อ่านละครภูผาแพรไหม ตอน 13 วันที่ 7 ก.ค. 55

{[['']]}
วนิดาเดินไปเดินมาในบ้านอย่างร้อนใจ ศุภลักษณ์เดินไปยืนประจันหน้าแล้วมองอย่างคาดคั้น แพรไหม กับน้อยยืนเยื้องออกไป
       “เธอรู้เห็นด้วยใช่ไหม ... วนิดา” ศุภลักษณ์คาดคั้น
       “ดาไม่ได้ตั้งใจ...ไม่ได้อยากให้เรื่องมันรุนแรงถึงขนาดนี้ ดาแค่อยากจะช่วยลูก...มันเป็นอุบัติเหตุนะคะพี่ดา ... แต่เขา...เขาตายไปเอง”
       ศุภลักษณ์ แพรไหม และน้อยตกใจ วนิดาทำท่าจะเดินหนีไปแต่น้อยเดินตามไปดักหน้า
       “อ๋อ...ที่คุณพันทิญาพาคุณพิพัฒน์ไปวันนั้น...คือล่อลวงไปทำร้ายใช่ ไหมคะ ต๊าย...เหมือนในหนังฆาตกรรมเลยนะคะ เอ้ะ....แล้วที่มีคนบุกเข้าไปขู่ฆ่าคุณแพรถึงในห้อง...ก็คุณทำใช่ไหมคะ” น้อยพูดออกมา
       วนิดาไม่พอใจ “อย่ามากล่าวหาฉันนะ”
       “ก็มันจริงไหมล่ะคะ ... น้อยเห็นจดหมายขู่ฆ่ากับตา. .. นี่คงกลัวว่า คุณแพรจะได้ดีกินหน้าเกินตาลูกสาวตัวเองล่ะสิคะ”
       ศุภลักษณ์หันไปหาแพรไหมแล้วเอ่ยถาม
       “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมไม่บอกแม่”
       “แพรกลัวว่าคุณแม่จะไม่สบายใจ...อีกอย่างแพรก็ไม่คิดว่ามันจะเป็น เรื่องจริงจังจนวันที่มีคนไปดักยิงแพรที่ร้าน แพรถึงได้กล้าบอกคุณแม่” แพรไหมบอก
       ศุภลักษณ์คาดคั้นทันที “ฝีมือแกใช่ไหม...วนิดา...ใช่ไหม”
       “ดาไม่ได้คิดจะฆ่ายายแพรจริงๆนะคะ....แค่อยากจะขู่ ให้ยายแพรเลิกยุ่งเกี่ยวกับเจ้าแสงฉาย...เพราะรู้ว่า พันรักเจ้า... ดาต้องการแค่นั้น...ไม่ได้อยากให้ใครตาย จะให้ดาสาบานที่ไหนก็ได้ ...ยายแพรก็เป็นหลาน...ดาเห็นมาแต่เล็กแต่น้อยดาฆ่าไม่ลงหรอก”
       ศุภลักษณ์รู้สึกเสียใจมาก “เสียแรงที่ฉันไว้ใจ...เลี้ยงดูแกกับลูกมาอย่างดี สิ่งที่ฉันทำ...มันไม่ช่วยให้แกรู้ผิดชอบชั่วดีเลยใช่ไหม…ฉันเสียใจจริงๆที่ มีน้องอย่างแก”
       ศุภลักษณ์ตบหน้าวนิดาเต็มแรง วนิดาเอาแต่ยืนร้องไห้ ทันใดนั้นก็มีเสียงรถแล่นเข้ามา น้อยเดินไปชะโงกดู
      
       รถตำรวจท้องที่แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ทวีปเดินนำตำรวจ 5 นายลงมาจากรถ น้อยหันไปบอกศุภลักษณ์ด้วยท่าทีตกใจ
       “ตำรวจมากันเต็มเลยค่ะ .... คุณผู้หญิง”
       วนิดาตกใจ “ไม่ .... ฉันไม่ได้ทำ”
       วนิดาตกใจแล้วก็ลนลานหนีขึ้นไปด้านบน
       แพรไหมกับศุภลักษณ์หันไปมองหน้ากัน
       “แพร ... ไปรับหน้าตำรวจไว้ก่อน ... เดี๋ยวแม่จะขึ้นไปดูน้าดา”
       แพรไหมรับคำ “ค่ะ คุณแม่”
       แพรไหมเดินเลี่ยงออกไป ศุภลักษณ์รู้สึกหนักใจขึ้นมาอย่างรุนแรง
      
       เวลาผ่านไป ทวีปนั่งอยู่ในห้องรับแขก เขาลุกขึ้นเมื่อเห็นแพรไหมเดินออกมา
       “คุณแพรไหม...กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” ทวีปถาม
       “เมื่อซักครู่นี้เองค่ะ” แพรไหมตอบ
       “แล้วไอ้ภูล่ะครับ”
       “เดี๋ยวคงกลับมามั๊งคะ ... พอดีฉันขโมยรถเขาหนีมาก่อน”
       ทวีปทำท่าจะถามต่อ แต่แพรไหมรีบตัดบท
       “ฉันเสียใจด้วยนะคะ เรื่องคุณแก้ว”
       ทวีปมีสีหน้าเศร้าไป “ขอบคุณครับ”
       “คุณแก้วคงรักคุณภูผามาก”
       “แต่น่าเสียดาย ที่ไอ้ภูมันเห็นว่าแก้วเป็นแค่น้อง” ทวีปบอก
       “ฉันอยากจะไปขออโหสิกรรมกับคุณแก้ว อย่างน้อยฉันก็มีส่วนทำให้คุณแก้วไม่สบายใจ...เรื่องคุณภูผา”
       “ถ้าคุณว่าง ... เชิญไปฟังพระสวดอภิธรรมที่วัดสิครับ ... วันนี้ สวดเป็นวันสุดท้าย”
       “ฉันไปแน่ค่ะ .... ไม่ทราบว่า คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
       ทวีปมีสีหน้าจริงจังขึ้น
      
       วนิดาเดินเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูล๊อคกลอนอย่างแน่นหนา เธอยืนนิ่งเพราะคิดหนักว่าจะทำอย่างไรต่อไป แล้วน้ำตาของเธอก็รินไหลออกมาเป็นทาง
       ศุภลักษณ์เดินนำน้อยมาที่หน้าประตูห้องของวนิดา
       “ดา .... ถึงเวลาแล้วนะที่เธอต้องเผชิญหน้ากับความจริง...ออกมามอบตัวกับตำรวจเถอะ ... พี่จะหาทนายมาสู้คดีช่วยเธอเอง”
       วนิดาเดินไปทรุดตัวลงนั่งที่เตียงแล้วหยิบภาพถ่ายระหว่างเธอกับพันทิญาขึ้นมาลูบด้วยความรัก
       “พัน...ลูกแม่... ยกโทษให้แม่ด้วย... แม่ผิดเองที่สอนให้ลูกเป็นคนเห็นแก่ตัว เจ้าคิดเจ้าแค้น อิจฉาริษยายายแพร...แม่ผิดเอง”
       วนิดาเอารูปพันทิญาขึ้นมาแนบอกแล้วร้องไห้ด้วยความเสียใจในสิ่งที่ทำมา
      
       ที่หน้าห้องของวนิดา ศุภลักษณ์ยืนอยู่กับน้อยด้วยท่าทีร้อนใจ
       “ดา ... ออกมาคุยกับพี่ ... ยังไงเราก็เป็นพี่น้องกัน...พี่ไม่มีวันทิ้งดาหรอกนะ”
       น้อยพยายามเปิดประตูแต่ก็เปิดไม่ออก เธอจึงหันไปถามศุภลักษณ์
       “พังเข้าไปเลยไหมคะ”
       “แกก็พังเข้าไปสิ”
       น้อยถอยหลังไปและตั้งท่ากำลังจะพุ่งเข้ากระแทกประตู ทันใดนั้นวนิดาก็เปิดประตูออกมาพร้อมกระเป๋า ศุภลักษณ์มองอย่างแปลกใจ
       “ดา ... จะไปไหน” ศุภลักษณ์ถาม
       “ดาจะไปตามทางของดา ... อย่ามายุ่ง” วนิดาบอก
       ศุภลักษณ์ยืนเผชิญหน้ากับวนิดา
      
       แพรไหมเดินมากับทวีปที่หน้าบ้าน โดยมีตำรวจเดินตาม
       “ผู้ต้องหาที่ตำรวจจับได้ ซักทอดว่าคุณวนิดาเป็นผู้จ้างวาน ผมก็เลยต้องมาสอบปากคำคุณน้าของคุณ”
       “น้าดาจะทำไปเพื่ออะไรคะ... เงินทอง คุณแม่ก็ให้ใช้ทุกเดือน” แพรไหมแปลกใจ
       “อาจจะเป็นการอำพรางคดีก็ได้ .... ผมกำลังสงสัยว่า น้าของคุณกับคุณพันทิญาเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของคุณพิพัฒน์”
       “พบคุณพิพัฒน์แล้วเหรอคะ” แพรไหมถาม
       “ยังครับ...เรากำลังสืบหาร่องรอยการหายตัว... ผมคิดว่าคุณพันทิญาน่าจะเกี่ยวข้อง”
       “เหรอคะ”
       “ครับ.....วันที่เกิดเหตุ... คุณพิพัฒน์นัดกับคุณพันทิญา...แต่พอคุณพิพิธมาถาม คุณพันทิญากลับปฏิเสธ .... ทั้งที่กล้องซีซีทีวี จับภาพที่ทั้งคู่นังรถไปด้วยกัน ต่อจากนั้น คนที่ขโมยรถของคุณพิพัฒน์ก็ถูกจับได้”
       แพรไหมอึ้ง ทันใดนั้นเสียงรถที่หน้าบ้านก็ดังขึ้น
      
       วนิดาหลบออกมาทางด้านหลัง เธอเดินมาขึ้นรถเพื่อจะขับรถหนีไป รถของพิพิธแล่นเข้ามาจอด วนิดาเปิดประตูออกมา พิพิธก้าวลงจากรถแล้วเดินไปดักไว้
       “คิดว่าจะหนีไปง่ายๆเหรอ” พิพิธพูด
       วนิดาไล่ “หลีกไป”
       “ไม่หลีก ... บอกมา ....พี่ชายผมอยู่ที่ไหน…”
       “ฉันไม่รู้”
       วนิดาผลักพิพิธแล้วทำท่าจะวิ่งหนี พิพิธตามไปกระชากแขนวนิดาให้กลับมา
       “จนป่านนี้ คุณยังกล้าโกหก... คิดเหรอว่า ตำรวจจะเชื่อ คนที่คุณจ้างให้เอารถพี่พิพัฒน์ไปขาย...มันสารภาพกับตำรวจหมดแล้ว ยังไงคุณก็หนีไม่รอดหรอก”
       วนิดาดิ้นรน “ปล่อยฉัน”
       “ไม่ปล่อย...บอกมาก่อน เอาพี่พิพัฒน์ไปไว้ที่ไหน ....บอกมา...”
       พิพิธบีบคอวนิดาด้วยความโกรธ วนิดาพยายามดิ้นรนขัดขืน ตำรวจหลายนายวิ่งเข้ามาแยกพิพิธออกมาจากวนิดา แพรไหมเดินนำทวีป ศุภลักษณ์ และน้อยตามออกมา
       “คุณพิพิธ...ใจเย็นๆ.... เดี๋ยวตำรวจจัดการเองครับ” ทวีปกล่อม
       พิพิธยืนซึมก่อนจะหันไปมองทวีปด้วยตาแดง ทวีปหันไปมองวนิดาแล้วพูดนิ่งๆ
       “คุณมีสิทธิ์ที่จะให้การในชั้นศาล... แต่ตอนนี้ เราคงต้องควบคุมตัวคุณไว้ก่อนเพื่อทำการสอบสวน...คุณมีสิทธิ์ที่จะยื่นขอ ประกันตัวออกมาสู้คดี”
       วนิดาเครียดจัด พิพิธหันไปมองวนิดาอย่างโกรธแค้น
       “ผมแค่อยากรู้ว่าพี่ชายผมอยู่ที่ไหน”
       ศุภลักษณ์เดินนำแพรไหมเข้ามาด้วยความเสียใจ
       “ก็บอกเขาไปสิ...แกเอาคุณพิพัฒณ์ไปไว้ที่ไหน” ศุภลักษณ์พูด
       วนิดาส่ายหน้า ศุภลักษณ์พยายามเค้นถาม
       “แกทำอะไรพี่ชายเขา”
       วนิดาเครียดจัดและเอาแต่ส่ายหน้า พิพัฒน์มองอย่างโกรธแค้น
       “แล้วใครล่ะ ที่หลอกให้เฮียออกมา ... เฮียอุตส่าห์ทุ่มเทให้คุณพันทิญาทุกสิ่งทุกอย่าง...ทั้งข้าวของเงินทอง และความจริงใจ ทำไมต้องทำกับเฮียด้วย”
       ภาพวนิดากับพันทิญาช่วยกันทำร้ายพิพัฒน์แทรกขึ้นมาในหัวของวนิดา วนิดาเครียดสุดขีดจนต้องระบายออกมา
       “ก็มันอยากทำร้ายยายพันทำไม ... คนอย่างมัน .... สมควรตาย ... มันทำร้ายลูกฉัน”
       วนิดากรีดร้องอย่างโหยหวน ศุภลักษณ์ยืนร้องไห้ แพรไหมกอดแม่แน่นเพื่อปลอบใจ
      
       ในป่ารกร้าง เจ้าหน้าที่ช่วยกันหามร่างพิพัฒน์ที่ถูกห่อด้วยผ้าขาวมิดชิดขึ้นมาวางไว้ที่ รถ ตำรวจถ่ายรูป และตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทวีปยืนคุยอยู่กับชาวบ้าน พิพิธเดินมาอย่างร้อนใจ พอเห็นร่างพี่ชายเขาก็โผเข้าไปหา แล้วร้องไห้อย่างไม่อายใคร
       “เฮีย ....ทำไมเฮียถึงได้เคราะห์ร้ายอย่างงี้ คนดีๆอย่างเฮีย ไม่น่าอายุสั้นเลย”
       ทวีปหันไปมองพิพิธด้วยความเห็นใจ
      
       หลังจากสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ทวีปก็เดินออกมาจากห้องสอบสวน แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นภูผายืนอยู่
       “ไอ้ภู...มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”
       “ซักครึ่งชั่วโมงได้มั๊ง” ภูผาตอบ
       “ทำไมไม่เข้าไปข้างใน”
       “รอให้แกสอบปากคำคนที่เกี่ยวข้องให้เสร็จก่อน ... ไม่น่าเชื่อนะว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆขึ้นกับคุณพิพัฒน์ ท่าทางเขาก็เป็นคนดี ไม่มีพิษภัยกับใคร”
       “นั่นน่ะสิ..... คนสมัยนี้ ฆ่ากันได้ง่ายๆนะ ความโกรธ ความแค้น ทำให้คนฆ่ากันได้ทั้งนั้น แกก็เคยเห็นข่าวนี่ แค่ขับรถปาดหน้ากัน ก็ฆ่ากันได้แล้ว”
       ทวีปและภูผาหันไปมองหน้ากัน น้อยเดินเข้ามาพร้อมถุงในมือ
       น้อยยื่นถุงพลาสติกให้ทั้งสอง “ลองเอานี่ไปดูสิคะ... เผื่อว่าจะมีประโยชน์กับตำรวจ”
       ภูผาและทวีปมองถุงอย่างแปลกใจ น้อยรีบพูดต่อ
       “น้อยแอบเห็นคุณพันทิญาและคุณวนิดาช่วยกันทำลายโทรศัพท์มือถือ เครื่องนี้ ... ท่าทางมีพิรุธยังไงก็ไม่รู้ ... ก็เลยแอบเก็บเอาไว้ค่ะ”
      
       เหตุการณ์ในอดีต น้อยยืนแอบดูวนิดาและพันทิญาช่วยกันทำลายโทรศัพท์มือถือ น้อยพยายามเงี่ยหูฟัง แต่ก็ฟังไม่ถนัด ทั้งสองคนคุยกันอย่างมีพิรุธ พันทิญาเอาถุงชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือที่ถูกแยกทิ้งลงถังขยะ ก่อนที่วนิดาจะดึงแขนพันทิญาให้เดินไป น้อยมองซ้ายมองขวาก่อนจะย่องไปหยิบถุงชิ้นส่วนในถังขยะขึ้นมา
      
       เจ้าหน้าที่กำลังพยายามกู้ข้อมูลของการ์ดจากโทรศัพท์มือถือของ พิพัฒน์ขึ้นมาดู หน้าจอโชว์ข้อมูลเกี่ยวกับเบอร์โทรศัพท์ หมายเลขโทรออก หมายเลขโทรเข้า ภาพถ่ายพิพัฒน์กับพันทิญา เสียงโต้เถียงระหว่างพันทิญากับพิพัฒน์
       ทวีปรีบบอกเจ้าหน้าที่
       “เดี๋ยว...หยุดก่อน”
       “อะไรวะ” ภูผาถาม
       “แกลองฟังดูสิ....”
       เสียงพิพัฒน์และพันทิญาดังขึ้น
       “ชอบไหมคะ” เสียงพันทิญาถาม “ก็ชอบ...แต่ผมว่า ถ้าอีกหน่อยเราแต่งงานกัน คุณไปอยู่บ้านผมดีกว่าสะดวกสบายกว่านี้เยอะ” เสียงพิพัฒน์บอก
       พันทิญาหัวเราะเยาะ “คุณยังคิดว่า ฉันจะเลือกคุณอีกเหรอ... คนอย่างฉัน ถ้าจะแต่งงานกับใคร ฉันต้องแต่งกับคนที่ทำให้ผู้หญิงทั้งประเทศอิจฉา... ไอ้ตี๋หน้าจืดอย่างคุณ...เป็นได้แค่ของเล่นของฉันเท่านั้นแหละ” “เหมือนคุณชัยใช่ไหม”
       “ใช่ ก็มันอยากโง่ มารักฉันเอง”
       “ที่คุณหาว่าเขาบ้า...คิดว่าคุณชื่อแพรไหม... แต่จริงๆแล้วคุณยืมชื่อน้องสาวมาหลอกเขา” “ใช่ .... เข้าใจแล้ว ก็เอาโทรศัพท์ที่คุณถ่ายคลิบอุบาทก์มาให้ฉันแล้วเราก็เลิกแล้วต่อกันซะ ...ฉันไม่ได้รักคุณ ไม่มีวันรักด้วย”
       “มันง่ายไปหน่อยมั๊ง คุณพัน....”
       ภูผาถึงกับตกตะลึงกับความจริงที่ได้ยิน ทวีปหันไปมองหน้าภูผา ภูผารีบผลุนผลันออกไป ทวีปร้องเรียก
       “เฮ้ย ไอ้ภู แกจะไปไหนวะ”
       ภูผาไม่ตอบแต่กลับเดินลิ่วออกไป ทวีปบอกเจ้าหน้าที่
       “หาข้อมูลต่อไปนะ … เดี๋ยวผมมา”
       ทวีปเดินตามภูผาไป ภูผาขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ทวีปหยุดมองตามไปอย่างเข้าใจความรู้สึกของเพื่อน
       “หายโง่จนได้ ... ไอ้บ้าเอ๊ย” ทวีปพูด
      
       ภูผาเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานในบริษัทของเขา เขายังอึ้งกับความจริงที่ได้รับรู้ ภูผาหันไปเห็นเครื่องคอมพิวเตอร์ของชัย เขาเดินไปเปิดเครื่องและคลิกเข้าไปดูข้อมูลต่างๆ ข้อมูลบริษัท ภาพถ่าย ภูผาคลิกเข้าไป เห็นภาพชัยและพันทิญาในอิริยาบทต่างๆ ภูผาทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง
       “แพรไหม ... ทำไมคุณไม่บอกความจริงกับผม...คุณหลอกให้ผมเข้าใจผิดทำไม”
       ภาพตอนที่ภูผาทำร้ายจิตใจแพรไหมหลายต่อหลายครั้งย้อนเข้ามาในหัวของภูผา ทั้งที่งานศพ ที่โรงแรมม่านรูด ที่ทะเล
       ภูผานึกเสียใจกับสิ่งที่เขาทำกับแพรไหม
      
       ภูผาเดินเข้ามานั่งซึมอยู่ในบ้าน บุญศรีเดินลงมาเห็นลูกชายก็ดีใจ
       “ภู...ลูกแม่”
       ภูผาลุกขึ้นกอดแม่ บุญศรีกอดลูกตอบ
       “แม่เป็นห่วงลูกมากรู้ไหม”
       “ผมขอโทษที่ทำให้แม่เป็นห่วง”
       “ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไร แม่รู้เรื่องทั้งหมดจากทวีปแล้ว ภูกลับมาอย่างปลอดภัย ... แม่ก็ดีใจแล้ว”
       ภูผาเดินไปนั่งซึม บุญศรีเดินตามไป
       “ผมควรจะทำยังไงดีครับแม่...ผมทำผิดกับคุณแพรไหม...ทำร้ายจิตใจเขาสารพัด”
       “คนเราทำผิดกันได้ แต่เมื่อรู้แล้วก็ต้องแก้ไข...ทำในสิ่งที่ถูกต้อง..อย่าทำผิดซ้ำอีก”
       “แต่ผมละอายใจที่ทำร้ายเขา ...เขาเสียอีก ที่พยายามจะบอกว่าเขาไม่เกี่ยวข้องแต่ผมไม่ยอมฟังเขา... คิดแต่ว่าเขาทำให้พี่ชัยตาย”
       “ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง... แม่เองก็เคยโกรธเขา ยิ่งโกรธ จิตใจเราก็ยิ่งเป็นทุกข์หาทางออกไม่เจอดีแล้วล่ะลูก ... ที่ได้รู้ความจริง ลูกจะได้รักเขาอย่างสบายใจซะที”
       “ผมไม่ได้รักเขาซะหน่อย” ภูผาปากแข็ง
       “แม่เป็นแม่ของลูกนะภู...ทำไมแม่จะไม่รู้ว่าลูกของแม่รู้สึกยังไงกับหนูแพรไหม”
       ภูผายิ้มออกมาและมีสายตาเปี่ยมไปด้วยความรัก บุญศรีมองลูกชายอย่างเข้าใจ
       ขอขอบคุณจาก manager.co.th  

อ่านละครภูผาแพรไหม ตอน 12 วันที่ 4 ก.ค. 55

อ่านละครภูผาแพรไหม ตอน 11 วันที่ 4 ก.ค. 55

Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ