อ่านละครแสบสลับขั้ว ตอนที่ 5 วันที่ 10 ก.ค. 55

{[['']]}
 ครรชิตยิ้มและทักทายปลาใหญ่
      
       “คุณปลาใหญ่...จำนายเซียนได้ใช่ไหมครับ”
       ปลาใหญ่ปรับสีหน้าได้ในทันที โดยทำเท่ห์ลุกขึ้นเดินมายื่นมือให้เซียนจับ
       “ทำไมจะจำไม่ได้ ว่าไง ... นายเซียน”
       เซียนก้มลงมองมือปลาใหญ่แว่บหนึ่ง แล้วเงยหน้ามองปลาใหญ่
       “คุณทำแบบนี้กับผมได้ยังไง ถ้าอยากได้เงินทำไมไม่บอกกันดีๆ รู้ไหมว่าการกระทำของคุณมันอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างย่อยยับกับ ธุรกิจของผม”
       ปลาใหญ่เอามือลงยืดอกช่วงแรก แล้วทำกร่าง
       “คุณคัน เรียก รปภ. มาลากตัวไอ้หมอนี่ออกไปเดี๋ยวนี้”
       “คุณปลาใหญ่ไม่เคยเรียกผมว่าคุณคัน” ครรชิตบอก เซียนจึงก้าวเข้ามาใกล้อีก
       “ยอมสารภาพมาเสียดีๆ ว่าคุณทำยังไงกับผม”
       “ออกไปให้หมดทุกคน” ปลาใหญ่เกรี้ยวกราดใส่ ครรชิตจ้องปลาใหญ่เขม็ง
       “นายเซียน คืนร่างให้คุณปลาใหญ่เดี๋ยวนี้”
       ปลาใหญ่หัวเราะก้อง
       “ไปแจ้งความซิ หรือจะให้ไปฟ้องศาลก็ได้ ไปเล้ยตูจะรออยู่ที่นี่แหละ...อยากรู้เหมือนกันว่าจะมีซักกี่คนที่เชื่อพวกแก”
       เซียนสบตาครรชิตอย่างจนปัญญา
      
       ระหว่างนั้นน้ำเพชรรออยู่ด้านนอกมือขวาของน้ำเพชรที่อยู่บนตักกระตุกไปมา น้ำเพชรผุดลุกขึ้นยืน สีหน้าถมึงทึง
       “ทนไม่ไหวแล้ว ไอ้เซียน แกจะต้องชดใช้”
       ประตูห้องปลาใหญ่เปิดออก น้ำเพชรเดินตรงเข้ามาทุกคนหันมามอง โดยปลาใหญ่ยังคงหัวเราะลั่น
       “เลขาคนสวยของผมมาพอดี สองคนนี่มันหาว่าผมขโมยร่างปลาใหญ่มาจ้ะที่รัก”
       น้ำเพชรถึงตัวปลาใหญ่พอดี น้ำเพชรตบเปรี้ยงซ้ายขวาจนปลาใหญ่ทรุด
       “นี่แน่ะ...ที่รัก จะไปไหนล่ะที่รัก” น้ำเพชรไล่ตามปลาใหญ่ที่พยายามคลานหนี “จะไปไหน ไอ้บ้าเซียน”
       น้ำเพชรดักจับตัวปลาใหญ่ได้ ตบซ้ายตบขวาเซียนและครรชิตมองอย่างสะใจครู่หนึ่ง แล้วเซียนรีบเข้าห้าม เมื่อเห็นปลาใหญ่เลือดออกกลิ้งไปมา เซียนรีบจับตัวน้ำเพชรไว้
       “คุณน้ำพอเถอะครับ ขอที...”
       น้ำเพชรหันขวับมา
       “ขอทีเรอะ เอาไปเลย 2 ที”
       น้ำเพชรซึ่งกำลังเมามันส์กับการตบเซียนในร่างปลาใหญ่ ตบปลาใหญ่ในร่างเซียนไปอีก 2 ที ท่ามกลางความตกใจของครรชิต
       “ไม่เข้าใจทำไมถึงชอบพูด ขอที...ขอที กันนัก”
       “หนูน้ำ นั่นมันคุณปลาใหญ่นะ” ครรชิตบอกอย่างตกใจ น้ำเพชรชะงักแล้วรีบยกมือไหว้
       “ขอประทานโทษค่ะ ก็อยากหน้าเป็นไอ้เซียนทำไมล่ะคะ”
       “ก็นั่นมันไอ้เซียน”
       ปลาใหญ่บอกแต่ต้องชะงักเมมื่อน้ำเพชรหันขวับมาจ้องเขม็ง
       “ว่าไง นายเซียนจะยอมรับหรือเปล่า” ครรชิตถามอีกครั้ง
       “พูดเป็นหนังไซไฟไปได้”
       “ไอ้เซียน” น้ำเพชรเรียก
       “ครับ” ปลาใหญ่เผลอขานรับ แล้วสะดุ้งเมื่อพลาดไป
       “ยอมรับแล้วใช่ไหม”
       “ไม่” ทุกคนเซ็งจัด “ผมขอยืนยัน...นั่งยัน...นอนยันว่า ผมคือปลาใหญ่ ผมเพิ่งฟื้นจากอุบัติเหตุร้ายแรงมา จะให้ผมกลับไปฉลาดปราดเปรื่องประเทืองปัญญาได้ยังไงในเมื่อสมองผมได้รับความ กระทบกระเทือนอย่างหนัก”
       ครรชิตและน้ำเพชรเริ่มลังเล เมื่อเห็นท่าทางยืนยันมั่นคงของปลาใหญ่
       “ไม่จริง” เซียนแย้ง ปลาใหญ่เบือนหน้ามาจ้องเซียนเคร่งขรึม
       “นายเซียน ฉันเข้าใจดีว่านายอยากเป็นฉันมากขนาดไหน เอาอย่างนี้คุณคัน...ครรชิต ช่วยมอบเงินทำขวัญให้นายเซียนกับครอบครัว”
       “ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องการ ผมแค่ต้องการร่างคืนเท่านั้น”
       “คุณน้ำ ช่วยทำแผลให้ผมหน่อย”
       “อย่านะ... คุณน้ำ นั่นมันนายเซียน ไม่ใช่ผมอย่าหลงกลเด็ดขาด”
       “คุณน้ำ นายเซียนพยายามทำให้คุณน้ำไขว้เขว”
       น้ำเพชรถึงกับกุมขมับ
       “พอที”สองหนุ่มนิ่งเงียบมองน้ำเพชร “ฉันขอลาออก”
       “หนูน้ำ/ คุณน้ำ”
       ทุกคนอุทานออกมาพร้อมกัน น้ำเพชรเดินออกไปท่ามกลางอาการตกตะลึงของทั้งสามคน
      
       น้ำเพชรเดินออกมาและกำลังเก็บข้าวของด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ปลาใหญ่และเซียนรีบแย่งกันไปเปิดประตู เบียดกันจะออกไป โดยครรชิตยืนอยู่ข้างหลังพยายามพูดให้ออกทีละคน แต่ทั้งสองหนุ่มไม่ยอมกัน
       “คุณน้ำ...”
       “อย่าไปฟังมัน ฟังผมคนเดียว”
       น้ำเพชรสะพายกระเป๋า หันกลับมา
       “ฉันไม่ฟังทั้ง 2 คนนั่นแหละ คุณลุงคะของที่เหลือน้ำยกให้เอาไปบริจาคไม่เอากลับไปแล้ว เซ็ง”
       น้ำเพชรเดินออกไป ทิ้งข้าวของไว้ตรงนั้น
      
       ขณะนั้นเกริกก้องอยู่ที่ห้องทำงานของตัวเอง ประตูห้องทำงานถูกเคาะถี่ๆ แล้วอลิสาก็รีบหน้าตาตื่นเข้ามา
       “ท่านรอง...เอ๊ย ท่านประธานคะ น้ำเพชรเลขาคุณปลาใหญ่ลาออกแล้วค่ะ”
       “ทำไม” เกริกก้องถามอย่างแปลกใจ
       “เห็นว่าคุณครรชิตพานายเซียนมาพบคุณปลาใหญ่ แล้วเกิดเรื่องทะเลาะอะไรกันไม่รู้จนยัยน้ำเพชรลาออกไป”
       “คุณครรชิตพานายเซียนมาทำไม”
       “หนูก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”
       เกริกก้องมีสีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด
      
       ส่วนที่ห้องทำงานหลาใหญ่ ครรชิตมองปลาใหญ่กับเซียนสลับกัน
       “หนูน้ำเพชรออกไปแล้ว”
       ปลาใหญ่รีบชี้หน้าเซียน
       “เป็นความผิดของแก”
       “เป็นความผิดของคุณ”
       “ผมก็ชักอยากจะลาออกอีกคนนึงแล้ว” ครรชิตบอก
       “ไม่ได้นะครับ คุณครรชิตรับปากกับคุณพ่อแล้ว” เซียนบอก ปลาใหญ่จึงรีบแทรก
       “ถ้าคุณคัน...เอ๊ย ครรชิตไป คุณอาก้องก็จะครอบครองกิจการหมด ทีนี้คุณพ่อก็จะนอนตายตาเหลือก” เซียน และครรชิตมองเขม็ง ปลาใหญ่รีบอธิบายต่อ “ซึ่งมันจะทรมานยิ่งกว่านอนตายตาไม่หลับอีกนะครับ”
       “การที่คุณมาเข้าร่างผมนี่ ก็ทำให้ท่านนอนตายตาไม่หลับอยู่แล้ว” เซียนบอก
       “เอาละ...เรื่องนี้ก็จะต้องพิสูจน์กันต่อไป”
       “นี่คุณคัน...ชิต ไม่เชื่อผมเรอะ”
       “ผมยอมรับว่าใช่ครับ”
       เซียนเดินออกไป ครรชิตนิ่งคิดครู่หนึ่งแล้วเดินออกไปเช่นกัน
       “ไปซะได้ก็ดี แต่อาหมวยน้ำเพชรนี่ซิจะทำยังไง”
      
       ปลาใหญ่เดินกลับไปกลับมาครุ่นคิด
เซียนยืนรอลิฟท์จนคน 2-3 คนออกแล้วจึงเดินเข้าไป ประตูลิฟท์กำลังจะปิดขณะที่ครรชิตเดินแกมวิ่งตามมา
       
       “เดี๋ยว นายเซียน”
       เซียนปล่อยให้ประตูปิด ครรชิตยืนเกาหัวอยู่หน้าลิฟท์
      
       ที่ร้านทอง กิมฮวยหัวเสียใส่น้ำเพชร เมื่อรู้ว่าน้ำเพชรลาออกจากงานแล้ว
       “ลาออก ลื้อคิดยังไงของลื้อเงินทั้งนั้น”
       “น้ำจะช่วยหม่าม้าขายทองไง”
       “ไอ๊หยา แล้วอั๊วก็ต้องจ่ายเงินเดือนให้ลื้อ”
       น้ำเพชรชักจะน้อยใจ
       “ไม่ต้องจ่ายก็ได้ ไม่มีเงิน น้ำก็ไม่ต้องกินอะไร”
       “อาน้ำ อั๊วเสียดายเงินยังไม่เท่าเสียดายอาท่านประธาน” น้ำเพชรนิ่งไป “หรือว่าลื้อไม่เสียดาย อีทั้งรวย ทั้งหล่อ ทั้งหนุ่ม แถมอียังชอบลื้ออีก อั๊วดูนัยน์ตาอีก็รู้”
       ขณะกิมฮวยกำลังพูด เสียงโทรศัพท์น้ำเพชรดังขึ้น น้ำเพชรหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
       “น้ำขอขึ้นไปนอนพักก่อนนะคะ”
       น้ำเพชรบอกแล้วรีบเดินขึ้นไป
       “อาน้ำ ลื้อจะไปไหน อั๊วยังพูดไม่จบ”
      
       น้ำเพชรเข้ามาในห้องขณะรับโทรศัพท์
       “โทร. มาทำไม”
       เซียนลงจากแท็กซี่แล้วเดินไปที่ลานจอดรถ
       “กรุณาออกมาพบผมหน่อยได้ไหม”
       “บังอาจ”
       “ผมเข้าใจดีว่าคุณต้องรู้สึกสับสน แต่คุณไม่ควรออกจากบริษัท”
       “นายเซียน นายไม่มีสิทธิ์จะออกความคิดเห็น...”
       เซียนขัดขึ้นก่อนน้ำเพชรพูดจบ
       “คุณจะทิ้งผมน่ะ ไม่เป็นไรเพราะผมมันไม่มีอะไรน่าเชื่อถือแล้ว แต่อย่าทิ้งคุณครรชิต...ผมสงสารแก”
       “หมดเรื่องแล้วใช่ไหม”
       “ผมรออยู่ที่ลานจอดรถ ถ้าคุณยังเป็นห่วงปลาใหญ่ละก็ผมจะรออยู่”
       น้ำเพชรปิดโทรศัพท์ ทิ้งตัวลงนั่งอย่างหงุดหงิด
      
       ขณะนั้นโทรศัพท์มือถือครรชิตที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานดังขึ้น ครรชิตซึ่งแหงนหน้าพิงพนักหลับตาขยับตัวขึ้นนั่งตรงแล้วหยิบมือถือทันที
       “คุณก้อง เฮ้อ...” ครรชิตสูดลมหายใจยาว แล้วกดรับ “ครับ คุณก้อง”
       “ได้ข่าวว่า น้ำเพชรลาออกหลังจากที่คุณพานายเซียนเข้ามาวุ่นวายกับปลาใหญ่เรอะ”
       “ใครคาบเรื่องเอ๊ย…นำเรื่องไปเรียนคุณก้องครับ”
       “ผมไม่ชอบให้ใครมาย้อนยอก ที่โทร.มานี่ก็เพื่อจะบอกว่าผมจะส่งเลขาคนใหม่ไปให้ปลาใหญ่”
       ครรชิตตกใจแล้วรีบพูด
       “อ๋อ หนูน้ำไม่ได้ลาออกครับ คนที่ไปรายงานคุณก้องคงเข้าใจผิด แกปวดหัวไมเกรนก็เลยลากลับครึ่งวัน” เกริกก้องอึ้งไป “พรุ่งนี้แกลาอีกวัน มะรืนนี้ถึงจะมาทำงานตามปกติครับ”
       “แล้วถ้าไม่มาล่ะ”
       “ต้องมาแน่ๆ ครับ”
       “ถ้าหากไม่มา ผมจะส่งคนของผมไปแทนทันที”
       “ครับ” ครรชิตจำใจตอบรับสีหน้าเป็นกังวล “โว้ย ทำไมมันยุ่งยังงี้”
      
       ครรชิตรีบเดินมาห้องปลาใหญ่ เคาะประตูเบาๆ แล้วเปิดเข้าไปครรชิตถึงกับชะงักเมื่อเห็นรัญญาช่วยทำแผลให้ปลาใหญ่เสร็จ เรียบร้อย ขณะที่จันทร์ทิพย์นั่งดู บนโต๊ะมีขนมนมเนยพร้อมนอกจากเครื่องปฐมพยาบาล
       “เข้ามาซิ คุณครรชิต”
       “คุณครรชิตนี่ไม่ไหวเลย ปล่อยให้ปลาใหญ่ถูกทำร้ายแล้วยังปล่อยคนทำให้ลอยนวล แถมไม่ยอมพาไปหาหมอ”
       “ปลาใหญ่ก็สุดแสนจะสุภาพบุรุษ ไม่ยอมบอกว่า ใครทำ”
       “เรื่องมันแล้วก็ให้มันแล้วไป ผมไม่วอรี่ ...วอเตอร์” ปลาใหญ่ทำหน้าขรึม
       “ผมกำลังจะมาพาไปหาหมออยู่เดี๋ยวนี้แหละครับ”
       “โอ๊ย ความรู้สึกช้าจัง ไม่ต้องแล้วละ” รัญญาบอก
       “เมื่อกี้คุณปลาใหญ่บอกว่าต้องการพบผม”
       “เรอะ แต่ตอนนี้ไม่ต้องการแล้ว...ไปได้”
       ครรชิตนิ่งอึ้ง
       “ได้ยินแล้วนะ คุณครรชิต”
       ครรชิตจำใจเดินออกไป จันทร์ทิพย์ รัญญาและปลาใหญ่ต่างหัวเราะขบขันกัน
      
       เซียนนั่งหลบแดดอยู่มุมหนึ่งที่ลานจอดรถอย่างนิ่งๆ ไม่ได้ชะเง้อชะแง้ล่อกแล่ก จนกระทั่งน้ำเพชรเดินเข้ามา
       น้ำเพชรมองเซียนอย่างเพ่งพิศสังเกตสังกาครู่หนึ่ง แล้วจึงเดินเข้าไปช้าๆ เงาของน้ำเพชรทำให้เซียนหันกลับมาแล้วเงยหน้ามอง
       “ฉันมาแล้ว”
       “เราควรจะหาที่ร่มๆ พูดกัน เพราะแดดตอนนี้กำลังแรง อาจจะเป็นอันตรายกับคุณหรือผิวหนังของคุณ”
       “ฉันไม่เรื่องมากขนาดนั้นหรอก มีอะไรก็ว่ามา”
       “ผมต้องการให้คุณกลับไปทำงาน”
       “แต่ฉันก็ลาออกแล้ว”
       “บริษัทต้องการคุณ ผมมาขอร้องให้คุณเห็นกับบริษัท”
       “แล้วทำไมฉันถึงจะต้องเห็นกับบริษัทที่ฉันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องด้วย”
       “คนที่ทำงานกับองค์กรไหนก็มักจะมี loyalty กับองค์กรนั้น ...ซึ่งผมคิดว่าคุณก็เหมือนกัน” น้ำเพชรมองเซียนอย่างเพ่งพิศ “ผมไปละ”
       เซียนก้มหัวให้นิดๆ แล้วเดินไป น้ำเพชรมองตาม ถอนใจเฮือก
       “รูปร่างหน้าตาเหมือนไอ้เซียน แต่พูดเหมือนคุณปลาใหญ่”
      
       เซียนเดินเรื่อยๆ มาจนถึงบ้านแล้วชะงัก เมื่อเห็นสายพิณนั่งมองเขม็ง
       “หายหัวไปไหนมา พิณกับพี่ชายสี่ถึงบ้านตั้งนานแล้ว”
       เซียนสะดุ้ง
       “คุณสายพิณ คุณเป็นสุภาพสตรี สุภาพสตรีควรจะมีวาจาสุภาพอ่อนหวาน ...”
       “ไอ้พี่เซียนบ้า”
       เซียนส่ายหน้
       “ยิ่งว่ายิ่งยุ”
       “เฮ้ย”
       “เข้าใจละว่า สิ่งแวดล้อมทำให้คุณเป็นอย่างนี้แต่คนเราเปลี่ยนแปลงกันได้”
       “โว้ย ปวดหัว”
       “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องพัก ถ้าปวดไม่มากก็ไม่ควรทานยา”
       สายพิณตบเปรี้ยง เซียนเซถลาส่ายหน้ามึนงง
       “เป็นไง ไอ้ตัวบ้าออกไปรึยัง”
       “ผมน่ะอยากจะออกจากร่างนี้เต็มทีแล้ว ตัวก็ใหญ่เทอะทะ” สายพิณยื่นหน้าเข้าไปจนใกล้ ตามองตาเขม็ง เซียนผงะด้วยความตกใจ “อย่าทำอย่างนี้”
       “ไม่ใช่พี่เซียนจริงๆ ด้วย แต่รูปร่างหน้าตามันก็ใช่ชัดๆ เอาไงดี”
      
       สายพิณเดินรอบๆ ตัวเซียน ตามองพินิจพิจารณา  
 ชายสี่อยู่บนมอเตอร์ไซค์ ขณะหมอแม่นขึ้นซ้อนท้าย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นชายสี่หยิบมารับ
       “ฮัลโหล”
       “เอ็งจะรับโทรศัพท์หรือจะไปส่งข้าฮึ ชายสี่” หมอแม่นถาม
       “ทั้ง 2 อย่างเลย...ว่าไงครับ คุณครรชิต”
       “ชายสี่ ข้าจะรีบไปดูหมอให้คุณนายร้านทองนะเว้ย”
       “ใจเย็น ป้า ใจเย็น... อ๋อ ได้ครับ ครับ ...” ชายสี่เก็บมือถือเข้ากระเป๋า “แค่นี้เอง”
       ชายสี่ขับมอเตอร์ไซค์ออกไป
      
       ชายสี่ขับมอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าร้านทองกิมฮวย หมอแม่นก้าวลงมาควักตังค์ส่งให้อย่างหงุดหงิด
       “เอาไป เสียเวลาทำมาหากิน”
       “วันหลังช่วยดูเรื่องเนื้อคู่ให้หน่อยซิป้า”
       “ไม่ต้องดูก็รู้ว่า เอ็งไม่มีคู่”
       ชายสี่ส่ายหน้าขำๆ แล้วขับมอเตอร์ไซค์ไป หมอแม่นเดินเข้ามาในร้านทักทายกับทุกคนไป
       กิมฮวยกุลีกุจอพาหมอแม่นเข้ามานั่ง
       “จ๋อ...จ๋อ...นั่งก่อนซิอาหมอ”
       “วันนี้จะดูอะไรอีก เจ๊”
       กิมฮวยหันซ้ายหันขวาและลดเสียงลง
       “ดวงอาน้ำเพชร”
       “โห ดูจนทุกซอกทุกมุม ขนาดฉันดูแล้วได้เงินยังเบื่อเลย”
       “เออน่า ไหนลื้อบอกว่าอาน้ำเพชรจะเจริญรุ่งเรืองในการอาชีพไงตอนนี้อีลาออกแล้ว”
       “ฮ้า! ลาออก”
       “ช่าย”
       “ลาออกมันก็ไม่เจริญซิเจ๊”
       “อ้าว ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ”
       หมอแม่นเปิดกระเป๋า หยิบสมุดจดดวงลูกค้ามาเปิด
       “เดี๋ยว ขอฉันตรวจดูอีกทีนะ” หมอแม่นเอานิ้วแตะน้ำลายแล้วเปิดหาจนถึงแผ่นที่ต้องการ “น้ำเพชร น้ำเพชร นี่ไง ...อยู่นี่เอง” หมอแม่นตรวจดูฤกษ์ผาพาทีพักหนึ่งแล้วร้องขึ้น ตบเข่าฉาด “ว่าแล้วไง คุณหนูน้ำเพชรมีดวงต้องออกจากงาน”
       “แล้วทำไมไม่บอกอั๊ว เห็นพูดแต่ว่าดี...ดี...ดีเจริญดี”
       “ก็คุณนายไม่ได้ถาม ถ้าถามฉันก็จะบอกแล้วตอนอยู่ก็เจริญดีใช่มั้ยล่ะ”
       “ลื้อนี่ดูแปลกๆ”
       “คุณเจ๊จ๋า...ดวงคนมันก็แบบนี้แหละ มีขึ้นมีลง แบบน้ำไง น้ำยังมีขึ้น น้ำลงก็เหมือนกับดวงคน”
      
       คืนนั้นน้ำเพชรยืนกอดอกที่หน้าต่างห้องทอดสายตามองออกไปยังยวดยาน พาหนะที่แล่นผ่านมาไปมา แต่สีหน้าเหมือนจดจ่ออยู่กับความคิดบางอย่าง จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นน้ำเพชรค่อยๆ เบือนหน้ามามองครู่หนึ่งแล้วเดินมาหยิบขึ้นดู น้ำเพชรชั่งใจครู่หนึ่งแล้วกดรับ
       “สวัสดีค่ะ... คุณลุง”
      
       น้ำเพชรเปิดประตูรับครรชิตเข้ามา
       “ขอโทษที่ต้องมารบกวนป่านนี้”
       น้ำเพชรปิดประตูล็อคกุญแจ แล้วหันกลับมา
       “เชิญข้างในดีกว่าค่ะ”
       น้ำเพชรพูดพลางเดินนำครรชิตเข้าข้างใน
       น้ำเพชรพาครรชิตมาที่ห้องรับแขก ครรชิตมองน้ำเพชรซึ่งกำลังรินน้ำให้
       “ลุงมาขอร้องให้หนูกลับไปทำงาน”
       “คงไม่ไหวแล้วละค่ะ ... น้ำวางตัวไม่ถูกที่จะต้องรับคำสั่งคุณปลาใหญ่ที่ภายในคือนายเซียนหรือต้องทำ ดีกับนายเซียน ที่ภายในคือคุณปลาใหญ่ น้ำกลับสมองไม่ทันเลยตัดสินใจออกเสียดีกว่า”
       “ลุงเองก็อยากทำอย่างนั้นเหมือนกัน แต่มันติดที่บุญคุณของคุณพ่อคุณปลาใหญ่ที่ชุบเลี้ยงลุงมา เพราะถ้าลุงออกก็เท่ากับปล่อยให้คุณก้องยืดมรดกทั้งหมดที่ท่านตั้งใจจะทิ้ง ไว้ให้ทายาทไปเป็นของตัวเอง”
       “มันก็ลำบากเหมือนกันนะคะที่ทายาทของท่านร่างกายกับจิตวิญญาณไม่ได้อยู่ด้วยกัน”
       “ใช่ ลุงยอมรับว่า บางทีมันก็ทำใจให้เชื่อได้ยาก ทั้งๆ ที่เราก็พิสูจน์กันหมดทุกอย่างแล้วว่า คุณปลาใหญ่คือ นายเซียน และนายเซียนคือคุณปลาใหญ่” น้ำเพชรถอนใจเฮือก “นี่ยังไม่ทันไร พอคุณก้องรู้ว่าหนูลาออกท่านก็จะส่งเลขามาแทนทันที”
       “อ้าว”
       “ลุงเลยบอกไปว่า หนูขอลาหยุด 1 วัน มะรืนนี้จะไปทำตามปกติ”
       “อ้าว”
       “หนูจะให้ลุงกราบลุงก็ยอม ขอเพียงแต่กลับไปทำงานแล้วก็ช่วยกันแก้ปัญหา ลุงจะไม่มีวันลืมบุญคุณของหนูเลย”
       “ขอเวลาหนูคิดหน่อยได้ไหมคะ”
       “ก็มีเวลาแค่พรุ่งนี้วันเดียวเท่านั้นแหละ”
       “แค่นั้นก็พอค่ะ”
       “ขอบใจมาก ลุงไม่รบกวนแล้ว”
       ครรชิตลุกขึ้น น้ำเพชรพาครรชิตออกไปเงียบๆ
       ครรชิตเดินออกมาหน้าร้านแล้วรับไหว้น้ำเพชร
       “ขอบใจล่วงหน้านะ”
       น้ำเพชรยิ้มแห้งๆ แล้วปิดประตู ครรชิตสูดลมหายใจยาว มองไปโดยรอบแล้วตัดสินใจบางอย่าง
      
       ที่บ้านชายสี่ ขณะนั้นชายสี่ มอม ป๋องกำลังนั่งกินข้าวกันไปคุยกันไป
       “คิดถึงไอ้เซียน หมู่นี้ค่ำลงก็อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ไม่แว้นท์ไม่อะไรทั้งนั้น”
       “ก็เพราะมันไม่ใช่ไอ้เซียนไง”
       “ชายสี่ มีคนมาหา” ลุงป่องตะโกนบอก
       “ใครวะ”
       ชายสี่ลุกเดินมาชะโงกดูจึงเห็นครรชิตยืนอยู่กับลุงป่อง
       “คุณคนนี้เขาเดินเก้ๆ กังๆ อยู่ปากซอย พอดีข้าเห็นเข้าเขาบอกว่าจะมาหาเอ็ง”
       “ขอบใจลุง เชิญครับ คุณครรชิต”
       ครรชิตพยักหน้าขอบใจลุงป่อง แล้วขึ้นบ้านชายสี่ไป
      
       ส่วนน้ำเพชรหลังจากส่งครรชิตแล้ว เธอก็กลับขึ้นห้อง ระหว่างนั้นปลาใหญ่ก็โทรเข้ามาหาเธอ
       “โทร.มาทำไม” น้ำเพชรถามเสียงห้วน
       “กลับมาทำงานด้วยกันเถอะ”
       “นายเป็นใครกันแน่”
       “ก็ปลาใหญ่ไง”
       “ท่านประธานต้องสุภาพกว่านี้ พูดจาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ใช่มะนาวไม่มีน้ำแบบนาย”
       “บอกแล้วว่าสมองผมกระทบกระเทือนหลังจากเกิดอุบัติเหตุ”
       “โกหก หมอบอกว่าสมองนายเป็นปกติ”
       “หมอจะมารู้ดีกว่าคนป่วยได้ไง”
       “เถียงข้างๆ คูๆ แบบนี้ไม่มีใครนอกจากนาย”
       “ผมจะเป็นใครก็สุดแล้วแต่คุณจะอยากให้เป็น ขออย่างเดียวกลับมาทำงานเถอะ”
       น้ำเพชรเม้มปาก นัยน์ตาเป็นประกายวาว
      
       ครรชิตมาคุยกับมอม ชายสี่ ป๋องเรื่องเซียน
       “ความจริง...คุณเชื่อหรือว่า วิญญาณของเจ้านายคุณอยู่ในตัวไอ้เซียน”
       มอมถาม ครรชิตมีสีหน้าใครครวญครุ่นคิด
       “ฉันไม่น่าเชื่อ แล้วฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ด้วยหลักฐานต่างๆ ทำให้ฉันเสี่ยงไม่ได้ ฉันจำเป็นหรือจะต้องรักษาไว้ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของเจ้านายฉัน” ครรชิตเบือนหน้ามามองทีละคน “ซึ่งหมายถึงนายเซียนเพื่อนของนายด้วย”
       “ฟังแล้วปวดหัวพิลึก”
       “สรุป ... พวกนายก็ต้องให้ความร่วมมือกับฉันเพื่อช่วยเพื่อนของนายซึ่งวิญญาณดันทะลึ่งเข้ามาอยู่ในร่างของคุณปลาใหญ่”
       “ลุงพูดเหมือนสองคนนั่นตกอยู่ในอันตราย”
       “ประมาณเอาว่าอย่างนั้นแหละ” ชายสี่ มอม ป๋องมองหน้ากันอย่างปรึกษาหารือ “หรือว่าพวกนายจะยอมเอาชีวิตเพื่อนมาเสี่ยง”
       “ถึงขนาดนั้นเลยเรอะ”
       “ฉันก็ตอบไม่ได้ รู้แต่ว่าเรื่องนี้ไม่ควรประมาท” สามหนุ่มเบือนหน้ากลับมามองครรชิต “เราต้องกลับมาเข้าแผนเดิม แต่จะลงรายละเอียดเพิ่มขึ้น”
       ทั้งหมดปรึกษากัน
      
       เช้าวันรุ่งขึ้นภายในห้องอาหารบ้านปลาใหญ่เกริกก้อง จันทร์ทิพย์ รัญญากำลังนั่งกินอาหารเช้า
       “เมื่อคืนรันคอแห้งนอนไม่ค่อยหลับเลย”
       “คุณรันไปรับประทานอาหารนอกบ้านมานี่คะ” สมทรงบอก
       “เกี่ยวอะไรด้วย”
       “สมทรงสันนิษฐานว่า ที่ร้านอาหารเขาคงใส่โมโนโซเดียมกลูตาเมทน่ะค่ะ”
       “แกจะพูดว่า ผงชูรสไม่ได้เรอะ” เกริกก้องบอกอย่างรำคาญ
       “สมทรงเขาสนใจเรื่องเคมีไงคะ เออ... ป่านนี้สองคนนั่นเขายังไม่ลงมาเลยเรอะ”
       “ถ้าหมายถึง คุณปลาใหญ่มันจะไม่ไปทำงานแล้วไงคะ” สมศรีบอก
       “ไอ้บ้านั่นมันเห็นแก่เงิน”
       เกริกก้องบอกด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด
      
       ที่หน้าบ้านเอ็กซ์คอยชำเลืองมองชายสี่ ที่เข้ามาเป็นคนขับรถคนใหม่ด้วยสีหน้าเฉยเมย เกริกก้อง จันทร์ทิพย์ รัญญาเดินออกมา เอ็กซ์ลุกขึ้น ชายสี่ลุกตาม แล้วทั้งสองเปิดประตูรถ เกริกก้องและจันทร์ทิพย์ขึ้นคันที่เอ็กซ์ขับ ขณะที่รัญญานั่งคันที่ชายสี่ขับ โดยรัญญาไม่ได้สังเกตว่าคนขับเปลี่ยนหน้าไปพราะเย่อหยิ่งเกินกว่าจะมองคนต่ำ กว่า
       รถทั้งสองคันแล่นตามกันไป ระหว่างนั้นรัญญากำลังส่งข้อความทางโทรศัพท์ สีหน้ายิ้มแย้มขบขันแต่แล้วเธอก็ชะงักเมื่อนึกขึ้นได้
       “เออ เดี๋ยวแวะไปร้านคุณแก้วก่อนนะ”
       “อยู่ที่ไหนครับ”
       รัญญาเงยหน้ามองแล้วนิ่วหน้า
       “เอ๊ะ นี่แก...”
       “ผมเป็นคนขับรถคนใหม่ครับ”
       “แล้วนายสิทธิ์ล่ะ”
       “ผมไม่ทราบครับ อ่าน น.ส.พ. เห็นเขารับสมัครคนขับรถก็เลยลองสมัครดู ปรากฏว่าคุณสมบัติพร้อม...”
       “พร้อมบ้าพร้อมบออะไร แกด่าฉัน ...”
       ชายสี่ยกมือไหว้ทันที
       “ผมต้องขอประทานโทษ” รัญญาร้องกรี๊ดด้วยรถส่ายไปมาเพราะชายสี่มัวแต่ปล่อยพวงมาลัย ชายสี่จับพวงมาลัยรถอย่างไม่รีบร้อน “ไม่ต้องตกใจครับ ... โบราณท่านว่า “ไม่ถึงที่ก็ไม่ตายวายชีวาตม์”
       “ไอ้บ้า แกจะรู้ได้ไงว่ามันถึงหรือไม่ถึงที่”
       “อ้าว ถ้าถึงที่ก็ตายไงครับ ว่าแต่ไอ้ร้านคุณแก้วคุณขวดนั่นมันอยู่ที่ไหนล่ะครับ”
      
       รัญญาเม้มปากแน่นมองชายสี่อย่างเกลียดชัง 
ขอขอบคุณจาก manager.co.th  
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ