อ่านละครเล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 12 วันที่ 21 ก.ค. 55

{[['']]}
 ภายในร้านกาแฟของโรงพยาบาล ปารมีวางแก้วกาแฟลงโดยมีตำรวจนั่งอยู่ตรงหน้า
        
       “จริงๆแล้วปากับคุณสมยศก็แอบชอบกันอยู่ค่ะ แต่คุณแม่ปาไม่ปลื้มแก คุณตำรวจก็คงทราบว่าอาชีพตำรวจไม่ได้ร่ำรวยอะไร”
       “ใช่ครับ แม่ยายผมก็ไม่ค่อยชอบผมเหมือนกัน”
       “นั่นล่ะค่ะ ปาก็เลยต้องปิดบังไม่ให้คุณแม่รู้ว่าแอบคบกับคุณสมยศอยู่ ทั้งๆที่จริงๆแล้วเราก็มีแพลนที่จะแต่งงานกัน”
       “แล้วคุณปารมีทราบเรื่องที่สารวัตรสมยศจับตัวคุณตาลกับคุณเมย์ไปเรียกค่าไถ่มั้ยครับ”
       “ปาไม่ทราบเลยค่ะ มีแค่ก่อนที่เค้าจะถูกจับ เค้าบอกปาว่าเค้าจะหาเงินซักก้อนมาขอปา เพื่อไม่ให้คุณแม่ปาดูถูก”
       ปารมีแสร้งร้องไห้สะอึกสะอื้นก่อนพูดต่อ
       “แต่ปาไม่คิดเลยว่าเค้าจะหาทางออกด้วยการจับพี่ตาลกับน้องเมย์ไป เรียกค่าไถ่ ตอนที่ปารู้ปาทั้งตกใจแล้วก็เสียใจ ใจนึงก็อยากไปเยี่ยมเค้า แต่อีกใจก็กลัวคุณแม่จะโกรธ จนรู้ข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่าเค้าตายแล้ว ปาได้แต่ร้องไห้เสียใจที่ตัวเองทอดทิ้งเค้า”
       ตำรวจดึงทิชชู่ส่งให้และมองปารมีอย่างเห็นใจ
       “เอาล่ะครับ ขอบคุณคุณปารมีมากนะครับ ผมเสียใจด้วย”
       “ขอบคุณค่ะ ถ้ามีอะไรที่ปาพอจะช่วยทำหรือช่วยหาตัวคนร้ายได้บอกปามาเลยนะคะ ปาก็อยากรู้ว่าใครที่ฆ่าเค้า”
       “ครับ ถ้ามีอะไรคืบหน้าผมจะแจ้งให้ทราบ ผมลาล่ะครับ”
       “ค่ะ”
       ปารมียกมือไหว้และยืนส่งจนตำรวจเดินออกไป ปารมีถอนหายใจแล้วแสยะยิ้มมองตามก่อนปาดน้ำตาทิ้ง
      
       ภายในห้องคนไข้ นภานอนชะเง้อมองไปที่ประตูอย่างเป็นห่วงแล้วนึกถึงคำพูดของปารมีที่พูดไว้
       “เชื่อแม่นะปา ไปสารภาพความจริงซะ ก่อนที่สมยศมันจะบอกตำรวจ”
       “ไม่มีทางหรอกค่ะ มันจะไม่มีโอกาสไปบอกตำรวจแน่”
       “แกจะไปไหน”
       “ก็ไปจัดการไอ้สมยศให้มันหมดโอกาสพูดน่ะสิคะ”
       นภานอนส่ายหน้าด้วยความเสียใจที่ปารมีฆ่าสมยศ
       ปารมีเปิดประตูเข้ามาแล้วเดินยิ้มเข้ามาหาแม่
       “หนูบอกแล้วไงคะว่าตำรวจไม่มีทางจับหนูได้หรอก”
       นภามองด้วยสายตาเป็นห่วง ปารมียิ้มแล้วแตะไหล่นภา
       “หนูรู้ค่ะว่าแม่เป็นห่วงหนู แต่ขอให้เชื่อหนูเถอะค่ะไม่มีใครทำอะไรลูกสาวแม่ได้หรอก”
       ปารมียิ้มให้แม่อย่างมั่นใจก่อนเดินไปเข้าห้องน้ำ นภาใจหายที่ปารมีไม่มีความหวาดกลัวหรือละอายต่อการฆ่าคนได้แต่นอนร่ำไห้ น้ำตาไหลรินด้วยความเจ็บปวดเสียใจ
      
       วันรุ่งขึ้นเวลากลางวัน ต้นหอมกับสาวใช้อีกคนถืออุปกรณ์ทำความสะอาดเข้ามาในบ้านนภา
       “แกทำข้างล่างนะ ชั้นจะขึ้นไปทำข้างบน” ต้นหอมบอกแล้วเดินขึ้นชั้นบนไป
      
       ต้นหอมถูพื้นชั้นบนอยู่ครู่หนึ่ง ปารมีก็เดินออกมาจากห้องพอดี
       “ต้นหอมวันนี้ทำห้องคุณแม่ด้วยนะ บางทีอาทิตย์หน้าหมออาจจะให้กลับบ้านได้แล้ว”
       “ได้ค่ะ แต่คุณปาต้องเปิดห้องให้นะคะ หนูไม่มีกุญแจ”
       ปารมีเดินมาไปไขกุญแจเปิดห้องไว้ให้
       “ทำให้สะอาดนะเสร็จแล้วก็ล็อกด้วย”
       “ค่ะ”
       ปารมีเดินลงชั้นล่างไป
      
       ต้นหอมเดินเข้ามาในห้องนภาที่มืดทึม ต้นหอมเดินไปรูดม่าน เปิดตู้เสื้อผ้าค้างไว้เพื่อระบายอากาศภายในห้องไม่มีกระเป๋าใส่เงินใบนั้น แล้ว ต้นหอมหยิบไม้กวาดออกมากวาดพื้นล้วงไปตามซอกต่าง ๆ ต้นหอมกวาดล้วงไปใต้เตียง ก็ชะงัก เพราะเจอต่างหูข้างนึงตกอยู่ที่พื้นที่ ต้นหอมหยิบมาดูมอง
       “นี่มันตุ้มหูน้าอ้อยนี้ทำไมมาหล่นอยู่ในนี้”
       ต้นหอมมองสงสัย ปารมีเดินเข้ามาเรียกด้านหลังพอดี
       “ต้นหอม”
       ต้นหอมสะดุ้งแล้วหันไปมองปารมีก่อนตอบ
       “ขา”
       “เปลี่ยนผ้าปูที่นอนกับปลอกหมอนด้วยนะ ถ้าผ้าม่านถอดไปซักได้ก็ซักซะ “
       “ค่ะ”
       ปารมีเดินออก ต้นหอมมองตามแล้วยกต่างหูในมือออกมาดูอีกครั้ง
       “เอาไปให้คุณตาลดูดีกว่า”
       ต้นหอมเก็บใส่กระเป๋ารีบทำงานต่อจนเสร็จ
      
       ญาดายกต่างหูขึ้นมาดูในเวลาต่อมา
       “ใช่ตุ้มหูของแม่จริงๆด้วย ตาลจำได้เพราะตาลเป็นคนซื้อให้แม่” ญาดาบอก
       “แล้วทำไมตุ้มหูของน้าอ้อยถึงไปตกอยู่ในห้องป้านภา” มณทกานต์ถามอย่างสงสัย
       “คงเข้าไปทำความสะอาดในห้องแล้วมันคงหลุดน่ะสิ” ธาวินบอก
       “แต่เท่าที่ผมรู้ คุณนภาเค้าไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปทำความสะอาดห้องเค้าไม่ใช่หรือต้นหอม” บุญทันถาม
       “ค่ะ คุณนภาแกไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งในห้อง แกมักจะทำของแกเอง”
       “ถ้าคุณนภาไม่อนุญาตให้ใครเข้าห้องแล้วแม่เข้าไปได้ยังไง”
       สีหน้าทุกคนอึ้งแล้วคิด
       “เป็นไปได้มั้ยคะว่าน้าอ้อยไปแอบรู้มาว่าป้านภาซ่อนอะไรไว้ในห้องก็เลยแอบเข้าไปดู” มณทกานต์ตั้งข้อสังเกต
       “ก็เป็นไปได้นะ น้าอ้อยอาจจะไปเห็นอะไรที่คุณป้านภาไม่อยากให้เห็น คุณป้านภาก็เลย...” ธาวินพูดค้างไว้
       “ฆ่าแม่พี่ตาล” มณทกานต์ต่ประโยคที่เหลือ
       ญาดาฟังแล้วถึงกับอึ้งไป
       “คงไม่ใช่หรอก ต่างหูมันอาจจะหล่นนานแล้วก็ได้” บุญทันว่า
       “ไม่นานหรอกค่ะ ต้นหอมจำได้ว่าเช้านั้นก่อนที่น้าอ้อยจะเข้าไปทำงานบ้านคุณนภา แกยังใส่ตุ้มหูคู่นี้อยู่เลย”
       “ทำไมถึงมั่นใจว่าเช้านั้นยังใส่อยู่” ธาวินถาม
       “ก็ต้นหอมขอแก แกบอกว่าให้ไม่ได้เพราะลูกสาวซื้อให้”
       ญาดาน้ำตาซึม
       “หมายความว่าคุณป้านภาฆ่าแม่ตาลงั้นหรือ” ญาดาว่า
       “ผมว่าเราอย่าเพิ่งสรุปเองเลยให้ตำรวจเป็นคนจัดการเรื่องนี้ดีกว่า” บุญทันบอก
       ธาวินดึงญาดามากอดปลอบใจ
      
       ตำรวจยศร้อยตำรวจเอกและจ่าตำรวจเดินเข้ามาในห้องคนไข้แล้วบอก
       “เราพบต่างหูคุณอ้อยตกอยู่ในห้องนอนคุณนภาครับ”
       “หมายความว่าไงคะ” ปารมีถาม
       “สาวใช้คุณเอาต่างหูนี่มาให้ผม และคุณตาลกับสาวใช้ยืนยันตรงกันว่าเป็นของคุณอ้อย”
       ปารมีมองหน้านภาที่นอนอยู่บนเตียง
       “เราสันนิษฐานว่าคุณอ้อยน่าจะถูกฆ่าตายในห้องคุณนภา ผมต้องขอสอบปากคำคุณนภาด้วยครับ”
       “แต่คุณแม่พูดไม่ได้นะคะ”
       “ไม่เป็นไรครับ คุณนภาแค่พยักหน้าหรือส่ายหน้ากับคำถามที่ผมถามก็พอ คุณนภาได้ยินที่ผมพูดใช่มั้ยครับ”
       นภาพยักหน้า
       “ผมคงต้องเชิญคุณปารมีไปรอด้านนอกนะครับ”
       “แต่ว่า”
       “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมใช้เวลาไม่มาก”
       “เชิญครับ” จ่าตำรวจบอก
       ปารมีเริ่มกลัวว่าตำรวจจะจับได้ นภามองหน้าปารมี
       “หนูอยู่ข้างนอกนะคะแม่”
       นภาพยักหน้า ปารมีหันเดินออกไปโดยมีจ่าตำรวจเดินออกไปด้วย ภายในห้องเหลือเพียงร้อยตำรวจเอกกับนภา ตพรวจดึงเก้าอี้มานั่งข้างเตียง
       “วันที่คุณอ้อยหายตัวไปคุณนภาอยู่บ้านรึเปล่าครับ”
       นภาพยักหน้า
       “แล้ววันนั้นคุณปารมีอยู่รึเปล่าครับ”
       นภาพยักหน้า
      
       ปารมีกระวนกระวายใจมองเข้าไปในห้อง เห็นตำรวจกำลังพูดกับนภาอยู่
       ปารมีหันกลับนึกถึงเหตุการณ์ที่ตวัดรัดคออ้อย เห็นอ้อยตาเหลือกค้าง ร่วงลงกองกับพื้น
       ปารมีหันมองกลับเข้าไปในห้อง เห็นแม่พยักหน้าให้ตำรวจ ปารมีมองอย่างใจไม่ดี
       “ทำยังไงดี แม่ต้องบอกตำรวจแน่ว่าเราป็นคนฆ่านังอ้อย”
       ปารมีคิดกระสับกระส่าย เหลือบมองเห็นจ่าตำรวจที่ยืนคุมห่างออกไป
      
       ตำรวจแตะมือนภาที่น้ำตารินไหล
       “ขอบคุณมากนะครับที่คุณนภาให้ความร่วมมือกับผม”
       นภาพยักหน้า
       “ผมลาล่ะครับ”
       ตำรวจหันเดินออกขณะที่นภาน้ำตาไหลริน
       บริเวณหน้าห้องคนไข้ ปารมีเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายใจ เพราะคิดว่า คราวนี้คงจะจนมุมหมดหนทางที่จะหนี นายตำรวจยศร้อยตำรวจเอกเปิดประตูออกมา ปารมีเดินเข้ามาหาอย่างยอมจำนน
       “แม่บอกแล้วใช่มั้ยคะ”
       “ครับ”
       ปารมีมีสีหน้าอึ้งสลดไป
       “คุณนภายอมรับสารภาพว่าเธอเป็นคนฆ่าคุณอ้อย”
       ปารมีถึงกับตะลึงมองตำรวจนิ่งแล้วถาม
       “อะไรนะคะ”
       “และเธอก็เป็นคนจ้างเด็กไปวางยาคุณสมยศ” ตำรวจพูดต่อ
       “แม่บอกคุณอย่างงั้นหรือคะ” ปารมีถามย้ำ
       “ใช่ครับ เดี๋ยวผมจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเฝ้าเธอที่นี่ไว้ก่อนผมขอตัวนะครับ”
       ตำรวจเดินออกไป ปารมีรู้สึกสับสนแล้วรีบเปิดประตูเข้าห้องไปหานภา
      
       ภายในห้อง นภายังนอนอยู่บนเตียง ปารมีเดินเข้าไปหา
       “แม่ ...ทำไมแม่บอกตำรวจแบบนั้นล่ะคะ”
       นภาหันมองปารมีแล้วยิ้มให้ด้วยความรัก
       “นี่แม่ทำเพื่อหนูหรือคะ”
       นภาพยักหน้า ปารมีร้องไห้โฮโผเข้ากอดนภา
       “แม่ ...”
      
       ภายในบ้าน เมื่อเวลากลางวันวันเดียวกัน พิพัฒน์นั่งอยู่ในบ้านแล้วถาม
       “นภาน่ะหรือฆ่าแม่หนูตาลแล้วจ้างคนไปฆ่าสมยศ”
       “ใช่ครับท่าน” ปรารภบอก
       “แน่ใจหรือ ชั้นไม่อยากเชื่อนะว่านภาจะกล้าทำแบบนี้”
       “ตำรวจบอกว่าคุณนภาเป็นคนสารภาพทุกอย่างเองครับ ตอนแรกตำรวจถามแค่เรื่องแม่คุณตาล แต่บังเอิญพูดพาดพิงไปเรื่องสมยศ คุณนภาก็เลยสารภาพมาทั้งหมด”
       “แปลกนะคะ ทำไมป้านภายอมรับผิดง่ายๆ” มณทกานต์ตั้งข้อสังเกต
       “นั่นสิครับ ไม่น่าเชื่อว่าคุณนภาจะสารภาพง่าย ๆทั้งสองคดี” บุญทันว่า
       “แกอาจจะเห็นว่าตำรวจมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนา ถ้าไม่สารภาพก็คงไม่รอดอยู่ดี” ธาวินบอก
       “ทำไมเค้าใจร้ายอย่างนี้ ... ทำไมเค้าต้องฆ่าแม่ตาลด้วย”
       ญาดาน้ำตาไหลแล้วลุกขึ้น ธาวินคว้าตัวไว้
       “เดี๋ยวตาล ตาลจะไปไหน”
       “ตาลจะไปถามเค้าว่าทำไมเค้าถึงอำมหิตโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ แม่ตาลไปทำอะไรให้ ทำไมต้องฆ่าแม่ด้วย” ญาดาบอก
       “อย่าไปเลย ไม่มีประโยชน์หรอก ตอนนี้ป้านภาเค้าก็ไม่สบายมาก ถึงตาลไปมันก็ไม่ช่วยให้แม่ตาลฟื้นขึ้นมาได้” ธาวินบอก
       “ใช่ อย่าไปเลยลูก ปู่รู้ว่าหนูเสียใจ แต่ปู่ขอเถอะนะ อย่ามีเวรมีกรรมต่อกันเลย อโหสิกรรมให้เค้าเถอะ เพราะตอนนี้เค้าก็เหมือนตายทั้งเป็นไปแล้ว” พิพัฒน์บอก
       ญาดามองหน้าพิพัฒน์ที่พยักหน้าให้อย่างขอร้อง
       “เห็นแก่ปู่เถอะนะ อโหสิกรรมให้เค้า”
       ญาดาทรุดลงนั่งน้ำตาไหลริน ธาวินดึงเข้ามากอดปลอบใจ มณทกานต์กับบุญทันมองหน้ากันอย่าง
       เห็นใจญาดา ปรารภเหลือบมองหน้าพิพัฒน์ที่ถอนใจอย่างหดหู่
      
       ในเวลาต่อมาที่ระเบียงบ้านพิพัฒน์ ธาวิน ญาดา และบุญทันนั่งอยู่ก่อน มณทกานต์เดินเข้ามานั่ง สมทบ
       “เมย์ว่าเรื่องป้านภามันดูแปลกๆนะคะพี่ภู” มณทกานต์ว่า
       “แปลกยังไง” ธาวินถาม
       “เมย์ว่ามันไม่ค่อยเมกเซ้นท์ ที่ป้านภายอมรับว่าฆ่าแม่พี่ตาล เมย์ก็พอจะเข้าใจได้ว่าตำรวจมีหลักฐาน แต่เรื่องสารวัตรสมยศนี่สิทำไมแกต้องสารภาพ ในเมื่อตำรวจเค้าไม่ได้สงสัยแกซะหน่อย”
       “นั่นสิ ถ้าไม่สารภาพก็ไม่มีใครรู้” บุญทันเห็นด้วย
       “พี่ว่าแกอาจจะสำนึกผิดก็ได้ เพราะตอนนี้แกก็เจ็บหนัก บางทีแกอาจจะไม่อยากให้ความผิดติดตัวไปจนตาย” ธาวินบอก
       มณทกานต์กับบุญทันมองหน้ากัน
       “ก็อาจจะเป็นไปได้” บุญทันว่า
       “ตาลจะไปเยี่ยมคุณนภาได้มั้ยคะ” ญาดาถามขอความเห็น
       “จะดีหรือ” ธาวินพูดขึ้น
       “คุณภูไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ตาลไม่ทำอะไรเค้าหรอก”
       “งั้นก็ได้ ไปด้วยกันมั้ยเมย์”
       “ไม่ดีกว่าค่ะ แกยิ่งไม่ชอบหน้าเมย์อยู่ เดี๋ยวแกเห็นหน้าเมย์แกจะยิ่งทรุด” มณทกานต์ว่า
       ธาวินหันไปถามบุญทัน
       “นายล่ะ”
       “เชิญคุณภูเถอะครับ”
       ธาวินเดินออกไปกับญาดา มณทกานต์พูดกับบุญทัน
       “หวังว่าเรื่องร้ายๆคงจะจบซะทีนะ”
       บุญทันมองหน้ามณทกานต์อย่างไม่มั่นใจนัก
      
       ที่บริเวณห้องพักของนภา ในโรงพยาบาลมีตรวจเฝ้าหน้าห้องอยู่ ญาดากับธาวินเดินเข้ามา
       “ผมมาขอเยี่ยมคุณนภาครับ” ธาวินบอก
       “คุณภูบดีใช่มั้ยครับ” ตำรวจถาม
       “ครับ”
       “เชิญครับ ผู้กำกับโทรมาสั่งไว้แล้วครับ”
       ตำรวจเปิดประตูให้ ธาวินกับญาดาเดินเข้าห้องไป
      
       ญาดากับธาวินเดินเข้ามาพร้อมกับตำรวจ นภานอนอยู่บนเตียงหันไปมองญาดา
       “สวัสดีค่ะคุณนภา”
       “ผมกับตาลมาเยี่ยมคุณป้าครับ”
       นภามองญาดาด้วยแววตาเสียใจ ญาดามองนภาแล้วก็น้ำตารื้นขึ้นมาด้วยความเสียใจที่นภาฆ่าเจ๊อ้อย
       “บอกหนูได้มั้ยคะว่าทำไมต้องฆ่าแม่หนูด้วย”
       นภานอนนิ่งน้ำตารินไหล
       “แม่หนูทำอะไรให้คุณโกรธหรือเกลียดคะ คุณถึงต้องฆ่าเค้า”
       นภาน้ำตายังไหลริน อยากขอโทษญาดาแต่พูดไม่ได้ ธาวินแตะแขนญาดาแล้วส่ายหน้าไม่ให้พูด อะไรอีก
       “พูดอะไรไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอกตาล” ธาวินบอกแล้วหันไปพูดกับนภา
       “ที่ตาลเค้ามาวันนี้ก็เพราะจะมาอโหสิกรรมให้คุณป้า”
       นภาได้ฟังแล้วก็น้ำตาไหลรินออกมาอีก
       “ขอให้คุณกับแม่หมดเวรต่อกันแค่นี้เถอะนะคะ อย่าได้มีเวรมีกรรมต่อกันอีกเลย” ญาดาบอก
       นภาน้ำตาไหลอาบแก้ม ญาดามองแล้วบอก
       “แค่นี้แหละค่ะที่หนูอยากจะบอกคุณ”
      
       ธาวินมองนภาอย่างสลดใจก่อนจะหันเดินตามญาดาออกจากห้องไป คงเหลือนภาเพียงคนเดียวในห้องที่ร่ำไห้
ขอขอบคุณจาก manager.co.th 
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ