อ่านละครแสบสลับขั้ว ตอนที่ 7 วันที่ 16 ก.ค. 55

{[['']]}
 ทั้งหมดเดินตามกันเข้ามาในห้องทำงานครรชิต โดยเซียนนำหน้าตามด้วยครรชิตปิดท้ายด้วยน้ำเพชร
      
       “คุณต้องใจเย็นกว่านี้ มีอย่างหรือ ชี้หน้าตัวเองว่าเหมือนหมีควาย” ครรชิตบอก
       “ไม่ใช่หน้าผม หน้าไอ้นายเซียน ไอ้เซียนมันยังว่าผมว่าเหมือนน้าผี”
       “หนูน้ำ ไปประจำหน้าที่ได้แล้ว อย่ามาที่นี่บ่อยๆ ใครเขาจะสงสัย”
       “ค่ะ”
       น้ำเพชรเดินไป ครรชิตทรุดตัวลงนั่งแล้วถอนใจเฮือก
       “ผมจะลองขับรถชนไอ้เซียน”
       ครรชิตสะดุ้ง
       “ไม่ได้! มันเสี่ยงเกินไป”
       “ผมยอมเสี่ยง ถ้าไม่สำเร็จก็ให้มันตายไปเลย”
       “แล้วคุณพ่อคุณจะว่ายังไง”
       “ท่านไม่ว่าอะไรหรอก คุณพ่อเคารพการตัดสินใจของผม”
       “คุณปลาใหญ่”
       “ผมตัดสินใจแล้ว ผมไม่อยากอยู่ในร่างไอ้หมีควาย”
      
       ดาริกานัดเจอกับรัญญาที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งพร้อมกับเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้รัญญาฟัง
       “เกิดมายังไม่เคยได้ยินใครด่าตัวเองแบบนี้เลย ต่างคนต่างด่า”
       “ช่วงนี้อากาศคงร้อนน่ะ”
       รัญญาและดาริกา สั่งกาแฟกับขนมแล้วเดินมานั่ง
       “นายเซียนก็หล่อ ปลาใหญ่ก็หล่อ”
       “แกต้องเลือกเอาคนนึง”
       “ฉันก็ต้องเลือกปลาใหญ่อยู่แล้ว ปลาใหญ่ทั้งหล่อทั้งรวย แต่งงานด้วยคงสบาย นายเซียนหล่อแต่จน ฉันไม่อยากทนกัดก้อนเกลือกิน”
       “แล้วปลาใหญ่ชอบแกหรือเปล่า”
       “มีใครบ้างที่ไม่ชอบสาวสวยทรงเสน่ห์อย่างฉัน”
       ดาริกายิ้มอย่างมั่นใจ
      
       ขณะนั้นอลิสากำลังก้มหน้าก้มตาตะไบเล็บ ในหูเงียบหูฟังเอียงคอไปมาตามจังหวะเพลง ใครคนหนึ่งเดินตรงมาแล้วหยุดที่หน้าโต๊ะ อลิสาเงยหน้าขึ้นมองแล้วสะดุ้ง ยิ้มเจื่อนๆ
       “คุณจันทร์...”
       อลิสาค่อยๆ ลุกขึ้นยืน
       “แล้วไง...นึกว่าฉันเป็นแม่มดหรือยะ ถึงได้ทำหน้าอย่างนั้น”
       “ค่ะ...เอ๊ย ไม่ใช่ค่ะ”
       จันทร์ทิพย์ถลึงตามอง จากหน้าไล่เรื่อยลงมาถึงมือซึ่งยังถือตะไบเล็บ อลิสารีบวางตะไบเล็บลง
       “ฉันก็เพิ่งรู้ว่าคุณก้องเขาจ้างเลขามานั่งตะไบเล็บ”
       “อ้า ...”
       จันทร์ทิพย์ตบโต๊ะปังจนอลิสาสะดุ้งเฮือก
       “อยู่ต่อหน้าฉันยังบังอาจอ้าอีก” อลิสาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ให้ได้ จันทร์ทิพย์บีบคางอลิสาอย่างแรง “ห้ามอ้า ต้องหุบ หุบให้สนิท”
       จันทร์ทิพย์ผลักอลิสาเซจนเกือบล้ม แล้วเดินเข้าห้องไป อลิสาถอนใจเฮือกแล้วบ่นเบาๆ
       “ฉันไม่ใช่หอยนี่ยะ ถึงจะได้ต้องหุบให้สนิท”
      
       จันทร์ทิพย์เข้ามาในห้องแล้วทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ เกริกก้อง รัญญาลอบค้อนแว่บหนึ่ง
       “น้องรันกำลังคุยกับคุณพ่อเรื่องอะไรคะ”
       “รันพาริก้ามาแนะนำให้รู้จักกับปลาใหญ่แล้วค่ะ”
       “คงถูกใจคุณปลาใหญ่ใช่มั้ยละคะ ริก้าสวยออกขนาดนั้น”
       “ไม่รู้ซิคะ... แต่ที่ทำให้รันมึนก็คือว่า นายเซียนด่าตัวเองว่า เหมือนหมีควาย ส่วนปลาใหญ่ก็ด่าตัวเองว่าเหมือนน้าผี”
       “แสดงว่าต่างคนต่างก็เกลียดตัวเอง ซึ่งชักจะทำให้เข้าเค้าเข้าไปทุกที” เกริกก้องบอก
       “แล้วริก้าล่ะคะ ชอบใคร”
       “แหม ก็ต้องปลาใหญ่ซิคะ ปลาใหญ่ทั้งหล่อทั้งรวย”
       “แต่จะใช่ตัวจริงหรือเปล่าเท่านั้น”
       ตลอดเวลาที่ทั้งจันทร์ทิพย์กับรัญญาคุยกัน เกริกก้องมีสีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด
      
       ทางด้านปกรณ์ ปกรณ์เดินไปเดินมาอย่างใคร่ครวญครุ่นคิดสลับกับค่อยๆ แง้มประตูแอบดูสายพิณ ซึ่งขณะนั้นสายพิณกำลังก้มหน้าก้มตาทำงาน
       “เอายังไงดี”
       ปกรณ์นิ่งคิดครู่หนึ่ง แล้วทำหน้านึกได้ รีบเดินกลับมาทรุดตัวลงนั่งกดโทรศัพท์ภายใน
       “สายพิณ ผมปวดหัวมากช่วยเอายาเข้ามาให้หน่อย”
       “ค่ะ...”
       ปกรณ์วางโทรศัพท์แล้วรีบทำเป็นเอนพนักเก้าอี้ หลับตาแล้วคอยหรี่มองไปที่ประตู...ทุกอย่างเงียบสนิท
       ปกรณ์อยู่ในอิริยาบถนั้นครู่หนึ่ง จนในที่สุดลุกขึ้นอย่างอดรนทนไม่ไหวเดินไปที่ประตู ปกรณ์ค่อยๆ จับลูกบิดประตู แล้วยื่นหน้าเข้าไปจะแนบ ทันใดนั้นประตูถูกผลักเข้ามาอย่างแรงกระแทกเข้ากับหน้าปกรณ์โครมใหญ่
       “โอ๊ย...”
       ปกรณ์เซเสียหลักหกล้ม สายพิณซึ่งถือถาดยาและน้ำเข้ามาทำท่าเสียหลักแบบเนียนๆ ทำน้ำหกราดไปบนหัวปกรณ์อีก
       “อุ๊ยตาย ขอโทษค่ะ” ปกรณ์ยกมือกุมหน้า แล้วครางเบาๆ ด้วยความเจ็บ “เป็นยังไงบ้างคะ”
       ปกรณ์เอามือออกจากหน้าเห็นเลือดออกจมูกและตรงขมับปูดช้ำเลือดช้ำหนอง สายพิณกลั้นหัวเราะเต็มที่
       “ต๊าย เละเลย”
       ปกรณ์ค่อยขยับตัว
       “อูย...ย...มาช่วยพยุงพี่หน่อยซิ”
       “เจ็บขนาดนี้แล้วยังจะชีกอ”
       สายพิณพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะวางของลงบนโต๊ะแล้วเดินมาช่วยประคองปกรณ์ให้ลุกขึ้น ปกรณ์ถือโอกาสโอบไหล่แน่น สายพิณหน้าตาถมึงทึงอย่างไม่พอใจแล้วยกส้นสูงกระแทกลงไปบนเท้าปกรณ์เต็มแรง
       “โอ๊ย”
       “ต๊าย ขอโทษค่ะ เวลาตกใจฉันมักซุ่มซ่ามทำอะไรไม่ถูก”
       ปกรณ์ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ สายพิณขยับจะตามมา
       “อย่า...ได้โปรดออกไป ก่อนที่ผมจะบอบช้ำมากกว่านี้”
       “ได้ค่ะ”
       สายพิณเดินออกไปทันที ขณะที่ปกรณ์นิ่วหน้าเจ็บ
      
       สายพิณเดินมาที่โต๊ะทำท่าสะใจแล้วทรุดตัวลงนั่ง เวลาผ่านไปครู่หนึ่งประตูห้องเปิดออกสายพิณหันไปมองเห็นปกรณ์ค่อยๆ กระโผลกกระเผลกก้าวออกมา โดยสวมแว่นดำ สวมหมวกปิดรอยปูดที่ขมับ
       “อ้าว! คุณกรณ์”
       “ผม...ไม่ค่อยสบาย ต้องกลับก่อน”
       ปกรณ์รีบเดินกระเผลกออกไป สายพิณมองตามอย่างสะใจ
       สายพิณโทรบอกครรชิต ครรชิตหัวเราะออกมาอย่างพอใจ
       “เรอะ เลยกลับไปเลยเรอะ โอเค...แต่หนูก็ต้องระวังตัวนะ” ครรชิตวางโทรศัพท์ลงแล้วหันมามองเซียนซึ่งนั่งมองอยู่ “เด็กคนนี้ไม่เลว”
       “ผมว่าเขาประมาทเกินไป ทำอย่างนั้นเท่ากับเพิ่มความแค้นให้ปกรณ์เอาอย่างนี้ หาตำแหน่งใหม่ให้ดีกว่าเพื่อความปลอดภัย”
       “ดีเหมือนกัน” ครรชิตกดโทรศัพท์ใหม่ “สายพิณ หนูมาที่ห้องลุงหน่อยนะ” ครรชิตวางโทรศัพท์ลง “เรียบร้อย”
       “ทำไมต้องเรียกเขามาที่นี่”
      
       “เท่าที่ดู สายพิณค่อนข้างดื้อ แล้วก็เชื่อมั่นในตัวเองมาก คงต้องอธิบายกันนานหน่อย”
ในขณะที่ครรชิตและเซียนกำลังปรึกษากันอยู่ สายพิณเดินเข้ามา เซียนมองสายพิณอย่างตำหนิ
      
       “ทำไมไม่เคาะประตูก่อน”
       สายพิณชะงักมองเซียนอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วเปลี่ยนเป็นโกรธจัด
       “กล้าดียังไง”
       “เพราะฉันเป็นผู้บริหารที่นี่น่ะซิ”
       สายพิณเบิกตากว้าง จ้องมองเซียนราวกับจะให้มอดไหม้ เซียนเองก็จ้องตอบสายพิณเขม็ง ครรชิตมองทั้งสอง คนสลับกัน พยายามจะห้ามไม่ให้เกิดเรื่อง
       “เดี๋ยว ใจเย็นๆ กันก่อน”
       “ไม่เย็นจนกว่านายปลาใหญ่จะถอนคำพูด”
       “นี่เธอคิดว่าเธอเป็นใคร”
       “ฉันก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง มนุษย์ที่ถึงจะยากจน แต่ก็มีศักดิ์ศรี”
       “อย่าชักเรือใบให้เสีย”
       ครรชิตกระแอม
       “อย่าชักใบให้เรือเสียครับ”
       เซียนไม่ได้ฟังและไม่ได้มองครรชิต
       “นี่ไม่ได้เกี่ยวกับความยากจนหรือร่ำรวยไม่ได้เกี่ยวกับเรื่อง ศักดิ์ศรี แต่มันเกี่ยวกับเรื่องมารยาท โดยเฉพาะระหว่างผู้บริหารกับลูกจ้าง”
       “ผู้บริหารกับลูกจ้าง ฮะ ฮะ อยากจะหัวเราะให้ตึกถล่ม ช่วยกรุณาก้มลงมองตัวเองก่อนซิว่า เวลานี้อยู่ในสถานะอะไร ...คุณกับฉันมันก็ลูกจ้างเหมือนกันนั่นแหละ...ปลาใหญ่”
       “ได้โปรด ได้โปรดใจเย็นๆ ก่อน” ครรชิตบอกแต่ไม่มีใครฟัง
       “ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามใครๆ ดูซิว่า ตอนนี้ นายเป็นใคร คุณปลาใหญ่ผู้สูงส่งหรือว่านายเซียนผู้ต่ำต้อย”
       “ฉันไล่เธอออกเดี๋ยวนี้” เซียนชี้หน้าสายพิณ
       “ไม่ออก แล้วที่ไม่ออกนี่ก็ไม่ใช่เพราะอยากจะอยู่ที่นี่จนเนื้อตัวสั่น แต่เพราะฉันต้องอยู่เพื่อคอยดูแลพี่เซียน ... และพาพี่เซียนกลับเข้าร่างเดิมให้ได้”
       “สาธุ ขอให้มันจริงเถอะ”
       “คอยดูไปก็แล้วกัน”
       ทั้งสองคนจ้องมองกันเขม็ง
      
       เซียนเดินอย่างหงุดหงิดสุดๆ มาที่หน้าลิฟท์ ประตูลิฟท์เปิดออกแล้วเอ็กซ์ก้าวออกมา เซียนเดินเข้าไปอย่างไม่ได้สนใจตรงกันข้ามกับเอ็กซ์ซึ่งจ้องเซียนเขม็งจนประ ตูลิฟท์ปิด
       ขณะนั้นสายพิณยังอยู่กับครรชิต ครรชิตมองสายพิณอย่างตำหนิ
       “หนูไม่ควรพูดกับคุณปลาใหญ่อย่างนั้น”
       “เขาก็ไม่ควรพูดกับหนูอย่างนั้นค่ะ”
       “หนูเอ๊ย! เขาเป็นเจ้าของบริษัท...”
       “ใครจะเชื่อล่ะคะ”
       “ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อไม่สำคัญ สำคัญที่เขารู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง”
       สายพิณนิ่งไปครู่หนึ่ง
       “พิณเป็นคนไม่ยอมใคร ต่อไปนี้พิณจะพยายามเลี่ยงๆ ไม่พบกับเขา จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน”
       “ก็ดี” สายพิณหันหลังเดินออกไป ครรชิตถอนใจเฮือก “เฮ้อ แรง แรงจริงๆ”
      
       เอ็กซ์มาหาเกริกก้องที่ห้องทำงาน เกริกก้องจึงสั่งให้เอ็กซ์ไปจัดการกับเซียน
       “แกไปจัดการมันได้เลย ไม่ต้องมาถามซ้ำซาก”
       “แล้วใครจะขับรถให้ท่านล่ะครับ”
       “คนขับรถบริษัทเยอะแยะไป ไปได้แล้ว ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องขึ้นมาหาฉัน”
       “ผมขอโทษครับ”
       “ไม่เป็นไร แต่จำไว้ก็แล้วกัน”
       ขณะนั้นเซียนชะเง้อคอเรียกแท็กซี่อยู่หน้เบริษัท แต่ก็ถูกคนอื่นเรียกดักหน้าไปก่อน เซียนถอนใจเฮือกอย่างหงุดหงิด ระหว่างนั้นรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งแล่นมาจอดหน้าเซียน แล้วเอ็กซ์ส่งหมวกกันน็อคให้
       “จะไปไหน”
       “กลับบ้าน”
       “จะไปส่งให้” เซียนลังเลก่อนปฏิเสธ
       “ไม่เป็นไร”
       “ขึ้นมาเถอะน่า”
       เซียนตัดสินใจขึ้นซ้อนหลังเอ็กซ์ และสวมหมวกกันน็อค เอ็กซ์ขี่รถออกไป รปภ. หันไปมองเห็นพอดีอย่างไม่สนใจนัก
      
       ครรชิตพยายามกดโทรศัพท์หาเซียนแต่ก็ไม่มีใครรับ ครรชิตพยายามอยู่ครู่หนึ่งแล้วถอนใจเฮือก
       “ทำไมไม่รับ”
       ครรชิตกดเบอร์ใหม่ ชายสี่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วเดินเลี่ยงไปรับโทรศัพท์อีกมุมหนึ่ง
       “ครับ...คุณครรชิต”
       “เห็นคุณปลาใหญ่...ฉันหมายถึงคุณปลาใหญ่ในร่างนายเซียนน่ะ”
       “อ๋อ! ออกไปข้างนอกครับ”
       “แล้วทำไมไม่ตามไป”
       “อ้าว...” ชายสี่ทำหน้างง
       “ตามไปดูซิ แล้วโทรมาบอกด้วย”
       ครรชิตวางโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด
      
       ชายสี่เดินออกมาหน้าบริษัทแล้วชะเง้อมองหาเซียนแต่ไม่เห็น
       “หาใคร” รปภ.ถามชายสี่
       “นายเซียน เห็นบ้างหรือเปล่า”
       “เห็นซ้อนรถพี่เอ็กซ์ไปแน่ะ”
       ชายสี่ชะงักรีบโทรบอกครรชิตทันที
       “ว่าไง!…” ครรชิตผุดลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ “อะไรนะ”
       ครรชิตฟังแล้วรีบเดินออกไป
       ครรชิตรีบมาหาปลาใหญ่ที่ห้อง น้ำเพชรผุดลุกขึ้นเช่นกันด้วยสีหน้าแววตาตกใจ
       “ตายละ ทำไมคุณปลาใหญ่ถึงไปกับเขา”
       ครรชิตเดินเข้าไปในห้อง น้ำเพชรรีบตาม
       “โง่นี่หว่า”
       ปลาใหญ่บอก น้ำเพชรตบโต๊ะทันที จนปลาใหญ่สะดุ้ง
       “สามหาว! คุณปลาใหญ่น่ะฉลาดกว่านายไม่รู้กี่เท่า”
       “ฉลาดแล้วไปกับไอ้เอ็กซ์ทำไม ก็มันน่ะนอกจากจะเป็นคนของคุณอาก้องแล้วยังเป็นศัตรูคู่ปรับของคุณเซียนเขาอีก”
       “เป็นศัตรู” ครรชิตกับน้ำเพชรอุทานออกมาพร้อมกัน ปลาใหญ่พยักหน้ารับ
       “อื้อ”
       น้ำเพชรรวบคอเสื้อปลาใหญ่
       “แล้วทำไมไม่บอก”
       “ก็ไม่มีใครถามนี่”
       “รู้มั้ยไอ้เอ็กซ์มันจะพาคุณปลาใหญ่ไปที่ไหน”
       “จะไปรู้ได้ยังไง”
       “นายเซียน นายพอใจใช่มั้ยที่คุณปลาใหญ่ตกอยู่ในอันตราย นายคิดจะเคลมตัวตนและทรัพย์สมบัติของคุณปลาใหญ่ใช่มั้ย”
       “เปล่า...”
       “คอยดูนะ ถ้าคุณปลาใหญ่เป็นอะไรไป ฉันเอานายตายแน่”
       “หนูน้ำ มาคิดกันก่อนว่าจะไปตามคุณปลาใหญ่ได้ที่ไหน”
       “พวกชาย4 รู้หรือเปล่าก็ไม่รู้”
       “ไอ้พวกนั้นไม่รู้หรอก ไอ้เอ็กซ์มันไม่ได้อยู่แถวนั้น”
       “แล้วนายรู้จักมันได้ยังไง”
       “ดวลแข่งรถกัน ผลัดกันแพ้...ผลัดกันชนะ...แต่ส่วนมากผมชนะ เพราะผมเก่ง”
       “โกงด้วย”
       น้ำเพชรบอกต่ออย่างรู้ทัน ปลาใหญ่เกาท้ายทอย
       “จ๊ะจ๋า...เขาเรียกว่าฉลาดกว่า”
       น้ำเพชรมือสั่นอยากจะตบ ปลาใหญ่รีบกระโดดไปที่ประตูทำท่าราวกับกลัวจัด
       “ฉันอยากจะฆ่านายนัก” น้ำเพชรย่างสามขุมเข้ามา จังหวะนั้นครรชิตนึกบางอย่างได้
       “เอาอย่างนี้”
      
       น้ำเพชรกับปลาใหญ่หันมามองทันที
ครรชิตและน้ำเพชรมาหาเกริกก้อง แต่อลิสายืนเชิดหน้าปรายตามองทุกคน
      
       “คุณก้องสั่งไว้ว่าไม่ให้ใครเข้าพบค่ะ”
       “ทำไมจะพบไม่ได้” น้ำเพชรถามอย่างไม่พอใจ
       “ใจเย็น หนูน้ำ” ครรชิตบอก อลิสายิ้มเยาะ
       “ตักน้ำใส่กระโหลกชะโงกดูเองซะก่อน เธอน่ะแค่พนักงาน ส่วนคุณก้องเป็นประธานบริษัท”
       “เธอก็พูดเกินไป คุณก้องเป็นรองประธาน ส่วนประธานคือคุณปลาใหญ่”
       “แน่ใจหรือค่ะว่า คุณปลาใหญ่ยังอยู่”
       น้ำเพชรโกรธจัด เหวี่ยงกำปั้นจะตบอลิสา ครรชิตรีบจับไว้
       “อย่า”
       “อย่ามาทำป่าเถื่อนที่นี่นะยะ”
       ปลาใหญ่เดินเข้ามา วางท่าสง่างาม
       “นั่นอะไรกัน” ทุกคนหันมามอง “คุณครรชิต ทำไมยังไม่เข้าไปพบคุณอาก้องอีก”
       ครรชิตกระแอมนิดหนึ่ง ทำท่าเคารพนบนอบประสานมือทันที
       “เลขาคุณก้องไม่ให้เข้าพบครับ”
       น้ำเพชรซึ่งรีบทำท่าเคารพนบนอบเช่นกัน ลอบมองปลาใหญ่อย่างแปลกใจ
       “ทำไมรึ” ปลาใหญ่เบือนหน้ามองอลิสา อลิสามองปลาใหญ่อึกอัก ชักลังเล
       “ก็ ...”
       “แน่ะ แล้วยังทำยืนจังก้าต่อหน้าผู้ใหญ่อีก” อลิสารีบปรับท่ายืนแล้วประสานมือทันที ปลาใหญ่หันมาทางครรชิต “ผมจัดการเอง”
       ปลาใหญ่เดินไปที่ประตู เปิดเข้าไปด้วยท่าทางสง่า ครรชิตเหลือบสบตาน้ำเพชรซึ่งมองตามอย่างไม่ไว้ใจนัก
      
       ภายในห้อง เกริกก้องเอนหลังพิงพนักมองมาด้วยสีหน้าแววตาเฉยเมย
       “เข้ามาทำไม”
       ปลาใหญ่เดินมาทรุดตัวลงนั่ง
       “ผมต้องการรู้ว่านายเอ็กซ์มีบ้านพักอยู่ที่ไหน”
       เกริกก้องหัวเราะลั่น
       “แกก็น่าจะรู้นี่”
       ปลาใหญ่ตีหน้าตาย
       “ผมหมายถึงบ้านจริงๆ ของเขา ไม่ใช่ที่พักในบ้านของผม อ้อ... แล้วคุณอาควรจะให้เกียรติผม อย่าเรียกผมว่า “แก” เพราะผมคือประธานของบริษัทนี้”
       เกริกก้องชะโงกหน้ามามองเยาะๆ
       “แน่ใจเรอะ ไอ้เซียน”
       ปลาใหญ่ชะโงกหน้าเข้าไปหาเช่นกัน
       “ผมคือปลาใหญ่”
       “ฉันไม่เชื่อ”
       “งั้นก็เรียกประชุมถามทุกคนว่าผมเป็นใคร...” ปลาใหญ่เอนตัวกลับไปพิงพนัก ขยับขาตามความเคยชิน “ส่วนป้ายหน้าห้องคุณอาที่เขียนว่า ประธานกรรมการน่ะ...กรุณาเปลี่ยนเป็นรองประธานกรรมการด้วย ไม่อย่างนั้นผมจะให้คนอื่นมาเปลี่ยน”
       เกริกก้องชำเลืองมองขาปลา
       “ปลาใหญ่ไม่เคยนั่งสั่นขาแบบนี้”
       “นั่นมันเรื่องของผม คุณอามีหน้าที่ตอบคำถามผม”
       “ถ้าฉันไม่ตอบล่ะ”
       “ไม่เป็นไร ผมจะไปแจ้งความเพราะมีพยานเห็นว่า นายเซียนซ้อนท้ายไอ้...เอ๊ย นายเอ็กซ์คนของคุณอาไป”
       ปลาใหญ่ลุกขึ้น ยื่นหน้ามาทำตาขยิบๆ แบบปลาใหญ่ “คุณอาอยากเห็นแบบนี้ใช่มั้ยล่ะ”
       ปลาใหญ่เดินออกไป เกริกก้องมองตามด้วยสายตาอาฆาต
      
       น้ำเพชรและครรชิตรออยู่หน้าห้องด้วยท่าทางกระวนกระวาย มีท่าทางโล่งใจทันทีเมื่อปลาใหญ่เปิดประตูออกมา
       “ว่าไง...ครับ...”
       “คุณครรชิต ช่วยติดตามด้วยว่า คุณอาเปลี่ยนป้ายหน้าห้องเป็นรองประธานด้วยถ้าไม่เปลี่ยนภายใน 3 วัน ก็ให้คนของเขามาเปลี่ยนให้”
       ปลาใหญ่เดินไป ครรชิตและน้ำเพชรรีบเดินตาม อลิสารีบเดินเข้าไปในห้อง
      
       “เกิดอะไรขึ้นหรือคะ”
       อลิสาเดินเข้ามาหาเกริกก้อง
       “วอนซะแล้ว” นัยน์ตาเกริกก้องเป็นประกายอาฆาตจนอลิสาสะดุ้ง
       “อุ๊ย คุณก้อง อลิสาไม่ได้ทำอะไรนะคะ”
       “ฉันหมายถึงไอ้ปลาใหญ่”
       “ใช่ค่ะ เมื่อกี้ยังสั่งให้อลิสาเปลี่ยนป้ายหน้าห้องใหม่”
       “ไม่ต้องเปลี่ยน อยากจะดูซิว่า มันจะทำยังไง”
       เกริกก้องตวาด
      
       ปลาใหญ่ ครรชิต น้ำเพชรเดินเรียงกันเข้ามาในห้องทำงานของปลาใหญ่
       “นายเซียน นายต้องรับผิดชอบ” น้ำเพชรบอก
       “โอ๊ย ผมไม่เกี่ยวก็แฟนคุณดันทะเร่อทะร่าไปกับเขาเอง” ปลาใหญ่รีบบอก
       “พูดให้ดีๆ นะ ถ้าหากนายไม่ทุเรศมาแย่งร่างของคุณปลาใหญ่”
       “มันเป็นเรื่องของชาตากรรม”
       “ชาตากรรมบ้าบอน่ะซิ”
       “เอาละ...เอาละ...อย่าเพิ่งทะเลาะกัน มาช่วยแก้ปัญหาก่อนว่าจะไปตามคุณปลาใหญ่ได้ที่ไหน”
       “ต้องเรียกประชุมชาวชุมชนให้ช่วยกันตามหา”
      
       น้ำเพชรกับครรชิตรีบไปที่วินมอเตอร์ไซค์เพื่อให้กลุ่มเพื่อนของเซียนช่วย
       “ใครมีความคิดอะไรบอกมา” ครรชิตถาม
       “ป้าสือ ถอดหัวออกไปตามหาเลย”
       “ไอ้บ้า ไอ้มอม ปากเอ็งมอมเหมือนชื่อเลย ไอ้ ...”
       “พอก่อน ต้องช่วยกันตามหาไอ้เซียนก่อนแต่เรื่องนี้ต้องอย่าให้คุณสายไหมของข้ารู้เด็ดขาด” ลุงป่องบอก
       “แล้วไอ้เซียนตัวแสบล่ะ”
       “ก็ทำท่าเป็นประธานอยู่บริษัทกันคนอื่นสงสัย”
       “สายพิณ...ใช่ แล้วสายพิณล่ะ ทำไมไม่กลับมาด้วย”
       “ไอ้เซียนกำลังอธิบายเรื่องให้ฟัง ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า”
       “หมอแม่น หมอแม่นอาจจะรู้”
       “งั้นไปเลย”
       “เดี๋ยวก่อน” ทุกคนหันมาทางครรชิต “ไม่ต้องแห่ไปกันหมดนี่ก็ได้”
       “ไปให้หมดนี่แหละค่ะ” น้ำเพชรบอก
       “ฉันพาไปเอง ไป” กระสือเดินนำ ทั้งหมดตามกันไป
      
       หมอแม่นถึงกับตกใจเมื่อเห็นทุกคนแห่กันมาหาที่บ้าน
       “เฮ้ย แห่กันมาทำไม”
       “บ้านนายเอ็กซ์อยู่ที่ไหน”
       “จะไปรู้ได้ไง ฉันไม่ใช่เมียมันนี่”
       “รู้แล้ว อย่างหมอแม่นน่ะไม่ใช่เมียมันแน่ แต่เป็นยายมัน”
       “ไอ้ปากมอม”
       “นายเซียนบอกว่าหมอแม่นสนิทกับมัน เพราะฉะนั้นหมอแม่นต้องรู้”
       “จะบ้าเรอะ คุณหนู”
       น้ำเพชรควงกำปั้นทันที
       “จะบอกหรือไม่บอก”
      
       น้ำเพชรถามด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจัง
ขอขอบคุณจาก manager.co.th  
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ