณย่าให้มาตาม” อาทิจชะงักได้ยินแล้วแต่แกล้งรดน้ำต่อ ทำเป็นไม่ได้ยิน ดรุณีแหกปากดังขึ้น “คุณย่ามีธุระจะคุยด้วยได้ยินมั้ย...นายอาทิจ” อาทิจซึ่งยืนหันหลังให้ดรุณีแอบอมยิ้ม แล้วแกล้งร้องเพลงก่อนจะรดน้ำต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดรุณีลงจากรถแล้วเดินตีหน้ายักษ์เข้าไปหา “ไม่ได้ยินที่ฉันเรียกรึไง นี่แหนะ” ดรุณีเอามือตีต้นแขนชายหนุ่มดัง ผัวะ อาทิจแกล้งสะดุ้งตกใจเกินจริง “เฮ้ย!” อาทิจหันทั้งตัวและสายยางมาหาดรุณี เป็นผลให้น้ำจากสายยางพวยพุ่งใส่หญิงสาวเต็มๆ ดรุณีเต้นเป็นไส้เดือนคลุกขี้เถ้า “นาย!” “ผะ...ผม...ขอโทษ อุ้ย...เปียกหมดเลย” ดรุณีขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน สูดลมหายใจเข้าปอด เหมือนเตรียมจะขย้ำชายหนุ่ม อาทิจยิ้มแหยๆ “คุณย่ามีธุระจะคุยกับผมใช่มั้ย เดี๋ยวผมตามไปนะ” ดรุณีสะกดอารมณ์ตัวเองนับ 1-2-3 ในใจ ก่อนจะหันหลังขวับให้แล้วหางตาหญิงสาวก็เหลือบเห็นสายยางที่ต๊อดใช้รดน้ำวางทิ้งไว้ อาทิจเห็นดรุณีเดินออกไปแล้ว เลยเดินมารดน้ำในมุมที่ยังไม่ได้รด พร้อมกับเปรยขึ้นอย่างอารมณ์ดี “ชอบแกล้งคนอื่นดีนัก ต้องดัดนิสัยซะให้เข็ด” “เข็ดเหรอ” อาทิจชะงักบิดตัวหันไปมอง ดรุณีฉีดน้ำจากสายยางพุ่งเข้าใส่หน้าอาทิจอย่างแรง ชายหนุ่มเปียกโชกทั้งตัว

อ่านละครปิ่นอนงค์ ตอน 13 วันที่ 6 ก.ค. 55

อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 12 วันที่ 4 ก.ค. 55

อ่านละครแสบสลับขั้ว ตอนที่ 3 วันที่ 6 ก.ค. 55

อ่านละคร ชิงนาง ตอนที่ 1 เต็มอิ่ม จุใจ เร็วๆ นี้

อ่านละครภูผาแพรไหม ตอน 12 วันที่ 4 ก.ค. 55

อ่านละครภูผาแพรไหม ตอน 11 วันที่ 4 ก.ค. 55

อ่านละครเกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 16 (ต่อ) วันที่ 5 ก.ค. 55

อ่านละครเรื่องมารยาริษยา ตอน 10 วันที่ 5 ก.ค. 55

อ่านละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง ตอนที่ 7 วันที่ 5 ก.ค. 55

อ่านละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง 2012 ตอนที่ 6 วันที่ 4 ก.ค. 55

 อ่านละครเรื่อง มารยาริษยา ตอน 9 วันที่ 3 ก.ค. 55

อ่านละครเล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 5 วันที่ 4 ก.ค. 55

อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 12 วันที่ 4 ก.ค. 55

อ่านละครเรื่อง ราชินีลูกทุ่ง ตอนที่ 1 (ต่อ) วันที่ 2 ก.ค. 55

Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ