อ่านละครเรื่อง มารยาริษยา ตอน 9 วันที่ 3 ก.ค. 55

{[['']]}
 รุ่งเช้าวันต่อมาแม่อ้อย อาม และฝ้าย ใส่บาตรวันเกิดฝ้ายด้วยกันที่หน้าบ้าน พอถวายของเสร็จแล้วก็นั่งพนมมือรับศีลจากพระ พอหลวงพี่ให้ศีลให้พรเสร็จก็เดินไปบิณฑบาตต่อ สามคนช่วยกันยกของเข้าบ้าน
      
       “สุขสันต์วันเกิดนะฝ้าย ขอให้ฝ้ายเป็นเด็กดีอย่างนี้ตลอดไป” แม่อ้อยเอ่ยขึ้น
       “ขอบคุณค่ะน้าอ้อย”
       “ช่วยน้าดูแลไอ้อามด้วย” แม่อ้อยหันมาหาลูกชาย พูดดุ “นี่ไม่คิดจะอวยพรวันเกิดฝ้ายบ้างเหรอ”
       “เออ สุขสันต์วันเกิด ในฐานะที่เป็นวันเกิดแก แกต้องพาชั้นกับแม่ไปร้องคาราโอเกะ” อามอวยพรส่งๆ
       “คืนนี้แม่ต้องรีบนอน ต้องตื่นมาสอนแต่เช้า งั้นไปกันสองคนแล้วกัน”
       “งั้นแกเลิกงานแกก็ตามไปที่ร้านแล้วกัน วันนี้วันหยุดชั้น ชั้นไม่เข้าร้าน ห้ามเบี้ยวนะเว้ย เพราะชั้นกะจะไม่เอากระเป๋าสตางค์ไป” อามบอกฝ้าย
       ฝ้ายบ่น รู้สึกน้อยใจนิดๆ “ของขวัญก็ไม่ให้ แล้วยังจะให้เลี้ยงอีก ทุเรศ”
       “ไม่รู้แหละ ยังไงก็ต้องไป”
       “รู้แล้ว ไปทำงานนะ”
       ฝ้ายออกไป อามมองตาม ยิ้มๆ
      
       อามทำกรอบรูปเสร็จ มองอย่างภาคภูมิใจ ยิ้มๆ คิดว่าฝ้ายต้องดีใจที่ได้ของขวัญจากตัวเอง
       “ใส่รูปซะหน่อยดีกว่า”
       อามค้นรูปฝ้ายในอัลบั้มรูปตัวเอง เห็นแต่รูปฝ้ายที่อิริยาบทไม่น่ารัก อามปิดแล้ววิ่งลงไปข้างล่าง
      
       แม่อ้อยกำลังสอนจัดดอกไม้อยู่กับลูกศิษย์สองคน อามลงมาจากบนบ้าน
       “แม่ครับ แม่มีรูปไอ้ฝ้ายไหมครับ”
       “ไม่มี จะเอาไปทำอะไร นี่จะแกล้งอะไรฝ้ายอีกใช่ไหม”
       “เปล่าครับ” อามวิ่งขึ้นบ้านไป
       แม่อ้อยหันมายิ้มให้ลูกศิษย์ สอนจัดดอกไม้ต่อ
      
       อามเปิดประตูเข้ามาในห้องฝ้าย เดินตรงเข้าไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ พยายามค้นหารูปฝ้ายแต่ไม่เจอ อามเดินไปหาที่ลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง เจอรูปฝ้ายกับอาม ที่ฝ้ายเคยหยิบมาดู อามยิ้มแล้ววางไว้ที่เดิม
       อามเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบลังใส่อัลบั้มรูปออกมา เปิดดูรูป มีรูปฝ้ายที่ถ่ายคู่กับตัวเองหลายใบ อามเปิดดูไปยิ้มไป เห็นรูปเดี่ยวฝ้ายที่น่ารัก อามหยิบรูปนั้นออกมา แล้วเก็บอัลบั้มคืนใส่ลัง
       ขณะที่อามเอาลังไปเก็บยังที่เดิม ทันใดนั้นกล่องใส่สร้อยเล็กๆ ร่วงตกลงมา โดนแรงกระแทกกล่องเปิดอ้าออก อามหยิบสร้อยขึ้นมาดู รู้สึกงงๆ นึกได้ว่าเหมือนสร้อยที่ตนเคยให้ใบเฟิร์น
      
       อามนึกถึงตอนให้สร้อยใบเฟิร์น ในวันเดทแปลกประหลาด
       เด็กเสิร์ฟยกน้ำส้มไปให้ฝ้าย แล้ววางกล่องของขวัญไว้ด้วย ฝ้ายหยิบขึ้นมาแกะดูเห็นเป็นสร้อย ฝ้ายใส่สร้อยแล้วหันให้อามดู อามยิ้มดีใจ
       อามอึ้งๆ เงยหน้ามองของบนตู้ หยิบถุงใบหนึ่งออกมาเปิดดู
       คราวนี้เห็นเสื้อผ้าชุดที่ใบเฟิร์นใส่วันเจอกับอามที่ร้านอาหารริมทะเลสาบ
      
       อามนึกถึงตอนกินข้าวที่ร้านริมทะเลสาบขึ้นมา
       อามนั่งที่ฝั่งตรงข้ามทะเลสาบเห็นฝ้ายซึ่งแต่งตัวสไตล์เกาหลี ทำผมหวานๆ มีโบว์ติดที่ผมน่ารักยืนคุยโทรศัพท์อยู่
       อามอึ้ง เมื่อนึกถึงตอนนี้
       อามดูอีกชุด เป็นชุดที่ใบเฟิร์นใส่วันที่นัดไปดูหนังกับอาม อามนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น
       ตอนที่อามหันไปเห็นฝ้ายแต่งหวานแหววนั่งอยู่ไกลๆ คิดว่าเป็นใบเฟิร์น
      
       อามยิ่งอึ้งหนัก อามค้นต่อเจอมือถือเครื่องหนึ่งที่ปิดอยู่ จึงหยิบขึ้นมากดเปิดเครื่อง แล้วหยิบมือถือตัวเองมากดเบอร์หาใบเฟิร์น มือถือฝ้ายดัง อามตะลึงตาค้าง
       อามมือสั่นเมื่อเจอการ์ดที่ตนเคยให้ใบเฟิร์น
       “ขอบคุณที่ทำให้ทุกวันของพี่อามมีความหมาย พี่อามสัญญาว่าจะไม่ทำให้น้องใบเฟิร์นต้องเสียใจ”
       อามตกตะลึงแทบช็อก!!
      
       เย็นนั้นฝ้ายแต่งตัวน่ารักสุดๆ มารออามที่ร้านอาหารที่นัดไว้
      
       พนักงานเสิร์ฟเข้ามาถาม “สั่งเลยไหมครับ”
       “รอเพื่อนแป๊บนึงค่ะ”
       พนักงานเดินออกไป
       ฝ้ายกดโทรหาอาม แต่อามไม่รับ ฝ้ายพยายามกดหลายที อามก็ไม่รับอีก ฝ้ายตัดสินใจลุกออกจากร้านไป
      
       ฝ้ายกลับมาที่บ้านอยู่ในอาการโมโห รีบขึ้นไปเคาะประตูเรียกอาม
       “ไอ้อามๆ แกเป็นอะไรเนี่ย ทำไมแกไม่ไปที่ร้านวะ อ๋อ ความจริงแกตั้งใจหลอกชั้นใช่ไหม ไอ้บ้า”
       อามไม่ตอบ
       ฝ้ายหงุดหงิดออกไป
      
       ฝ้ายเปิดประตูเข้าห้องตัวเอง เห็นสภาพห้องเหมือนถูกรื้อค้นก็ตกใจ พอหันไปเจอเสื้อผ้าที่ตัวเองปลอมเป็นใบเฟิร์นวางอยู่ ฝ้ายอึ้งๆ รู้ทันทีว่าอามเข้ามาเจอ และรู้ความจริงแล้ว
       ฝ้ายตกใจจะรีบไปเคลียร์กับอาม วิ่งมาเปิดประตู แต่เห็นอามยืนรออยู่ ในมืออามยืนถือสร้อยที่เคยให้ใบเฟิร์น ฝ้ายชะงัก
       อามปาสร้อยใส่ฝ้าย ด่าซ้ำ
       “สนุกมากเหรอ ที่ปลอมเป็นเฟิร์นมาหลอกชั้น!”
       “ฟังชั้นก่อน”
       “ทุกครั้งที่ชั้นเล่าเรื่องเฟิร์นให้แกฟัง แกก็คงหัวเราะเยาะชั้น เห็นว่าชั้นเป็นตัวตลก!”
       “ชั้นไม่ได้เห็นแกเป็นตัวตลกนะอาม”
       “แล้วแกทำแบบนี้ไปทำไม บอกมาสิว่าทำไปทำไม!”
       “คือชั้น...ชั้น...”
       “พูดมาสิว่าแกทำไปไม! ถ้าไม่ได้เห็นชั้นเป็นตัวตลก!”
       ฝ้ายอึกอัก น้ำท่วมปาก “ชั้น...ชั้น” ตอบไม่ได้ว่าที่ทำไปเพราะรักอาม “ชั้นขอโทษ”
       อามยิ่งโกรธและเสียใจ
       “ชั้นไม่คิดเลยว่าคนที่ชั้นไว้ใจที่สุด จะเป็นคนที่หลอกชั้น!”
       อามเดินหนีไปห้องตัวเอง ฝ้ายตามไปจับมืออามยื้อไว้ พยายามอธิบาย
       “อาม แกฟังชั้นก่อนนะอาม”
       “ชั้นเกลียดแก!!”
       อามสะบัดสุดแรงจนฝ้ายล้มลงกับพื้น แต่อามไม่สนใจเข้าห้อง ปิดประตูดังปัง
      
       ฝ้ายใจหล่นวูบ ร้องครวญคราง “อาม...”
      
       แล้วทรุดตัวลงไปนั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องอามนั่นเอง
อยู่มาวันหนึ่ง บนหน้าเว็บไซต์ไทยแคทวอร์ค ดอทคอม เว็บยอดนิยมของคอแฟชั่น เห็นภาพณัฐ ดีไซเนอร์ชาวไทยที่โกอินเตอร์ไปสร้างชื่อบนเวทีแฟชั่นโลก ณัฐถือช่อดอกไม้ถ่ายรูปร่วมกับนางแบบอินเตอร์ บนเวทีนิวยอร์คแฟชั่นวีค
      
       พร้อมพาดหัวข่าว “ณัฐดีไซเนอร์อินเตอร์สายเลือดไทย เตรียมกลับมาเปิดคอลเล็คชั่นล่าสุดที่กรุงเทพฯ”
       บรรดาแฟชั่นนิสต้า แต่งตัวเก๋ไก๋เปิดอ่านข่าวอยู่หน้าจอคอมพ์ฯ
       เวลาต่อมาพาดหัวข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ไฮโซ “เขย่าวงการแฟชั่น ณัฐพร้อมนำ NUTTA เปิดช็อปที่เมืองไทย” ข้างๆ มีรูปประกอบข่าว เป็นณัฐกำลังวัดตัวนางแบบอินเตอร์ คอแฟชั่นแต่งตัวเก๋จัดรุมอ่านข่าวอยู่
      
       วันต่อมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ เห็นนักข่าวหลายคนรอทำข่าวอยู่บริเวณทางออกผู้โดยสาร พิธีกรสาวอุ้มกำลังพูดกับกล้องทีวีช่อง รันเวย์ ชาแนล
       “สวัสดีค่ะท่านผู้ชม เห็นไหมคะท่านผู้ชม อุ้มขนลุกไปหมดแล้วค่ะ” ชี้แขนตัวเอง “อุ้มตื่นเต้นมาก ที่กำลังจะได้เจอพี่ณัฐดีไซเนอร์ไทยเจ้าของแบรนด์ NUTTA ที่ไปโด่งดังระดับโลก”
      
       แต้วกะอู๋ดูข่าวทีวีที่ณัฐกำลังจะบินกลับมาอย่างตื่นเต้น
       “หลายปีแล้วนะเนี่ยที่ไม่ได้เจอพี่ณัฐ กลับมาเปิดคอลเล็คชั่นที่ไทยแบบนี้ ไม่รู้ชั้นจะมีบุญได้ไปแต่งหน้าให้งานพี่ณัฐเค้าอีกรึเปล่า”
       อู๋เห็นแต้วยิ้มๆ เป็นนัย “อะไรแต้ว ยิ้มแบบนี้มีเลศนัย แกมีอะไร ยิ้มให้ชั้นทำไม”
       “เมื่อเช้าผู้ช่วยพี่ณัฐเค้าโทรหาชั้น...”
       อู๋ตาโต ท่าทางตื่นเต้น
      
       นักข่าวยืนรออยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ อุ้มพูดรายงานอยู่กับกล้อง
       “นี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่พี่ณัฐจะกลับมาเปิดคอลเล็กชั่นที่เมือง ไทย หลังจากที่ไปเปิดตัวที่งานนิวยอร์คแฟชั่นวีคเมื่อแปดปีที่แล้ว แล้วก็โด่งดัง จนกระทั่งได้ไปเปิดห้องเสื้อที่นิวยอร์ค แล้วก็ขยายสาขาไปที่ โตเกียว ลอนดอน มิลาน”
      
       เวลาเดียวกันเพียงดาวทำกับข้าวอยู่ เห็นข่าวพี่ณัฐแล้วยิ้ม แต่อดเสียใจที่ตัวเองไม่มีวันจะหวนคืนกลับเข้าไปในวงการแฟชั่นได้อีกเพราะ ถูกแบบ เพียงดาวถอนหายใจ
       ขณะพักกองฯ ที่กองถ่ายแฟชั่น ซึ่งมีดีนี่เป็นแบบ ดีนี่ ป้ากบดูข่าวในไอโฟน
       “พี่ณัฐเค้าดังระดับโลกเลยนะคะ”
       “ใช่ แล้วเค้ากลับมาเปิดคอลเล็คชั่นที่เมืองไทยแบบนี้ หนูต้องเดิน ฟินาเล่ย์ของเค้าให้ได้ เพราะสุดยอดแบรนด์ ก็ต้องคู่กับสุดยอดนางแบบ” ป้ากบอวย
      
       ในที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุด อุ้มและนักข่าวยืนอยู่ ตรงทางออกผู้โดยสาร ณัฐเดินนวยนาดออกมา มีผู้ช่วยเดินตามหลัง
       นักข่าวกรูเข้าไปหา ยิงคำถาม แล้วบรรดาช่าวภาพก็รัวถ่ายรูป
       “คุณณัฐคะ ทำไมคอลเล็กชั่นนี้ถึงเลือกมาเปิดตัวที่เมืองไทยคะ”
       “ตลอดระยะเวลาที่ดิชั้นไปทำงานที่เมืองนอก ชั้นภูมิใจที่เป็นคนไทยที่ได้รับการยอมรับ ก็เลยอยากกลับมาแบ่งปันเรื่องราว แบ่งปันแรงบันดาลใจให้ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ๆ ว่าคนไทยเราก็มีความสามารถระดับโลกได้ค่ะ”
       นักข่าวอีกคนซัก “แล้วแบรนด์ระดับโลกมาเปิดคอลเล็กชั่นที่เมืองไทยแบบนี้ จะมีอะไรมาเซอร์ไพร์สไหมคะ”
       “เรื่องนี้ชั้นขออุบไว้ก่อนค่ะ”
       “แล้วมีนางแบบไทยคนไหนจะมีโอกาสร่วมงานกับคุณณัฐบ้างคะ” นักข่าวถามต่อ
       ณัฐยิ้มเป็นนัย “เรื่องนั้นชั้นคิดไว้แล้วค่ะ”
      
       ขณะที่เพียงดาว กะโอมเดินถือถุงกับข้าวกลับเข้ามา เพียงดาวเดินเข้ามาไม่เห็นป้านุช กะสมใจ แต่เห็นแต้วและอู๋ยืนอมยิ้มอยู่ เพียงดาวกะโอมต่างงงๆ
       “พี่แต้ว พี่อู๋ วันนี้ไม่มีงานเหรอคะ”
       “มีจ้ะ แต่พวกพี่แคนเซิลไปหมดแล้ว” เพียงดาวยิ่งงง “พี่มารอดาวรับโทรศัพท์”
      
       เพียงดาวอึ้ง “โทรศัพท์อะไรกันคะ....” ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ดัง เพียงดาวกดรับงงๆ
      
       เป็นนัฐที่โทร.หา และคุยโทรศัพท์อยู่ที่ห้องทำงานหรู
       “สวัสดีจ้ะดาว ดาวคงได้ข่าวแล้วนะ ว่าพี่จะมาเปิดคอลเล็คชั่นใหม่ที่เมืองไทย”
       “ค่ะ...ดาวยินดีด้วยนะคะพี่” เพียงดาวดีใจ
       “พี่อยากให้ดาวมาเดินแบบให้พี่” ณัฐบอก
       เพียงดาวตะลึง “เดินแบบ!!”
      
       แต้วกะอู๋ ยิ้มดีใจกับเพียงดาว
       ณัฐย้ำ “ใช่จ้ะ ชุดฟินาเล่ย์”
       เพียงดาวดีใจสุดๆ “ชุดฟินาเล่ย์” แล้วนึกได้ เพียงดาวหน้าเศร้าลง “พี่ณัฐคะ พี่คงยังไม่ได้ข่าวเรื่องดาว...ดาวกลัวว่าจะทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์พี่ณัฐ เสียไปด้วย”
       “ดาว พี่ไม่สนใจเรื่องส่วนตัวหรอกนะ” ณัฐหันไปหยิบรูปที่โต๊ะทำงานขึ้นมาดู “สำหรับพี่เธอคือนางแบบที่จะพรีเซนต์ชุดฟินาเล่ย์ของพี่ได้ดีสุด พี่เชื่อมั่นว่าดาวที่พี่รู้จักจะไม่ทำให้พี่ผิดหวัง”
       “ขอบคุณค่ะพี่ณัฐ ขอบคุณที่ให้โอกาสดาว”
       “แล้วเจอกันนะจ๊ะ”ณัฐวางสาย แล้ววางรูปลงเห็นว่าเป็นรูปของณัฐกับเพียงดาวหลังเวทีเดินแบบ ถ่ายคู่กันท่าทางสนิทสนม
       เพียงดาวดีใจจนพูดอะไรไม่ออก
       “ผมดีใจด้วยนะครับคุณดาว” โอมตื่นเต้นไปด้วย
       “ชั้นบอกแล้วว่าคนดีๆ อย่างแก ถึงยังไงก็ไม่มีวันตกต่ำหรอก”
      
       อู๋ กะแต้วเข้ากอดเพียงดาว อดีตซูเปอร์โมเดลผู้ถูกแบนยิ้มอย่างมีความหวัง
      
       ป้ากบพาดีนี่เดินเข้ามาในโรงแรม เพื่อมาดักรอณัฐที่มาประชุมที่โรงแรมแห่งนี้
       “ป้าได้ข่าวมาว่าวันนี้พี่ณัฐเค้ามาประชุมที่นี่ ยังไงเราต้องได้งานนี้ให้ได้ พี่ณัฐเค้าเป็นดีไซเนอร์ไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก”
       ดีนี่รับคำ “ค่ะ”
       ดีนี่ ป้ากบจะเข้าไปในห้องประชุม ผู้ช่วยของณัฐขวางไว้
       “เดี๋ยว!” กบชะงัก “มาหาใคร?”
       “มาหาพี่ณัฐน่ะค่ะ”
       “ชื่อ?...”
       “กบกับดีนี่ค่ะ”
       ผู้ช่วยดูคิวนัดหมายในไอแพด
       “ไม่ได้นัดไว้นี่”
       “ไม่ได้นัดไว้ค่ะ คือกบรู้จักกับพี่ณัฐ เคยทำงานกับพี่ณัฐน่ะค่ะ เลยแวะมาหา”
       “ไม่ได้ ต้องนัดล่วงหน้า” ผู้ช่วยยืนกราน
       “กบไม่ได้มีธุระอะไรสำคัญน่ะค่ะ แค่แวะมาทักทายตามประสาคนรู้จักกัน แค่เห็นหน้ากันนิดเดียวก็ยังดี” ผู้ช่วยณัฐมองป้ากบที่พูดเซ้าซี้ ท่าทีไม่เป็นมิตรนัก “เดี๋ยวกบรอตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
       “ทีหลังนัดล่วงหน้า” มือถือผู้ช่วยดัง รีบรับสาย “คุณณัฐประชุมเสร็จแล้วค่ะ กำลังคุยกับเพื่อนอยู่”
       ป้ากบแอบเบะปาก
       “ทำเป็นเก่ง เป็นแค่ผู้ช่วย ก็คนใช้ดีๆนี่แหละ”
       ผู้ช่วยหันมามอง ป้ากบทำเป็นยิ้มแย้มให้
      
       ดาว แต้ว และอู๋ดูรูปสเก๊ตแบบเสื้อผ้าของณัฐอยู่ในห้องประชุมงาน
       “เป็นไงบ้างจ๊ะ” ณัฐถาม
       “สวยมากเลยค่ะพี่ณัฐ พี่ณัฐก้าวนำดีไซเนอร์คนอื่นไปก้าวนึงเสมอเลยนะคะ” แต้วยิ้มๆ
       “เมื่อก่อนมีแต่คนไม่เก็ตงานของพี่ ก็มีแต่หนังสือแต้วนี่แหละที่เข้าใจงานของพี่” ณัฐบอก ขอบคุณแต้วกลายๆ
       “พี่ณัฐคะ ดาวขอบคุณอีกครั้งนะที่ให้โอกาสดาว” เพียงดาวเอ่ยขึ้น
       “ดาว พี่ไม่รู้หรอกนะว่าข่าวของดาวความจริงมันเป็นยังไง แต่พี่เชื่อในความเป็นมืออาชีพ เชื่อในฝีมือของดาว ชุดฟินาเล่ย์ของณัฐต้องเป็นเพียงดาวเท่านั้น!! พี่เชื่อว่าพี่เลือกคนไม่ผิด!!”
       เพียงดาวยิ้มรับ สีหน้าหมายมาด
      
       ณัฐเดินออกมาจากห้องประชุม ป้ากบรีบดึงดีนี่เดินถลันเข้าไปหา สองคนไหว้ณัฐ
       “สวัสดีค่ะพี่ณัฐ” ณัฐมองป้ากบว่าเป็นใคร “สมัยตอนที่พี่ณัฐอยู่ที่เมืองไทย กบเคยแต่งหน้าให้งานแฟชั่นโชว์ของพี่ณัฐน่ะค่ะ”
       ณัฐพยักหน้า “อ๋อ ตอนนั้นเธอมาสายนี่” ป้ากบหน้าเจื่อน “มีอะไร?”
       “คือกบจะพาดีนี่มาไหว้พี่ณัฐน่ะค่ะ คือตอนนี้ดี่นี่เค้าเป็นนางแบบที่โด่งดังที่สุดของเมืองไทยเลยนะคะ”
       ป้ากบหันไปเห็นเพียงดาว แต้ว และอู๋เดินออกมาจากห้องประชุม ป้ากบอ้าปากค้าง
       “อ้าวกบ มาอ๊บอ๊บอะไรแถวนี้จ๊ะ” อู๋เหน็บ
       “เค้าเอาเด็กมาฝากน่ะ” ณัฐบอก ผู้ช่วยเดินมาหาณัฐ
       “คุณณัฐคะ มิสเตอร์ทานากะ ขอเรียนสายด้วยค่ะ”
       ผู้ช่วยยื่นมือถือให้ ณัฐเดินเลี่ยงออกไปคุยมือถือ
       เพียงดาวมองดีนี่
       “ไม่เจอกันตั้งนาน พี่ดาวสบายดีเหรอคะ” ดีนี่ทักทายก่อน
      
       “สบายดี ได้ข่าวว่าเธอไม่สบาย ชักจนต้องให้คนหามส่งโรงพยาบาลเลยเหรอ สงสัยจะเป็นอาการทางจิตนะ”
       ดีนี่ยิ้ม “ดีนี่หายแล้วล่ะค่ะ พอดีว่าได้ยาดี”
       ป้ากบรีบห้าม “ดีนี่อย่าไปมีเรื่องเลยจ้า เพราะว่าเราเป็นนางแบบชื่อดัง ไปมีเรื่องกับนางแบบตกกระป๋องโนเนมแบบนี้ เรามีแต่จะเสียกับเสีย”
       “ตายแล้วนังกบ ชั้นเคยได้ยินแต่คางคกขึ้นวอ เพิ่งเห็นกบขึ้นวอก็วันนี้แหละ ชั้นขอแจ้งข่าวหน่อยนะจ๊ะ ที่ดาวเค้ามาหาพี่ณัฐวันนี้ เพราะเค้าจะได้เดินชุดฟินาเล่ย์ของพี่ณัฐย่ะ” ป้ากบกับดีนี่อึ้ง “พวกปลาซิวปลาสร้อยถอยไป ราชินีกลับมาทวงบัลลังก์แล้ว”
       อู๋เดินเบียดกลางจนป้ากบกับดีนี่กระเด็น เพียงดาวกะแต้วเดินตาม
       เพียงดาวหันมายิ้มเยาะให้สองคน
       -
       ป้ากบนั่งทุบพวงมาลัยรถอย่างแค้นจัด
       “ทำไมเป็นแบบนี้!ๆๆๆ”
       “ใจเย็นสิคะป้า”
       “จะให้ป้าใจเย็นได้ยังไง นังดาวมันจะได้กลับมาเดินชุดฟินาเล่ย์ให้พี่ณัฐแบบนี้ หมายความว่ายังไงรู้ไหม หมายความว่ามันจะกลับมายิ่งใหญ่ แล้วก็ยิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วย ที่เราลำบากแทบตายกว่าจะเขี่ยมันให้กระเด็นออกจากวงการ ก็จะไม่มีความหมายเลย”
       “ดีนี่ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นหรอกค่ะป้า”
       “แล้วหนูจะทำอะไร?” ป้ากบถาม จ้องหน้าดีนี่รอฟัง
      
       ดีนี่ยิ้มเย็นยะเยือก “เดี๋ยวป้าคอยดูแล้วกันค่ะ”  
ขอขอบคุณจาก manager.co.th
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ