อ่านละคร ขุนเดช ตอนที่ 5-6 วันที่ 22 เม.ย. 55

{[['']]}
อ่านละคร ขุนเดช ตอนที่ 5
ยงยุทธไม่ตามแต่รีบไปที่รถ พอเห็นว่าพระพุทธรูปยังอยู่ก็โล่งอก...
ooooooo

ในป่าที่ลับตาคน...เปรื่องเอารถจี๊ปมาจอด ลงมาเปิดผ้าคลุมท้ายรถออก พระพุทธรูปองค์จริงพระพักตร์ งดงามวาววับอยู่ท้ายรถ! เปรื่องแผดเสียงหัวเราะอุบาทว์ออกมาอย่างสะใจ

ส่วนที่บ้านกำนัน สัมฤทธิ์หนีตายกลับมาถึง ก็ถูกกำนันซักถามอย่างโกรธจัดว่า ทำไมเปรื่องไม่มาพร้อมกัน สัมฤทธิ์บอกว่า เปรื่องให้ตนแวะเปลี่ยนองค์พระระหว่างทาง ตนมัวลุยกับพวกนั้น คิดว่าเปรื่องคงจะมาถึงก่อนเสียอีก

ทั้งกำนันและประดับมองหน้ากันอย่างรู้สึกไม่ชอบมาพากล ประดับบอกว่ากำนันกับลูกชายเสียรู้เปรื่องแล้ว สัมฤทธิ์ทำกร่างจะไปจัดการ


“อย่างแกส่งไปก็มีแต่ตายกับตาย” ประดับคว้าคอเสื้อสัมฤทธิ์ไว้ผลักจนกระเด็นแล้วหันมาขู่กำนันว่า “กำนัน...ถ้ายังเอาพระพุทธรูปฟ้าผ่าคืนมาไม่ได้ คงรู้นะว่ากำนันจะโดนอะไรบ้าง” พูดแล้วเดินหน้าเหี้ยมออกไป

“ไอ้เปรื่อง มึงกล้าหักหลังกู...มึงตาย!!” กำนันคำราม แค้นแทบกระอักเลือด

วันต่อมา มีชายฉกรรจ์ไปที่ร้านอาฮวดถามว่าเปรื่องมาที่นี่หรือเปล่า สาลี่บอกว่าเคยมาแต่ตอนนี้ไม่ได้มา มันหันบอกกันว่า ไปหาที่อื่นต่อ บัวทองที่คุยกับสาลี่อยู่ในร้านก่อนแล้ว พูดกับสาลี่ว่า

“ฉันว่าวีรบุรุษของป้าสงสัยจะไปมีเรื่องเหยียบตาปลาพวกผู้มีอิทธิพลแถวนี้เข้าแล้วล่ะ”

ooooooo

ยงยุทธขับรถนำพระพุทธรูปกลับมาที่แคมป์โบราณคดีอย่างภูมิใจ แต่พอขุนเดชเห็นก็คว้าค้อนจะทุบทิ้ง เกือบมีเรื่องกับยงยุทธ จนเมื่อขุนเดชชี้ให้ดูดีๆ บอกว่าพวกเราทุกคนกำลังถูกหลอก

เมื่อดารากับอาจารย์ประทีปดูอย่างพินิจพิจารณาละเอียดแล้วจึงรู้ว่าเป็นของปลอมจริงๆ!

หลังจากนั้น ดาราบอกขุนเดชที่คิดหนักว่า อาจารย์ประทีปจะจัดการทำลายองค์พระปลอมให้ จะได้ไม่มีใครเอาไปแอบอ้างได้ ทั้งขอบใจขุนเดชที่ทำให้พวกตนรู้ว่าพระพุทธรูปนี้เป็นของปลอม

ขุนเดชถามว่า ได้ข่าวว่าเมื่อไม่กี่วันมานี้อาจารย์ก้องเกียรติมาดูพระพุทธรูปที่นี่ ดาราปรารภอย่างหนักใจว่าเราไม่มีหลักฐานจะเอาผิดกับก้องเกียรติได้ ตอนนี้กลัวแต่ว่าพระพุทธรูปนี้จะตกไปอยู่ในมือของพวกต่างชาติ แล้วเราจะเอาคืนยาก

“ไม่หรอกดารา ผมจะตามหาพระองค์จริงกลับมาให้ได้” ยงยุทธพูดอย่างมั่นใจ ดาราถามว่ามีทางหรือ “ผมพอจะรู้ว่าจะเริ่มสืบจากใครได้”

จากนั้น ยงยุทธนำกำลังไปบุกค้นบ้านเช่าของเปรื่อง พบว่าข้าวของกระจุยกระจาย แสดงว่าต้องมีคนมาค้นก่อนพวกตน จากการรื้อค้นอย่างละเอียดแสดงว่าต้องเป็นของสำคัญ จ่าแท่นถามว่า หมายถึงองค์พระจริงอย่างที่หมวดสงสัยหรือ

“ใช่...นายเปรื่องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่ สั่งทุกคนให้จับเป็นนายเปรื่องให้ได้ ผมต้องการตัวมาสอบปากคำ งานนี้เราต้องสาวให้ถึงตัวบงการ”

ooooooo

ในป่าที่เปรื่องกบดานอยู่ ลูกน้องกำนันสามคนย่องกริบเข้ามา เห็นแสงไฟที่เปรื่องก่อปิ้งไก่ป่ากิน คนที่เป็นหัวหน้าสั่งลูกน้องสองคนให้แยกกันทำงาน ถ้าตนนับถึงสามเมื่อไหร่ให้ลงมือพร้อมกันทันที

เปรื่องที่เป็นทหารผ่านศึก ชำนาญการรบในป่า แต่งชุดพราง ซุ่มคอยจังหวะอยู่ พอเห็นลูกน้องกำนันคนหนึ่งเดินแยกไป ก็ย่องตามไปเก็บทีละคน คนแรกถูกเชือกเอ็นรัดคอตายไม่ได้ร้องแม้แต่แอะเดียว คนที่สองถูกปามีดเข้ากลางอกตกน้ำตาย คนสุดท้ายได้ยินเสียงอะไรตกน้ำหันขวับมาเห็นเปรื่องมันรัวปืนใส่ทันที

เปรื่องกระโจนหลบหลังต้นไม้ เอาลูกเกลี้ยงมาเดาะเล่นแผดเสียงหัวเราะอุบาทว์อย่างลำพองใจ

เป็นเวลาที่ขุนเดชกำลังไปดูหลังคารั่วบ้านคำปัน บอกว่าเดี๋ยวจะไปซื้อสังกะสีพรุ่งนี้จะมาซ่อมให้ บัวทองรีบอาสาจะเป็นลูกมือให้ คำปันบ่นลูกว่าไม่ได้ดั่งใจเลย สอนให้รำก็ไม่เอาไหน ทีเรื่องโลดโผนโจนทะยานละก็เอาการเอางานนัก น่าจะเกิดมาเป็นผู้ชายมากกว่า แม่จะได้ไม่ต้องมาคอยกลุ้มใจ

ระหว่างนั้น มีเสียงระเบิดดังแว่วมา บัวทองบอกว่าเป็นเสียงระเบิด แต่ขุนเดชกลบเกลื่อนว่าคงเป็นเสียงประทัดที่เด็กจุดเล่น แล้วรีบขอตัวไป

วันนี้ ระหว่างขุนเดชขับรถบรรทุกไม้กับสังกะสีจะไปซ่อมหลังคาบ้านคำปัน โดยมีบัวทองนั่งมาเป็นผู้ช่วยด้วยนั้น บัวทองเห็นชาวบ้านมุงดูอะไรอยู่ริมตลิ่ง บอกให้จอดรถลงไปดู จึงเห็นศพชายฉกรรจ์ที่ถูกเปรื่องปามีดปักอกตกน้ำตายลอยมาเกยตลิ่ง บัวทองจำได้ว่าเป็นหนึ่งในสามคนที่ไปถามหาเปรื่องที่ร้านอาฮวดเมื่อวันก่อน บอกขุนเดชอย่างกระตือรือร้นว่า

“ได้ยินว่าหมวดกำลังตามหานายเปรื่องอยู่ ฉันว่าเอาเรื่องนี้ไปบอกหมวดดีกว่า”

แต่พอบัวทองจะออกไป ขุนเดชบอกว่าตนลืมของไว้ที่ร้านต้องไปเอา ผ่านโรงพักจะแวะบอกยงยุทธให้เอง บัวทองยังอยากไปด้วย ถูกคำปันปรามว่า อยากโดนแม่ตีอีกใช่ไหม บัวทองเลยจ๋อยไป

ooooooo

กำนันแค้นใจมากเมื่อได้รับจดหมายจากเปรื่องว่าถ้าอยากได้องค์พระคืนให้กล้าสู้ราคา ไม่อย่างนั้นจะเอาไปปล่อยให้พวกฝรั่ง สัมฤทธิ์กร่างอีกแล้ว อาสาจะไปตามล่าเปรื่อง

กำนันปรามลูกชายว่า คนที่ตนส่งไปตามล่าเปรื่องล้วนฝีมือไม่ธรรมดา ถ้าเปรื่องกล้าส่งจดหมายมาต่อรองราคาแบบนี้แสดงว่าพวกที่ส่งไปกลายเป็นศพไปหมดแล้ว

“ฉันว่างานนี้กำนันคงรับมือไม่ไหวแล้ว” ประดับพูดพลางเดินเข้ามากับลูกน้อง สัมฤทธิ์ฮึดฮัดหาว่าดูถูกพ่อตน กำนันปรามลูกชาย แล้วบอกประดับว่าถ้าเขาจะลงมือเองตนก็ไม่ว่าอะไร อยากให้ช่วยอะไรบอกมาก็แล้วกันเพราะยังไงเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ประดับเสนอว่า “ตอนนี้ตำรวจกำลังตามล่าตัวไอ้เปรื่องอยู่ด้วย ฉันไม่อยากให้พวกนั้นมาเกะกะขวางทาง งานนี้ลูกชายกำนันคงพอทำได้นะ”

กำนันหันมองหน้าสัมฤทธิ์อย่างครุ่นคิด

ooooooo

วันนี้ ขุนเดชหยิบดาบดำที่ซ่อนในตู้เก็บของ ชักดาบออกจากฝัก คมดาบวาววับ ขุนเดชมองดาบดำ ประกายตาคมกล้าดุดัน เขาเก็บดาบเข้าฝัก เอาเหน็บหลังเอว คว้าเป้สนามเดินออกจากกระท่อมไป

พลันก็ชะงัก เมื่อหลวงลุงเรียก บอกว่าจะมาชวนไปนั่งทำสมาธิกรรมฐานด้วยกัน เพราะเห็นบอกว่าช่วงนี้มีเรื่องรบกวนจิตใจ พูดแล้วเห็นขุนเดชนิ่ง หลวงลุงบอกว่า

“จิตที่สงบ จะช่วยทำให้เอ็งไม่ฟุ้งซ่านนะ”

“ผมขอโทษครับหลวงลุง” ขุนเดชเดินไปคุกเข่ายกมือไหว้ “ผมมีธุระสำคัญต้องจัดการให้เรียบร้อย ไว้เสร็จธุระแล้วผมจะรีบกลับมาครับ”

ขุนเดชกราบแทบเท้าหลวงลุงเหมือนสำนึกต่อบาป แล้วลุกไปขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ขี่ออกไป หลวงลุงมองตามพึมพำ

“ขุนเดช...อย่าให้มันสายเกินไปนะ...”

ooooooo

หลังจากสัมฤทธิ์รับงานให้ไปจัดการยงยุทธแล้ว วันนี้มีชาวบ้านขึ้นโรงพักมาบอกยงยุทธว่า

เปรื่องรู้ว่าตนมีพระเชียงแสนหายากเลยบุกมาหา ยงยุทธถามว่าแล้วตอนนี้มันหนีไปทางไหนรู้ไหม ชาวบ้านบอกว่ารู้ ยงยุทธจึงสั่งจ่าแท่นให้เตรียมคน เราจะออกตามล่ามัน

ขึ้นโรงพักบอกยงยุทธแล้ว ชาวบ้านคนนั้นก็ลงมาหาสัมฤทธิ์ที่ซุ่มอยู่เพื่อรับเงินค่าจ้าง

ขุนเดชแบกกระเป๋าเป้เดินเข้าป่าอย่างระมัดระวัง เขาเจอเชือกเอ็นขึงระเบิดดักอยู่ ดีที่เห็นเสียก่อน

เปรื่องกำลังผ่าฟืนอยู่ ได้ยินเสียงหม้อสนามกระทบกันเพราะผูกเชือกไว้เป็นสัญญาณดัก มันรู้ทันทีว่ามีผู้บุกรุกเข้ามา

“ไอ้กำนัน...สงสัยจะไม่เข็ด คิดจะส่งคนมาจัดการกูอีก งั้นเดี๋ยวได้เจอชุดใหญ่แน่” เปรื่องพึมพำ มันปามีดปักไว้ที่ขอนไม้แล้วลุกไปหยิบระเบิดที่เป้สนาม แต่มันไม่ทันหยิบระเบิด ก็มีระเบิดลูกหนึ่งกลิ้งมาตามพื้นหยุดที่ปลายเท้ามันพอดี มันสะดุ้งร้อง “ฉิบหายแล้ว!!”

เปรื่องกระโดดหมอบหลับตาปี๋ คิดว่าระเบิดแน่ แต่ทุกอย่างกลับเงียบสนิท เอะใจค่อยๆลุกไปหยิบระเบิดดู ปรากฏว่าเป็นระเบิดที่ใช้ไม่ได้แล้ว มันสบถอย่างเสียเชิงว่า

“ใครวะ...เล่นแบบนี้ ไม่ขำเว้ย” พริบตานั้น ขุนเดชก้าวออกมาหน้านิ่งขรึมดูน่าเกรงขาม ถามเปรื่องเสียงเย็นเยียบว่า

“องค์พระของจริงแกเอาไปซ่อนไว้ที่ไหน”

“อ๋อ...มาตามหาองค์พระ หึๆ คงเห็นพวกชาวบ้านชื่นชมฉันตอนที่โดนหลอกว่าฉันเป็นคนไล่ไอ้ฆาตกรล่องหนนั่น ลูกจ้างราชการอย่างแกก็เลยอยากเลียนแบบ อยากดังด้วย”

“สมบัติทุกชิ้นบนแผ่นดินนี้ ไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของใคร มันผู้ใดที่คิดทำลายและครอบครอง มันต้องได้รับโทษ” ขุนเดชหยิบดาบดำทั้งปลอกขึ้นมา เปรื่องมองอย่างสงสัย ถามว่า ขุนเดชคือไอ้วีรบุรุษบาปหรือ ขุนเดชควงดาบด้วยเชิงดาบที่ดุดัน ประกาศว่า “ข้าน้อยขุนเดช ทหารของพระร่วงเจ้า ขอตัดสินให้คนบาปต้องรับโทษด้วย...ความตาย!!”

“ทหารพระร่วงงั้นเหรอ” เปรื่องหัวเราะเสียงอุบาทว์ บอกว่า “ดี...แบบนี้ค่อยสมน้ำสมเนื้อกับทหารผ่านศึกอย่างข้าหน่อย” มันหันไปคว้ามีดสปาร์ตาที่ปักอยู่บนขอนไม้ขึ้นมาร้องท้า “เข้ามาเล้ย...ที่นี่มันสมรภูมิของข้า ไม่ใช่ของเอ็งเว้ย...ไอ้ขุนเดช”

ทั้งสองต่างกระชับดาบมั่นอย่างพร้อมจะเข้าห้ำหั่นกัน

ooooooo

ที่ป่าริมน้ำตก กลายเป็นสมรภูมิที่เปรื่องกับขุนเดชประลองฝีมือกัน ไล่ฟันไล่แทงกันจนลุยลงไปกลางน้ำตก ฝีมือการต่อสู้ไม่มีใครเป็นรอง เปรื่องสามารถรับมือกับขุนเดชที่ฝีมือฉกาจฉกรรจ์ได้ไม่ยากนัก

เมื่อเปรื่องรุกไล่ขุนเดชจนต้องล่าถอย มันผยองคิดว่าเป็นต่อขุนเดชแล้ว เลยลุยฟันไม่หยุด แต่ขุนเดชก็รับได้ทุกดาบที่มันฟัน จนมันได้จังหวะถีบยอดอกขุนเดชกระเด็นตกลงในแอ่งน้ำตก มันรีบวิ่งไปหยิบปืนที่แขวนอยู่บนกิ่งไม้มายิงลงในแอ่งน้ำตกเป็นชุด

ขุนเดชดำอยู่ใต้น้ำนิ่ง มีสมาธิ กลั้นหายใจรอ จนเปรื่องยิงหมดแม็กซ์ มันหันไปคว้าระเบิดโยนลงไปอีก

หมายให้ตายกระจุยเป็นเหยื่อปลา มันแผดเสียงอุบาทว์หัวเราะ พูดอย่างสะใจ

“ฮ่าๆๆๆ เละตุ้มเป๊ะเป็นอาหารปลาอยู่ในนั้นไปเถอะไอ้ขุนเดช...ฝีมืออย่างเอ็งมันห่างจากข้าหลายขุมเว้ย ฮ่าๆๆ” แล้วมันก็หันไปคว้ากระเป๋าเป้รีบออกไปจากตรงนั้น

ขุนเดชค่อยๆโผล่จากน้ำขึ้นมาฮุบอากาศหายใจ ตาจ้องตามเปรื่องไปเขม็ง ยิ้มสมใจที่หลอกล่อเปรื่องให้ตายใจได้สำเร็จ เขาขึ้นจากน้ำเพื่อจะตามเปรื่องไปเอาพระพุทธรูปฟ้าผ่าองค์จริงที่มันซ่อนไว้

ooooooo
อ่านละคร ขุนเดช ตอนที่ 6
ยงยุทธกับจ่าแท่นมาถึงบริเวณน้ำตก ดูร่องรอยการต่อสู้ระหว่างขุนเดชกับเปรื่องแล้ว เห็นแต่ใบไม้ใบหญ้าแหลกลาญ ปลอกกระสุนเกลื่อนพื้น จ่าแท่นบอกว่าเหมือนสมรภูมิย่อยๆเลย

“ฝีมือคนที่พยายามจะเล่นงานนายเปรื่องไม่ธรรมดาแน่ ไม่งั้นคงไม่ลุยกันขนาดนี้” ยงยุทธกวาดตามองไปรอบๆ จ่าถามว่าหมวดสงสัยว่าจะเป็น...“ไอ้ฆาตกรล่องหนมันโผล่มาแล้ว” ยงยุทธตอบอย่างมั่นใจ

“หมวดครับ พบร่องรอยของผู้ต้องสงสัยสองคนขึ้นไปที่เขาหลวงครับ”

“พวกมันไล่ล่ากันขึ้นไปบนนั้นแล้ว จ่า...บอก ทุกคนให้ระวังตัวด้วย ผมต้องการได้ตัวพวกมันทั้งคู่แบบจับเป็น”

หมวดพูดไม่ทันขาดคำ เสียงปืนก็รัวหูดับตับไหม้ เป็นฝีมือของพวกสัมฤทธิ์ที่มาขวางไม่ให้ยงยุทธตามไปจับเปรื่องนั่นเอง กระสุนเฉียดจ่าไปอย่างน่าหวาดเสียว ยงยุทธดึงจ่าหลบ จ่าถามว่าพวกมันเป็นใครหรือ ยงยุทธคาดว่าคงเป็นพวกโจรที่มาขวางไม่ให้เราจับตัวเปรื่องได้ แล้วบอกให้จ่ายิงเปิดทาง ตนจะตามไปที่เขาหลวง...

ooooooo

เปรื่องรีบไปขุดเอากล่องใส่พระพุทธรูปที่ซ่อนไว้ขึ้นมา พึมพำอย่างผยองว่า

“ฝีมือเอ็งกับข้ามันคนละชั้นกันเว้ย ไอ้ขุนเดช ฮ่าๆๆๆ”

ทันใดนั้น มีเสียงโลหะครูดกับหิน เสียงยาวดังก้องไปทั่วทั้งถ้ำ เปรื่องชะงักกึก เงี่ยหูฟังอย่างระวังภัย

ขุนเดชนั่นเอง! เขาใช้ดาบดำอันคมกริบกรีดครูดเป็นทางไปตามผนังหินในถ้ำเกิดประกายไฟเป็นทางยาว...ใบหน้าของขุนเดชนาทีนี้ดุดันราวกับพยัคฆ์ร้าย!

“ไอ้ขุนเดช...ตายยากตายเย็นนักนะ คราวนี้กูจะให้มึงเป็นผีเฝ้าอยู่ในถ้ำนี่แหละ” เปรื่องคำราม ดับคบเพลิงลดแสงสว่างในถ้ำ ควงมีดสปาร์ตาพร้อมลุย แต่ไม่เห็นขุนเดชโผล่มาสักที ได้ยินแต่เสียงเหล็กครูดหิน กึกก้องไปทั้งถ้ำ ท่ามกลางเสียงท้าของเปรื่อง “โผล่หัวมาสิวะ เก่งจริงก็ลุยเข้ามาเลย เชิงดาบของมึงมันก็แค่ลิเกหัดรำ”

เปรื่องท้าไม่ทันขาดคำ ขุนเดชก็พุ่งเข้าจู่โจม เปรื่องพลิกตัวเอามีดรับ ดาบเกิดประกายไฟแตกกระจาย ขุนเดชรุกอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ แล้วกระโดดศอกเข้าดั้งเต็มๆ จนเปรื่องผงะหงายเลือดไหลทะลักทั้งปาก จมูก พริบตานั้น ขุนเดชก็หายไปในความสลัว

“โว้ยยยย!! ไอ้ลูกหมา มึงยั่วโมโหกู มึงตาย!!”

ไม่ทันขาดคำ ขุนเดชก็โผล่มาจากมุมมืด ตะลุยเข้าฟาดฟันเปรื่องไม่ยั้งอย่างบ้าคลั่ง สุดท้ายขุนเดชใช้ด้ามดาบดำกระแทกเข้าที่คอหอยเปรื่อง มันเอามือกุมคอ ดิ้นพราดๆราวกับไส้เดือนคลุกขี้เถ้า

ขุนเดชยืนมอง ยิ้มอย่างเลือดเย็น ตามไปจะใช้ดาบจัดการมัน แต่ถูกเปรื่องเอาระเบิดลูกสุดท้ายชูขู่

“เอาสิวะ...ถ้ากูไม่รอด มึงก็อย่าหวังว่าจะรอด!!”

ขุนเดชชะงัก ขบกรามอย่างเจ็บใจ

ooooooo

ที่หน้าถ้ำเขาหลวง ประดับชักปืนออกมาจ้องเข้าไปในถ้ำอย่างพร้อมลุย ทันใดนั้น ลูกนองคนหนึ่งวิ่งมารายงานว่า ยงยุทธตามมาที่นี่แล้ว คาดว่าสัมฤทธิ์คงกันไว้ไม่อยู่

“แกขวางไอ้ยงยุทธเอาไว้ ฉันจะเข้าไปจัดการไอ้เปรื่องเอง” ประดับสั่งแล้วรุดเข้าไปในถ้ำ

ครู่เดียว ยงยุทธกับจ่าแท่นก็มาถึง ถูกลูกน้องประดับต้านอย่างหนัก

ยงยุทธกระโดดหลบแล้วยิงตอบโต้ จ่าแท่นตะโกนบอกหมวดให้รีบเข้าไปตนจะยิงคุ้มกันให้เอง แล้วจ่าก็ระดมยิงเปิดทางให้หมวดวิ่งเข้าไปในถ้ำ

เปรื่องกำลังต่อสู้กับขุนเดช มันรู้ชะตาตัวเอง ต่อรองกับขุนเดชว่า

“พวกมันคงส่งคนมาเก็บข้า...ถ้าอยากรอดด้วยกันทั้งคู่ก็ปล่อยข้าไป องค์พระอยู่โน่น อยากได้ก็เอาไปเลย ไว้มีโอกาสเมื่อไหร่ค่อยมาวัดฝีมือกันใหม่”

ขุนเดชไม่รามือ บอกมันว่าคนบาปไม่มีวันจะหนีบาปพ้น เปรื่องสบถอย่างหัวเสียว่าบ้าไปแล้วหรือ ไม่หนีก็มีแต่ตายกับตาย ประกาศอย่างยอมแลกว่า

“งั้นก็เละเหลือแต่เศษเนื้ออยู่ในนี้ด้วยกันเลยแล้วกัน” สิ้นเสียงก็จะดึงสลักระเบิด ถูกขุนเดชควงเพลงดาบเดือนดับใส่

“ฟ้า...ดิน...เป็นพยาน...ดาบเดือนดับ!!”

สิ้นเสียง ขุนเดชฟันฉับมือเปรื่องที่กำระเบิดขาดกระเด็นทั้งที่ยังกำระเบิดอยู่ เปรื่องอ้อนวอนให้ปล่อยตนเถอะ ขุนเดชไม่ยอมถามว่าใครเป็นคนสั่งให้มาขุดพระ ขณะเปรื่องกำลังจะบอกนั่นเอง กระสุนนัดหนึ่งก็เจาะเข้ากลางแสกหน้ามันล้มตึง

ประดับเข้ามาดูศพเปรื่องที่ถูกฆ่าตัดตอน พบว่าเปรื่องถูกฟันตาย ประดับก้าวข้ามศพเปรื่องไล่ตามวีรบุรุษบาปไป

ขุนเดชวิ่งไปถึงหน้าผา เขาตัดสินใจกระโดดลงไป ประดับวิ่งมาถึงยิงกราดลงไปอย่างบ้าคลั่ง คำราม...

“โธ่เว้ย! ไอ้วีรบุรุษบาป มึงกับกูได้เจอกันอีกแน่!”

ooooooo

ในถ้ำ...ตำรวจเข้ามาเคลียร์พื้นที่ ยงยุทธสั่งให้เอาองค์พระสำริดในลังไปตรวจสอบว่าเป็นของจริงที่หายไปหรือเปล่า กำชับคุ้มกันให้ดี แล้วเดินไปหาจ่าแท่นที่กำลังเอาผ้าคลุมศพเปรื่อง พึมพำอย่างสมเพช

“โดนฟันซะมือขาด เพลงดาบของวีรบุรุษบาปมันร้ายกาจจริงๆ” ยงยุทธบอกว่าถึงวีรบุรุษบาปจะแค้นพวกขุดกรุแต่ก็ไม่มีสิทธิ์ทำตัวเหนือกฎหมาย จ่าบ่นๆว่า “เสียดายนะครับ นี่ถ้ามีร่องรอยให้ตามได้สักหน่อยว่ามันเป็นใคร เราก็คงไม่ต้องเป็นฝ่ายคอยไล่ตามมันตลอด”

“ไม่ใช่ว่ามันไม่ทิ้งร่องรอยให้เราตามหรอกจ่า... เพลงดาบของมันไง ที่ทิ้งเอาไว้ให้เราตาม”

แล้วยงยุทธก็เริ่มแกะรอยเพลงดาบของวีรบุรุษบาป เขาไปที่ป่าช้า เจอขุนเดชนั่งสมาธิอยู่ใกล้ๆหลวงลุง เขายืนครู่หนึ่งแล้วถอยกลับ แต่หลวงลุงรู้ ลุกตามมาถามว่ามีเรื่องอะไรกับท่านหรือเปล่า ยงยุทธยกมือไหว้ขอโทษที่มารบกวนเวลาถามว่า วันนี้ขุนเดชนั่งสมาธิอยู่กับหลวงลุงทั้งวันเลยหรือ

พอหลวงลุงบอกว่าเพิ่งตามมาทีหลัง เขาถามอีกก่อนหน้านี้ขุนเดชบอกหรือเปล่าว่าไปไหนมา

“ฉันไปช่วยซ่อมหลังคาบ้านให้น้าคำปันมา แกมีอะไร” ขุนเดชตอบแทนหลวงลุง ทำเอายงยุทธนิ่งไป เปลี่ยนเป็นถามว่า วันนี้ตนไปตามองค์พระกลับมาได้แล้วรู้ไหม ขุนเดชบอกว่าไม่รู้ แต่ขอบใจที่มาบอก หลวงลุงถามว่าจับโจรได้ไหม




อ่านละคร ขุนเดช ตอนที่ 5-6 วันที่ 22 เม.ย. 55
ละคร ขุนเดช บทประพันธ์ โดย: สุจิตต์ วงศ์เทศ
ละคร ขุนเดช บทโทรทัศน์ โดย : แพรพริมา
ละคร ขุนเดช กำกับการแสดง โดย : สยาม น่วมเศรษฐี
ละคร ขุนเดช ผลิต โดย : บริษัท พอดีคำ จำกัด โดยธงชัย - มณีรัตน์ ประสงค์สันติ
ละคร ขุนเดช แนวละคร โดย : ดราม่า แอ็คชั่น อิงประวัติศาสตร์
ละคร ขุนเดช ออกอากาศ : วันพุธ-วันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ละคร ขุนเดช ออกอากาศตอนแรก : เริ่มพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555
ที่มา ไทยรัฐ
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ