เปิดความน่ารักของคุณพ่อลูกสอง "บอย-ชีวิน โกสิยพงษ์"

{[['']]}
เปิดความน่ารักของคุณพ่อลูกสอง "บอย-ชีวิน โกสิยพงษ์"
หากพูดถึงผู้ชายชื่อ "ชีวิน" หรือ "บอย โกสิยพงษ์" นักร้อง และนักแต่งเพลงที่ใครหลาย ๆ คนชื่นชอบ และหลงใหลในงานเพลงของเขา ทั้งแนวเพลงรัก และเพลงชีวิต ไม่ว่าจะเป็น Seasons Change ฤดูที่แตกต่าง แพ้บ้างก็ได้ รักผมแค่นี้เองเหรอ ฟังลูกเดียว หรือ Live & Learn

กว่า 15 ปีบนเส้นทางสายดนตรี ปฏิเสธไม่ได้ว่า งานคือสาระสำคัญที่ผู้ชายคนนี้มุ่งมั่นทุ่มเทมาโดยตลอด ส่งผลให้เขากลายเป็นเจ้าพ่อเพลงรักที่หาตัวจับได้ยากคนหนึ่งของเมืองไทย แต่หลังจากที่ตรวจพบว่ามีอาการเส้นเลือดในสมองตีบในระยะเริ่มต้นเมื่อปี 2553 ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป วันนี้ บอย โกสิยพงษ์เลือกทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับครอบครัว เนื่องจากไม่ต้องการเห็นภรรยา และลูกต้องร้องไห้กับอาการป่วยของเขาเป็นครั้งที่สองอีก

"เมื่อก่อนผมทำงานหนักมาก แต่หลังจากที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ (ตรวจพบเส้นเลือดในสมองตีบในระยะเริ่มต้น) ผมปรับทุกอย่างใหม่ ลดการทำงานลงเพื่อภรรยา และลูก ผมจะทำงานแค่ 3 วัน คือ จันทร์ พุธ และพฤหัสฯ แล้วเอาเวลามาอยู่กับภรรยา และลูกให้มากขึ้น อย่างวันอังคาร เป็นวันที่ผมออกไปเดทกับภรรยา ส่วนวันศุกร์ผมให้เวลาทั้งหมดกับลูก แต่ด้วยความที่ผมมีลูก 2 คน (ด.ญ.ดีใจ และ ด.ญ.ใจดี) ผมจะแบ่งว่า ศุกร์นี้ไปเดทกับลูกคนโตนะ ส่วนคนเล็กก็ไปกับคุณแม่ ต่างคนต่างพาลูกกันไปเดทครับ" คุณบอยเผย

ดังนั้น "ครอบครัว" คือสิ่งที่คุณพ่อท่านนี้ให้ความสำคัญ โดยความสวยงามของบ้านไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดว่าใหญ่หรือเล็ก แต่ขึ้นอยู่กับปริมาณความรักที่คนในบ้านมอบให้กัน เหมือนกับบ้านที่ให้ความรัก และความอบอุ่นกับเขาเสมอมา

"ผมโชคดีที่เติบโตมาในครอบครัวที่ให้ความรัก และสอนให้ผมเข้าใจชีวิต อย่างเพลง Seasons Change ก็ได้มาจากแม่ Live & Learn พ่อก็เป็นคนสอน ยกตัวอย่างเวลาที่พ่อผมอยู่ในสระว่ายน้ำ เขามักจะเอามือผลักน้ำออกไปจากตัว ซึ่งเขาบอกเราว่า นี่คือการให้ความสุขกับคนอื่นนะ แล้วความสุขมันจะย้อนกลับมา แต่ถ้ากวาดน้ำเข้ามาหาแต่ตัวเรา น้ำก็จะสะท้อนออกไปหมด นั่นหมายถึงความสุขที่ออกไปด้วย"
คำสอนดี ๆ เหล่านี้ซึมลึกอยู่ในสายเลือดของเขา และได้กลายมาเป็นวัสดุชั้นดีในการสร้างบ้านหลังปัจจุบันของเขาในวันนี้
"ผมเลี้ยงลูกให้รู้จักรักผู้อื่นเหมือนรักตัวเองเหมือนที่พ่อผมสอน เรื่องนี้ ผมกับภรรยาเราให้ความสำคัญมาก เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างสังคม และโลกให้สวยงาม ลดความเห็นแก่ตัว และตัวตนที่เหนือกว่า เก่งกว่าลง แต่ถ้าเมื่อไรที่เรานึกถึงส่วนตัวเป็นหลัก นึกถึงส่วนรวมเป็นรอง มันก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างที่เคยเกิดขึ้นในสังคมอยู่ทุกวันนี้"

"ฉะนั้น เราอาจจะลืมในเรื่องของการใช้เวลากับลูกไป ซึ่งบางครั้งผมก็ลืมนะ แต่เวลา และความรักคือการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ และคุ้มค่ามาก ๆ เมื่อลูกของเราได้รับความรักอย่างเต็มที่ เขาก็จะสามารถนำความรักเหล่านี้ไปแบ่งให้คนอื่นต่อไปได้ แต่ถ้าพ่อแม่ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ต้นรักของตัวเองให้เติบโตอย่างแข็งแรง แล้ว ลูกก็จะขาดความรักต่อตัวเอง และผู้อื่น"

"อย่างครอบครัวผม เราให้เวลาเพื่อคุยกับเขาเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่ง คุยกับเขาเหมือนเขาเป็นเพื่อนเรา ไม่ใช่คุยกับเขาเหมือนผู้อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเรา เช่น ตอนนี้ต้องทำสิ่งนี้นะ ห้ามทำสิ่งอื่นเด็ดขาด แต่ผมจะคอยสอน และให้มุมมองการใช้ชีวิตที่ควรจะเป็น รู้ผิดชอบชั่วดี เพราะภาพในชีวิตจริง จะทำให้เขาเข้าใจชีวิต และเติบโตขึ้นมาอย่างมีวิธีคิดท่ามกลางสังคมที่เต็มไปด้วยปัญหา" คุณบอยเล่า

ถึงวันนี้ ชื่อเสียง หรือความสำเร็จไม่ได้สำคัญสำหรับเขาอีกต่อไป แต่การให้เวลา และแชร์ความรู้สึก ๆ ดีร่วมกันในครอบครัวคือความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่า และในฐานะคุณพ่อ เขาไม่ได้หวังอะไรมาก ขอแค่ให้ลูกรู้จักรักตัวเอง และผู้อื่นเท่านั้นก็พอ

"ทุก ๆ วันผมไปส่งและรับลูกที่โรงเรียนด้วยตัวผมเอง แล้วพามาอยู่ด้วยกันที่บริษัท ส่วนเวลาเข้านอน ผมกับภรรยาก็จะเป็นคนพาลูกเข้านอน เล่านิทานให้ฟัง เพราะผมเชื่อว่า ความใกล้ชิดจะช่วยให้ลูกของผมไม่รู้สึกขาด มันจะช่วยเติมเต็ม และทำให้เขารู้จักมอบความรัก และความรู้สึกดี ๆ ไปให้ผู้อื่นเมื่อเขาโตขึ้น"

นี่คือ อีกหนึ่งเรื่องราวดี ๆ ที่สะท้อนให้เห็นภาพของ "ครอบครัว" ในมิติที่ลึกขึ้น ที่สำคัญ บ้านในมิติของ "บอย โกสิยพงษ์" ยังเป็นโรงเรียนฝึกสอน และหล่อหลอมให้สมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะลูก ๆ ของเขารู้จักหยิบยื่นความรักให้แก่ผู้อื่นด้วย แม้ว่านี่จะเป็นสิ่งสังคมทุกวันนี้ยังขาดแคลนอยู่มากก็ตาม
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ