อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 16 วันที่ 11 พ.ค. 55

{[['']]}
อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 16 วันที่ 11 พ.ค. 55
เมื่อ ถึงเวลานัด ภักดิ์ภูมิ กับดอกโศกเดินเคียงกันมาในห้องอาหาร เจอท่านกงสุลญี่ปุ่นรออยู่แล้ว พร้อมผู้ติดตามอีก 2 คน ทั้งสามเดินเข้ามาทักทายกัน ผู้ติดตามเดินฉากออกไป
ภักดิ์ภูมิแนะนำดอกโศก กงสุลญี่ปุ่นโค้งแล้วจับมือ แล้วโค้งอีก ทักทายตามธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่น
ทั้งหมดนั่งโต๊ะคุยกัน กงสุลพูดคุยอยู่กับภักดิ์ภูมิ แล้วหันมาพูดกับดอกโศกท่าทางสุภาพ นัยน์ตาชื่นชมความงาม
ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสามคนร่ำลากันไปกันหมดแล้ว
จู่ๆ ภักดิ์ภูมิเอ่ยขึ้น “ผมยังไม่อยากเข้าออฟฟิศ”

“ค่ะ เชิญค่ะคุณภักดิ์ภูมิ แอนเจล่าจะแปลหนังสือต่อ”
ภักดิ์ภูมิแตะแขนเบาๆ “ผมอยากไปหาขนมอร่อยทาน แอนเจล่าไปกับผมหน่อยนะครับ”
ดอกโศกอ้ำอึ้ง สีหน้าลำบากใจนิดๆ “เอ่อ...แอนเจล่านัดให้คุณอัศนัยมารับบ่ายสามนะคะ จะไปโรงงานคุณอัศนัยค่ะ” ดอกโศกรู้ท่าทีของภักดิ์ภูมิ พยายามบอกทางอ้อมว่ามีแฟนแล้วนะ
“ผมจะพากลับมาบ่ายสองห้าสิบนาทีตรง...รับรอง เชิญ...”
ภักดิ์ภูมิไม่ยอมแตะหลังดอกโศกด้วยกิริยาสุภาพเป็นเชิงขอร้องให้เดินไป

เอ็ดดี้เดินออกมามองตาม
ภักดิ์ภูมินั่งด้วยท่าทีสบายๆ ทอดสายตาแสนอ่อนโยนไปที่ดอกโศก ที่กำลังจิบชาไม่วางตา สองคนอยู่ในร้านขนมบรรยากาศสวยหวาน ในศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง


ภักดิ์ภูมิตักขนมให้ดอกโศก
“ทานขนมนะครับ ชีสเค๊กที่นี่อร่อยมาก อ้อ...แอนเจล่ากลัวอ้วนหรือเปล่าครับ”
“ก็...กลัวเหมือนกัน” ดอกโศกว่า
“สองคำ...นะครับ แอนเจล่าทานเดี๋ยวผมทานที่เหลือเอง” ภักดิ์ภูมิบอก
“ตาย...ไม่ได้หรอกค่ะ” ดอกโศกว่าอีก เย้าเล่น
“ถ้างั้นก็ทานให้หมด ถ้าเหลือ...ผมจะทานต่อ” ภักดิ์ภูมิบอกย้ำคำเดิม
ดอกโศกมองค้อน นิดๆ รู้ดีว่าเป็นอุบายภักดิ์ภูมิ “แหม...”
“แหม....” ภักดิ์ภูมิล้อ หัวเราะเบาๆ “โถ...มีคำอะไรอีกที่แอนเจล่าพูด แล้วฟังเพราะอย่างนี้”
ดอกโศก เขินเล็ก ๆ ตามประสา ก้มลงทานขนม

ขณะเดียวกันนั้น อุ๊กับเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันเดินมาอีกทางหนึ่งในศูนย์การค้าแห้งนั้น เพื่อนคนหนึ่งบอกว่า “ชั้นไปเสียค่าโทรศัพท์ก่อนนะ” แล้วเดินเข้าช็อปศูนย์บริการโทรศัพท์ไป
เพื่อนทั้งหมดยืนคอย คุยกันเบาๆ ไม่มีทีท่าซ่าเซี้ยวแต่อย่างใดเพราะเป็นเด็กมีมารยาทกันพอสมควร
คุยเรื่องชุดที่ใส่ หรือกระเป๋าหรู หรือจะเอนท์ที่ไหน
“เอ๊ะ ทำไมนานจัง” อุ๊ว่า
“คนเยอะมั้ง...ไปตามให้” เพื่อนคนหนึ่งว่า
“งั้นชั้นไปเสียตังค์ด้วย...ลืม” อีกคนหัวเราะ หน้าจ๋อยๆ
เพื่อนๆ ร้องโวย “โธ่เอ๊ย...” บางคนถือโทรศัพท์ขึ้นมาดูของตัวเอง บางคนกำลังส่งข้อความให้เพื่อน
อุ๊ มองไปเห็นภักดิ์ภูมิกับดอกโศกผ่านกระจกที่ร้านขนมแห่งหนึ่ง
“เอ๊ะ” อุ๊หยิบโทรศัพท์มาถือไว้ จะถ่ายรูป
เพื่อนๆ หันมาดูอุ๊กันใหญ่ มีคนหนึ่งถาม “อะไร เห็นอะไร” เสียงเบาๆ

ภักดิ์ภูมิเซ็นต์ชื่อในบิล พาดอกโศกลุกขึ้น ดูนาฬิกา
“บ่ายสองโมง ผมมีเวลาอีกห้าสิบนาที”
“กลับดีกว่าค่ะ เดี๋ยวรถติดนะคะ”
“โอเค เชิญครับแอนเจล่า” ภักดิ์ภูมินิ่งไปนิด สายตาคิดจะพูดดีมั้ย แต่ใจบอกให้ถาม “...เป็นห่วงเขาคอยมากหรือครับ”
“โธ่...”
ภักดิ์ภูมิเย้า “อีกคำแล้วที่ฟังเพราะมาก...โธ่”

เพื่อนอุ๊ 2 คน เดินออกมาจากร้านโทรศัพท์ เดินแกมวิ่ง
เพื่อนๆ ถามกันว่าทำไมช้า เพื่อนทั้ง 2 ตอบว่า คนแยะ ขนาดเค้าเปิดเคาน์เตอร์ใหม่ให้เลยนะ
อุ๊ไม่ได้สนใจฟัง มองไป เห็นภักดิ์ภูมิและดอกโศก กำลังออกจากร้านขนม
อุ๊กดโทรศัพท์ที่ถ่ายรูปดอกโศกไปแล้ว “ฉันไปคนเดียวดีกว่า แยกกันเลยนะ บ๊าย..บาย” เดินไปทันทีเพื่อนๆ งงเป็นแถว
ภักดิ์ภูมิพาดอกโศกเดินไปเรื่อยๆ ผ่านหน้าร้านเฟอร์นิเจอร์ร้านหนึ่ง
เพื่อนภักดิ์ภูมิเดินจะออกจากร้านพอดี “คุณภักดิ์ภูมิ”
“อ้าว...คุณพัฒนะ”
“ผมกำลังจะไปหาครับ ร่างแบบรีโนเวทห้องอาหารเสร็จแล้ว เดี๋ยวผมหยิบให้...ดูก่อนมั้ย”
ภักดิ์ภูมิแนะนำดอกโศกให้รู้จัก “ดี...แอนเจล่า นี่คุณพัฒนะ อินทีเรียของโรงแรมเรา นี่คุณแอนเจล่าเลขาของผม” สองคนไหว้ทักทายกัน นัยน์ตาพัฒนะชื่นชมความสวยของดอกโศก
“คุณพัฒนะมาดูอะไรเนี่ย ซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือ”
“ครับ...ของลูกค้าคนหนึ่ง” หยิบกระเป๋าแบบ..ใบใหญ่เปิดหาของ
ภักดิ์ภูมิบอก “เอาไปดูที่โรงแรมได้ไหมคุณพัฒนะ”
พัฒนะบอก “1 นาทีครับ 1 นาที”
ภักดิ์ภูมิ หันมาพูดกับดอกโศกใกล้ๆ เบาๆ “เดี๋ยวเดียวนะแอนเจล่า”
ดอกโศกเงยหน้าสบตา ตอบ “ค่ะ”
อุ๊ถ่ายคลิปไว้ทันที เป็นภาพสองคนในท่าทางที่ใกล้ชิดมากๆ มีเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลายเป็นฉากหลัง

ที่โรงแรมเวลาเดียวกัน เอ็ดดี้นั่งคุยกับมิสซิสเบนส์ ท่าทางเคร่งเครียด คุยเบาๆ
“แอนเจล่าออกไปกับภักดิ์ภูมิ”
“ไปไหน...รู้มั้ยเอ็ดดี้”
“ไม่รู้...”
“เขาทำงานด้วยกัน” มิสซิสเบนส์บอก
“ผมรู้...รู้แล้วไงแกรนด์มา..That ‘s why I really care - ผมถึงแคร์ไง แคร์มาก” เอ็ดดี้หยุดแล้วพูดต่อ “ยังมีอีกคนอีก คนนั้นยิ่งน่ากลัว”
พูดไม่ทันขาดคำ อัศนัยเคาะประตู แล้วเปิดเข้ามา ไหว้คุณย่า “สวัสดีครับคุณย่า
เอ็ดดี้ เซ็งมาก พูดถึงก็มาพอดี
“คุณมาก่อนเวลาหรือเปล่าคะ” มิสซิสเบนส์ทัก เห็นหน้าเอ็ดดี้ด้วยว่าเซ็งจัด
“อ๋อ...ก่อนครับ” อัศนัยดูนาฬิกา “ยังไม่ถึงเวลานัด”
“แอนเจล่าทำงาน...เลิกเย็น คุณมาเร็วทำไม” มิสซิสเบนส์ถามซัก
“แอนเจล่านัดผมเองครับ”
“นั่นแหละ คุณน่าจะมาตรงเวลา มาก่อนไม่ดี” มิสซิสเบนส์ท้วงพยายามจะหาเหตุ
“ขอโทษครับ...ผมมาเร็วไป 5 นาที แอนเจล่านัดผมบ่ายสามโมง”
เจอคำพูดแบบนี้คุณย่าดอกโศกเลยเก้อ...อุตส่าห์ทำเสียงเข้ม
“แอนเจล่าไปไหนล่ะครับ” อัศนัยถาม
“ไปข้างนอกกับเจ้านายเขา กลับเย็นมั้ง” มิสซิสเบนส์บอก
“ไม่เป็นไรครับ ผมคอย” อัศนัยว่า

นาฬิกาบอกเวลา 16.00 น.
อัศนัยสีหน้านิ่งมาก แต่เหมือนภูเขาไฟสงบรอระเบิด พลิกข้อมือนิดเดียวเหลือบตาดูเวลา เสียงคุณย่าคุยกับเอ็ดดี้เบาๆ
“เอ็ดดี้เธอเสร็จธุระหรือยัง”
“เสร็จหมดแล้วครับแกรนด์มา”
“ดี...กลับหัวหินกันเถอะ”
“ครับ”
“ย่าจะพาแอนเจล่าไปด้วย”
อัศนัยได้ยินเต็มๆ สมใจมิสซิสเบนส์
ประตูห้องเปิดเข้ามา ภักดิ์ภูมิเข้าดอกโศกตามมาอย่างรวดเร็ว อัศนัยลุกขึ้นยืน
ดอกโศกไหว้ “ขอโทษค่ะ”
อัศนัยไม่สนใจทักทายภักดิ์ภูมิ
ดอกโศกยืนงงงัน ท่ามกลางผู้ชาย 3 คน ที่กำลังพูดคุยกัน มิสซิสเบนส์ลอบมองดอกโศกอย่างเพ่งเล็ง
เห็นนัยน์ตาดอกโศกอยู่ที่อัศนัยตลอดเวลา มิสซิสเบนส์ถอนใจ สงสารเอ็ดดี้มาก มองเอ็ดดี้นิ่ง
เอ็ดดี้ พูดคุยแจ่มใส ดูเป็นธรรมชาติ ภักดิ์ภูมิดูเป็นมิตร
อัศนัยฝืนๆ นิดๆ แต่มารยาทสังคม ต้องเก็บไว้ แล้วชำเลืองมองดอกโศก นัยน์ตาเข้มๆ รวนๆ ดอกโศกรับรู้สายตานั้น หวาดหวั่นลึกๆ ในใจ

สองคนมาถึงที่ออฟฟิศตอนค่ำ อัศนัยเดินเร็ว ดอกโศกตามเร็วๆ อัศนัยหันขวับมา “คุณนัยคอยชั่วโมงสิบนาที”
“ดอกโศกขอโทษค่ะ”
“ไปไหนกัน”
“วันนี้...ทานข้าวกับกงสุลญี่ปุ่น แล้ว...ไปพบอินทีเรียที่เขาจะมาปรับปรุงห้องอาหารของโรงแรมค่ะ” ดอกโศกแจง
“ทำไมต้องไปด้วยกัน เขาไปคนเดียวไม่ได้หรือ”
“คุณนัยคะ ดอกโศกไปทำงานนะคะ” ดอกโศกท้วง
“ทำไม เลขาเกี่ยวอะไรกับอินทีเรียห้องอาหาร...ไม่เห็นเกี่ยวกันไม่ต้องพาเลขาไปก็ได้ ไปพบที่ไหน”
“ที่ศูนย์การค้าค่ะ”
“อะไรนะ ทำไมต้องเป็นศูนย์การค้านัดพูดเรื่องซ่อมห้องอาหารทำไมต้องพูดที่ศูนย์การค้า”
ดอกโศกนิ่ง นัยน์ตาว้าวุ่นจะบอกดีหรือไม่ดี เสียงอัศนัยถามย้ำ
“ดอกโศก คุณนัยถามไม่ได้ยินหรือ”
“คุณนัยเสียงดังจะไม่ได้ยินได้ไงคะ”
“ทำไมไม่ตอบ ทำไมต้องเป็นศูนย์การค้า”
ดอกโศกนิ่งอีก...ไม่ตอบ
“ดอกโศก....ตอบสิ” อัศนัยคาดคั้น
“ไม่ทราบค่ะ”
“ไปที่ไหนมั่ง...ร้านอาหาร ร้านกาแฟ...ดูหนัง หรือช็อปปิ้ง ซื้อของ นอกจากไปพบอินทีเรีย”
ดอกโศกนิ่ง
“ดอกโศก ไปไหนอีกมั่ง”
ดอกโศกขยับตัวก้าวเข้ามาใกล้ เอามือแตะที่แขนอัศนัย แล้วมองหน้าเป็นเชิงตัดพ้อว่า ถามมากไปแล้ว
“ทำไม ฉันถามมากไปหรือ”
“คุณนัยไปที่ไหน ถ้าเกี่ยวกับงานของคุณนัย ดอกโศกจะไม่ถามเหมือนกัน”
อัศนัยอึ้ง แล้วเข้ามากอดแรงๆ ซบหน้ากับผมดอกโศกนิ่งสักครู่
ดอกโศกยอมปล่อยตัวเองให้อยู่ในอ้อมกอดอัศนัยสักครู่ แล้วกอดตอบเบาๆ ท่าทีนุ่มนวล ที่กล้าทำเพราะดูแล้วเป็นมุมที่ลับตาคน
“หวง” อัศนัยว่า
“ดอกโศกก็หวงคุณนัย”
อัศนัยหลับตานิ่ง เพื่อให้ความรู้สึกจากน้ำคำที่ได้ยินดื่มด่ำเข้าไปในหัวใจ “หวงนะคนดีของคุณนัย” กระซิบคำหวานแนบหูสำทับ
“ดอกโศกไปสั่งกาแฟให้นะคะ” ดอกโศกว่าพลางถอยตัวออกมา
“ไม่อยากให้ดอกโศกไปทำงานที่โรงแรมนั้นเลย” อัศนัยอ้อนคว้ามือไว้ จนดอกโศกเดินห่างออกไปจึงปล่อย
ดอกโศกออกไปแล้ว เสียงอัศนัยพูดตามหลังมา ไม่ดังมาก “ไม่อยาก”

ดอกโศกเดินออกมา อุ๊เดินเลี้ยวมุมมาพอดี สองคนตกตะลึงทั้งคู่
“มาทำไม” อุ๊ถามออกไป
“เธอล่ะ” ดอกโศกย้อน
“ไม่ต้องมาถาม ชั้นมีสิทธิ์จะมา พ่อกับแม่ชั้นมีหุ้นที่นี่ชั้นจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่เหมือนเธอ..เธอมาทำไม”
“ฉันมากับ...” ดอกโศกไม่อยากพูดแต่ห้ามปากไม่ได้ “หุ้นส่วนใหญ่ของที่นี่เหมือนกัน....ใหญ่กว่า”
อุ๊รู้ทันว่าเป็นใคร พูดไม่ออก หายใจแรง ดอกโศกจ้องหน้านิ่งๆ
อุ๊....สะอึกในอก สู้ไม่ได้ ค่อยๆ ถอยหันหลังกลับ เดินจากไป

ไม่นานต่อมา อัศนัยพาดอกโศกเดินดูภายในโรงงาน อธิบายโน่นนี่นั่นอยู่ไปอยู่ไปมา แล้วพาเดินอีกที่หนึ่ง จูงมือแนะนำให้รู้จักบุรี
บุรีมองเอ็นดู เต้ยกับวินด้วย คนอื่นๆ ก็ด้วย อัศนัยแตะหลังดอกโศก ให้ดูการเขียนลายเซรามิกของวินกับเต้ย ดอกโศกดูอย่างสนใจ
อุ๊ แอบมองด้วยหัวใจสลาย มองนิ่งๆ จนน้ำตาขึ้นมาคลอเต็มตา

เย็นวันนั้น อุ๊เปิดประตูเข้ามาในห้องเพ็ญพักตร์เร็วรี่ หน้าเสียมาก “คุณแม่”
“อุ๊ เป็นอะไรลูก” เพ็ญพักตร์ซึ่งแต่งตัวจะออกไปงานตกใจมาก
อุ๊เดินเข้ามาเร็วรี่ โถมตัวเข้าหาแม่ “คุณแม่...” เสียงสะอึกนิ่งไป
“ใครทำอะไร....เป็นอะไร”
อานัยพามันไปโรงงาน”
“ใคร...อ๋อ” เพ็ญพักตร์นึกรู้ทันที
“เขาเปิดตัวมันแล้วคุณแม่”
เพ็ญพักตร์ถอนใจยาว เหนื่อยใจไม่น้อยเหมือนกัน “เขาทำยังไง”
“เขาพามันเดินจนทั่ว จูงมัน..โอบหลังมันแนะนำคนโน้นคนนี้”
เพ็ญพักตร์กอดรั้งลูกสาวเข้ามาอีก...ตบหลังเบาๆ ปลอบ
“อุ๊ ไม่มีทางแล้วคุณแม่”
“อุ๊รักอานัย...อานัยเขารู้อยู่เต็มอก แม่ว่าเขาให้อุ๊แค่ความสงสารก็จริงแต่....” เพ็ญพักตร์ทอดคำ
“สงสารหรือคุณแม่...มีรึเปล่าไม่รู้” อุ๊เยาะตัวเอง
“มี..เชื่อแม่ ผู้ชายที่เป็นศิลปินละเอียดอ่อนแบบอานัยเขารับรู้ เขา sense ได้ว่าอุ๊รักเขา แต่เขายังไม่รักอุ๊เขาก็ต้องสงสาร สมัยก่อนเรามีคำพูดว่า ความสงสารเป็นบ่อเกิดของความรัก เคยได้ยินมั้ย”
“เคยค่ะ”
“นั่นล่ะ ถ้ายังรักเขาเรื่อยๆ ก็คอยเขา ไม่ต้องทำอะไร แค่ให้เขารู้ว่าเรารักเขา ไม่ต้องทำดอกโศกเพราะจะทำให้เขารักมันมากขึ้น”
“แต่อุ๊ไม่มีวันทำดีกะมัน”
“ก็ไม่ต้อง ต่างคนต่างอยู่ มันไม่มายุ่งกะเราแล้ว”
“ก็มันรวยแล้วนี่ ย่ามันน่ะค่ะ” อุ๊ว่า
“ช่างมัน..ไม่ต้องไปตื่นเต้นกับมัน..เรื่องอานัย ถ้าเขาลงเอยกะมันก็ช่างเขา อุ๊มีโอกาสอีกเยอะแยะ ต้องเจอผู้ชายดีๆ อีกมากแต่....” เพ็ญพักตร์พูดเรื่องเจื้อย พยายามปลอบลูกสาว
“อุ๊รักอานัยค่ะคุณแม่” เพ็ญตระการสวนออกมาแล้วก้มหน้านิ่ง ท่าทางสิ้นหวัง
เพ็ญพักตร์โยกตัวลูกสาวไปมา “แต่ถ้าเขากะมันเกิดอุปสรรคบางอย่าง ทำให้ต้องเลิกกันไป...อุ๊คือคนต่อไปของอานัย”
“ไม่จริงหรอก อานัยไม่มองอุ๊เลย” อุ๊บอกปลงๆ
“แต่เขารู้ว่านี่คือคนที่รักเขามากที่สุด รองจากดอกโศกหรืออาจจะเท่ากันหรือมากกว่า” เพ็ญพักตร์บอก
อุ๊แม้นัยน์ตาจะยังเศร้า แต่ก็ยังมีความหวังมากขึ้น

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 16 วันที่ 11 พ.ค. 55
ละครเรื่อง ดอกโศก บทประพันธ์ : ศรีทอง ลดาวัลย์
ละครเรื่อง ดอกโศก บทโทรทัศน์ : ศัลยา
ละครเรื่อง ดอกโศก กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ
ละครเรื่อง ดอกโศก ผลิต : บ. เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง ดอกโศก แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง ดอกโศก ออกอากาศทุกวัน จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ททบ. 5
ที่มา manager.co.th
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ