อ่านละครปิ่นอนงค์ ตอน 20 วันที่ 19 ก.ค. 55

{[['']]}
 พอลูกน้อง 2 คน เข้ามารายงานเรื่องทรรศนะหายตัวไป ครองสุขตกใจตาค้าง ลุกยืนพรวด ถามเร็วปรื๋อ
  
       “อะไรนะ ตานะหายไป หายไปไหน”
       ลูกน้องคนแรกเอ่ยขึ้น “ผมเจอกระเป๋าเงินของคุณนะตกอยู่ตรงทางไปน้ำตก”
       ครองสุขนิ่งนึก “จอมมันก็ไม่อยู่ด้วย” ในที่สุดก็นึกออก “โทร.เรียกไอ้เจิดไอ้ก้านเดี๋ยวนี้เลย”
  
       ที่ริมน้ำตกเวลานั้น เสี่ยตงเหยียบยอดอกทรรศนะ ด่าทอต่อว่า
       “ปลิ้นปล้อนกันทั้งครอบครัว อยากนั่งรถเข็นมากใช่มั้ย ชั้นจะสงเคราะห์ให้”
       เสี่ยตงพยายามเล็งปืนไปที่เท้าทรรศนะ
       แต่ทรรศนะพลิกตัวรวบขาเสี่ยตงก่อน เสี่ยตงยิงเปรี้ยง ลูกปืนพลาด เสี่ยถลาล้มลงไป
       ทรรศนะขึ้นคร่อมเสี่ยตง ยื้อแย่งปืนกัน สองคนกลิ้งอยู่บนพื้น ปืนกระเด็นไป
       ทรรศนะแย่งปืนได้ รีบหยิบปืนลุกเล็งใส่เสี่ยตง มือไม้สั่น
       เสี่ยตงพยายามลุก เดินงกๆ เงิ่นๆ เข้าหา
       “หนีไปซะ อย่าบังคับผม ผมไม่อยากฆ่าคน อย่ากดดันผม” ทรรศนะขึ้นเสียง
       “ยิง ยิงเลย แกจะได้ติดคุก ยิงสิ ยิง”
       ทรรศนะหลับหู หลับตา เหนี่ยวไกดังปัง ลูกปืนเฉี่ยวขาเสี่ยตงจุดข้างน่อง เลือดไหลเป็นทาง
       ปิ่นอนงค์โผล่มาจากด้านหลังตกใจมาก มองทรรศนะที่เดินได้ปกติ ทรรศนะก็ตกใจที่ปิ่นอนงค์จับได้
       ปิ่นอนงค์มองเสี่ยตงที่อยู่ข้างหน้าอาการงวยงง จังหวะนั้นใหญ่โผล่มาทางด้านหลังทรรศนะ เอาไม้ฟาดตรงท้ายทอย ทรรศนะทรุดลงไปกองกับพื้น สลบเหมือด
       เสียงรถยนต์กระบะของครองสุขและลูกน้องราว 5 คน ดังเข้ามา ใหญ่พูดไปเอาผ้าที่โพกหัว มาพันหน้าพรางตัว
       “ปิ่นเร็ว พาเสี่ยหนีไปก่อน รู้นะที่ไหน”
       “แล้วคุณใหญ่...”
       “ไม่ต้องถาม รีบไป”
       ใหญ่พุ่งไปหยิบปืนข้างทรรศนะ มาเหน็บหลัง เห็นชัดว่าใหญ่ก็มีปืนอีกกระบอก แต่ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย
       ใหญ่ยืนกระชับไม้มั่นในมือ รถครองสุขวิ่งเข้ามาจอด ครองสุขเห็นทรรศนะร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ
       “อ๊าย...” เหล่าสมุน 5 คนกระโดดลงเข้าไปล้อมใหญ่
       ใหญ่ตกอยู่ในวงล้อม “จับเป็นมัน ฉันอยากรู้ว่าใครสั่งมันมา”
       ครองสุขประกาศกร้าว มาดเจ้าแม่เต็มองค์
  
       ปิ่นอนงค์จับมือเสี่ยตงพาดไหล่ อีกมือจับขอบกางเกงตรงกระเบนเหน็บ พาเสี่ยตงลุยลำธาร ฝ่าพงหญ้าหนีมา
       จังหวะต่อมาปิ่นอนงค์ดึงร่างเสี่ยตงให้ข้ามโขดหินและขอนไม้ จนเสี่ยตงทำท่าหมดแรงทิ้งตัวบนพื้น “แข็งใจหน่อย เสี่ยตง เราต้องรีบไป ข้ามภูเขาเล็กๆ ข้างหน้าก็ถึงแล้ว” ปิ่นอนงค์ปลุกปลอบ
       “ชั้นเคยคิดร้ายกับเธอกับคุณใหญ่ เคยปล้ำเธอ เคยคิดจะฆ่าพวกเธอ มาช่วยชั้นทำไม” เสี่ยตงสงสัย
       “ถือว่าไม่ติดค้างบุญคุณต่อกัน เสี่ยต้องรักษาชีวิตเอาไว้ เพื่อเป็นพยานให้พวกเรา เอาตัวคุณนายมาชดใช้กรรมให้ได้”
       “อีคุณนายมันก็ต้องซัดทอดชั้น ชั้นยอมตายดีกว่าติดคุก ชั้นไม่โง่ช่วยพวกเธอหรอก”
       ปิ่นอนงค์ส่ายหน้าระอาใจ “ไม่เป็นไร ถึงไม่อยากช่วย แต่ก็ต้องรีบไปด้วยกัน ก่อนที่พวกมันจะตามมาถึง มาค่ะปิ่นช่วย”
       ปิ่นอนงค์จับข้อมือเสี่ยตงดึงให้ลุกยืน เตรียมประคอง แต่ร่างเสี่ยตงกลับร่วงทรุดลงไปอีกเสี่ยตงเอามือจับขาตัวเอง เห็นเลือดไหลซึมออกมา ร้องครวญคราง
       “ไม่ไหว เจ็บ เจ็บจริงๆ”
       ปิ่นอนงค์มองแผล หยิบมีดพกที่ใหญ่ให้ไว้ติดตัวออกมา เสี่ยตงสะดุ้งหน้าเสีย
       ปิ่นอนงค์กรีดเสื้อตรงขอบเอวตัดออกมา หยิบผ้าเช็ดหน้า มาพับปิดแผล เอาผ้าที่ตัดมาพันรัดให้เสี่ยอย่างจริงจัง
       เสี่ยตงนิ่งมอง ครุ่นคิด อึ้งในใจกับความแสนดี
  
       เหตุการณ์ที่ริมน้ำตกยังตะลุมบอนกันอยู่ โดยใหญ่ซึ่งปิดหน้าปิดตาใช้ไม้เป็นอาวุธ ต่อสู้กับสมุนครองสุขสามสี่กระบวน
       เจิดเสียท่าถูกตีสีข้างร่างกระเด็นไป ใหญ่ตีเฉียงกะลำตัว ก้านอาศัยจังหวะที่ใหญ่พัวพันกับเจิด
       กระโดดถีบรับที่มือใหญ่ ไม้กระเด็น สมุนคนอื่นเข้าล็อกแขนใหญ่
       ใหญ่ดิ้นรนไปติดริมโตรกน้ำตก สมุนถีบขาพับหลังเข่า ใหญ่ทรุดลงคุกเข่า
       เจิดย่างสามขุมเข้าหาใหญ่ ขยุ้มผ้าขาวม้าเตรียมจะกระชาก
       จังหวะนั้นถวิลซึ่งพรางหน้าเช่นกัน กระโดดถีบเจิดกระเด็น
       ใหญ่ถีบตัวเองกระโดดตีลังกาหลัง ลงน้ำมาดอย่างเท่ สมุนครองสุขชักปืน
       ถวิลจ้องอยู่เตะมือจนปืนหล่น อีกคนโดนถวิลใช้สันมือสับคอ ทรุดฮวบ
       ก้านจ้องอยู่สบโอกาสเตะเสยหน้าถวิลสลบเหมือด ก้านเปิดหน้าถวิลให้ครองสุขดู
       “ไอ้หวิน แกเองหรือ” ครองสุขตาค้าง
  
       ไม่นานหลังจากนั้น ครองสุขเอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าทรรศนะไปมา ทรรศนะได้สติจับท้ายทอยหน้าเหยเก
       น้อยถือขันน้ำอยู่ ลุ้นฟังถ้อยความ “วางขัน ไสหัวไป นังน้อย” ครองสุขตวาด
       น้อยรีบวางขัน วิ่งแจ้นออกไป
       “คุณน้าครับ ปิ่นหายไปไหน ปิ่นเป็นอะไรรึเปล่า”
       ทรรศนะเหลียวซ้าย แลขวามองหา
       “น้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่เห็นมันแม้แต่เงา”
       “ปิ่นเค้ารู้ความจริงแล้ว ว่าผมโกหก ผมไม่น่าเชื่อคุณน้าเลย ปิ่นต้องเกลียดผมแน่เลย”
       ทรรศนะมองครองสุขงอนๆ นึกถึงตอนที่ครองสุขวางแผนให้แกล้งเดินไม่ได้
  
       วันนั้นที่ห้องคนป่วยโรงพยาบาล ครองสุขก้มโน้มตัว ลูบหัวทรรศนะ กระซิบเบาๆ
       “เป็นโอกาสทองของนะแล้ว นะต้องแกล้งทำเป็นเดินไม่ได้ปิ่นมันจะได้สงสาร น้าจะให้มันมาดูแลนะอย่างใกล้ชิด”
       ทรรศนะสบตาครองสุข อาการลังเล
  
       ทรรศนะดึงตัวเองกลับมา ยังปัจจุบัน ครองสุข งอน ค้อนทรรศนะ
       “น้าหวังดี เห็นนะนอนเจ็บอยู่บนเตียง น่าก็สงสาร อยากให้นะสมหวัง มาโทษน้าอีกแล้ว”
       ทรรศนะนึกขึ้นได้รีบลุกนั่ง หน้าตื่น “ไอ้เสี่ย ไอ้เสี่ยตงเป็นคนมาจี้จับผมไป มันบอกจะฆ่าพวกเราแก้แค้น”
       ครองสุขตาค้าง “ห๊า...ไอ้เสี่ย มันยังไม่ตายอีกเหรอ ถ้าอย่างนั้น มัน...มันต้อง” ครองสุขครุ่นคิด “เป็นคนจับนังปิ่นไปแหงๆ”
       “คุณน้า คุณน้าต้องช่วยตามปิ่นกลับมาให้ผมนะครับ”
       ยินเสียงประตูดังเอี๊ยดอ๊าด ครองสุขสะดุ้ง เหลียวขวับ พุ่งไปที่ประตู ประตูเปิด “ใคร อีน้อย แกมาแอบฟังชั้นเหรอ”
       ทัศนีย์เข้ามาเผชิญหน้าซึมๆ “นีเองค่ะ คุณน้า นีเป็นห่วงพี่นะ เลยมาเยี่ยม”
       ครองสุขมองทัศนีย์ที่เดินเข้าไปหาทรรศนะ เห็นกิริยาแปลกๆ หลายครั้งเข้า ครองสุขชักสงสัยทัศนีย์ขึ้นมาแล้ว
  
       ทัศนีย์เก็บเสื้อผ้าสามสี่ตัวยัดๆๆ ใส่กระเป๋าสะพาย เก็บไปก็บ่นไป
       “พี่นะร่วมมือกับคุณน้า เสี่ยตงกลับมาแก้แค้น มันจะฆ่าล้างครัวอยู่นี่ไม่รอดแน่”
  
       ทัศนีย์สะพายกระเป๋า พุ่งไปเปิดประตูห้อง ชะโงกหน้าเหลียวซ้าย แลขวา เห็นว่าทางโล่งปลอดคน
 เช้าวันต่อมา จินตนากับเพื่อนหมอหญิงคนหนึ่งอยู่ที่หน้ากระท่อมป้าทอง สองสาวหันไปมองที่ในกระท่อม ในขณะที่จินตนาส่งกระเป๋ายา อุปกรณ์ให้ พลางขอบคุณ
        
       “ขอบใจมากนะเพื่อน”
       จินตนาตบไหล่เพื่อนหมอเบาๆ
       “รับรองเป็นความลับชั้นสุดยอด” เพื่อนหมอบอกยิ้มๆ
       จากนั้นหมอสาว ก็ขึ้นรถ ATV ขับออกไป ปิ่นอนงค์ออกมากระท่อมพอดี
       “ขอบใจมากจิน”
       “ก็บอกแล้ว เพื่อนต้องช่วยเพื่อน”
       จินตนาจับไหล่ปิ่นอนงค์ เมียงมองสำรวจ ปิ่นอนงค์งงๆ
       “หมอเค้าทักว่าสีหน้าเธอไม่ปกติว่างๆ ไปให้หมอตรวจร่างกายหน่อยก็ดีนะปิ่น”
       “พักนี้ก็เพลียๆ เหมือนกันเราอาจจะเครียดมากไปก็ได้” ปิ่นอนงค์เหลียวดูไปมา “เอ๊ะ...ป่านนี้แล้วทำไมคุณใหญ่ยังไม่มาตามนัดอีก”
       จินตนาสะกิดแขน ชี้ไปอีกทาง ปิ่นอนงค์เหลียวมองตาม
       เห็นชายชาวบ้านที่เคยปลอมเป็นใหญ่ในวันที่ถูกจอมไล่ล่า โอบเอวประคองใหญ่เข้ามา ตัวเปียกโชก
  
       ถวิลถูกมัดอยู่กับเสาในโรงนาเก็บฟาง สมุนคุมเชิงอยู่ใกล้ๆ
       ครองสุขเข้าไปพูดข้างหูถวิล “ถ้าไม่อยากตาย บอกชั้นมาไอ้ตงมันอยู่ที่ไหน มันบอกอะไรแกบ้าง”
       ถวิลยิ้มเยาะ “ไม่รู้ อี...”
       ครองสุขตบหน้าถวิล ถอยออกมาสั่งสมุน “ซ้อมจนกว่ามันจะพูด”
       สมุนตั้งหลักเตรียมตัวซ้อม จอมวิ่งหน้าตื่นเข้ามา ตะโกนก้อง
       “เฮ้ย...หยุด ใครแตะต้องพ่อกูก็ยิงกัน”
       จอม มองสมุน มองครองสุข “พ่อเธอร่วมมือกับไอ้เสี่ยตงคิดฆ่าตานะ ฉันจำเป็นจะต้องจับตัวไว้เพื่อขอให้นายหวินบอกที่ซ่อนของเสี่ยตง”
       จอมอาสา “ผมจะคุยกับพ่อเอง”
       ครองสุขยิ้ม “ก็ได้ ฉันเองก็ไม่ได้คิดทำร้ายนายหวินอยู่แล้ว ยังไงก็คนกันเอง”
       ว่าพลางครองสุขลูบแผงอกจอมให้ถวิลเห็น “ฉันจะรอคำตอบที่ห้องนอนเหมือนเคยนะจ๊ะจอม”
       ครองสุขเดินออกไป เจิด กะก้านตาม ครองสุขชะงักนิดหนึ่ง ส่งสายตาให้สัญญาณสมุนเป็นเชิงบอกให้จัดการเก็บถวิลเสีย!!
       ถวิลจ้องหน้าจอมอย่างผิดหวัง
       “เอ็งทำไมทำตัวแบบนี้ แค่มาเป็นหมารับใช้มันยังไม่พอยังเอาตัวไปบำรุงบำเรอมัน ไอ้สารเลว เอ็งมันจะทำตัวชั่วไปถึงไหน”
       “มันไม่ใช่อย่างที่พ่อเข้าใจ พ่อรีบบอกมาว่าเสี่ยตงมันอยู่ไหน”
       “เอ็งไม่ต้องมาถามอะไรข้า ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
       “พ่อ ผมอยากจะช่วยพ่อจริงๆ” จอมรำพัน
       “เอ็งฆ่าข้าได้เลย ไม่ต้องรอนังคุณนาย เอาเลยสิวะ”
       พ่อ ลูก สบตากันเครียด
  
       ในขณะที่ครองสุขนั่งทาเล็บอยู่ในห้องโถง ปิ่นอนงค์เดินกะเผลกเข้ามา ตัวเลอะโคลนไปหมด
       ครองสุขชะงัก เงยหน้ามอง
       “ดูสารรูปเข้า แกหายไปตะลอนที่ไหนมานังปิ่น ชั้นสั่งให้แกดูแลตานะให้ดี นี่อะไรกันตานะถูกไอ้ตงจับไป ถูกตีสลบไสลมาเกือบตาย”
       “ปิ่น...ปิ่นก็ถูกเสี่ยตงจับไปเหมือนกันค่ะ แต่ปิ่นหนีมาได้เพราะเสี่ยตงเจ็บหนัก โดนคุณนะยิง”
       ครองสุขลุกไปหา จับแขนปิ่นอนงค์เขย่าๆ “แกแน่ใจนะ ว่าแกไม่ได้โกหกชั้น”
       ทรรศนะได้ยินเสียงรีบเข้ามา น้อยตามติด ทรรศนะเอ่ยขึ้น
       “จริงๆครับ ผมยิงไอ้เสี่ยตงไปนัดหนึ่ง ไม่รู้ว่าโดนตรงไหน”
       ปิ่นอนงค์ไม่ยอมมองหน้าทรรศนะ ยังเคืองเรื่องที่โดนหลอกว่าเดินไม่ได้
       “ปิ่นขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
       ปิ่นอนงค์กะเผลกจะไป ทรรศนะรีบเข้าประคองแขนโอบเอว ปิ่นอนงค์รีบเบี่ยงตัวออก
       “ไม่ต้องค่ะ ให้น้อยพาไปก็ได้ เดี๋ยวคุณนะจะลื่นล้ม เดินไม่ได้อีก”
       ทรรศนะเจื่อนจ๋อย น้อยกระโดดแผล็วเข้าไปพยุงปิ่นอนงค์
       ทรรศนะมองตามไป ครองสุขเครียด
  
       จอมนำหน้าถวิลมา เดินระแวดระวังมาตรงริมรั้วที่มีต้นไม้ใหญ่รายรอบ
       “พ่อหนีไปซะ อย่ากลับมาที่ไร่ไพศาลอีก”
       “แล้วเอ็งจะเสียใจ ไอ้ลูกโง่ คุณนายมันเป็นคนใจคด เอารัดเอาเปรียบลูกน้อง เอ็งอยู่ที่ไร่ก็เคยเห็นมาตลอด แล้วทำไมยอมเป็นขี้ข้ามัน”
       “พ่อคิดว่าผมมีความสุขที่ได้ทำงานให้คุณนายหรือ แต่ผมต้องอดทนอยู่ เพื่อปิ่น”
       ถวิลอบรมต่อ “คนเราต้องอยู่เพื่อความถูกต้องเมื่อไหร่เอ็งจะเข้าใจวะ” ถวิลส่ายหน้าระอาใจ ถ่างลวดหนาม จะออกไป
       สมุน 5 คน โผล่ออกมาจากมุมต่างๆ ตัวหัวหน้าถือปืน ลูกน้องถือมีดปาดตาล สปาต้าร์ ทุกคนใส่โม่ง รุมล้อมจอม กะถวิล
       จอมตะโกนบอก “หนีพ่อ”
       แต่แล้วบรรดาหมู่มวล ร่วงไปทีละคน เป้าแรกที่มือคนถือปืนฟุบคาที่ ตัวหัวหน้าปืนกระเด็น จับมือตัวเองเลือดสาด บาดเจ็บสาหัส เหล่าลูกน้องเหวอ เสียงดังฟุบ พร้อมๆ กับมีดกระเด็นจากมือสมุนทุกตัวคน
       เหล่าสมุน เหลียวรอบตัวสายตาล่อกแล่ก แล้วเผ่นเข้าพงหญ้าหายหัวไป
       ใหญ่นั่งคาบก้านดอกหญ้าอยู่บนคบไม้ ส่องกล้องเล็งปืนแพนไปมาช้าๆ ก่อนจะเก็บปืนเอามาสะพายไหล่
       จอมถือปืนสอดส่องมองหา ถวิลอมยิ้มรู้ว่าเป็นใหญ่
       “จะมองหาไปทำไม เค้าไม่ยิงกบาลเอ็งก็บุญโขแล้ว”
       “ใครพ่อ พ่อทำงานให้ใคร”
       “เอ็งไม่จำเป็นต้องรู้ รู้แค่ว่าเขาเป็นคนดี”
       ถวิลมุดรั้วหายไป จอมสงสัย
       สีหน้าครองสุขยามนี้ ไม่พอใจมาก “ไอ้หวินมันหนีรอดไปได้หรือ”
       สมุนก้มหน้านิ่ง จอมเข้ามา “ผมเป็นคนปล่อยพ่อไปเอง ผมยินดีรับโทษทุกอย่าง”
       ครองสุขเหลือบตามองสมุน รู้กัน “เธอกตัญญูกับพ่อฉันเองก็เข้าใจ แต่พ่อเธอร่วมมือกับไอ้เสี่ยตงจะฆ่าฉัน”
       “ผมเชื่อว่าพ่อไม่รู้ไม่เห็นด้วย พ่อเองก็โดนตามฆ่าอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าพวกไหน”
       ครองสุขกลอกตา แต่งเรื่องให้ร้ายปานเทพ “ก็คงพวกไอ้ปานนั่นแหละ มันอาจแค้นเธอเรื่องไอ้ปลอดก็เลยเล่นงานพ่อเธอแทน ทำไมคนพวกนี้มันถึงร้ายกาจนักนะ มรดกทั้งหมดคุณไพศาลให้ฉันเอง พอแย่งไปไม่ได้ ก็จะฆ่าแกงกัน ขนาดนังปิ่นยังเกือบโดนลูกหลงไปด้วย”
       ครองสุขผุดแววตาเจ้าเล่ห์ จอมตกใจรีบออกจากห้อง เป็นห่วงปิ่นอนงค์
       ครองสุขหันมาด่ากราดลูกน้อง
       “มันน่าตัดเงินนัก สั่งอะไรเหลวตลอด”
  
       คืนนั้นสองคนอยู่ในห้องนอนปิ่นอนงค์ เปลี่ยนชุดกันแล้วเรียบร้อย
       ปิ่นอนงค์หันมาทางใหญ่ “คุณใหญ่ช่วยลุงหวินได้แล้วหรือคะ”
       “แล้วทางเธอล่ะ”
       “ทางปิ่นก็ราบรื่นดีค่ะ คุณนายเชื่อว่าปิ่นก็โดนเสี่ยตงจับไปด้วยเลยไม่สอบสวนอะไรมาก”
       ใหญ่มองปิ่นอนงค์ผ่านกระจกเงา “ดูหน้าตาเธออิ่มเอิบแจ่มใสเชียวนะ คงจะดีใจล่ะสิที่นายนะไม่ได้พิกลพิการไปจริงๆ”
       “คุณนะไม่พิการปิ่นก็ต้องดีใจสิคะ ขืนปิ่นเสียใจคงเป็นคนเลือดเย็นน่าดู”
       ใหญ่ลุกไปยืนเคียงข้างโต๊ะเครื่องแป้ง หาเรื่องเพราะหึง “พูดอย่างนี้ก็ว่าชั้นเป็นคนเลือดเย็นน่ะสิ”
       ปิ่นอนงค์ลุกงงๆ มองใหญ่ แล้วไปนั่งที่เตียงวัดอารมณ์ใหญ่
       “คุณใหญ่ไม่ใช่คนเลือดเย็นหรอกค่ะแต่เป็นคนเลือดร้อน”
       ใหญ่หันไปมองปิ่นอนงค์พาลเต็มที่ “นี่เธอหลอกด่าฉันหรือ”
       “เฮ้ย...ไม่ใช่อย่างนั้น...”
       ใหญ่ชี้หน้า “ขึ้นเฮ้ยกับชั้นเหรอ อยากมีเรื่องใช่มั้ยปิ่นอนงค์ ได้...ได้เลย”
       ใหญ่ทำฮึดฮัดถอดเสื้อเขวี้ยงทิ้ง จ้องปิ่นอนงค์เขม็ง
       “แล้วถอดเสื้อทำไมคะ” ปิ่นอนงค์แกล้งถาม
       “คงจะให้เธอเกาหลังให้มั้ง” ใหญ่ประชดส่งๆ ลอยหน้ากวนๆ
       ใหญ่พุ่งตัวกระโดดเข้ารวบตัวปิ่นอนงค์บนเตียง ปิ่นอนงค์รู้ทันลุกหลบ ใหญ่วืดหน้าคว่ำลงกับเตียง
       “ปิ่นไม่ตามใจคุณใหญ่หรอก เก่งแต่เอาเปรียบ”
       ปิ่นอนงค์วิ่งไปที่ประตูห้อง เปิดหนีออกไป
   
       ใหญ่ยิ้มขำๆ สุขใจอารมณ์ดีที่แกล้งปิ่นอนงค์ได้
ขอขอบคุณจาก manager.co.th 
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ