อ่านละครปิ่นอนงค์ ตอน 18 วันที่ 15 ก.ค. 55

{[['']]}
 เสี่ยตงจอดรถอยู่ห่างๆ บังกะโล แล้วก้าวลงจากรถ ชักปืนออกมา มองหาลูกน้องทั้งสองคนที่นัดไว้ ก่อนหันมาบอกลูกน้องอีก 2 คนในรถ
      
       “แกสองคนรออยู่ตรงนี้ เข้าไปหลายคน มันจะรู้ตัวซะก่อน”
       จากนั้นเสี่ยตงเดินเข้าไปที่บังกะโล ท่าทีระแวดระวัง
       เสี่ยตงถือปืนตั้งท่าที่หน้าห้องบังกะโลหลังนั้น ค่อยๆ เปิดประตูเข้าห้องไป เล็งปืนไปที่เตียง เห็นใต้ผ้าห่มมีคนสองคนนอนอยู่ เห็นกิริยาคนใต้ผ้าห่มขยับไปมา เสี่ยตงยิ่งแค้นหน้ามืดยิงใส่ทันทีหลายนัด
       “นังแพศยา !
       ร่างในผ้าห่มนิ่งเงียบ เสี่ยตงเดินไปเปิดผ้าห่มดู แล้วตกตะลึง เพราะร่างใต้ผ้าห่มกลายเป็นลูกน้องตัวเองโดนมัดติดกัน ตายคาที่
       จังหวะนั้นครองสุขกับธีระเปิดประตูห้องน้ำออกมา เสี่ยตงสะดุ้งเหลียวมองไป
       ธีระจะยิงก่อน เสี่ยตงยิงสวนแล้วรีบวิ่งหนีออกจากห้องทันควัน
      
       เสี่ยตงวิ่งหนีออกมาที่รถ พอเปิดประตู เห็นลูกน้องคนหนึ่งคอตกโดนยิง พอมองไปที่นั่งคนขับ ลูกน้องอีกคนก็ตายคาที่ เจิดกับก้าน เดินออกมาจากที่ซ่อนเล็งปืนใส่เสี่ยตง
       ครองสุขกับธีระตามมาถึง ธีระเล็งปืนอีกกระบอกจ้องที่เสี่ยตง
       “แกติดปีกก็บินหนีไม่รอด”
       เสี่ยตงยกมือขึ้น รีบคุกเข่าร้องขอชีวิต พูดกับธีระ “ไว้ชีวิตฉันเถอะ ถ้าแกอยากได้เงิน ฉันจะให้”
       “แกใช้กำลังปล้ำฉันเป็นเมีย พอฉันไม่ยอม แกก็จะฆ่าหลานฉัน ฆ่าธีระคนที่ฉันรัก แกสมควรตาย” ครองสุขสร้างภาพ
       เสี่ยตงโมโห “มันโกหก มันยอมเป็นเมียฉันเอง แล้วยังบอกว่าแกเป็นแค่คนงานกระจอก มันไม่สนแกหรอก ถ้าฉันเป็นแก ฉันยิงมันไม่นับไปแล้ว”
       ธีระหันมามองครองสุข “อย่าไปเชื่อมันนะธีระ มันจะยุให้เราแตกคอกัน” ครองสุขร้องลั่น
       ธีระหันไปทางเสี่ย “แกเคยให้ลูกน้องซ้อมฉันเกือบตาย วันนี้ฉันจะให้แกได้ลิ้มรสความเจ็บปวดบ้าง เฮ้ย อัดมัน”
       เจิดกับก้านเก็บปืน เข้าไปซ้อมเสี่ยตง ทั้งเตะ ทั้งถีบ ธีระยืนมองด้วยความสะใจ
       ครองสุขยิ้มเยาะกอดแขนธีระ แต่แล้วมีเสียงปืนดังเปรี้ยง!
       ทุกคนตกใจมองหาเสียงปืนไม่รู้มาจากทิศทางไหน
       เสียงปืนดังอีกเปรี้ยง! ปืนถูกยิงมาอีกรอบ เจิดกับก้านรีบหาที่วิ่งหลบกันวุ่น
       เสี่ยตงถือโอกาสวิ่งหนีไปทางป่ารก ธีระยิงออกไปมั่วๆ
       “ไอ้หมาลอบกัด ออกมาสิวะ”
       ครองสุขวิ่งไปหลบข้างรถเสี่ยตง ธีระวิ่งตาม เจิดกะก้านตามมา
       ตรงมุมหนึ่งห่างออกไป มีที่กำบังไม่เห็นตัว เปี๊ยกกับถวิลถือปืนหลบอยู่
      
       เสี่ยตงวิ่งเตลิดหนีมา หันไปมองด้านหลังกลัวคนตาม เสี่ยตงไม่ทันมองข้างหน้า วิ่งชนกับคนที่ยืนขวางทางอยู่ เสี่ยตงชะงักเงยหน้ามอง เห็นใหญ่ยืนหน้าเหี้ยมจ้องมา เสี่ยตงตกตะลึง ถอยหลังไปหลายก้าวด้วยความหวาดกลัว ใหญ่ยิ้มโหด
       “คิดว่าลงนรกมาเจอฉันหรือเสี่ย”
       ใหญ่เล็งปืนไปหาเสี่ยตงเขม็ง เสี่ยตงถอยหลังคิดว่าใหญ่จะฆ่า
       “อย่า ๆ”
       สายตาเสี่ยตงพร่ามัวมองใหญ่ไม่ชัดเจน เสี่ยตงรู้สึกหัวหมุนติ้วๆ
       ใหญ่มองอาการเสี่ยตงอย่างแปลกใจ เสี่ยตงตาดำเหลือกขึ้นไปข้างบน เหลือแต่ตาขาว เสี่ยล้มฟุบหน้าทิ่มพื้นดิน ใหญ่ตกใจ
      
       เวลานั้นปิ่นอนงค์เกาะต้นไม้ชะเง้อชะแง้ไปทางหนึ่ง รอคอยใหญ่ จอมโผล่เข้ามาอีกทาง ปิ่นอนงค์ตกใจ
       “อ้าวจอม มาทำอะไรแถวนี้”
       “เราอยากคุยกับปิ่นเรื่องที่คุณนะพูด”
       “เรื่องอะไร”
       “คุณนะพูดถูก เราไม่มีอะไรเลย ทั้งที่ดิน เงินทอง ทรัพย์สินสู้คุณนะไม่ได้เลยสักอย่าง พูดตรงๆกับเราเถอะปิ่น ปิ่นจะแต่งงานกับคุณนะใช่มั้ย”
       ปิ่นอนงค์ส่ายหน้า “เราไม่ได้คิดอะไรกับคุณนะแล้ว อย่าลืมสิจอม คุณนะ แต่งงานแล้ว ปิ่นไม่มีวันเป็นมือที่สาม ทำให้คุณนะกับคุณอรต้องแตกแยกกันหรอก”
       จอมยิ้มสบายใจ “ได้ยินอย่างนี้ค่อยสบายใจหน่อย เราเชื่อมั่นในตัวปิ่นว่าปิ่นไม่โกหกเรา เรายังมีความหวัง”
       ปิ่นอนงค์อัดอั้นอยากบอกความจริง “แต่ว่า...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ขอให้จอมรู้ว่าปิ่นไม่เคยคิดจะทำร้ายจอม แต่จอมต้องรับปากกับปิ่น ต่อไปนี้จะไม่ทำร้ายใคร จะไม่ทำอะไรผิดๆ”
       จอมคิ้วขมวด “เดี๋ยวๆ ปิ่นพูดอะไรเราทำผิดอะไร ทำร้ายใคร เราไม่เข้าใจ”
       ปิ่นอนงค์สบตาจอม ถอนหายใจ จอมรีบพยักหน้าเข้าใจ
       “เอาเถอะเราจะทำตัวดีๆไป เรากลับกันเถอะ แถวนี้มันเปลี่ยวจะตาย ทีหลังอย่ามาคนเดียวนะปิ่น”
      
       จอมพยักหน้าเดินนำไป ปิ่นอนงค์เหลียวหลังหาใหญ่ล่อกแล่ก
ส่วนทางด้านครองสุขยืนอยู่ริมระเบียงคุยโทรศัพท์ หน้าเครียดกลุ้มใจหนัก
       
       “ไอ้เสี่ยมันหายไปได้ยังไง ชั้นไม่สบายใจเลยนะ ตีงูให้หลังหักอย่างนี้ไม่รู้มันจะแว้งมากัดเราอีกเมื่อไหร่”
       ที่แท้คุยกับธีระ “ถ้าอย่างนั้นผมก็กลับไปอยู่กับพี่ที่ไร่ได้แล้วสิครับ จะได้คอยปกป้อง คุ้มครองพี่ อย่าลืมคืนตำแหน่งผู้จัดการไร่ให้ผมด้วยก็แล้วกัน”
       ครองสุขหรี่ตามองลงไปข้างล่าง เห็นจอมเดินมาส่งปิ่นอนงค์
       ปิ่นอนงค์โบกมือน้อยๆ ลาจอม แล้วออกไป จอมมองตาม
       “ฮัลโหล ฮัลโหล พี่ครับ พี่”
       สีหน้าครองสุขมองจอมแล้วอมยิ้ม อยากกินหญ้าอ่อน จอมออกไป
       ทัศนีย์เข้ามาเห็นครองสุข ทัศนีย์ยิ้มจะเดินไปหา ชะงักหลบแอบฟัง
       ธีระมองโทรศัพท์งงๆ เห็นครองสุขเงียบไปนาน “ฮัลโหล พี่ครับ”
       ครองสุขยิ้มเครียด “อ๋อ...ได้สิได้ตามที่เธอขอ พรุ่งนี้ชั้นจะไปรับเธอด้วยตัวพี่เองเลย ดีไม่ดีไอ้เสี่ยอาจจะโดนฆ่าตายไปแล้วก็ได้”
       ครองสุข ยิ้มเหี้ยม กดวางสาย เดินไป
       ทัศนีย์มองตาม สงสัยใคร่รู้
      
       ปิ่นอนงค์เช็ดถูกระจกด้านนอกบ้าน ทัศนีย์เข้ามาดึงไป ปิ่นอนงค์ตกใจสงสัย ทัศนีย์เหลียวระแวงกลัวคนได้ยิน
       “คุณน้ากลับมาแล้ว แต่ไม่เห็นไอ้เสี่ย ไม่รู้หายไปไหน แปลกจริงๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
       “ปิ่นก็รอฟังข่าวอยู่เหมือนกันค่ะ”
       ทัศนีย์จ้องปิ่นอนงค์แววตาสงสัย “นี่ถามจริงๆ ปิ่น เธอใช้ใครไปช่วยคุณน้า”
       ปิ่นอนงค์ชะงักคิดคำแก้ตัว “เออะ...อ๋อ...ลุงหวินค่ะ” รีบเปลี่ยนเรื่อง “แล้วคุณนีล่ะคะมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณน้าบ้างรึยัง”
       “พยายามหาช่องอยู่ เรื่องสำคัญขนาดนี้ให้กลับเนื้อกลับตัวมันไม่ได้พูดกันง่ายๆ แต่วันพรุ่งนี้รับรอง เธอต้องได้ฟังเรื่องดีๆ จากชั้นแน่”
       ปิ่นอนงค์งง ส้วนทัศนีย์ยิ้มกระหยิ่ม
      
       คืนนั้นปิ่นอนงค์สวมชุดนอน มุนผมด้วยผ้าเช็ดตัวซับผมให้แห้ง จู่ๆ ใหญ่เข้ามาโอบตัวจากด้านหลัง ปิ่นอนงค์ตกใจจะร้อง ใหญ่ปิดปาก ค่อยๆ จับหันมา แล้วหอมแก้มปิ่นอนงค์ฟอดหนึ่ง ใหญ่ยังมีผ้าขาวม้าพันหน้าอยู่
       เวลาผ่านไปใหญ่โดนลูบเรือนผมเบาๆ นอนหนุนตักปิ่นอนงค์ที่พิงหัวนอนเตียงอยู่
       “ตั้งใจจะไปรักษาชีวิตนังคุณนายแต่กลับกลายต้องมาดูแลเสี่ยตง คุณนายนี่สารพัดพิษจริงๆ เล่นงานไอ้เสี่ยตงจนคางเหลืองยังไม่ฟื้นเลยนะปิ่น”
       “ระวังตัวดีๆนะคะ เสี่ยตงก็ร้ายไม่ใช่เล่นเหมือนกัน”
       “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เราจัดให้อยู่ในเซฟเฮ้าส์เฝ้าไม่ให้คลาดสายตา ฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ค่อยสอบปากคำมัน”
       “คุณนีก็บอกจะได้เรื่องบางอย่างจากคุณนายพรุ่งนี้เหมือนกันค่ะ”
       ใหญ่ลุกใส่เสื้อ คลุมผ้าพันหัวบังหน้า ชะโงกหน้าจูบปิ่นอนงค์ที่หน้าผาก แล้วจูบที่แก้มเบาๆ
       “รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีล่ะ”
       “คุณใหญ่ก็เหมือนกันนะคะ”
       “ฉันน่ะมันแมวเก้าชีวิต ไม่ต้องห่วง”
       “อย่าประมาทค่ะ”
       ใหญ่พยักหน้ารีบปินหน้าต่างหนีไป ปิ่นอนงค์มองตาอย่างห่วงใย
      
       ส่วนเปี๊ยกกำลังจูบแก้มหวานแล้วเอาผ้าขาวม้าพันพรางหน้า ปล่อยตัวจากขอบหน้าต่างหายวูบไป
       หวานปะแป้งนุ่งกระโจมอก
      
       เปี๊ยกเดินตะคุ่มๆ มา จู่ๆ มีไฟฉายส่องวาบจับตัวเปี๊ยก
       “หยุด ยกมือขึ้น คุกเข่า”
       เปี๊ยกยกมือ สมุนเสี่ยตง เล็งปืนใส่เปี๊ยก
       สมุนคนหนึ่งถือไฟฉาย พร้อมปืนเดินเข้ามา “จับมันมัดเอาผ้าขาวม้าที่พันหน้ามันนั่นแหละ”
       สมุนอีกคนเหน็บปืนที่หลัง ยื่นมือจะกระชากผ้าขาวม้าที่หน้าเปี๊ยก
       แต่จังหวะนั้นมี ไม้โผล่เข้ามาก่อน ตีที่มือสมุน ปืนลั่นลงดิน ดังปัง พอปืนหล่น สมุนเสี่ยตง ฉายไฟใส่เห็นเป็นใหญ่ กำลังหวดไม้อีกทีเข้าคางสมุน หงายเงิบหลับไป
       เปี๊ยกกอดขาสมุนเสี่ยตงอีกคน แล้วยกจนสมุน ล้มลง เปี๊ยกกระโดดเข้าเตะเสยหน้า สมุนหงายเงิบหลับไปเช่นกัน
      
       เปี๊ยกกะใหญ่โผเข้ามาตรงพุ่มไม้ ยินเสียงม้าร้องแล้ววิ่งออกไป
เวลาต่อมาที่หน้าเรือนคนงาน สมุนสองคน นั่งเช็ดเลือดที่มุมปากคนละข้าง หมู่มวลคนงานยืนเมียงมองหน้าตื่นตกใจ คนงานชายถือมีดพร้า อาการงงๆ
      
       ครองสุขยืนเท้าสะเอว ประกาศกร้าว “พวกแกเคยยิงใครโดนมั่งมั้ย ปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ยังไง” ชี้หน้ากราด “เดี๋ยวแม่ก็ตบล้างตำบลซะนี่”
       จอมถือปืนลูกซองยืนเยื้องหลังครองสุข
       ปิ่นอนงค์กับหวานยืนอยู่อีกมุม
       “ก็เหลือแค่สองคนเองนี่ครับ” สมุนที่ถูกใหญ่จัดการบ่น
       “ก็ไปตามที่บ่อนมาเพิ่ม เอามือถึง ใจถึง พวกไก่กาไม่ต้องเสนอหน้ามา”
       พูดจบครองสุขเดินออกไป พูดพึมพำเบาๆ “หรือมันจะเป็นไอ้เสี่ยตง”
       ครองสุขร้อนใจเดินออกไปทันที
       ปิ่นอนงค์หลบตาจอม จอมหันไปสั่งคนงาน “พวกผู้ชาย ไปเบิกปืนที่ชั้นคอยดูแลที่เรือนใหญ่
      
       วันต่อมา ที่มุมหนึ่งในไร่ มีรถมอเตอร์ไซค์ 4 คันจอดอยู่ ครองสุข ยืนพิงรถดูสมุนที่ยืนเรียงแถวกันรวมแล้ว 7 คน มี 2 คนหน้านิ่งตาแข็ง
       “ต่อไปนี้ชั้นคือเจ้านายคนใหม่ของพวกแก ทำตามที่ชั้นสั่งก็พอ ศัตรูของเรามันร้ายมาก พวกแกต้องตายไปกี่คนแถมเสี่ยยังถูกอุ้มไปอีก ขอให้ทุกคนเข้มงวดกับบุคคล รถราที่เข้าออกไร่ไพศาลทุกคัน ใครจะเข้าจะออกซักให้ละเอียด”
       ครองสุขเปิดประตูรถ หยิบถุงผ้าโยนไปที่สมุนที่อาวุโสสุด
       เวลาเดียวกันที่อีกมุม ทัศนีย์แอบมองผ่านกระจกหน้ารถไกลๆ
       “ในนั้นมีอยู่แสนสี่แบ่งๆ กันไปเท่าๆ กัน ถ้ามีงานพิเศษก็ได้เพิ่มอีกเป็นคนๆ ไป”
       สมุนอาวุโสเดินแจกเงิน ครองสุขขึ้นรถขับออกไป
      
       ธีระยืนกอดอก พิงหน้ารถอยู่ตรงที่เปลี่ยวติดบึงน้ำ ยิ้มแย้มครองสุขขับรถเข้ามาจอด ลงจากรถ
       “เตรียมตัวพร้อมแล้วใช่มั้ยคุณผู้จัดการรีเทิร์น” ครองสุขแซว
       ธีระยิ้มกริ่ม “พร้อมตลอด 24 ชม.ครับพี่ แต่สงสัยว่าทำไมต้องนัดมารับผมแถวนี้ด้วย”
       “ที่ตรงนี้พี่จะซื้อให้เธอเป็นของขวัญไงล่ะ เธอจะได้เอาไว้ฝังตัวเองตอนตาย”
       ธีระสะดุ้งกับคำพูดครองสุข เสียงรถแบบเดียวกับเคยขับเหยียบผาวิ่งมาข้างหลังธีระ เห็นเจิดกับก้านเป็นคนขับ
       ธีระหันขวับมาทางครองสุข “แกหลอกฉัน”
       ครองสุขทิ่มมีดไปที่ท้องธีระเต็มแรง ธีระกุมท้องทรุดกองกับพื้น ครองสุขรีบถอยออกห่างกะให้รถเหยียบซ้ำ
       รถพุ่งเข้าหาธีระเกือบเหยียบอยู่แล้ว แต่ธีระกลิ้งหลบพ้นล้อไปได้ เจิดก้านหยุดรถหันมามองด้านหลัง
       ธีระกัดฟันลุก วิ่งไปที่บึง กระโจนลงน้ำ เจิดกะก้านกระโดดลงจากรถตามติด
       เจิดกะก้านยืนที่ริมบึง ยิงใส่ไปในน้ำเพราะไม่เห็นตัวธีระ เห็นแต่เลือดแดงฉานกระจายขึ้นมาบนผิวน้ำ
       ครองสุขวิ่งมาดูยืนข้างเจิดกับก้าน มองหาธีระ ร่างธีระลอยขึ้นมาในลักษณะคว่ำหน้า ครองสุขคิดว่าตายโล่งใจ
       ครองสุขส่งซองเงินให้เจิด “รางวัลที่แกยอมหักหลังมัน”
       เจิดรีบรับไป เปิดซองดูกับก้าน ตาโต “ขอบคุณครับคุณนาย”
       ก้านผสมโรง “ไอ้ธีระโคตรขี้เหนียวแบ่งให้พวกผมแค่เศษเงิน คุณนายจ่ายหนักแบบนี้ ผมยอมตายแทนได้เลย”
       ครองสุขยิ้มเหยียดเพราะรู้ว่า สองคนตอแหล “มีงานอะไรอีกฉันจะติดต่อไป แต่จำไว้ถ้าแกทำกับฉันเหมือนทำกับไอ้ธีระ แกสองคนจะมีสภาพเดียวกับมัน”
      
       ที่หลังพุ่มไม้เวลานั้น ทัศนีย์แอบดูอยู่ ปิดปากตาเหลือก ถอยหนี แต่ดันสะดุดรากไม้ล้ม ครองสุขได้ยินเสียงหันไปมอง เห็นหลังทัศนีย์ไวๆ วิ่งหนีไปทางถนน
       เจิดกะก้านจะตาม ครองสุขจำทัศนีย์ได้รีบสั่ง “ไม่ต้อง ฉันจัดการเอง พวกแกทำลายหลักฐานแล้วรีบไปซะครองสุขตามทัศนีย์ไป
      
       ทัศนีย์ช็อกร้องไห้ไป ขับรถไป มือไม้สั่น รถครองสุขขับปาดหน้า ทัศนีย์ตกใจเบรกตัวโก่ง พุ่งเข้าหาพวงมาลัยรถ กระแทกมือกับแขนตัวเอง
       ทัศนีย์ฟุบหน้ากับพวงมาลัยรถสะอื้นตัวโยน ค่อยๆ เหลือบตามองรถครองสุข เห็นแต่ความว่างเปล่า
       จังหวะนั้น มีเสียงเคาะกระจก ทัศนีย์หันไปมองกระจกประตูขวาตัวเอง แล้วสะดุ้งสุดตัว มองผ่านกระจก เห็นครองสุขบอกหน้าตาเฉยชา
       “เปิดประตู”
       ครองสุขเปิดประตูอีกด้าน ขึ้นไปนั่ง
       ครองสุขลูบหัวนี แผ่วเบา หน้าตานิ่งเฉย “ลืมเรื่องที่เห็นซะทัศนีย์ ที่ฉันต้องทำอย่างนี้เพราะมันขู่จะฆ่าฉันก่อน มันขู่จะแฉเรื่องของฉัน ฉันต้องปกป้องตัวเอง หรือว่าแกอยากเห็นฉันต้องตาย หรือต้องติดคุก”
       “ก็ไม่เห็นต้องฆ่ากันตาย คุณน้าใจร้าย คุณน้าฆ่าคนมากี่คนแล้วแม้แต่ป้าอุ่นคุณน้าก็ไม่เว้น”
       ครองสุขเหยียดยิ้ม “เห็นมั้ย แกก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ศพแรก ขนาดไอ้ผาพ่อของแกชั้นยังฆ่าเองกับมือ”
       ครองสุขบีบแก้มทัศนีย์เป็นเชิงขู่ไม่ได้คิดฆ่าจริง “ถึงแกจะเป็นลูกของชั้น แต่ถ้าแกอกตัญญูกับฉัน พูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง ชั้นก็จะไม่ปล่อยแกเอาไว้เหมือนกัน”
       ครองสุขผลักหน้าทัศนีย์เต็มแรง แล้วกลับไปขึ้นรถ ขับออกไป
       ทัศนีย์กลัวตื่นตระหนก คิดว่าแม่ต้องทำได้จริงๆ
      
       ทัศนีย์ตัวสั่นไปมา เปิดห้องนอนจะเข้าไป จู่ๆ มือปิ่นอนงค์มาจับแขนไว้ ทัศนีย์สะดุ้ง หันไปเห็นปิ่นอนงค์
       “ว่ายังไงคะ คุณนีตามคุณนายไป ได้ข่าวอะไรมาบ้าง”
       ทัศนีย์หวาดผวาหลบตาไปมา ท่าทางหวาดกลัว “คุณนี คุณนี เป็นอะไรคะ”
       ทัศนีย์สะบัดมือปิ่นอนงค์ ร้องโวยวาย กดดันหนัก
       “อย่ามาเซ้าซี้ได้มั้ย ชั้นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”
       ทัศนีย์กระแทกประตูปิดดังโครม แล้วเดินหนี
       ปิ่นอนงค์ตกใจ งุนงงว่าทัศนีย์เป็นอะไร
      
       ทัศนีย์นั่งเหม่อลอยพิงต้นไม้ ปานเทพคลุมผ้าขาวม้าใส่หมวกมีปีกกว้างแบบคนงานบังหน้า ย่องมาแอบดู แต่ดันโดนรังมดกัด จนสะดุ้งปัดมด ลุกยืนร้องโวยวายออกมา ทัศนีย์หันมาเห็นตกใจตาเหลือก
       “นาย นายปาน”
       ทัศนีย์ตกใจลนลานลุกวิ่งหนี แหกปากร้อง “ช่วยด้วย”
       ปานเทพวิ่งตาม “เฮ้ย อย่าส่งเสียงดัง เดี๋ยวก่อน”
       พอวิ่งมาทัน รวบตัวได้ ปานเทพเสียงดุ ทัศนีย์ร้อง ดิ้นพล่าน “หยุดร้อง เงียบ ไม่งั้นฉันจูบจริงๆ ด้วย”
       ทัศนีย์หยุดดิ้นอัดอั้นกับเรื่องที่เพิ่งเจอมา จ้องตาปานเทพ แล้วร้องไห้โฮออกมา
       ปานเทพตกใจ “เป็นอะไร ฉันแกล้งขู่ ไม่ได้จูบจริงๆ หรอกน่า”
       ทัศนีย์ขยุ้มอกเสื้อปานเทพเขย่าๆ “นายอยากจับชั้นเอาไปขังไว้ที่ไหนก็เอาเลย จะเอาชั้นไปฆ่าก็ได้ ชั้นอยากตาย ชั้นไม่อยากอยู่รับรู้เรื่องบ้าๆอะไรอีกแล้วฉันกลัว”
       ทัศนีย์ร้องไห้โฮ
       ปานเทพอึ้ง สงสารจับใจ ค่อยๆ จับหัวทัศนีย์ดึงมาซบอก ลูบหลังโดยไม่พูดอะไร ทัศนีย์ยิ่งร้องจนตัวโยน แต่ลึกๆ ก็รู้สึกอบอุ่นใจ
      
       จอมเหงื่อโชกเปิดประตูห้องครองสุขเข้ามาหน้าตาตื่น
       ครองสุขอยู่ในชุดคลุมไขว่ห้างอยู่บนเตียง มองจอมแล้วยิ้ม
       จอมกวาดตามองรอบห้อง “คุณนายเรียกผมมาที่ห้องนอน เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ
       ครองสุขเดินไปปิดประตูล็อก “อะไรกัน เธอรับใช้ชั้นมาตั้งนานเรียกมาคุยธุระในห้องนอนไม่เห็นจะแปลก” แล้วขึ้นเตียงไป นั่งพิงหัวเตียงเหยียดขาซ้อนกัน
       “ธุระ ธุระอะไรครับ”
       จอมหลบตาไม่กล้ามองขาครองสุขที่แพลมชุดคลุมที่แหวกแคบๆ เห็นเนื้อเนียน
       “ชั้นจะตั้งเธอเป็นผู้จัดการของไร่ไพศาล คงไม่มีอะไรขัดข้องใช่มั้ย”
       จอมอึ้ง ดีใจ นิ่งคิดถึงอนาคตกับปิ่นอนงค์ “เป็นความจริงหรือครับ”
       “เธอทำงานดี ก็สมควรที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง
       จอมก้าวไปหาครองสุขใกล้ๆ เตียงพนมมือไหว้
       “ขอบคุณครับ ผมสัญญา ผมจะตั้งใจทำงานรับใช้คุณนายให้ดีที่สุด”
       ครองสุขขยับตัว กระชากจอมล้มลงบนเตียง จนจอมกระดุมเสื้อขาด เผยอกแกร่ง
       ครองสุขตะแคงตัวเอาแขนกับมือกดอกจอม จอมตกใจ
       “แล้วไม่คิดจะตอบแทนอะไรชั้นบ้างเหรอ”
       ครองสุขพลิกตัวขึ้นทับตัวจอม ระดมจูบไปมา
       “อย่า อย่าครับคุณนาย อย่าๆ...”
       จอมปัดป้องไปมา พลิกตัวลุกได้ ถอยไปยืนกลางห้อง สูดลมหายใจ
       ครองสุขลุกขึ้น โกรธจัด “ทำไม ชั้นมันน่ารังเกียจตรงไหน จะเล่นตัวไปทำไม”
       จอมถอยหลัง “เปล่าครับ ผม...ผมรักปิ่นคนเดียว ผมจะแต่งงานกับปิ่นขอโทษจริงๆ ครับ”
       จอมเปิดประตู ออกไป ครองสุขโกรธจิกตามองตาม
      
       จอมก้มหน้าก้มตา เช็ดเหงื่อ ขยับเสื้อ เงยหน้ามาเจอปิ่นอนงค์พอดี
       ปิ่นอนงค์ถูพื้นอยู่ ตกใจ ตาโต
       “ที่ปิ่นได้ยินคนงานเขาพูดกันว่าจอมกับคุณนาย...นี่มันจริงหรือ”
       จอมยิ้มแหยๆ ขยับเข้าหาปิ่น อ้าปากจะอธิบาย แต่โดนปิ่นอนงค์ตบหน้าก่อน จอมหน้าหัน ตกใจที่ถูกปิ่นอนงค์ตบ
       “ไม่มีศักดิ์ศรี นี่นะเหรอที่จอมเคยบอกว่าจะสร้างอนาคต เธอสร้างอนาคตด้วยวิธีนี้เหรอ”
       จอมมองปิ่นอนงค์อย่างช้ำใจ ส่ายหน้าช้าๆ “เราเชื่อมั่นปิ่นทุกอย่าง ปิ่นบอกเราว่าแต่งงานกับคุณใหญ่เพราะความจำเป็นเราก็เชื่อ ปิ่นบอกไม่รักคุณนะแล้วเราก็เชื่อ แต่ปิ่นไม่เคยเชื่อมั่นในตัวเราเลย”
       จอมน้อยใจเดินกระแทกเท้าปึงๆ ออกไป ปิ่นอนงค์มองตามอ้ำอึ้ง สับสน
       ครองสุข เปิดประตูออกมา ทำผมกระเซิง แบะๆอกเสื้อคลุม รีบเล่นละคร มองตามจอมไปตาละห้อย
       ครองสุขมองปิ่นอนงค์ “จอมเค้าเก่งนะ ลีลาท่าทางดุดันเหมือนตัวเขาเลย”
       ปิ่นอนงค์เบือนหน้าหนี “ขอโทษค่ะ ปิ่นขอตัวไปทำงาน” แล้วหิ้วถัง ถือไม้ถูพื้นไปเร็วรี่
       ครองสุขมองตามสายตาเคียดแค้นชิงชัง
       “นังสาระแน ตานะก็หลงแก ไอ้จอมก็รักแก แกมีอะไรดีกว่าชั้น”
      
       ครองสุขโกรธตาลุกเป็นไฟ
ขอขอบคุณจาก manager.co.th 
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ