อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 3 วันที่ 19 มิ.ย. 55

{[['']]}

ปิ่นอนงค์

อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 3 วันที่ 19 มิ.ย. 55

“ถ้าอย่างนั้น ไปตามปิ่นอนงค์มาหาชั้นหน่อย” น้อยนิ่งตาโต พูดเสียงจริงจัง “พี่ปิ่นป่วยค่ะ” ใหญ่หน้าเครียดทันที ครองสุขเลิกคิ้วถาม “นังปิ่นไม่สบาย” อุ่นเรือนนั่งนอบน้อมที่เก้าอี้ตรงข้ามในห้องทำงานครองสุข “ใช่ค่ะ มันมีอาการตั้งแต่กลับมาจากรีสอร์ต มาถึง...” ครองสุขตาตื่น ซ่อนยิ้ม คิดว่าปิ่นเสร็จเสี่ยตงไปแล้ว อุ่นเรือนพูดต่อ “ก็ล้มหมอนนอนเสื่อซมไปเลย อุ่นเลยให้นอนพัก เดี๋ยวก็หาย มารับใช้คุณนายได้เหมือนเดิม” ครองสุขยิ้ม ลุกไปบีบไหล่อุ่นเรือน “แกจำเอาไว้นะนังอุ่น ถ้าไร่ไพศาลตกเป็นของชั้นเมื่อไหร่ ชั้นจะไม่ลืมแกกับนังปิ่นเด็ดขาด” อุ่นเรือนยิ้ม ซาบซึ้งใจ ปิ่นอนงค์นอนซมเพราะพิษไข้รุม จอมมายืนใกล้ๆ “เป็นเพราะของที่คุณใหญ่ทำมาให้งานเลี้ยงหรือเปล่า” จอมบ่น “ไม่ใช่หรอก ปิ่นไม่ได้กินเลย” “ให้เราพาไปหาหมอมั้ย ให้หมอดูว่าเป็นอะไร” ปิ่นอนงค์ยิ้มเซื่องๆ “แค่หวัดแดด ไม่เป็นไรหรอกจอม จอมไปช่วยลุงหวินดูไร่เถอะ เห็นจินบอกว่าสัตว์ในไร่อาการไม่ค่อยดีฝากด้วยนะจอม ที่ด้านนอกบ้านประตูเปิดอยู่ ก่อนที่จอมจะเดินออกมาแล้วเหลียวกลับไปมองกลับอย่างเป็นห่วง ใหญ่ชะงัก หลบ แอบมองจอมเดินไปหน้าเครียด ปิ่นอนงค์หลับตาพริ้มอยู่ ใหญ่เดินเข้ามาขยับเก้าอี้นั่ง ปิ่นอนงค์หลับตาพูดเนือยๆ “โธ่ จอม ปิ่นบอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร อย่าห่วงเราให้มากไปเลย” “ไม่เป็นอะไร แล้วมานอนอู้อยู่ทำไม เธอมีหน้าที่ทำกับข้าวให้ชั้นกิน จำไม่ได้เหรอ” ปิ่นอนงค์จำเสียงห้าวห้วนนี้ได้ สะดุ้งจะลุก แต่ไม่มีแรง ขยับหมอนอิงหัว “ปิ่นขอโทษค่ะ ปิ่นให้แม่จัดสำรับให้คุณใหญ่แล้วนะคะ” “ชั้นไม่กิน แม่เธอเกลียดชั้นอย่างกับอะไร จะแอบใส่อะไรลงไปในกับข้าวก็ไม่รู้” ปิ่นอนงค์เม้มปาก ยันตัวจะลุก จนทรุดลงไปอีก ใหญ่ตกใจเอามือรับหัว อีกมือจับแขน ใหญ่ตกใจ ตาโต “นี่เธอจะบ้าเหรอ ปิ่นอนงค์ ตัวร้อนอย่างนี้ทำไมไม่ไปหาหมอ” “เป็นแค่นี้เอง ไม่ต้องไปหาหมอหรอกค่ะ มันสิ้นเปลือง ใหญ่อุ้มปิ่นอนงค์ทีเผลอเดินออกประตูมา “ปล่อยปิ่นเถอะค่ะ คุณใหญ่” แต่หมดแรงแล้ว ปานเทพเดินหน้าเหลอหลาเข้ามา ใหญ่บอก “ปาน ไปเอากุญแจรถที่นายหวิน ชั้นจะพาปิ่นไปโรงพยาบาล เร็ว” น้ำเสียงใหญ่ร้อนรน ปานเทพวิ่งจี๋ไป บนโต๊ะอาหารเรือนใหญ่เวลานี้ อาหารพร้อม ข้าวเต็มทุกจาน คอยใหญ่คนเดียว หมู่มวลหน้าเครียด น้อยมองอุ่นเรือนเลิ่กลั่ก “ยัยนี ไปตามไอ้ เอ่อ คุณใหญ่มากินข้าว” “คุณน้าก็ ใช้นังน้อยก็ได้นี่คะ “แกนั่นแหละ ไปเดี๋ยวนี้” “อุ่นไปตามเองค่ะ” ปานเทพเดินหน้าดุเข้ามา “คุณใหญ่พาปิ่นไปโรงพยาบาลครับ ฝากมาบอกทุกคนไม่ต้องรอกินข้าว” อุ่นเรือนชะงัก หยุด ตกใจ “แล้วทำไมคุณใหญ่ต้องพานังปิ่นไปเอง นังอุ่นแกบอกว่ามันไม่เป็นอะไรมากนี่” “อุ่นก็ไม่ทราบเหมือนกัน” ปานเทพตรงเข้านั่งเคียงข้างทัศนีย์ ทัศนีย์สะดุ้ง เขยิบหนีสุดเก้าอี้ “เฮ้ย มากไปรึเปล่า ที่ของแกอยู่ที่โรงครัวกินรวมกับพวกคนงานโน่น” ธีระตวาด “ทำไมล่ะ คุณผู้จัดการ ก็เมื่อคุณใหญ่ไม่กิน มันก็เสียที่ไปฟรีๆ ซิ อาหารก็ตั้งเยอะแยะ จะให้เหลือทำไม” ปานเทพ “ถ้าอยากจะกินละก็ เดี๋ยวฉันตักแบ่งไปให้ นี่มันที่ของเจ้านาย” อุ่นเรือนชักสีหน้าบอกแทน “เอาเถอะอุ่น ในเมื่อปานเค้าเป็นเพื่อนคุณใหญ่ เคยช่วยเหลือกันมา เราก็ควรจะให้เกียรติเค้า ตักข้าวอุ่น ฉันหิวแล้ว” อุ่นเรือนขัดเคืองใจเป็นที่สุด ปานเทพหันไปยิ้มให้แต่ถูกทัศนีย์เชิดใส่ ปานเทพหุบยิ้มแทบไม่ทัน ใหญ่นั่งดูนาฬิกาข้อมือ พลางชะเง้อชะแง้ดูประตูห้องตรวจ ปิ่นอนงค์เดินออกจากห้องตรวจมา ใหญ่ประคองให้นั่ง “หมอว่ายังไงบ้าง” “พักผ่อนน้อย แต่ฉีดยาให้แล้ว เดี๋ยวไปรับยาก็กลับบ้านได้ค่ะ” ระหว่างนั้นพยาบาลสูงอายุ เดินมาหยุดเยื้องๆ ปิ่นอนงค์ จำได้จึงร้องทัก “หนูปิ่นอนงค์ใช่มั้ยลูก” ปิ่นอนงค์กะใหญ่ยืนสวัสดี พยาบาลรับไหว้ “คุณป้า” “ได้ข่าวแม่อุ่นเรือนไม่สบาย หายดีหรือยังล่ะ” “หายแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ” “ขอโทษจริงๆ ไม่ได้มาดูแลเลย พยาบาลก็ป่วยเป็นเหมือนกันเนาะ ที่ไร่เป็นยังไงบ้างล่ะ พูดแล้วคิดถึงคุณไพศาลจริงๆ ป้านี่ดูแลแกมาตลอดเลยนะ” ปิ่นอนงค์ผายมือมาทางใหญ่จะแนะนำ “คุณ...” ใหญ่จับมือปิ่นอนงค์กดลง “ผมเป็นคนงานในไร่ครับ พาคุณปิ่นมาตรวจร่างกาย” ปิ่นอนงค์งงๆ มองใหญ่ พยาบาลแตะแขนปิ่นอนงค์พลางบอก “เออ...หนูปิ่นเค้าลือกันว่าคุณใหญ่ลูกคุณไพศาลกลับมาที่ไร่แล้ว จริงมั้ย น่าสงสารทั้งพ่อทั้งลูก คุณ…” ใหญ่ชะงัก ตาโต พยาบาลเล่าต่อ “ไพศาลก่อนจะเสีย เพ้อถึงแต่คุณใหญ่ตลอดเลย อุ๊ย...” ปิ่นอนงค์กับใหญ่ ไหว้พยาบาล “ป้าต้องรีบไปเซ็นชื่อเข้าเวรแล้ว ไปล่ะนะ สวัสดีๆ” ปิ่นอนงค์ลอบมองใหญ่ เห็นชัดว่าใหญ่เครียด ใหญ่ขับรถมาตามทางด้วยสีหน้าครุ่นคิด ปิ่นอนงค์ลอบมองไปมา ใหญ่ขับค่อยๆ ไปไม่เร็วนัก “ทำไมคุณใหญ่ไม่บอกป้าพยาบาลล่ะคะ ว่าคุณใหญ่คือลูกชายคุณไพศาล” “สารรูปอย่างชั้น บอกไปใครเค้าจะเชื่อ” ใหญ่เยาะหยันตัวเอง ปิ่นนั่งคิด “แต่ปิ่นก็จำได้เหมือนกันนะคะ ก่อนคุณท่านจะเสียท่านชอบบ่นถึงคุณใหญ่บ่อยๆ ถึงไม่ได้พูดตรงๆ ปิ่นก็พอจับได้ว่าท่านคิดถึงคุณใหญ่มาก” ใหญ่กัดฟัน ตากร้าว กระชากเกียร์ เหยียบคันเร่ง ปิ่นอนงค์ตกใจ เลิ่กลั่ก ใหญ่ขับรถแรงและเร็วปานจะบิน ทะยานไปอย่างรวดเร็วมาก ปิ่นอนงค์เดินถือถุงยาของโรงพยาบาลเข้ามาที่ระเบียงเรือนที่พัก อุ่นเรือนรออยู่ลุกพรวด “แกไปกับคุณใหญ่ทำไม แม่บอกแล้วใช่มั้ย ให้อยู่ห่างๆ เอาไว้ มันอันตราย” ปิ่นนั่งลงสีหน้าครุ่นคิดมองหน้าแม่ “คุณใหญ่แค่พาปิ่นไปหาหมอ ไม่มีท่าทีจะคิดร้ายอะไรกับปิ่นเลยนะแม่” ครองสุขเข้ามาทันได้ยิน “ยังไม่ทันไร แกก็เปลี่ยนข้างแล้วเหรอนังปิ่น” ปิ่นอนงค์ตกใจ “คุณนาย” “แกคงเห็นว่า ชั้นไม่มีปัญญาคุ้มกะลาหัวแกได้ ก็เลยเร่ไปหาไอ้ใหญ่ใช่มั้ย มันประเคนอะไรมาให้แกมั่งล่ะ” “ไม่นะคะ คุณนาย อุ่นเอาหัวเป็นประกันปิ่นมันไม่ทำอย่างนั้นแน่” อุ่นเรือนปฏิเสธ “ใช่ค่ะ คุณใหญ่ไม่ได้ให้อะไรปิ่นเลย แค่ออกค่าหมอค่ายาให้เท่านั้น” ปิ่นอนงค์รีบบอก “นั่นไง ทำไมจู่ๆ มันก็เกิดพิศวาสแกขึ้นมา ถ้าไม่เพราะมันต้องการเอาแกไปเป็นพวก บอกมาว่าแกคายความลับอะไรให้มันรู้” ครองสุขโมโหเข้าไปจิกแขน ปิ่นอนงค์น้ำตาร่วง “ไม่ค่ะ ปิ่นไม่ได้พูดอะไรเลย” “ฉันไม่เชื่อ บอกมาเดี๋ยวนี้” “คุณนายขา อุ่นขอเถอะค่ะ” อุ่นเรือนอ้อนวอน ครองสุขเหวี่ยงอุ่นเรือนไปกระแทกกับโต๊ะร่างอุ่นเรือนรูดลงไปกอง “แม่....” ปิ่นอนงค์ตกใจมากเป็นห่วงแม่เพราะพึ่งหายป่วย รีบเข้าไปประคอง อุ่นเรือนไหว้ครองสุข “อุ่นกราบละค่ะคุณนาย ขอให้เชื่ออุ่น ถ้าปิ่นมันอกกตัญญูคุณนาย อุ่นจะลงโทษมัน ตัดแม่ตัดลูกกับมันแน่” นั่นละครองสุขจึงอ่อนลง แต่ไม่วายทวงบุญคุณ “แกจำคำพูดของแกไว้นะนังอุ่น” ครองสุขเดินออก ปิ่นอนงค์รีบถาม “แม่ แม่เป็นไงบ้าง” “สาบานกับแม่ ว่าแกไม่มีทางทรยศคุณนาย สาบานซิ” อุ่นเรือนคาดคั้น “จ้ะ แม่ ปิ่นสาบาน” ปิ่นอนงค์สะอื้นรับคำ ใหญ่ขี่ม้าไปตามท้องทุ่ง พร้อมกันนั้น ภาพจำตอนที่ใหญ่ทะเลาะกับพ่อ และถูกพ่อด่าบังคับให้กราบขอโทษครองสุข แว่บเข้ามาอีก เสียงปิ่นดังก้องในหูเข้ามา ปิ่น “ก่อนคุณท่านจะเสียท่านชอบบ่นถึงคุณใหญ่บ่อยๆ ถึงไม่ได้พูดตรงๆ ปิ่นก็พอจับได้ว่าท่านคิดถึงคุณใหญ่มาก” สีหน้าของใหญ่เจ็บปวด เพราะยังน้อยใจพ่อ และไม่เชื่อว่าพ่อรักตน ใหญ่ดึงตัวเองกลับมาขี่ม้าเร็วขึ้น แต่ยังใจลอยไม่ทันเห็นกิ่งไม้ พอจวนตัวก็รีบเอียงตัวหลบ ทว่าเสียหลักตกหลังม้ากลิ้งไปบนทุ่งหญ้า ในขณะเดียวกันเจิดกับก้านซ้อนมอเตอร์ไซค์ แอบซุ่มดูใหญ่อยู่มุมหนึ่งตรงหลังต้นไม้ไม่ไกลนัก สองวายร้ายเห็นเหตุการณ์แล้วมองหน้ากัน ใหญ่ลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัว เดินไปหาม้าที่หยุดอยู่ใกล้ๆ เจิดกะก้าน ลงจากรถ เจิดชักปืนจากเอวออกมา ก้านแตะแขนเจิด ”ดีเหรอพี่ นายไม่ได้สั่งนะ” เจิดหงุดหงิด “ไม่ได้สั่งก็ช่าง โอกาสดีๆอย่างนี้หาได้ที่ไหนวะ ยังไงนายก็อยากให้มันตายอยู่แล้ว ยิงเสร็จก็เอามันไปเผานั่งยางซะก็สิ้นเรื่อง” เจิดยกปืนเล็งไปทางใหญ่ที่กำลังตบไหล่ม้าปลอบใจ เจิดเล็งแลผ่านปลายกระบอกปืนไปที่ใหญ่เขม็ง ระหว่างนั้นเปี๊ยกถือพร้าสะพาย และตะกร้าใส่เครือกล้วยเข้ามา ชะงักกึกเมื่อเห็นมือที่ถือปืนยื่นโผล่ออกมาจากหลังต้นไม้ เปี๊ยกหันไปทางทิศที่ปืนเล็ง เห็นใหญ่เดินจูงม้ามา เปี๊ยกเขวี้ยงพร้าใส่ลำกล้องปืน พร้าลอยละลิ่วกระแทกปืนอย่างจัง ปืนลั่นเบนกระสุนไปอีกทาง ใหญ่ยินเสียงก็ตกใจ ย่อตัวระวังภัย กระชับปืนที่เหน็บพกติดตัวมา ม้าตกใจวิ่งไป เจิดกับก้าน ตกใจ เหลียวหาที่มาของพร้า พลางขึ้นรถขับหนีไป เปี๊ยกนอนราบกับพื้นแอบมองเจิดกับก้าน แล้ววิ่งไปหาใหญ่ ใหญ่ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์วิ่งตามไปดู เห็นหลังเจิดไวๆ เลี้ยวลับตัวไป เปี๊ยกวิ่งมาหาใหญ่ ใหญ่หันไปเล็งปืน เปี๊ยกยกมือห้ามร้องเสียงหลง “นายเองเหรอเปี๊ยก” เปี๊ยกส่งสัญญาณมือวุ่นวาย ทำมือเป็นปืน แล้ววิ่งไปที่หลังต้นไม้ ทำท่าเล็ง “มีคนแอบอยู่ตรงนี้จะยิงฉันเหรอ” สองคนอยู่ที่คอกม้า สีหน้าปานเทพตกใจมากหลังรู้จากปากใหญ่ว่ามีคนแอบซุ่มยิง ปานเทพโวยลั่น “ไอ้บ้าเอ๊ย นี่มันเฉียดตายเลยนะ โว้ย นี่ถ้าเจ้าเปี๊ยกมันตาไม่ไว แกไปเฝ้ายมบาลแน่ แล้วมันบอกมั้ยว่าใคร” “ฉันเห็นหลังไวไว คงเป็นลูกน้องไอ้ธีระ” ใหญ่บอกอย่างมั่นใจ “แล้วแกยังใจเย็นอยู่ได้ไง ฉันว่าแกออกไปตั้งหลักข้างนอกดีกว่า ถ้าแกตายตอนนี้ ไร่ไพศาลเสร็จพวกมันแน่” “ฉันไม่อยากได้สมบัติของพ่ออยู่แล้ว” “แกพูดอะไรของแกวะ นี่คิดถอดใจยกสมบัติให้คุณนายครองสุขแล้วเหรอ” “ฉันหมายถึงสมบัติไม่ใช่ จุดมุ่งหมายใหญ่ของฉันต่างหากที่มานี่ ก็เพราะอยากมาทวงความยุติธรรมให้ตัวเองกับอาปลอดแล้วก็หาความจริงเรื่องการตายของพ่อ” ปานเทพไม่เชื่อ ทำหน้าจับ ชี้หน้าใหญ่ “หึ นึกว่าแกจะบอกว่ามาเพราะอยากเห็นหน้ายัยปิ่นอนงค์ซะอีก เออ นี่ตั้งแต่มาฉันยังไม่เจอหน้าเลย อยากรู้ว่าสวยแค่ไหน แกถึงติดใจนัก” ใหญ่ทำหน้าดุใส่ปานเทพ “อย่าพูดเหลวไหล ปิ่นเป็นแค่ตัวช่วยคนนึง ที่จะช่วยไขความลับได้เท่านั้นโว้ย” แล้วโดดลงจากรั้วคอกม้า เดินไป “อ้าวเฮ้ย จะไปไหนเล่า ยังคุยกันไม่จบ แล้วตกลง แผนแกเป็นไงต่อวะ” ปานเทพมองตาม แล้วระแวง เหลียวซ้ายแลขวาก่อนจะวิ่งตามใหญ่ไป วันต่อมาปิ่นอนงค์เหม่อลอย ยื่นหญ้าให้วัวกิน สีหน้าครุ่นคิด คอยหลบหน้าใหญ่ เพราะกลัวครองสุขกับแม่ด่า นึกไปถึงเหตุการณ์ที่แม่ถูกครองสุขอาละอาด และอุ่นเรือนกำชับก็ยิ่งไม่สบายใจ จังหวะนั้นจอมเข็นรถใส่ฟางกับหญ้าสดเข้ามา มองปิ่นอนงค์อย่างเป็นห่วง จอมเดินเข้าไปมา ปิ่นอนงค์ชะงักมอง “ทำไมไม่พักผ่อน ปิ่นดูอาการยังไม่ดีเลยนะ “ปิ่นหายแล้ว คนฟื้นไข้ ก็ต้องออกมาอยู่กับธรรมชาติบ้างจะได้แข็งแรงเร็วๆ มาปิ่นช่วย” จอมรีบบอก “ไม่ต้องหรอก” ปิ่นอนงค์ไม่ฟัง เอาที่โกยฟางตะกุยฟางโยนใส่จอม “นี่แน่ะ อยากโดนอีกมั้ย” จอมเอาฟางออกจากหัว ชี้หน้า ปิ่นอนงค์หัวเราะชอบใจตะกุยฟางใส่จอมใหญ่ ที่โต๊ะอาหารเรือนใหญ่เวลาเดียวกัน อุ่นเรือนวางจานชุดขนมปังไข่ดาว จัดขวด ซอส พริกไทย เกลือ น้ำตาล นม ใหญ่เข้ามานั่ง มองอาหารตรงหน้า น้อยรีบรินกาแฟ ใหญ่เหลียวมองถามหาปิ่นอนงค์ “ปิ่นอนงค์อยู่ไหน ทำไมไม่มาดูแลอาหารให้ฉัน” อุ่นเรือนทำหน้าตึงไม่รู้ ไม่ชี้ “ปิ่นอนงค์ไม่สบาย อุ่นเลยให้นอนพักค่ะ” น้อยไม่รู้เรื่องด้วย รับเอ่ยท้วงขึ้น “อะไรป้า หนูเห็นพี่ปิ่นออกไปที่ไร่ตั้งแต่เช้าแล้ว” อุ่นเรือนหยิกน้อยจนร้อง “โอ้ย” ใหญ่ฟังเฉยๆ แล้วจิ้มไข่ใส่ปาก ก่อนจะถุยออกมาอย่างไร้มารยาท อุ่นเรือนตกใจยกมือทาบอก “ถุย ไข่บ้าอะไร โคตรเลี่ยน” ใหญ่ผลักจานไป “ถ้าไม่ชอบอาหารฝรั่ง คุณใหญ่จะรับข้าวต้มมั้ยคะ อุ่นจะรีบไปทำให้” “กินข้าวต้มตอนเช้าเนี่ยนะ มันจะอยู่ท้องได้ไง มันต้องต้มเลือดหมู ร้อนๆ ใส่หมูสับกับข้าวสวย ตามด้วยปาท่องโก๋ จิ้มนมข้น” “นั่นน่ะต้องไปซื้อในเมืองแล้วค่ะคุณใหญ่” น้อยว่า “อ้าว ก็ไปซิ หรือถ้ามีปัญหาก็เรียกปิ่นอนงค์มา ยัยนั่นน่ะทำได้ทุกอย่างที่ฉันสั่ง” อุ่นเรือนอาสาทำให้ “ได้ค่ะ อุ่นจะรีบไปจัดการให้เดี๋ยวนี้” อุ่นเรือนรีบออกไป ใหญ่ยิ้มเจ้าเล่ห์ น้อยถอนใจหันมาเจอใหญ่ ใหญ่ทำหน้าดุใส่ “ยังมีปัญหาอะไรอีกมั้ย” “ไม่ค่ะ ไม่มี” น้อยลนลานหนีออกไป ใหญ่ลุกขึ้นเดินออกไปบ้าง ปิ่นอนงค์ช่วยคนงานรีดนมวัว พูดคุยกับวัวอย่างสนิทสนม “ไม่เจ็บใช่มั้ยจ๊ะ แม่มะลิ ขอบใจมากนะ ที่ให้นมพวกเรา นมแม่มะลิหอมหวาน ใครๆ ก็ชอบ เดี๋ยวปิ่นให้รางวัลแม่มะลินะจ๊ะ” จอมอมยิ้ม แอบมองปิ่นอนงค์อยู่ ปิ่นอนงค์หันมาหาจอม “จอม เอารางวัลมาให้แม่มะลิหน่อยเร้ว” จอมยิ้มให้ เอามือหอบหญ้ากับฟางในกระบะรถแล้วสะดุ้ง “โอ้ย...” ปิ่นอนงค์ตกใจ จอมยกแขนขึ้นมาดู เห็นรอยเลือดซึม เป็นขีดเล็ก ๆ ตรงท้องแขน จอมมองในกระบะ เห็นพร้าผลุบโผล่อยู่ในกองหญ้ากองฟาง ปิ่นอนงค์รีบเข้ามาจับแขนจอมดู “อุ๊ย เลือดออกด้วย” ระหว่างนั้นใหญ่เดินเข้ามาจากอีกมุมหนึ่ง มองสังเกตุการณ์ “โธ่เอ๊ย ปิ่น เล็กกว่ารอยแมวข่วนซะอีก” ปิ่นอนงค์จับแขนจอมซับกับแขนเสื้อตัวเองไปมาเบา ๆ มองจอมอย่างเป็นห่วง “ไม่ได้นะ ทำความสะอาดก่อน แล้วอย่าลืมล้างแผลใส่ยาล่ะ” ใหญ่ได้ยินตาขวาง “เดี๋ยวอักเสบ เป็นบาดทะยักไม่รู้ด้วย” ปิ่นอนงค์บอก ใหญ่เดินเข้ามา สีหน้าดุ สองคนผละจากกัน “ปิ่นอนงค์ ทำไมไม่ทำกับข้าวให้ฉันกิน มาเกะกะอะไรแถวนี้” “แม่ทำให้คุณใหญ่แล้วนี่คะ ฝีมือแม่ อร่อยกว่าปิ่นทำอีก” จอมเอียงหน้ามองใหญ่ ไม่พอใจ “ก็ฉันบอกแล้วไง คนอื่นทำ ฉันไม่กิน ฉันจะกินก็ต่อเมื่อเธอเป็นคนทำเท่านั้น นี่จะขัดคำสั่งชั้นเหรอ” จอมไม่พอใจ พูดใส่หน้า “ไม่เกินไปเหรอครับคุณใหญ่ ผมรู้ว่าคุณใหญ่เป็นเจ้านายแต่สั่งอะไร เอาแต่ใจตัวเองแบบนี้มันไม่ถูก ไม่มีเหตุผลรู้จักเห็นใจคนอื่นบ้างสิครับ เอะอะอะไร ก็ใช้แต่ปิ่น” ใหญ่ยิ้มเยาะจอม “ดี .. ถ้าอย่างนั้นฉันใช้นายแทนก็ได้ ไปเชือดวัวตัวนั้นให้ฉันทีอยากกินสเต๊ก” จอมชะงัก ของขึ้น และโกรธกรุ่นๆ “แต่นั่นมันแม่พันธุ์วัวนมของไร่” “มันจะวัวอะไรก็เหอะ ฉันอยากกิน วันงานยังกินลาบเลือดไม่สะใจเลย” ใหญ่บอก จอมจ้องใหญ่อย่างเกลียดชัง “เมื่อกี้ทำบ่น อะไรก็ใช้แต่ปิ่น พอใช้ตัวเองเข้า ทำบ่ายเบี่ยง” ใหญ่ทำหน้าดุ “ถ้าอย่างนั้น ใครก็ได้เอาวัวไปเชือดเดี๋ยวนี้” คนงานที่อยู่ด้วย มองกันเลิ่กลั่ก “ฉันสั่งไม่ได้ยินเหรอ คนงานต้องทำ” จอมกำมือแน่น ปิ่นอนงค์วิ่งไปจับวัวขวางไว้ “อย่านะคะ” ใหญ่ร้องโวยวาย “น่ารำคาญจริงวะ” ใหญ่เหลียวไปมา คว้าพร้าในกระบะ “เชือดเองก็ได้วะ หิวจะตายอยู่แล้ว” ปิ่นอนงค์รีบเข้าไป จับมือใหญ่ แล้วจับด้ามพร้าดึงออกจากมือใหญ่ โยนทิ้ง “อย่าค่ะ คุณใหญ่ อย่าฆ่าแม่มะลิเลย ปิ่นจะรีบไปทำกับข้าวให้คุณใหญ่เดี๋ยวนี้” ใหญ่ทำครุ่นคิด แล้วเดินไปช้าๆ ปิ่นรีบตามประกบ จอมกำหมัด กัดฟัน เตะของกระจุย “โธ่เว้ย ไอ้คนบ้าอำนาจ” ปิ่นอนงค์จัดหมู จัดผักหลากหลายชนิดบนโต๊ะ ใหญ่นั่งแอบมองที่โต๊ะ “จะให้ปิ่นทำกับข้าวอะไรดีคะ” ใหญ่จ้องตาปิ่นนิ่งๆ พูดช้าๆ “ฉันอยากกิน ต้มบ๊วยหมูสับ” ปิ่นอนงค์งง มองใหญ่สีหน้าครุ่นคิด “ทำไม.. ทำไมคุณใหญ่อยากกินต้มบ๊วยหมูสับล่ะคะ” “มีคนคนคนนึงเคยทำให้ฉันกิน ฉันติดใจเลยอยากกินอีกสงสัยอะไร” “ค่ะ ๆ คุณใหญ่ไปรอที่โต๊ะอาหารเถอะค่ะ เดี๋ยวปิ่นทำไปให้” “ไม่เอา ฉันจะนั่งดูเธอทำทุกขั้นตอน เดี๋ยวเธอแอบใส่สลอดฉันก็แย่ล่ะสิ” ใหญ่หาข้ออ้าง ปิ่นอนงค์เอาต้นหอมผักชีมาซอย แยกรากผักชี เอามีดตบๆ กับเขียง แยกใส่ถ้วย ใหญ่ยิ้มน้อยๆ แอบมองอยู่ พร้อมๆ กับนึกถึงภาพจำแห่งความสุขเมื่อหลายปีก่อน เมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นใหญ่ไว้ผมสั้นใส่หมวกพรางหน้า สวมแจ็กเก็ตดำตัวใหญ่ ยืนอยู่ที่หน้าหลุมศพไพศาล ควันธูปที่จุดไหว้ลอยวน ใหญ่มองรูปพ่อที่หน้าซองเก็บศพอย่างคับแค้นใจ “สำหรับพ่อ ผมคงเป็นลูกที่อกตัญญูมาก ผมอยากให้พ่อรู้ว่า ผมไม่เคยเกลียดพ่อ เพียงแต่ผมไม่เข้าใจ ว่าทำไมพ่อถึงปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่ง มาทำลายทุกอย่างระหว่างเราจนหมดสิ้น ทำไมพ่อถึงรักเค้ามากกว่าแม่ มากกว่าผม ทำไม” ยินเสียงของในตะกร้าปิ่นอนงค์ดังแว่วเข้ามา ใหญ่สะดุ้ง รีบดับธูป มาแอบหลบอยู่หลังซองเก็บศพ ปิ่นอนงค์สมัยวัยรุ่น ใส่ชุดนักศึกษาเสื้อขาว กระโปรงดำ เข้ามานั่ง ใหญ่ตะลึงไปเพราะเพิ่งเคยเห็นปิ่นอนงค์ที่โตเป็นสาวสวย...เป็นครั้งแรก ปิ่นวางตะกร้า หยิบธูปมาจุดไหว้ เก็บถ้วยเซ่นไหว้ของเก่าเคาะออก จากนั้นจึงวางซ้อนกันข้างตะกร้า หยิบถ้วยใหม่มาวาง 3 ใบ ปิ่นตักข้าวจากกล่องใส่ถ้วย ตักข้าวต้มบ๊วยหมูสับใส่อีกถ้วย ปิ่นอนงค์ยิ้มกับรูปไพศาล “นี่เมนูใหม่ค่ะ แบ่งจากถวายพระมา ต้มบ๊วยหมูสับ ปิ่นเพิ่ง...” ใหญ่แอบมองปิ๊งรัก ยิ้มเคลิ้ม “หัดทำกับแม่ อร่อยมากเลยค่ะ ปิ่นอยากให้คุณท่านได้ชิมปิ่นตักไข่เจียวใส่อีกถ้วยเพราะคุณท่านมีบุญคุณ อุตส่าห์ให้ความเมตตาเลี้ยงดูแม่กับปิ่นมา..” ใหญ่เอามือปัดกระถางแถวนั้นล้มโดยไม่ตั้งใจ ปิ่นอนงค์สะดุ้ง พนมมือสั่น “คุ คุณท่าน ปิ่นขอโทษนะคะถ้าทำอะไรล่วงเกิน” “ยัยปิ่น ปอดแหกเอ๊ย” ใหญ่ขำนั่งหัวเราะปิดปาก ปิ่นอนงค์ยิ่งกลัว ใหญ่แกล้งเอาหินเคาะสังกะสีให้มีเสียง สัปเหร่อโผล่มา อีกมุม เห็นใหญ่ตะโกนมา “เฮ้ย นั่นใคร มานั่งแอบอยู่ทำไมแถวนี้วะ” ปิ่นลืมตาขึ้นมามอง สัปเหร่อถือไม้มาชี้ไล่ “ออกมาเลย” ใหญ่จำต้องลุกมา แต่ก็ขยับหมวกให้ปิดๆหน้า ทำเป็นไอๆ “ติดยาหรือเปล่า เอ็ง” “ผม มาจากจังหวัดอื่น แต่ยังหางานทำไม่ได้ ไม่มีที่นอนเลยมาอาศัยนอนแถวนี้” “ที่นี่ไม่ใช่ที่นอน ไปเลย ไปที่อื่นไป” “ครับๆ” ใหญ่ทำเป็นเดินงอตัว ไอแคกๆ ไป ปิ่นอนงค์ตามเรียก “คุณ ๆ” ใหญ่ชะงัก นึกว่าปิ่นอนงค์จะจำตัวเองได้ ปิ่นเดินมาหยิบกล่องข้าวเป็นข้าวต้มบ๊วย กล้วย ส้ม และน้ำขวด จากตะกร้าส่งให้ใหญ่ “เก็บไว้กินนะ” ใหญ่อึ้งๆ “ถึงจะตกงานก็อย่าเพิ่งสิ้นหวัง ไปลักขโมยใครนะคะ ชั้นเชื่อว่าถ้าคุณอดทน พยายาม ซักวันคุณต้องได้งาน” ปิ่นอนงค์บอกแล้วรีบเดินไป ใหญ่มองของในมือ ประทับใจสุดๆ ชามแกงควันฉุยบนโต๊ะ ปิ่นอนงค์ตักข้าวจากหม้อใส่จาน เหลียวหาใหญ่ที่ครัว ใหญ่ยิ้มร่าเริง ถือจานใส่ไข่เจียวเข้ามา กับจานช้อนส้อม วางจานบนโต๊ะ ตักข้าวใส่จานที่ถือมาวางหน้าปิ่น ใหญ่ยิ้มร่านั่งถือช้อนส้อมรอ “นี่ๆ ต้มบ๊วยหมูสับ ต้องกินกับไข่เจียวถึงจะเข้ากัน มาๆ” ปิ่นอนงค์ยืนงงๆ ใหญ่บอกแกมสั่ง “กินด้วยกัน” “ปิ่นกินทีหลังดีกว่าค่ะ” ใหญ่ดุ “ทีหน้าทีหลังอะไร นั่งเดี๋ยวนี้” ปิ่นอนงค์นั่ง ใหญ่ตักไข่เจียวใส่จานให้ ตักแกงใส่ช้อนให้ “กินเดี๋ยวนี้เลย กินเยอะๆ ดูสิ ผอมจนเป็นไม้เสียบผีแล้วเธอยัยปิ่น หรือจะให้ป้อน” ปิ่นอนงค์รีบยกช้อนกิน ท่าทีขัดเขิน ใหญ่กินอย่างเอร็ดอร่อย พยักพเยิดให้ปิ่นอนงค์กิน ถวิลนั่งที่โต๊ะทำงานเล็กๆ แจกแจงงานให้ลูกน้องในไร่ ลูกไร่ 5-6 เข้าแถวฟังสงบ จังหวะต่อมาถวิลดูหน้าจดชื่อในสมุด เปี๊ยก หวาน ตรวจเตรียมเครื่องตัดหญ้าอยู่ใกล้ๆ เปี๊ยกเหลือบดูถวิลตลอดเวลา พอคนงานแยกออกไป เปี๊ยกรีบเข้าไปหาถวิล ทำมือทำไม้ฟ้องถวิล ว่าเจิด-ก้านจะฆ่าใหญ่ หวานมองเปี๊ยก ส่ายหน้า ถวิลงง “อะไรของเอ็งไอ้เปี๊ยก ใครจะยิงนกในไร่เหรอ” หวานเดินหงุดหงิดเข้ามาแปลให้ “มันบอกว่ามีคนจะยิงคุณใหญ่เมื่อวานนี้ ฉันยังงงๆ อยู่เลยใครจะกล้าทำ บ้าบอ” เปี๊ยกยกมือไหว้ท่วมหัวสาบาน พลางเอานิ้วเชือดคอ พยักหน้ายืนยันว่าเรื่องจริง จอมเดินเข้ามา หน้าตาบูดบึ้ง จอมนั่งบนโต๊ะอีกตัว มองถวิล “พ่อ วันนี้ฉันไม่ทำงานนะ ขอลาวันนึง” “เฮ้ย.. คนยิ่งไม่พออยู่ เอ็งจะลาไปไหน” “ไปไหนก็ได้ เบื่อ เบื่อหน้าคน ถ้าไม่ใช่เจ้านายนะ จะตะบันให้คว่ำเลย” “ใคร เอ็งหมายถึงใคร” คนงานมอง จอมโวยวายต่อ “ก็คุณใหญ่ของพ่อน่ะสิ โคตรเลวเลย แกล้งปิ่นอยู่ได้ ลูกผู้ชายอะไรวะ รังควานผู้หญิงทุกวี่ทุกวัน ไม่รู้ว่าปิ่นไปทำอะไรหนักหัวหนักกบาลมันนัก” ถวิลโกรธจอม ชี้หน้าด่า “ระวังปาก ไอ้จอม” ปานเทพเดินระรื่นเข้ามา ยิ้มเก้อให้ทุกคน “หวัดดีทุกคน นายหวินอยู่พอดี ผมขอตรวจสอบบัญชีค่าใช้จ่ายพวกยาสัตว์ พวกปุ๋ย แล้วก็รายชื่อ เวลาทำงานของพวกคนงานหน่อย” จอมอารมณ์กรุ่นๆ พูดสวนออกไปเสียงขุ่น “จะตรวจไปทำไม” เจิดกะก้าน โผล่มาชะงัก แอบดูท่าที “อ้าว ก็ชั้นเป็นผู้ช่วยคุณใหญ่ก็ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบไม่ให้มีการรั่วไหล ไม่ให้มีการหลบงานอู้งาน” ถวิลเปิดลิ้นชักง่วน “ได้ครับ ได้ เดี๋ยวผมเอาให้ดู” จอมเข้าขวางระหว่างถวิลกับปานเทพ “พ่อผมตรวจสอบแล้วทุกอย่าง ถ้าไม่เชื่อใจกันก็ให้คุณใหญ่มาเอง” “อ้าว.. พูดอย่างนี้ไม่ให้เกียรติกันนี่หว่า” ปานเทพชักฉุน จอมใช้สองมือผลักอกปานเทพกระเด็น “แล้วมึงจะเอายังไง” ปานเทพตั้งการ์ดฟุตเวิร์คไป ถอยไป ที่สุดสะดุด หงายเงิบ แล้วรีบลุก คว้าเก้าอี้ “อย่านะเว้ย เดี๋ยวจะหาว่า ปาน ป่าหวาย ไม่เตือน” จอมโมโหใหญ่อยู่แล้ว เลยกะระบายกับปานเทพ ทะยานเข้าไปหา ปานเทพตกใจฟาดจอมก่อน แต่ถูกจอมจับกระชาก จนปานเทพหัวคะมำ จอมตามมาปานเทพต่อยมั่ว จอมหลบ แล้วต่อยปานเทพคว่ำไป จอมจะเข้าซ้ำ ถวิลเข้าจับ “ไอ้จอม หยุดได้แล้ว หวาน เปี๊ยกช่วยหน่อยโว้ย” สองคนช่วยกันดึงจอม ปานเทพชี้หน้า “ระวังจะโดนข้อหาทำร้ายร่างกายนะโว้ย” จอมฮึดฮัด “ข้าไม่กลัว” เจิด กะก้าน ลุ้นเต็มที่ให้มีเรื่องกัน “คุณปาน ขอโทษ คุณไปก่อนเถอะ ผมขอร้องล่ะ” ถวิลขอร้อง ปานเทพหยุดขยับเสื้อไปมา “ดี จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวกัน” ปานเทพเดินกุมหน้าออกไป จอมสลัดคนที่จับ “ไอ้จอม ถ้าเอ็งยังไม่ฟังข้าก็ไม่ต้องมานับถือกันอีก” ถูกพ่อด่า จอมฮึดฮัดเดินไป เจิดกะก้านแอบมอง เวลานั้นธีระนั่งในรถ เหลือบมองไปยังครองสุขที่ตู้เอทีเอ็มเป็นระยะ เสียงโทรศัพท์มือถือ ธีระรับสาย “ว่าไง ไอ้เจิด” ธีระฟังแล้วค่อยๆ คลี่ยิ้ม “ดี ๆ เอ็งถือหางไอ้ปาน หาโอกาสยุแยงตะแคงรั่วให้พวกมันฆ่ากันตายไปเลยยิ่งดี” ธีระยิ้มร้ายกดวางสาย ครองสุขเปิดประตูรถเข้ามานั่งหน้าบึ้ง “มีปัญหาอะไรเหรอครับพี่” “ไอ้เสี่ยตงมันไม่ได้โอนเงินเข้าบัญชี” “อ้าว ก็ตกลงกันแล้วนี่ครับ” “ก็ใช่น่ะสิ ไอ้เสี่ยบ้าเอ๊ย ได้งาบของซิง ๆ เอ๊าะๆ แล้วยังไม่หน้ามาเบี้ยวกันอีก ทำอย่างนี้ฉันไม่ยอมหรอก” ครองสุขเครียด ธีระมองนิ่ง รถครองสุขเข้ามาจอดที่ตึกเสี่ยตง ครองสุข ธีระลงรถจะเดินเข้าบ้าน สมุนเข้าล็อกแขนครองสุข กับธีระไว้ ครองสุขโวยลั่น “ปล่อย ปล่อยนะไอ้พวกบ้า พวกแกจะทำอะไรฉัน” “เฮ้ย.. พูดกันดีๆ สิ อะไรวะ ปล่อย ๆ” สมุนไม่สนลากทั้งคู่ไป อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 3 วันที่ 19 มิ.ย. 55 ละคร ปิ่นอนงค์ บทประพันธ์โดย : รจเรข ละคร ปิ่นอนงค์ บทโทรทัศน์โดย : ดลกมล คนหลังม่าน ละคร ปิ่นอนงค์ แนวละคร : โรแมนติก ดราม่า ละคร ปิ่นอนงค์ผลิตโดย : บริษัท มุมใหม่ จำกัด โดย อ๊อด ธีรศักดิ์ พรหมเงิน ละคร ปิ่นอนงค์ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ ละคร ปิ่นอนงค์ เริ่มออกอากาศตอนแรก วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายนนี้ ที่มา manager.co.th
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ