อ่านละคร เกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 11 วันที่ 23 มิ.ย. 55

{[['']]}
 

หลังจากทิวตามตื๊อหญิงมานศรีให้ยอมมาทำงานเป็นเลขาฯส่วนตัวของตนเองสำเร็จ เขานึกเป็นห่วงลุงมิตรขึ้นมา ชวนเข้มแวะไปดูอาการ พบแกนอนหลับเพียงลำพังคนเดียวอยู่ในบ้าน วิวัฒน์หายตัวไป ทิวหวั่นใจว่าเขาจะลอบไปหาขวัญตา รีบออกตามหา...

ที่มุมลับตาคน ขวัญตาหยิบเสื้อผ้ามาสวมทั้งน้ำตา วิวัฒน์คลานเข้ามากอด ปลอบว่าอย่าร้องไห้ ที่เขาทำไปเพราะความรัก เธอแค้นใจมาก ตบตีเขาไม่ยั้ง เขาไม่โต้ตอบปล่อยให้เธอทำตามใจ อยู่ๆเธอรู้สึกคลื่นไส้จะอาเจียน ผลักเขาพ้นทางแล้ววิ่งหนี เขาคว้าเสื้อผ้ามาสวมจะวิ่งตาม ทิวกับเข้มเข้ามาขวางไว้ เขาถึงกับหน้าซีดที่ถูกจับได้ว่ามีอะไรกับขวัญตา ทั้งๆที่คราวก่อนปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่มีอะไรกัน ทิวอยากรู้ทำไมถึงต้องโกหก

“ตอน แรกผมไม่อยากให้ใครรู้ เพราะคิดว่าเมื่อคุณขวัญตาไม่ต้องการผม และผมไปอยู่ที่อื่น มันก็คงจบ แต่เมื่อผมกลับมาที่นี่อีก ผมอดใจไว้ไม่ไหวครับนาย” วิวัฒน์ว่าพลางยกมือไหว้ขอโทษเจ้านายปลกๆ

ทิว คาดคั้นให้ตอบว่าข่มขืนขวัญตาหรือเปล่า วิวัฒน์พูดยังไม่ทันขาดคำว่าใช่ หมัดของทิวอัดเข้าเต็มหน้าเลือดกบปาก ชี้หน้าด่าลั่นว่า บังคับขืนใจผู้หญิงทำตัวไม่สมกับเป็นลูกผู้ชาย วิวัฒน์ปรี่เข้ามากราบเท้าเขา

“ผมเสียใจจริงๆครับ แต่ผมรักคุณขวัญตา ตอนแรกคุณขวัญตาเต็มใจเป็นเมียผมนะนาย แต่พอรุ่งเช้าเธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่ผมตัดใจจากเธอไม่ได้ ผมรักเธอ เธอเป็นเมียผมนะนาย เธอเป็นเมียผม” วิวัฒน์ร้องไห้อย่างไม่อายใคร ทิวทั้งโกรธทั้งสมเพชที่ลูกน้องของตนดันโง่ไปหลงรักผู้หญิงที่รักใครไม่เป็น นอกจากตัวเอง จะเข้าไปเตะซ้ำสักป้าบสองป้าบให้หายโง่ แต่เข้มเข้ามากันไว้

“แก กำลังเล่นกับไฟนรก ทำไมไม่รู้จักห้ามใจ...ถ้าไอ้เทพรู้ มันไม่เอาแกไว้แน่ไอ้วัฒน์” ทิวเตะคนไม่ได้ หันไประบายอารมณ์ใส่ข้าวของแทน...

ขณะเดียวกัน บริเวณสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์ของเทพ ล้วนรายงานให้นายใหญ่ฟังว่าทิวย้ายคุณหญิงไปเป็นเลขาฯ ส่วนตัวแทนการตัดอ้อยแล้ว คนงานลือกันให้แซดว่า อาจจะมีงานฉลองของทั้งคู่เร็วๆนี้ เทพทนฟังไม่ได้ยกมือเป็นเชิงห้ามไม่ให้พูดอะไรอีก จังหวะนั้น ขวัญตาในสภาพเสื้อผ้ายับยู่ยี่ท่าทางอิดโรยเข้ามา เทพร้องถามว่าไปทำอะไรมา เธออึกๆอักๆ เขาไม่พอใจเรื่องทิวกับคุณหญิง พาลเข้าไปขย้ำคอเธอระบายแค้น

“จัดการเรื่องที่ให้ไปทำถึงไหนแล้ว ถ่านไฟเก่า ของเธอกับไอ้ทิวเมื่อไหร่จะคุ”

เธอ ยังหาทิวไม่เจอ รู้สึกไม่ค่อยสบายเลยกลับมาก่อน เทพรีบปล่อยมือจากคอไปโอบเอวเธอแทน ขอโทษที่ทำให้ตกใจ แล้วบอกให้เธอไปพักผ่อนได้ ขวัญตาดีใจหลงคิดว่าเขาเป็นห่วง ที่แท้เขาแค่ห่วงว่าเธอจะทำงานไม่คุ้มเงิน เธอมองตามเขาออกไปกับล้วนอย่างเกลียดชัง ก่อนจะรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอีกครั้ง รีบเอามือปิดปากวิ่งเข้าไปอาเจียนโอ้กอ้ากในห้องน้ำ บุญปลูกผ่านมาพอดี ค่อยๆย่องเข้าไปดูอย่างสอดรู้สอดเห็น

จากนั้น เธอรีบคาบข่าวนี้ไปรายงานผ่องทิพย์ แถมสรุปให้เสร็จสรรพว่าอาการแบบนี้เหมือนคนแพ้ท้องไม่มีผิด นายสาวลุกพรวด ยอมไม่ได้ที่จะให้นังนั่นท้อง แค่นี้เธอก็หัวเน่าไม่มีใครเหลียวแลพอแล้ว

“คุณนายอย่าเพิ่งเครียดไปเลยนะคะ นังขวัญตาอาจจะแค่อาหารเป็นพิษเลยอ้วกแตกก็ได้”

“แล้วมาพูดให้คิดมากทำไม...ไสหัวออกไปเลย” ผ่องทิพย์หน้าเครียดต้องหาทางกำจัดขวัญตาให้ได้...

ไม่ นานนัก ทิวกลับมาที่ห้องทำงานในโรงงานน้ำตาลด้วยหน้าตาบึ้งตึง หญิงมานศรียิ้มให้เขากลับไม่ยิ้มตอบ เธอไม่พอใจต่อว่าต่อขานยกใหญ่ เขาต้องขอโทษเธอด้วยที่อารมณ์เสียใส่ พอดีลูกน้องทำให้หงุดหงิด

“ก็ดี ที่เดี๋ยวนี้รู้จักผิดเป็น”

“ต่อไปนี้ ช่วยบอกด้วยแล้วกันว่าผมทำอะไรไม่ดีบ้าง ผมจะได้ปรับปรุง เผื่อคุณจะชอบผม”

หญิง มานศรีเขิน เดินหนี ทิวอมยิ้ม เดินตาม ทั้งคู่ไม่ทันสังเกตเห็นเทพแอบมองอยู่อย่างเคียดแค้น หันมาสั่งล้วนไปเอารถออกเดี๋ยวนี้เลย เขาจะเข้าวังกฤตยา ขืนชักช้ากว่านี้จะไม่ทันการณ์

ooooooo

ทันทีที่ถึงวังกฤตยา เทพแจ้งกับหม่อมสรัสวดี ว่าต้องการให้หญิงมานศรีแต่งงานกับเขาภายในเจ็ดวัน เธอโวยลั่นให้เวลาหนึ่งเดือนยังทำไม่ได้ แล้วจะมาเร่งรัดแบบนี้จะไหวได้อย่างไร เขาหาว่าเธอแกล้งยื้อเวลา อย่าคิดว่าที่เขาขู่ไว้เป็นเรื่องเล่นๆแล้วกระชากตัวเธอมากอด

“คุณเทพ กรุณาอย่าทำตัวป่าเถื่อน ที่นี่วังกฤตยาไม่ใช่ฮาเร็มความโลกีย์ของคุณนะ” เธอเสียงดังเข้าข่ม

“อีกหน่อยที่นี่ก็จะเป็นฮาเร็มของผมเหมือนกัน”

จังหวะนั้น ชายคำรณเพิ่งกลับจากทำงานพอดี ขอร้องให้เขาปล่อยหม่อมแม่ เทพค่อยๆคลายมือออก

“ขอโทษจริงๆครับหม่อม ผมลืมตัวไปชั่วขณะ...

แล้วจะไม่ให้ผมโกรธได้ยังไงล่ะครับคุณชาย ในเมื่อหม่อมไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับผม ผมก็ต้องมาทวง” เทพแอบยิ้มที่ทุกอย่างเข้าแผน

“สัญญา อะไรครับหม่อมแม่” ชายคำรณมองเธออย่างรอคำตอบ หม่อมสรัสวดีไม่พอใจที่โดนแฉ ส่วนเทพยิ้มสะใจที่เอาระเบิดมาวางสำเร็จ แล้วเดินอย่างสบายอารมณ์กลับไป รอเวลาให้ระเบิดทำงานของมันเอง...

เทพไม่ต้องรอนาน ทันทีที่รถของเขาลับสายตา สองแม่ลูกมีปากเสียงกัน ชายคำรณตัดพ้อต่อว่าด้วยความเสียใจเมื่อรู้เรื่องที่หม่อมแม่ทำข้อตกลงไว้ กับเทพ ไม่เข้าใจทำไมท่านต้องโกหกเราสองพี่น้องด้วย

“ถ้าแม่ไม่โกหก ชายจะยอมรับเงินไปแก้ไขสถานการณ์หรือ ธุรกิจต้องดำเนินต่อไป จะให้แม่ไปเอาเงินที่ไหนมาช่วยชาย ถ้าไม่ใช่จากคุณเทพ”

“แต่ไม่ใช่การเอาตัวน้องหญิงเป็นเดิมพัน มันไม่ต่างอะไรกับการขายลูกกิน”

หม่อม สรัสวดีโมโหตบหน้าลูกชายผัวะ เท่านั้นยังไม่พอเธอกลับโยนความผิดเรื่องนี้ไปให้เขา หาว่าทำงานไม่ได้เรื่อง มีปัญหามาให้แก้ทุกวัน เธอจึงต้องหาทางออกแบบนี้แล้วแกล้งบีบน้ำตา

“หญิงมานศรีเป็นทางรอดทางเดียวของกฤตยา แม่จำเป็นต้องทำ แม่จำเป็น...”

“ชาย เข้าใจครับ แต่ชายยอมทำใจรับมันไม่ได้ ชายขอโทษที่ชายไม่ได้เรื่อง แต่หม่อมแม่ครับ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สำคัญกว่าเงินครับ” เขารู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง แต่ก็ไม่พอใจกับสิ่งที่ท่านทำมองด้วยสายตาตำหนิ

“ถึงแม่จะทำผิด แต่แม่ก็ยังเป็นแม่ของชายนะ อย่ามองแม่แบบนี้” หม่อมสรัสวดีแหวลั่น

ชาย คำรณเดินหนี ไม่อยากเถียงด้วย หม่อมสรัสวดี ตามไปจะเอาเรื่อง ร้องเรียกให้กลับมาคุยกันก่อน เขาไม่สนใจเดินลิ่วๆออกไป เธอหมดแรงตาม ท้อแท้ทั้งกายทั้งใจ ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรดี

ooooooo

ใน เวลาเดียวกัน ขณะที่หญิงมานศรีนั่งมองพระจันทร์อย่างเพลิดเพลินอยู่หน้าบ้านพักพนักงาน พิไลพรเห็นที่นี่มีแต่เรื่องวุ่นๆ แนะให้กลับวังกฤตยากันดีกว่า เธอยืนยันจะอยู่ที่นี่ต่อไป แต่ถ้าพิไลพรจะกลับไปก่อนก็ได้

“แล้วให้คุณหญิงอยู่ที่นี่คนเดียวหรือคะ...คุณหญิงจะได้อยู่คนเดียวก็ต่อเมื่อพรตายไปแล้วนั่นแหละค่ะ”

“พรอย่าพูดแบบนี้สิ...หญิงไม่ชอบ”

“ไม่พูดก็ได้ค่ะ เข้านอนเถอะค่ะ อย่าอยู่ข้างนอกนานนัก น้ำค้างลงแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบาย”

เธอ เดินตามพิไลพรเข้าข้างในอย่างว่าง่าย ทิวแอบมองอยู่อีกมุมหนึ่งอย่างมีความสุข แม้หญิงมานศรีจะเข้าบ้านไปพักหนึ่งแล้ว เขายังยืนอยู่ที่เดิมได้เห็นแค่หลังคาบ้านก็ยังดี ดูจนอิ่มใจ หันหลังจะกลับ ต้องตกใจที่เห็นหญิงมานศรียืนอยู่ เธอสงสัยเขามายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ ทิวหาข้อแก้ตัวไม่ทัน รีบขอตัวกลับ

“เดี๋ยว...ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้าง”

เขา เล่าเรื่องลุงมิตรให้เธอฟังระหว่างเดินไปยังบ้านพักของเขา แต่เมื่อไปถึงที่นั่น ลุงมิตรหลับไปแล้ว หญิงมานศรียืนมองชายแก่เขม็ง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชายคนนี้เป็นลุงมิตรของทิวจริงๆ

“นับว่าเทวดายังไม่ทอดทิ้งผมเสียทีเดียวนัก อีกไม่นานเมื่อความจำของลุงมิตรกลับคืนมาทั้งหมด วันนั้นจะเป็นวันที่ไอ้เทพพบจุดจบ”

จังหวะ นั้น วิวัฒน์เข้ามาเห็นหญิงมานศรี ต่างฝ่าย ต่างชะงัก ทิวรีบออกตัวว่าเขาให้วิวัฒน์มาช่วยดูแลลุงมิตรอยู่ที่นี่ เธอไม่ค่อยสบายใจนัก ถ้าเกิดเทพรู้เข้าต้องเป็นเรื่องแน่ๆ

“มันฉลาดเกินกว่าจะคิดว่าผมโง่ เอาตัวลุงมิตรมาไว้ใกล้จมูกมันแบบนี้”

ทันใดนั้น ลุงมิตรลืมตาตื่นขึ้นมา ร้องเอะอะว่า “รูปพี่ทัด...รูปพี่ทัด...ข้างหลัง”

“ใช่ แล้ว...หลังรูปพ่อนายในห้องทำงานคุณเทพที่ฉันเคยเล่าให้นายฟัง อาจจะมีความสำคัญกับลุงมิตร... ไม่ใช่เซฟของคุณเทพ” หญิงมานศรีตั้งข้อสังเกต อาการปวดหัวของลุงมิตรกำเริบขึ้นอีก ลงไปนอนร้องโอดโอย

“นาย...จะเอาตัวลุงซ่อนไว้รอให้ความจำค่อยๆฟื้น คืนมาทีละนิดๆแบบนี้หรือครับ ดูลุงเจ็บปวดและทรมานมากเลยนะครับ” วิวัฒน์อดสงสารลุงมิตรไม่ได้

“นั่นสิ...เชื่อใจหมอธีนะ พาลุงไปรักษาให้เป็นเรื่องเป็นราวเถอะ” หญิงมานศรีเห็นด้วยกับวิวัฒน์ ทิวสีหน้าครุ่นคิดคล้อยตาม

ooooooo

หลัง จากคิดทบทวนมาอย่างหนัก ชายคำรณตัดสินใจขับรถมาที่ไร่ทัดเทพแต่เช้า เพื่อจะบอกหญิงมานศรีเรื่องข้อตกลงระหว่างหม่อมแม่กับเทพด้วยตัวเอง แต่พอเจอหน้าน้องสาวกลับพูดไม่ออก ได้แต่ตำหนิตัวเองว่าเป็นพี่ชายที่แย่มาก เธอกลับเห็นว่าเขาเป็นพี่ชายที่ทำให้เธอภูมิใจเสมอ เสียสละตัวเองเพื่อครอบครัว ทุ่มเทกับงานจนเธอรู้สึกว่าตัวเองแทบไม่ได้ทำอะไรเพื่อครอบครัวเลย ชายคำรณสงสารน้องจับใจ

“น้องหญิงต่างหากที่เสียสละมากกว่าใครทั้งหมด ...โดยที่น้องหญิงไม่รู้”

“พี่ชายหมายความว่ายังไงคะ”

“ไม่ มีอะไรหรอกจ้ะ...น้องหญิง...ฟังพี่นะ พี่ยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวของเราคงไว้ซึ่งความเป็นกฤตยาที่แท้ จริง ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตพี่ก็ตาม... โดยเฉพาะ...หงส์แสนสวยและน่าทะนุถนอมของพี่คนนี้... น้องหญิงเกิดเป็นหงส์ที่สูงส่งด้วยสายเลือดและศักดิ์ศรี พี่จะไม่ยอมให้ใครดึงน้องหญิงของพี่ลงต่ำเด็ดขาด”

“ขอบคุณค่ะพี่ชาย...หญิงรักพี่ชายที่สุดเลย” สองพี่น้องกอดกันด้วยความรักและเข้าใจ แต่เธออดไม่สบายใจกับคำพูดแปลกๆของพี่ชายไม่ได้...

ทิว นัดแนะกับชายธีรพลเรียบร้อยแล้วว่าจะนำตัวลุงมิตรไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ เขากับพิไลพรจะรออยู่ที่ รพ.และจะจัดรถพยาบาลไปส่งให้ถึงที่ ถึงเวลานัด ทิวให้วิวัฒน์กับลุงมิตรแอบอยู่ท้ายกระบะรถของเขาปะปนไปกับสุ่มไก่ชนแล้วให้ เข้มเอากระสอบป่านสุมทับอีกชั้นหนึ่งอำพรางไว้ เขาขับรถยังไม่ทันจะถึงไหน

เจอ ล้วนกับสมุนตั้งด่านอยู่ ทิวจำเป็นต้องจอดรถ ลงไปเจรจากับล้วน อ้างว่าจะเอาไก่ไปชนในเมือง สมุนคนสนิทของเทพไม่ไว้ใจเดินไปดูที่ท้ายกระบะเห็นเข้มนั่งอยู่บนกระสอบป่าน มีสุ่มไก่วางอยู่เต็ม ลุงมิตรอึดอัดเริ่มดิ้น วิวัฒน์พยายามปิดปากแกไว้ไม่ให้ส่งเสียง ล้วนเห็นบางอย่างขยุกขยิกใต้กระสอบ หันมองหน้าทิว

“อะไรอยู่ข้างใต้กระสอบ....เฮ้ย...พวกเอ็ง...ค้นสิ”

สมุน ของล้วนกรูเข้ามาที่ท้ายกระบะ ทิวและเข้มต่างลุ้นระทึกหายใจไม่ทั่วท้อง ทันใดนั้น ขวัญตาปรากฏตัวขึ้นท่าทางร้อนรนเดินแหวกเหล่าสมุนตรงไปหาทิว ขอร้องให้ช่วยพาไปหาหมอ เธอไม่ค่อยสบาย เขารีบฉวยโอกาสทันที เร่งให้เธอขึ้นรถ ล้วนไม่ยอมให้ไป ต้องตรวจค้นรถก่อน

“ไอ้ล้วน ไม่ได้ยินหรือว่าฉันไม่สบายต้องรีบไปหาหมอ หรืออยากเห็นฉันชักอยู่ตรงนี้....โอ๊ย” เธอเซไปซบทิว

ล้วน นึกว่าเป็นแผนการกระพือถ่านไฟเก่าที่ขวัญตากับเจ้านายใหญ่วางแผนร่วมกัน สั่งให้สมุนเอาที่กั้นถนนออก ทิวไม่รอช้ารีบขึ้นรถแล้วเร่งเครื่องออกทันที

“มารยา สาไถยได้เนียนจริงๆนะคุณขวัญตา” ล้วนพูดจารีบโทร.รายงานเทพว่าขวัญตาไปกับทิวเรียบร้อยแล้ว เขาพอใจมากที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน เหลือบเห็นกลิ่นท่าทางมีพิรุธกำลังจะออกจากคฤหาสน์รีบสั่งการ

“ล้วน...จัดการ พานังกลิ่นกลับบ้านเก่าหน่อย ฉันไม่อยากให้มันเอาเรื่องในบ้านไปพูดกับใคร” เทพมองตามกลิ่นจนลับสายตา แล้ววางสายอย่างอารมณ์ดี หันกลับมาอีกทีต้องแปลกใจที่เห็นชายคำรณยืนอยู่

“อ้าว...คุณชาย...นี่กรุณาให้เกียรติมาหาผมถึงที่นี่เลยหรือครับ”

“ผมไม่ได้ให้เกียรติคุณ แต่ผมมีเรื่องจะเจรจากับคุณ” คำพูดของชายคำรณทำให้เขาไม่พอใจอย่างแรง
ooooooo
ที่หน้า รพ.ซึ่งเป็นจุดนัดพบ ชายธีรพลและพิไลพร ยืนรอทิวกับพวกอย่างกระวนกระวายใจ ป่านนี้แล้วทำไมยังมาไม่ถึง หมอหนุ่มร้อนใจเพราะมีนัดกับอาจารย์หมอที่จะรับเป็นเจ้าของไข้ให้ลุงมิตร ขอตัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯล่วงหน้าไปก่อน ฝากเธอดูแลทางนี้ด้วย เธอขอบคุณเขามากที่ช่วยเป็นธุระให้
“ไม่รู้ว่าผมตกกระไดพลอยโจนกับพวกคุณได้ยังไง”
“ไม่ใช่การตกกระไดพลอยโจนหรอกค่ะ เพราะหมอธีเชื่อมั่นในความดีต่างหาก”
“พูด ซะเหมือนผมเป็นเทวดาเลย ไปนะ...พรระวังตัวนะ” เขาว่าแล้วขึ้นรถขับออกไป พิไลพรมองตามด้วยสายตาชื่นชม ความรู้สึกดีๆที่มีให้เขาเพิ่มมากขึ้นทุกวัน...
ที่โรงงานน้ำตาล หญิงมานศรีเดินไปเดินมามองมือถือในมือตัวเองอย่างกระวนกระวายใจ ทำไมป่านนี้ทิวยังไม่โทร.มาสักที กลิ่นเดินมาทางด้านหลังโดยที่เธอไม่ทันเห็น กำลังจะอ้าปากเรียก ล้วนมาจากไหนไม่รู้ เอามือปิดปากแล้วลากบ่าวคนสนิทของพวงทองหายเข้าไปด้านหลังโรงงาน ต่อยท้องจนเธอทรุดลงกับพื้นนอนแน่นิ่ง เขาค้นตัวเธอเจอจดหมายฉบับหนึ่ง รีบเปิดอ่าน
“จดหมายจากคุณพวงทองถึงไอ้ทิว...เฮ้ย...พวกเอ็งจัดการส่ง มันกลับบ้านเก่าตามคำสั่งนายใหญ่” ล้วนยิ้มเหี้ยม มองสมุนตัวเองอุ้มกลิ่นที่หมดสติออกไป...
ขณะที่กลิ่นกำลังจะชะตาขาด เทพกลับหัวเราะขำกลิ้งกับข้อเสนอของชายคำรณซึ่งชักสีหน้าไม่พอใจเพราะไม่ เห็นว่าคำพูดของตนตลกตรงไหน เขาว่าตลกจะตายไปเพราะเงื่อนไขการชำระหนี้ระหว่างเขากับหม่อมสรัสวดีจะหมดไป ก็ต่อเมื่อ เขาได้แต่งงานกับหญิงมานศรีเท่านั้น ไม่ใช่เพราะการหาเงินมาใช้หนี้ และที่สำคัญ ชายคำรณจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้เขา ในเมื่อตอนนี้ตระกูลกฤตยามีหนี้สินล้นพ้นตัว
“ผมจะหามาจากไหนไม่สำคัญ แต่คำพูดของผมเชื่อถือได้”
“แต่ ขอโทษ ผมทำข้อตกลงกับหม่อมสรัสวดีไม่ใช่คุณชาย เพราะฉะนั้น ไปบอกหม่อมแม่นะว่า เหลือเวลาน้อยเต็มทีแล้ว กรุณาทำตามข้อตกลง ไม่งั้นก็เตรียมขนเสื้อผ้าไปอยู่ข้างถนนได้เลย” เทพหัวเราะเย้ยหยัน ก่อนจะเดินจากไป ชายคำรณมองตามไม่พอใจ...
ในที่สุด รถของทิวมาถึงหน้า รพ.จนได้ เขาไม่ต้องการให้ขวัญตารู้เรื่องลุงมิตร สั่งให้เข้มจัดการทุกอย่างรอเขาไว้ก่อน แล้วกึ่งลากกึ่งจูงเธอเข้าไปข้างในตึกตรวจโรคอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ทั้งคู่ลับสายตา เข้มรีบเปิดกระสอบปล่อยให้ลุงมิตรกับวิวัฒน์ขึ้นมารับอากาศบริสุทธิ์
“คุณขวัญตาเป็นอะไรพี่” วิวัฒน์ร้อนใจ
“ยังไม่เลิกอีก...พาลุงไปหาคุณพิไลพร เร็ว” เข้มเอ็ดลั่น แล้วพยุงลุงมิตรลงจากรถ วิวัฒน์รีบเข้าไปช่วย...
หลัง จากหมอตรวจอาการขวัญตาและจัดยาให้เรียบร้อย เธอเดินมาบอกทิวว่าตนกำลังจะมีลูกกับเทพ ใจหนึ่งเขาดีใจไปกับเธอด้วยแต่อีกใจหนึ่งกลับหวาดหวั่นอย่างบอกไม่ถูก วิวัฒน์แอบฟังอยู่ถึงกับตกใจ
ooooooo
เสร็จจากส่งลุงมิตรกับ วิวัฒน์ขึ้นรถพยาบาลบ่ายหน้าเข้ากรุงเทพฯเรียบร้อย ทิวกลับมายังออฟฟิศตนเอง หญิงมานศรีเห็นเขาเหม่อลอยเหมือนมีอะไรอยู่ในใจ เข้ามาถามว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนแล้ว ยังกังวลเรื่องอะไรอีก เขาเป็นห่วงขวัญตา เธอพยายามเก็บอาการหึงหวงไว้ ปรับเสียงเป็นปกติ
“ทำไมต้องเป็นห่วงเขาด้วยล่ะ เขาก็มีสามีคอยดูแลอยู่”
“มัน น่ะหรือจะดูแล...คนอื่นต่างหากที่มันอยากดูแล” ทิวเผลอแดกดัน เธอเคืองที่เขาพาลใส่ ถ้าเป็นห่วงขวัญตามากนัก ว่างๆก็เชิญตามไปดูแลกันได้เลย ทิวยิ้มยั่ว ถึงเธอไม่บอก เขาก็คิดจะทำอยู่แล้ว หญิงสาวงอนเดินหนี ทิวรีบตามไปกระเซ้า หึงเขากับขวัญตาหรือ เธอปฏิเสธว่าเปล่าไม่ได้คิดอะไร
“ปากให้ตรงกับใจหน่อยสิ...พูดมาเร็วๆสิ เอาความจริงจากหัวใจ คุณหึงใช่ไหม”
หญิง มานศรียังไม่ทันจะพูดอะไร เข้มวิ่งหน้าตื่น เข้ามารายงานว่าวิวัฒน์กระโดดลงจากรถพยาบาล หายไปไหนไม่รู้ คุณพิไลพรพยายามโทร.บอกแต่ทิวไม่รับสาย เขาสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที...
ขณะ ขวัญตากำลังเดินผ่านสวนภายในคฤหาสน์จะไปบอกข่าวดีเรื่องตั้งครรภ์กับเทพ วิวัฒน์โผล่พรวดเข้ามาขวางทาง หญิงสาวตกใจจะวิ่งหนี เขาคว้ามือไว้ บุญปลูกเดินพ้นมุมตึกมาเห็นเข้า รีบหลบมุมแอบดุ
“ปล่อยฉันนะ แกจะมาอีกทำไม ไอ้หมาวัด...ปล่อย”
“หมาวัดก็ผัวคุณคนหนึ่งเหมือนกัน”
ขวัญ ตาตบหน้าเขาแล้วถุยน้ำลายใส่ วิวัฒน์เจ็บใจ รวบตัวเธอมาจูบ บุญปลูกถึงกับตะลึงรีบวิ่งเข้าบ้าน ขณะที่ขวัญตาพยายามดิ้นหนีให้หลุดจากมือเขา...
อีกมุมหนึ่งของคฤหาสน์ เทพกำลังจะออกไปข้างนอกตอนที่ผ่องทิพย์เข้ามาตัดพ้อต่อว่า ว่าตนเองเจ็บเจียนตายทำไมเขาถึงไม่มาดูดำดูดีบ้าง ทั้งๆที่เธอรักและซื่อสัตย์กับเขายิ่งกว่าหมาที่ซื่อสัตย์กับเจ้าของเสียอีก พูดพลางร้องไห้ด้วยความน้อยใจ จังหวะนั้น บุญปลูกวิ่งทะเล่อ ทะล่าเข้ามา ไม่ทันเห็นเทพยืนอยู่ เม้าท์อย่างมันปากให้ผ่องทิพย์ฟังว่า วิวัฒน์ดอดเข้ามาปล้ำขวัญตาถึงในสวน ให้รีบเอากล้องไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน
“อะไรนะ” เทพตวาดลั่น บุญปลูกสะดุ้งโหยง หันมาเห็นนายใหญ่ยืนหน้าตาถมึงทึง ตกใจแทบช็อก...
ด้าน ขวัญตาเห็นวิวัฒน์ยื้อไว้ไม่ยอมปล่อย ถีบเขาเต็มแรงหงายหลังตึง เขากำลังจะยันตัวลุกขึ้น เห็นเทพ ผ่องทิพย์ กับบุญปลูกเดินมาแต่ไกลรีบคลานหนี ขวัญตาโล่งใจที่เขาไปเสียได้ หันหลังจะเข้าบ้าน ต้องตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นเทพเดินเข้ามา สภาพเสื้อผ้าผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของเธอ ทำให้เขาตะคอกถามว่าเมื่อครู่นี้อยู่กับใคร
“เปล่านี่คะ หมาตัวไหนคาบเรื่องไปบอกอีกล่ะคะ ขวัญตาอยู่คนเดียว” เธอรีบกลบเกลื่อน
“แกนั่นแหละยิ่งกว่าหมา สำส่อนไม่เลือก ฉันเห็นนะว่าแกกับไอ้วิวัฒน์น่ะทำอะไรกัน”
บุญ ปลูกพูดยังไม่ทันขาดคำ ฝ่ามือของขวัญตาตบเปรี้ยงหน้าหัน ผ่องทิพย์สบช่อง ออกโรงปกป้องบ่าวคนสนิทปรี่เข้าไปตบหน้าขวัญตาทันที ใส่ไฟว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอกับไอ้คนงานนั่นแอบลักกินขโมยกินลับหลังคุณ เทพ ขวัญตาไม่ยอมแพ้ จะเข้าไปเอาคืน เทพคว้าแขนเธอไว้ ฟาดหลังมือใส่จนหน้าหงาย
“ฉันให้เธอไปจัดการไอ้ทิว ไม่ใช่ไอ้คนงานกระจอกพรรค์นั้น ทำแบบนี้มันหยามศักดิ์ศรีกันเกินไปแล้ว” เขาเดินจากไปด้วยความแค้น หยิบมือถือขึ้นมา โทร.สั่งให้ล้วนเอาคนออกตามล่าตัววิวัฒน์มาให้ได้ ขวัญตาตามมาเกาะขาเขาไว้ ขอร้องให้ฟังเธออธิบายก่อน เขาไม่อยากฟัง ไว้รอสำเร็จโทษกับไอ้ชู้รักของเธอพร้อมกันทีเดียวเลย แล้วยันเธอกระเด็นพ้นทาง เธอจะตาม แต่ผ่องทิพย์เข้ามาจิกหัวไว้
“จะไปไหน...นังบุญปลูกจับมันไปขังเอาไว้ รอคุณเทพจับไอ้ชายชู้กลับมาพิพากษาพร้อมกับมัน”
ooooooo
หลัง จากตามหาวิวัฒน์จนทั่วไร่อ้อย ในที่สุดก็มีคนเห็นเขามุ่งหน้าไปทางคฤหาสน์ ทิว หญิงมานศรีและเข้มรีบตรงไปที่นั่น อารามร้อนใจ ทิวไม่มีเวลาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างวิวัฒน์กับขวัญตาหรือเรื่องที่ ขวัญตาท้องให้หญิงมานศรีฟัง เมื่อทั้งสามมาถึงที่หมาย ไม่เจอเทพ หรือแม้แต่เงาของวิวัฒน์ พบแต่ผ่องทิพย์กับบุญปลูก
“ไง...คุณหญิง ไม่เจอกันซะนาน เปลี่ยนใจจะมาเอาน้องชายฉันแล้วหรือ” ผ่องทิพย์แขวะ
“พี่ ผ่อง หยุดปากสกปรกไปเลยนะ” ทิวมองหน้าพี่สาวอย่างเอาเรื่อง ผ่องทิพย์โกรธหาว่าเขาเข้าข้างคนอื่นเห็นขี้ดีกว่าไส้ เขาสวนทันทีว่าไม่ต้องการไส้เน่าๆอย่างเธอ
“เก็บแรงไว้รักษาตัวเองให้ หายดีก่อนเถอะค่ะคุณผ่องทิพย์ ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันยังอยู่ให้คุณหาเรื่องอีกนาน” หญิงมานศรีว่าแล้วชวนทิวกลับ ผ่องทิพย์เชื้อเชิญให้อยู่รอก่อน เผื่อจะได้เห็นอะไรดีๆ ทิวไม่สนใจพากันกลับ โดยไม่ล่วงรู้เลยว่าวิวัฒน์ถูกล้วนกับสมุนจับตัวได้แล้ว...
ทิวเห็น ว่าเหนื่อยกันมาทั้งวัน จึงแวะส่งหญิงมานศรี ที่บ้านพักพนักงาน ฝากพิไลพรช่วยดูแลเธอด้วย  เขากับเข้มจะออกตามหาวิวัฒน์ต่อ กำชับไม่ให้ทั้งคู่ออกไปไหน เข้านอนแล้วปิดประตูล็อกกลอนให้เรียบร้อย พิไลพรรอจนทิวลับสายตาเข้ามากระซิบว่า เมื่อเช้า เห็นทิวพาขวัญตา ไปหาหมอ เธอตกใจคิดว่าความลับแตก
“ความลับไม่รั่วไหลค่ะ เอ่อ...อย่าหาว่าพรงั้นงี้เลยนะคะ พรไปแอบถามเพื่อนพยาบาลดูว่าคุณขวัญตาเป็นอะไร” สีหน้าชอบกลของพิไลพร ทำให้หญิงมานศรีใจคอไม่สู้ดี...

ในขณะที่ความลับเรื่องขวัญตาตั้ง ครรภ์กำลังถูกเปิดเผย วิวัฒน์ถูกจับมัดไว้กับขื่อภายในโกดังร้าง สภาพถูกซ้อมมาอย่างหนัก ขวัญตาเพิ่งถูกพาตัวเข้ามา เห็นหน้าตายับเยินของเขาแล้วถึงกับตกใจหน้าซีด เผลอร้องเรียก “ไอ้วัฒน์” เทพเดินยิ้มเหี้ยมออกมาจากมุมมืด ถามเสียงเขียวทำไมถึงเรียกชื่อไอ้หมอนี่สนิทสนมนัก

“ไม่นะ...ขวัญตา...ไม่ได้สนิทกับมัน” เธอละล่ำละลัก เทพใช้มีดพกคมกริบเชยคางเธอขึ้นอย่างโรคจิต

“แต่ มันสารภาพกับฉันหมดแล้วนะว่า มันเป็นผัวเธอและเธอก็อร่อยมาก...ไปกินกันลับหลังฉันมานานแล้วใช่ไหม ก่อนที่ฉันจะหมดรักเธอด้วยซ้ำ ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไงขวัญตา...ฉันเสียใจมากนะ” เขาพูดจบหันไปใช้มีดกรีดเนื้อวิวัฒน์อย่างเลือดเย็น ยิ่งเธอปฏิเสธว่าไม่มีอะไรกับเขายิ่งทำให้ความซาดิสต์ของเทพลุกโชน เฉือนเนื้อวิวัฒน์จนเลือดสาด หญิงสาวใจเสีย รีบบอกว่าตัวเองท้องสามอาทิตย์แล้ว เขาเข้ามาลูบท้องเธอสีหน้าเหี้ยม

“ขวัญตากำลังจะเป็นแม่ของลูกคุณเทพ ดีใจกับขวัญตาไหมคะ”

“ดีใจ สิ ดีใจมากที่รู้ว่าเธอท้อง...เพราะอะไรรู้ไหม ...เพราะฉันเป็น...หมัน” เทพเห็นเธอตกตะลึงยิ่งสะใจ “ไง...กล้าปฏิเสธอีกไหมว่าไม่เคยมีอะไรกับมัน” แล้วหันไปแทงวิวัฒน์จนมิดด้าม ขวัญตาตกใจกรีดร้องลั่น...

ทางด้านทิว กับเข้มแทบจะพลิกแผ่นดินหาวิวัฒน์อยู่จนดึกดื่นแต่ไม่พบ กลับถึงบ้านอย่างเหนื่อยล้า แต่ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบร่างของเขานอนหายใจรวยรินอยู่หน้าประตูทางเข้า ทั้งคู่ปรี่เข้าดูอาการเห็นตามเนื้อตัวของเขาเต็มไปด้วยเลือดกำลังจะสิ้นใจ วิวัฒน์รู้ตัวดีว่าคงไม่รอด อยากจะขอร้องเจ้านายเป็นครั้งสุดท้าย

“แกมีบุญคุณกับฉัน ถ้าแกไม่มาช่วยฉันวันนั้นอาจไม่มีฉันวันนี้ จะให้ช่วยอะไรบอกมาฉันทำได้ทุกอย่าง”

“ช่วย คุณ...ขวัญตาด้วย...ลูกผม...อย่าให้...มัน...ทำอะไร...ลูกผม...” พูดได้แค่นั้น วิวัฒน์สิ้นใจในอ้อมแขนของทิวซึ่งน้ำตาคลอเบ้าด้วยความเสียใจ

“หลับ ให้สบายนะไอ้วัฒน์...ไม่ต้องห่วง ฉันจะปกป้องเลือดเนื้อเชื้อไขของแกเอง...ส่วนไอ้ฆาตกรนั่น มันจะต้องชดใช้” เขาขบกรามแน่นอย่างเคียดแค้น

ooooooo

วันรุ่งขึ้น ทิวมาถึงโรงงานน้ำตาลอย่างเซื่องซึม หญิงมานศรีรู้ว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดี ขอร้องให้เล่าให้ฟัง เขาถึงกับน้ำตาซึมพูดไม่ออก เธอเช็ดน้ำตาลูกผู้ชายให้อย่างเบามือ เขาจับมือเธอเอาไว้ราวกับต้องการที่พึ่ง

“ไอ้วัฒน์...ถูกฆ่าตาย ...มันไม่สมควรจะต้องตาย... ได้ยินไหม...คนที่ควรจะต้องตายคือ...” เขาพูดยังไม่ทันจบ เข้มวิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงานว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว ทิวรีบปรับสีหน้าเป็นปกติ เดินตามลูกน้องคนสนิทมายังมุมหนึ่งของโรงงาน เห็นเทพยืนกอดขวัญตาที่ตัวสั่นสีหน้าหวาดกลัวอยู่ต่อหน้าเหล่าคนงาน โดยมีผ่องทิพย์และบุญปลูกยืนมองอย่างสะใจ ทิวโวยลั่นเทพว่าคิดจะทำอะไรขวัญตา

“พี่ทิว...ช่วย...ด้วย” ขวัญตามองทิวด้วยสายตาอ้อนวอน

“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอก เธอต้องถูกประจานจนกว่าฉันจะสะใจ ว่าเธอมีชู้”

สิ้น เสียงเทพ เหล่าคนงานพาส่งเสียงฮือ เขาเหวี่ยงขวัญตากระเด็น แล้วตามเข้าไปกระชากผมเธอให้ลุกขึ้น ทิวสั่งให้หยุด ปล่อยเธอไปได้แล้ว เทพจงใจส่งเสียงดังให้ทุกคนได้ยินกันทั่วๆ

“ปกป้อง...งั้นก็ยอมรับมาสิว่าแกเป็นชู้กับเมียฉัน”

ทุก คนต่างมองทิวเป็นตาเดียวกัน ขวัญตาพยายามจะอธิบายว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับทิว เทพแผนสูงตั้งใจจะโยนบาปให้ทิว คะยั้นคะยอให้เธอยอมรับ เพราะเห็นเธอไปอ่อยเหยื่อให้ทิวอยู่บ่อยๆ

“แกจะถามฉันทำไม ฆ่าฉันเลย ฆ่าฉันให้ตายตาม...” ขวัญตาจะพูดชื่อวิวัฒน์ แต่เทพรู้ทันชิงชกท้องเธอจนจุกพูดไม่ออก ทิวเป็นห่วงขวัญตามาก ปรี่เข้าไปผลักเขาออก ขณะที่หญิงมานศรีช่วยประคองเธอไว้

“คุณเทพ ไม่รู้หรือไงว่าคุณขวัญตากำลังท้อง เธอท้องกับคุณนะ”

“ผม เป็นหมัน...ในเมื่อผมเป็นหมัน แล้วเมียผมท้องกับใครล่ะคุณหญิง...ผู้หญิงสำส่อนคนนี้มันไปท้องกับใคร” เทพสวมบทสามีผู้ถูกสวมเขาให้สมบทบาท ขวัญตาทนอับอายไม่ไหว ขอให้เขาหยุดประจานเธอได้แล้ว จะฆ่าจะแกงอย่างไรก็เชิญตามสบาย เขายินดีจัดให้ คว้าคอเธอบีบอย่างแรง ทิวเข้ามาดึงมือเขาไว้

“อย่าทำอะไรเมียและลูกของฉัน...ฉันคือพ่อของเด็กในท้องขวัญตา...แกจะเอาไง”

ผ่อง ทิพย์อ้าปากจะพูดความจริง แต่เทพชิงห้ามไว้ ในเมื่อน้องชายของเธอยอมแสดงความรับผิดชอบอย่างลูกผู้ชายก็อย่าไปขวาง เธอจำต้องหุบปาก หญิงมานศรีมองหน้าทิวอย่างปวดร้าวใจ ขณะที่เทพยิ้มสะใจ

“ในเมื่อนายกล้ายอมรับอย่างลูกผู้ชาย ฉันก็จะยอมเสียสละ ยอมเสียหน้า ยกขวัญตาให้นายไปดูแล”

“เลิก พูดมาก...ทุกคนเป็นพยานว่านายใหญ่ยกขวัญตาให้ฉันแล้ว ต่อไปนี้นายใหญ่จะไม่มายุ่งเกี่ยวกับขวัญตา และถ้าขวัญตาเป็นอะไรไปแม้แต่ปลายเล็บ...

ฉันจะถือว่าเป็นฝีมือนายใหญ่” ทิวประกาศลั่น

คราว นี้ไอ้คนชั่วเป็นฝ่ายอึ้งที่ทิวปิดประตูตาย เพื่อปกป้องชีวิตขวัญตา แล้วจูงมือเธอออกไปทันที ทิ้งให้ หญิงมานศรีน้ำตาซึม ผ่องทิพย์เพิ่งเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า เทพเจ้าเล่ห์เพียงใด ใช้สถานการณ์นี้บีบให้ทิวห่างจากหญิงมานศรี มองเขาอย่างไม่พอใจ คนงานพากันวิพากษ์ วิจารณ์เจ้านายตัวเองต่างๆนานา

เทพมองสบตาล้วน อย่างผู้ชนะ แล้วหันไปเห็นหญิงมานศรีที่ยังยืนตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น พอเธอหันมาเห็นเขามองอยู่ รีบเดินหนี เขามองตามยิ้มพอใจ ทันทีที่พ้นสายตาผู้คน หญิงมานศรีปล่อยโฮอย่างกลั้นไม่อยู่ โลกทั้งใบราวกับถล่มลงตรงหน้า หัวใจของเธอแหลกสลายไม่มีชิ้นดี

ooooooo

ครู่ ต่อมา ทิวพาขวัญตามาที่บ้านของตน สั่งเข้มจัดห้องให้เธอด้วย ลูกน้องคนสนิทอ้าปากจะค้าน  แต่ เขาชิงห้ามเสียก่อนว่าไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น มีหน้าที่ต้องทำตามคำสั่งก็รีบทำๆให้เสร็จ เข้มหน้าจ๋อยออกไป ขวัญตาไม่เข้าใจ ทิวช่วยเธอทำไม น่าจะปล่อยให้ตายรู้แล้วรู้รอดไป

“ฉัน ต้องตอบแทนบุญคุณไอ้วัฒน์ ฉันจึงยอมช่วยเธอ จำไว้...ถึงเธอจะเกลียดไอ้วัฒน์ แต่เด็กนั่นก็มีเลือด มันอยู่ครึ่งหนึ่ง ถ้าเธอดูแลลูกไม่ดี...ฉันเอาเธอตายแน่” เขาพูดจบผละจากไป เธอถึงกับน้ำตาซึม...
จากนั้น ทิวตามหาหญิงมานศรีจนเจอ เห็นเธอร้องไห้แล้วเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ ขอโอกาสให้เขาได้อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอทั้งรักทั้งแค้นตบหน้าเขาฉาดใหญ่

“นายยังพูดไม่พออีกหรือ...ฉัน ไม่อยากฟังอะไรจากปากของนายอีกแล้ว นายมันก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉัน” เธอเดินหนี กลัวจะร้องไห้ออกมาอีก เขามองตามหัวใจของตัวเองจากไปด้วยความปวดร้าว อยากจะตามไปปรับความเข้าใจ แต่คงต้องรอให้เธอเย็นลงกว่านี้...

ใน เวลาเดียวกันที่คฤหาสน์ของเทพ ผ่องทิพย์โวยลั่นที่เทพจงใจใช้เรื่องขวัญตามีชู้กันทิวออกจากคุณหญิงขู่จะแฉ เขาจิกหัวเธอไว้ ขู่กลับถ้าเธอกล้าไปฟ้องคุณหญิง รับรองอวัยวะของเธอไม่ครบสามสิบสองแน่

“คุณจะทำอะไรผ่อง”

“ไม่ ต้องถาม แต่ต้องเลือก จะให้เอาอะไรออกก่อนดี...นิ้ว จมูก หรือว่า...หู” เขาพูดพลางใช้ปลายมีดไล้ไปตามเนื้อตัวเธอ ก่อนจะก้มลงขบติ่งหู ทันใดนั้น เขาชะงัก เหมือนโดนของที่เธอทำเสน่ห์ไว้ ทิ้งมีดในมือ ซุกไซ้ซอกคอแล้วพรมจูบไปทั่วตัว หญิงสาวหลับตาพริ้มอย่างพึงพอใจโดยไม่รู้ว่านั่นเป็นการเสแสร้งเพื่อให้เธอ ไม่เอาเรื่องขวัญตาไปฟ้องหญิงมานศรี เขาปรนเปรอสวาทให้เธอตั้งแต่บ่ายยันค่ำ

ผ่อง ทิพย์พอใจมากที่มนต์เสน่ห์ของอาจารย์เมฆลงไว้ให้ยังใช้ได้ผล ลงมาคุยอวดให้บุญปลูกที่นั่งรออยู่ที่โถงบันไดฟังว่าคุณเทพกลับมาหลงเธอ เหมือนเดิมแล้ว บุญปลูกดีใจไปกับนายสาวด้วย คิดว่าอาคมของอาจารย์เมฆเสื่อมไปแล้วเสียอีก ทีแรกเธอก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน สองนายบ่าวหัวเราะร่วนมีความสุข

“แล้วที่พี่ลงทุนแก้ผ้าอาบแสงจันทร์คืนนั้น ก็ทำของที่ได้จากอาจารย์เมฆเหมือนกันใช่ไหม”

ผ่อง ทิพย์หยุดกึก หันมองตามเสียงเห็นน้องชายจ้องมาอย่างเอาเรื่องถึงกับหน้าถอดสี ทิวไม่รอช้าลากพี่สาวตัวดีออกมาหน้าคฤหาสน์ บุญปลูกจะตามมาช่วย แต่เห็นหน้าตาถมึงทึงของเขาแล้วรีบเผ่นหายไปในความมืด ผ่องทิพย์ตะโกนเรียกให้กลับมาช่วยกันก่อน แต่เธอหนีไปไกลแล้ว

“เรียกผัวพี่มาด้วยสิ จะได้รับรู้กันให้หมดว่าพี่เล่นของต่ำ สกปรก ทำให้ขวัญตากับไอ้วัฒน์ได้เสียกัน”

“ที่มันได้กันเพราะความสำส่อนของนังขวัญตาต่างหาก”

“ผมไม่เชื่อ...พี่มันก็สนใจแต่ความต้องการของตัวเอง คนอื่นจะเป็นยังไงก็ชั่งใช่ไหม”

ผ่อง ทิพย์ยอมรับอย่างไม่มีความละอายแก่ใจว่าใช่ จังหวะนั้น เทพตามเข้ามา ถามว่าผ่องทิพย์ทำอะไร ไว้หรือ ทิวมองหน้าพี่สาวอย่างเอาเรื่อง แต่กลับตัดสินใจไม่พูดถึงเรื่องนี้

“ขอให้พี่ได้ครอบครองในสิ่งที่ ปรารถนา แต่จะบอกอะไรให้นะว่ามันคือไฟนรกที่จะคอยเผาหัวใจให้ร้อนรุ่ม แม้แต่วินาทีเดียวพี่ก็จะไม่มีความสุข...รวมถึงแกด้วยไอ้เทพ”

“ขอบใจ ที่อวยพร ทีนี้ก็ฟังคำอวยพรจากฉันบ้าง ขอให้นายมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น พ่อแม่ลูกผูกพัน จะจัดงานแต่งงานหน่อยไหม...ฉันจะเป็นเจ้าภาพให้”

“เอา ไว้ฉันขอเป็นเจ้าภาพจัดงานศพแกดีกว่า...แกคงเป็นศพไร้ญาติ เพราะคงไม่มีใครมาเผาผีคนชั่วที่ไม่เคยสร้างความดีให้ใครจดจำ...อย่าได้ ชะล่าใจไป เมื่อน้ำลดและตอผุดขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็เตรียมรับผลกรรมกันให้ดี” ทิวยืนประจันหน้ากับเทพเหมือนความดีกับความชั่วที่อยู่กันคนละฝั่ง

ooooooo

ใน เวลาไล่เลี่ยกัน ที่หน้าบ้านพักพนักงาน พิไล- พรเห็นหญิงมานศรีเอาแต่นั่งซึมเศร้า เข้ามาปลอบว่า ทิวอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นก็ได้ บางทีเธอไม่ควรด่วนตัดสินเขาไปก่อน

“คน อย่างนายทิวทำได้ทุกอย่างเพื่อให้คุณเทพเจ็บช้ำและเรื่องขวัญตาก็เป็นวิธี หนึ่ง...หญิงไม่ได้ด่วนตัดสิน แต่ถ้านายทิวไม่ใช่พ่อของเด็กในท้องคุณขวัญตา เขาจะพากันไปตรวจที่ รพ.อย่างที่พรเล่าให้ฟังหรือ” เธอว่าแล้วลุกขึ้นจะเข้าบ้าน พิไลพรโพล่งขึ้นทันทีว่า

“เพราะคุณหญิงรักคุณทิวใช่ไหมคะ คุณหญิงถึงได้โกรธคุณทิวถึงขนาดนี้”

เธอ ชะงัก ตอบโดยไม่หันมามอง จึงไม่เห็นทิวเข้ามายืนด้านหลังพร “หญิงไม่เคยรักเขา ต่อไปนี้พรไม่ต้องพูดกับหญิงเรื่องนี้อีก หญิงกับเขาเกี่ยวข้องกันแค่เพียงเรื่องงานและเรื่องที่หญิงตั้งใจจะช่วยเขา เท่านั้น”

พิไลพรเพิ่งเห็นทิว สงสารที่เขาต้องมาได้ยินคำพูดที่ทำร้ายจิตใจ แต่ไม่รู้จะช่วยอะไรได้ ส่วนหญิงมาน–ศรีเดินน้ำตาไหลพรากเข้าบ้านโดยไม่มีใครเห็น ชายหนุ่มตั้งใจจะมาปรับความเข้าใจกับหญิงที่ตนรัก แต่คงไม่มีประโยชน์ เดินคอตกจากไป ครู่ต่อมา ทิวกลับถึงบ้าน พบขวัญตายังไม่ยอมเข้านอน นั่งหน้าเศร้ารอเขาอยู่

“พี่ทิว...เชื่อขวัญตานะ ขวัญตาไม่ได้อยากเป็นชู้กับไอ้วัฒน์นะ”

เขา ตอบไม่เต็มปากนักว่าเชื่อ เพราะเธอเองก็ร้ายกาจพอตัวเหมือนกัน เธอตัดพ้อเมื่อไหร่เขาถึงจะเลิกมองเธอในแง่ร้ายสักที ทิวจะเลิกทำอย่างนั้นก็ต่อเมื่อเธอเปลี่ยนตัวเองเป็นคนคิดดีทำดี ไม่ใช่ทำอย่างที่ผ่านมา

“พี่ทิวให้โอกาสขวัญตาใช่ไหม” เธอยิ้มดีใจ

“โอกาสที่จะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดและทำให้ถูกต้อง อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นโอกาสอย่างอื่น”

“พี่ทิวรักยัยคุณหญิงนั่นใช่ไหม”

เขา จะรักใครก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของเธอ ต่อไปห้ามพูดเรื่องนี้อีก ไล่ให้ไปนอนได้แล้ว เธอพยักหน้ารับคำพยายามลุกขึ้นอย่างยากลำบาก เขาสงสารเข้าไปช่วยพยุงทำให้เธอซาบซึ้งใจมาก

ooooooo

แทนที่ ขวัญตาจะอยู่อย่างเจียมตัว กลับมาแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทิวถึงโรงงานน้ำตาล แถมเข้าไปควงแขนเย้ยหญิงมานศรี สร้างความไม่พอใจให้เขาอย่างมาก แกะมือเธอออก แล้วผละจากไปอย่างหัวเสีย

“ขวัญตาไม่มีทางปล่อยคนดีอย่างพี่ทิวหลุดมือไปอีกเป็นครั้งที่สองหรอก” เธอสีหน้ามุ่งมั่น...

หลัง จากตรวจงานในโรงงานน้ำตาล ทิวกลับออฟฟิศอย่างฉุนเฉียว ปิดประตูดังปังจนเข้มกับหญิงมานศรีที่เดินตามมาถึงกับสะดุ้งโหยง เขาทนเห็นสายตาของคนงาน ที่มองเขาอย่างผิดหวังและหมดศรัทธาไม่ได้ หญิงมานศรีตอกย้ำว่าที่พวกนั้นหมดศรัทธา เนื่องจากเขาไม่มีศีลธรรม ชอบผิดลูกผิดเมียคนอื่น
“รวมถึงคุณด้วยใช่ไหม”
“ไม่รู้สิ” เธอยียวน ทิวคุมอารมณ์ไม่อยู่ออกปากไล่เธอไปให้พ้นหน้า
“ได้...ฉัน จะไป...ต่อไปนี้ฉันจะไม่ช่วยเหลืออะไรนายอีก ตามหาความยุติธรรมด้วยตัวเองคนเดียวเถอะ”เธอกระแทกแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะทำงาน ของเขาแล้วออกไป เข้มพยายามเตือนสติ
“นาย...ถ้านายใจร้อน เมื่อไหร่นายกับคุณหญิงจะได้คุยกัน ปรับความเข้าใจกันดีล่ะครับ...นายต้องมานั่งรับผิดชอบทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ ทำ เพื่ออะไร...เห็นแก่ตัวบ้างก็ได้”
“เห็นแก่ตัวแล้วต้องเห็นลูกเห็น คนที่ไอ้วัฒน์รักต้องตายงั้นหรือ...มันเป็นคนช่วยชีวิตฉันนะ ฉันเห็นแก่ตัวไม่ได้ว่ะเข้ม” ทิวทั้งเสียใจทั้งกดดันอย่างหนัก คิดไม่ตกจะทำอย่างไรต่อไปดี...
หญิงมานศรีเสียใจไม่แพ้ทิวเช่นกัน กลับถึงที่พักด้วยน้ำตาคลอเบ้าทรุดลงหน้าบ้านอย่างสิ้นเรี่ยวแรง ชายธีรพลเข้ามากับพิไลพรเห็นเธอนั่งซึม สีหน้าหม่นหมอง เข้าไปจับมือเธอไว้ ถามว่าร้องไห้ทำไม
“เปล่าสักหน่อย” เธอกะพริบตาถี่ๆเพื่อให้น้ำตาไหลกลับ
“หญิง ไม่เคยปิดบังผมได้สำเร็จหรอก ตั้งแต่เด็กๆหญิงหกล้มเจ็บแทบตายแต่หญิงบอกชายคำรณบอกพิไลพร บอกทุกคนว่าไม่เจ็บ...แต่พอหญิงเจอผม หญิงก็ร้องไห้โฮ แล้วให้ผมช่วยทายาให้บอกว่าเจ็บมาก”
“หมอธี...หญิง...เจ็บมากเลย” เธอโผซบอกเขาร้องไห้โฮ เขาลูบผมเธอเบาๆปลอบใจ พิไลพรมองภาพนั้นแล้วเจ็บจี๊ดเข้าไปถึงหัวใจ รีบหลบฉากออกไป ปล่อยให้ทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง...
ขณะที่อาณาจักรทัดเทพเกิดเรื่อง วุ่นวายขึ้น ภายในวังกฤตยาก็ไม่ต่างจากที่นั่นนัก ตั้งแต่ชายคำรณทราบถึงข้อตกลงระหว่างเทพกับหม่อมแม่ เขามีท่าทีหมางเมินกับเธอมากขึ้นทุกที แทบจะไม่พูดคุยหรือร่วมโต๊ะอาหารด้วย หม่อมสรัสวดีทนไม่ไหว อยากรู้ว่าลูกชายหมดความนับถือในตัวแม่คนนี้แล้วใช่ไหม
“ชายยังรักและ นับถือหม่อมแม่เหมือนเดิม แต่ชายขอโทษด้วยครับ ความเป็นแม่ไม่ได้ทำให้หม่อมแม่กลายเป็นผู้บริสุทธิ์ หลังจากที่ทำในสิ่งที่ชายคิดว่ามันเป็นความผิดอันใหญ่หลวง...ชายขอตัวครับ“
หม่อม สรัสวดีโกรธจัดที่เห็นลูกมีท่าทีเย็นชาใส่ หันไปสั่งให้แม่แล่มแม่บ้านของที่นี่ไปบอกคนขับรถให้เตรียมรถไว้ เธอจะไปข้างนอก แม่แล่มขอร้องให้ใจเย็นก่อน เธอเย็นไม่ไหว ในเมื่อลูกคิดว่าเธอเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องทั้งๆที่เธอพยายามทำดีที่สุดแล้ว ต่อไปนี้ เธอจะทำในสิ่งที่อยากทำเท่านั้น แล้วก้าวฉับๆออกไป
ooooooo
หลัง จากยืมอกอุ่นๆของชายธีรพลเป็นที่ซับน้ำตาจนสาแก่ใจแล้ว หญิงมานศรีเดินมาส่งเขาที่รถ ขอบคุณที่เขาเป็นธุระเรื่องลุงมิตรให้ เขาตัดสินใจถามเธอตรงๆว่าคิดอย่างไรกับทิว เธอได้แต่อึกๆอักๆพูดไม่ออก เขามองออกว่าเธอรักทิว ไม่อย่างนั้นคงไม่เจ็บปวดใจมากขนาดนี้ เขากับพิไลพรเป็นห่วงเธอมาก คนเราอ่อนแอบ้างก็ได้  ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะปล่อยให้คนอื่นมาดูแลเราบ้าง ถ้าเขาคนนั้นเต็มใจทำให้โดยไม่หวังอะไรตอบแทน
“ผมรู้ว่าหญิงรู้...ผม คิดยังไงกับหญิงและผมก็รู้ว่าหญิงไม่มีทางมองผมเป็นอย่างอื่นได้เลยนอกจาก เพื่อนที่ดีที่หญิงไว้ใจมากที่สุด ผมยินดีที่จะอยู่ในจุดที่หญิงวางให้ผมยืน ไม่ต้องห่วง ผมไม่ล้ำเส้น ผมแค่อยากดูแลหญิงบ้าง” เขาคว้ามือเธอมากุมไว้ หญิงมานศรีซาบซึ้งใจมาก โผกอดเขาแน่น เทพกับล้วนเข้ามาพอดี ทั้งคู่ผละออกจากกัน ประมุขอาณาจักรทัดเทพชักสีหน้าไม่พอใจ แต่จำต้องข่มอารมณ์ไว้
“ผมอยากจะเรียนเชิญคุณหญิงไปเป็นเกียรติ...”
“ขอโทษนะคะ หญิงตัดสินใจจะกลับกรุงเทพฯกับหมอธีวันนี้แล้วล่ะค่ะ”
เทพ ตกใจ คาดไม่ถึง ขณะที่ชายธีรพลเองก็แปลกใจที่อยู่ๆเธอโพล่งขึ้นมาแบบนั้น เทพโกรธมาก เดินหน้าหงิกกลับไป พอได้อยู่ลำพังกับสมุนคู่ใจ สั่งการให้เขาหาทางทำอย่างไรก็ได้ ไม่ให้คุณหญิงกลับกรุงเทพฯ ล้วนรับคำรีบไปปฏิบัติตามคำสั่งทันที...
จากนั้นไม่นาน กระเป๋าเสื้อผ้าของหญิงมานศรีกับพิไลพรถูกยกมาวางไว้หน้าบ้านพัก แต่พิไลพรกลับหายตัวไป หญิงมานศรีนั่งรออยู่กับชายธีรพลเริ่มกระวน กระวายใจ
“พรหายไปไหนนะ...แย่จริง รู้ทั้งรู้ว่าหญิงรีบ” เธอบ่นอุบ พลางชะเง้อคอยาว ขณะที่เขานิ่งมาก...
คน ที่หญิงมานศรีบ่นถึงกำลังไปแจ้งข่าวให้ทิวทราบว่าคุณหญิงกำลังจะกลับ กรุงเทพฯ ทิวทำเป็นไม่สนใจ ถ้าเธออยากจะไปก็เรื่องของเธอ พิไลพรทักท้วงจะปล่อยให้เธอกลับไปทั้งๆที่ยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกันแบบนี้ ได้อย่างไร เขายังยืนยันคำเดิม แล้วเดินจากไปหน้าตาเฉย พิไลพรได้แต่ส่ายหน้าระอา...
ครู่ต่อมา พิไลพรกลับไปที่บ้านพักพนักงาน หญิงมานศรีต่อว่าต่อขานยกใหญ่ว่าหายไปไหนมา ปล่อยให้รออยู่นานสองนาน ชายธีรพลรู้กันกับพิไลพรรีบตัดบท ชวนเธอกลับกรุงเทพฯจะได้ถึงวังก่อนค่ำ เธอเห็นด้วยจ้ำพรวดๆนำหน้าไปที่รถ ชายธีรพลกระซิบถามพิไลพรว่าไปบอกทิวแล้วได้เรื่องอะไรไหม เธอส่ายหน้าแทนคำตอบ
“เราทำดีที่สุดแล้วล่ะ ที่เหลือคงต้องแล้วแต่โชคชะตา...ไปเถอะ” เขาว่าแล้วเร่งฝีเท้าตามหญิงมานศรีลูกน้องของล้วนซุ่มดูอยู่รีบโทร.รายงาน ลูกพี่ทันทีว่าคุณหญิงกับเพื่อนออกไปแล้ว...
แผนการขัดขวางไม่ให้คุณ หญิงกลับกรุงเทพฯต้องพังไม่เป็นท่า ทิวกับเข้มอ่านแผนตื้นๆของเทพออกแอบเล่นงานสมุนของล้วนที่ดักรอรถของชายธีร พลสลบ เหมือด ทิวมองตามรถที่หญิงคนรักนั่งอยู่แล่นผ่านไปอย่างอาลัย ได้แต่อวยพรฝากไปกับสายลมขอให้เธอโชคดี...
กว่าคณะของหญิงมานศรีจะถึง วังกฤตยาพระ อาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ชายคำรณดีใจมากที่เห็นน้องกลับมา เข้าไปสวมกอดด้วยความรัก ชายธีรพลเห็นความกังวลในแววตาของเขาแล้วรู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างที่เขา ไม่ได้บอกน้องสาว ทำทีชวนเขาออกไปคุยกันตามลำพัง จากนั้นเรื่องราวต่างๆก็พรั่งพรูออกจากปากชายคำรณ หมอหนุ่มอยากรู้ว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป
“ทำในสิ่งที่ควรทำ ขอบใจมากนะชายธีที่ช่วยดูแลน้องหญิง...น่าแปลกนะ ทำไมน้องหญิงไม่รักคนดีที่มีทุกอย่างพร้อมจริงๆอย่างนาย จะได้ไม่ต้องเสียใจอย่างทุกวันนี้”
“ไม่ต้องห่วงหรอก...วันหนึ่งหญิงมานศรีจะต้องได้พบคนดีที่รักเธอไม่น้อยไปกว่าฉันอย่างแน่นอน...”
ขณะ เดียวกันที่ห้องนอนของหญิงมานศรี อุตส่าห์หนีจากไร่ทัดเทพเพื่อให้ลืมทิว แต่หญิงมานศรีกลับใจลอยคิดถึงเขา พิไลพรอดกระเซ้าไม่ได้อยากกลับวังแต่ใจลอยไปอยู่ที่ไร่อ้อย เธอขอร้องอย่าพูดถึงผู้ชายคนนั้นอีก
“พูดถึงใครคะ พรไม่ได้พูดหรือเอ่ยชื่อใครสักหน่อย คุณหญิงพาลพร” เธอว่าแล้วเดินยิ้มออกไป
ooooooo
ทิว กับเข้มกลับมานั่งพักที่บ้านของทิวอย่างเหนื่อยล้า เข้มมั่นใจว่าถ้านายใหญ่รู้ว่าเราสองคนจัดการสมุนของเขาไม่ให้ขวางทางกลับ กรุงเทพฯ ของคุณหญิง ต้องโกรธควันออกหูแน่ๆ ทิวสมน้ำหน้าสะใจ
“อยากจะเห็นความพยายามของมันอีกเหมือนกันจะทำยังไงเพื่อให้ได้ตัวคุณหญิงกลับมา”
ขวัญ ตาถือผ้าเย็นแอบฟังอยู่ ยิ่งโกรธเกลียดเทพมากขึ้น รีบเอาผ้าเย็นไปส่งให้ทิวเช็ดหน้าเช็ดตาจะได้สดชื่น ทิวไม่ต้องการ เธอถือวิสาสะเช็ดหน้าให้เขา วงแตกทันที เข้มทนดูไม่ได้หนีกลับ ทิวคว้ามือเธอไว้
“ขวัญตา...ทีหลัง...ไม่ต้อง” แล้วลุกเข้าห้องปิดประตูโครม ขวัญตามองตามหงุดหงิด
“อ่อยทุกวันไม่อ่อนลงบ้างก็ให้มันรู้ไป” เธอเห็นสภาพตกต่ำของตัวแล้วเจ็บใจ คิดจะแก้แค้นผ่องทิพย์...
ใน เวลาเดียวกัน  เทพแค้นใจมากที่แผนพังไม่เป็นท่า ดื่มเหล้าดับอารมณ์แต่กลับยิ่งโมโห ขว้างแก้วในมือทิ้ง ผ่องทิพย์เข้ามายั่วยวนจะชวนขึ้นห้อง เขาแกล้งเมาพูดอ้อแอ้ว่าจะขออยู่ตรงนี้ก่อน เธอไม่อยากขัดจำต้องปล่อยเขาไว้ พอเธอลับสายตา เทพหน้าเครียดขึ้นมาทันที ต้องหาทางเอาตัวหญิงมานศรีกลับมาให้ได้...
ที่วังกฤตยา หม่อมสรัสวดีอารมณ์บูดกลับมาจากบ่อนไม่พอยังต้องหัวเสียมากขึ้นเมื่อพบว่า หญิงมานศรีลาออกจากงานจะกลับมาอยู่วัง เธอมองลูกชายตาเขียวหาว่าไปบอกอะไร น้องถึงได้ลาออก ชายคำรณไม่เคยพูดอะไร น้องหญิงตัดสินใจด้วยตัวเอง
“ค่ะ...หญิงมีความจริงเกี่ยวกับคุณเทพที่ต้องเรียนให้หม่อมแม่ทราบ”

 ขอขอบคุณจาก thairath.co.th
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ