อ่านละคร เกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 10-11 วันที่ 19 มิ.ย. 55

{[['']]}

อ่านละคร เกิดเป็นหงส์

อ่านละคร เกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 10

สร้อยเพชรเอากาแฟมาให้ ยังไม่ทันจะวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะรับแขก หญิงมานศรีเปลี่ยนใจไม่อยู่รอเทพ อ้างเดี๋ยวจะไปทำงานสาย แล้วผลุนผลันออกไป สร้อยเพชรมองตามงงๆก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบห้องอย่างพิจารณา แต่ไม่เห็นอะไรผิดปกติ...
ด้านพิไลพรยังคงชวนเทพคุยเรื่องที่หญิงมานศรีกับเขาผิดใจกัน ตลอดเวลานั้น เขามองเธอด้วยสายตากรุ้มกริ่ม แถมชวนเธออยู่กินข้าวกลางวันด้วยกัน โชคดีที่ขวัญตาเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน อ้างว่าเขามีนัดกินข้าวกับเธอก่อนแล้ว เขาหันขวับมองเธออย่างไม่พอใจ พิไลพรสบโอกาส “หรือคะ...งั้นพรไม่รบกวนนะคะ ลาล่ะค่ะ สามีภรรยาจะได้สวีตหวานกัน...สวัสดีค่ะ” เธอว่าแล้วลุกออกไป ทันที เทพเซ็งจัด หมูจะหามดันมีคานมาสอด ตัดรำคาญลุกหนี ขวัญตาตามมาโวยที่เขาคิดจะเอาพิไลพรเป็นเหยื่อชิ้นใหม่แทนคุณหญิง เธอยอมไม่ได้ที่จะให้ใครมาแชร์ส่วนแบ่ง เทพนึกไม่ถึงว่าเธอจะหวังแค่สมบัติของเขา “เพราะคุณไม่มีความรักให้ขวัญตานี่ และขวัญตาจะไม่ยอมเดินจากไปมือเปล่าแน่” เทพขย้ำคอเธอทันที “งั้นก่อนจะได้...ลงทุนทำอะไรให้ฉันสักอย่างสิ ไม่แน่นะ ถ้าเธอทำได้ ฉันอาจจะไม่อยากได้ใครมาอีกเลยก็ได้ นอกจากเธอ” ขวัญตาไม่อยากได้ตัวเขา อยากได้แค่เงินของเขาเท่านั้น เทพของขึ้นออกแรงบีบเพิ่มอีก เธอไม่เกรงกลัวขู่กลับ ถ้าเขาฆ่าเธอตอนนี้ ก็จะไม่มีใครทำงานให้ เทพสีหน้าเปลี่ยนเป็นพอใจ ดึงเธอเข้ามาจูบ เขาต้องการให้เธอจุดถ่านไฟเก่ากับทิวให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง เธอรับข้อเสนอทันที แต่เขาต้องจ่ายเงินสดๆให้เธอห้าสิบล้าน “ก็ได้...จัดให้ตามใจเลยจ้ะทูนหัว แต่ก่อนไป ขอฉันกระพือไฟรักของเราให้หนำใจก่อนแล้วกัน” เขาพูดจบกอดรัดฟัดเหวี่ยงขวัญตาอย่างเมามัน ooooooo ที่บ้านของทิว ลุงมิตรยังมีอาการจำได้บ้างไม่ได้บ้าง ทิวพยายามซักถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงถูกทำร้าย แต่ลุงกลับจำอะไรไม่ได้ ยิ่งคาดคั้นอาการปวดหัวของแกกำเริบขึ้นมาอีก เข้มสั่งให้วิวัฒน์ที่เอาแต่นั่งใจลอยพาลุงมิตรเข้าไปพักผ่อน วิวัฒน์รีบประคองแกเข้าห้อง
“ความจำของลุงยังกลับมาไม่หมด ฉันจะโทร.หาหมอธี...ไอ้เข้ม ล็อกบ้านเลย” ทิวลุกพรวดออกจากบ้าน ขณะที่เข้มมองตามวิวัฒน์ด้วยความสงสัย ก่อนจะตามเจ้านายออกไป...

หลังจากวางแผนกับเทพเรียบร้อย ขวัญตาตรงไปยังไร่อ้อย แกล้งถามหาทิวจากหญิงมานศรี เธอไม่สนใจจะเดินหนี ขวัญตาขวางไว้ พยายามพูดยั่วยุให้เธอหมางใจกับทิว แล้วเดินหัวเราะสะใจออกไป ครู่ต่อมา ขวัญตามาถึงหน้าบ้านทิว เห็นประตูบ้านล็อกกุญแจ

“ไม่อยู่นี่...ไปไหนของเขาล่ะเนี่ย” เธอเดินหงุดหงิดออกไป โดยไม่รู้ว่าวิวัฒน์แอบมองผ่านรอยแตกของผนังจากในบ้าน โหยหาเธอใจแทบขาด ใจหนึ่งอยากจะตามไปกอดเธอให้หายคิดถึง แต่อีกใจหนึ่งไม่กล้าเพราะทิวสั่งห้ามไม่ให้ออกไปไหน จิตใจสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างหนัก สุดท้ายแรงปรารถนาชนะ เขาแอบตามขวัญตาไปจนถึงมุมปลอดคน ตรงเข้ากอดเธอจากด้านหลัง พร้อมกับปิดปากไม่ให้ร้อง

“อย่าร้องครับ ผมเอง ผัวคุณไง...ผมคิดถึงคุณมากเลยรู้ไหม มันทรมานเหลือเกินที่ต้องอยู่ห่างคุณ” เขาใช้แรงขืนใจเธอ หญิงสาวพยายามดิ้นรนแต่ไม่เป็นผล...

ขณะหญิงมานศรีกำลังกินข้าวกลางวันกับพวกคนงานอยู่ท้ายไร่อ้อย ทิวเข้ามานั่งลงข้างๆ ร่วมวงกินข้าวด้วย เธองอนคิดว่าเขาไปเจอขวัญตามา หันหน้าหนี เขาพยายามชวนคุย แต่เธอไม่อยากพูดด้วย ถามคำตอบคำ

“ที่กินเข้าไปน่ะข้าวหรือรังแตน ทำให้อารมณ์เสียได้ขนาดนี้” ทิวกระเซ้า

“ใช่สิ...ใครจะอารมณ์ดีเหมือนนายล่ะ...ไง... เจอหน้ากันแล้วเป็นไง อารมณ์ดีเลยล่ะสิ”

ทิวงง คนที่เจอแล้วทำให้เขาอารมณ์ดีก็มีแต่เธอเท่านั้น เจอมุกนี้เข้าไปหญิงมานศรีอายหน้าแดงลุกหนี เขาอายปากตัวเองเช่นกัน ที่พูดออกไปแบบนั้น รีบลุกตาม พวกคนงานพากันหัวเราะขำเจ้านายของพวกตน...

หญิงมานศรีเดินหนีเข้าไปในไร่อ้อย ทิวตามมาคว้ามือไว้ ขอคุยให้รู้เรื่องก่อนว่าเธอไปอารมณ์เสียเรื่องอะไรมา เธอปฏิเสธว่าไม่มีอะไร ขอตัวไปทำงาน เขาไม่ต้องการให้เธอเป็นคนงานตัดอ้อยอีกแล้ว จะให้ไปเป็นเลขาฯส่วนตัวของเขาแทน เธอไม่อยากทำ

“รังเกียจเหรอ” ทิวตะคอก

“ฉันไม่ได้รังเกียจ แต่เพราะนายเป็นแบบนี้ไง ถึงได้ไม่อยากเป็น อารมณ์ขึ้นๆลงๆ ประสาท” เธอว่าแล้ว เดินหนี ทิวมองตามเซ็งๆ...

ฝ่ายเทพถึงกับหน้าเครียด เมื่อได้ยินสร้อยเพชรรายงานว่า คุณหญิงมารอเขาที่ห้องทำงานเมื่อตอนสาย แถมท่าทีมีพิรุธ ล็อกประตูห้องทำงานด้วย เขาโบกมือไล่เธอออกไป มองสำรวจรอบห้องไม่เห็นสิ่งผิดปกติ กำลังจะเดินไปดูที่รูปภาพของทัด มีเสียงมือถือดังขัดจังหวะ หม่อมสรัสวดีโทร.มา เทพยิ้มเหี้ยมก่อนจะรับสาย

“กำลังจะโทร.หาหม่อมพอดีเลยครับ เราคงต้องรีบทำตามข้อตกลงของเราให้เร็วกว่ากำหนดแล้วล่ะครับ”

ooooooo

อ่านละคร เกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 11

หลัง จากทิวตามตื๊อหญิงมานศรีให้ยอมมาทำงานเป็นเลขาฯส่วนตัวของตนเองสำเร็จ เขานึกเป็นห่วงลุงมิตรขึ้นมา ชวนเข้มแวะไปดูอาการ พบแกนอนหลับเพียงลำพังคนเดียวอยู่ในบ้าน วิวัฒน์หายตัวไป ทิวหวั่นใจว่าเขาจะลอบไปหาขวัญตา รีบออกตามหา...

ที่มุมลับตาคน ขวัญตาหยิบเสื้อผ้ามาสวมทั้งน้ำตา วิวัฒน์คลานเข้ามากอด ปลอบว่าอย่าร้องไห้ ที่เขาทำไปเพราะความรัก เธอแค้นใจมาก ตบตีเขาไม่ยั้ง เขาไม่โต้ตอบปล่อยให้เธอทำตามใจ อยู่ๆเธอรู้สึกคลื่นไส้จะอาเจียน ผลักเขาพ้นทางแล้ววิ่งหนี เขาคว้าเสื้อผ้ามาสวมจะวิ่งตาม ทิวกับเข้มเข้ามาขวางไว้ เขาถึงกับหน้าซีดที่ถูกจับได้ว่ามีอะไรกับขวัญตา ทั้งๆที่คราวก่อนปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่มีอะไรกัน ทิวอยากรู้ทำไมถึงต้องโกหก

“ตอนแรกผมไม่อยากให้ใครรู้ เพราะคิดว่าเมื่อคุณขวัญตาไม่ต้องการผม และผมไปอยู่ที่อื่น มันก็คงจบ แต่เมื่อผมกลับมาที่นี่อีก ผมอดใจไว้ไม่ไหวครับนาย” วิวัฒน์ว่าพลางยกมือไหว้ขอโทษเจ้านายปลกๆ

ทิวคาดคั้นให้ตอบว่าข่มขืนขวัญตาหรือเปล่า วิวัฒน์พูดยังไม่ทันขาดคำว่าใช่ หมัดของทิวอัดเข้าเต็มหน้าเลือดกบปาก ชี้หน้าด่าลั่นว่า บังคับขืนใจผู้หญิงทำตัวไม่สมกับเป็นลูกผู้ชาย วิวัฒน์ปรี่เข้ามากราบเท้าเขา

“ผมเสียใจจริงๆครับ แต่ผมรักคุณขวัญตา ตอนแรกคุณขวัญตาเต็มใจเป็นเมียผมนะนาย แต่พอรุ่งเช้าเธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่ผมตัดใจจากเธอไม่ได้ ผมรักเธอ เธอเป็นเมียผมนะนาย เธอเป็นเมียผม” วิวัฒน์ร้องไห้อย่างไม่อายใคร ทิวทั้งโกรธทั้งสมเพชที่ลูกน้องของตนดันโง่ไปหลงรักผู้หญิงที่รักใครไม่เป็น นอกจากตัวเอง จะเข้าไปเตะซ้ำสักป้าบสองป้าบให้หายโง่ แต่เข้มเข้ามากันไว้

“แกกำลังเล่นกับไฟนรก ทำไมไม่รู้จักห้ามใจ...ถ้าไอ้เทพรู้ มันไม่เอาแกไว้แน่ไอ้วัฒน์” ทิวเตะคนไม่ได้ หันไประบายอารมณ์ใส่ข้าวของแทน...

ขณะเดียวกัน บริเวณสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์ของเทพ ล้วนรายงานให้นายใหญ่ฟังว่าทิวย้ายคุณหญิงไปเป็นเลขาฯ ส่วนตัวแทนการตัดอ้อยแล้ว คนงานลือกันให้แซดว่า อาจจะมีงานฉลองของทั้งคู่เร็วๆนี้ เทพทนฟังไม่ได้ยกมือเป็นเชิงห้ามไม่ให้พูดอะไรอีก จังหวะนั้น ขวัญตาในสภาพเสื้อผ้ายับยู่ยี่ท่าทางอิดโรยเข้ามา เทพร้องถามว่าไปทำอะไรมา เธออึกๆอักๆ เขาไม่พอใจเรื่องทิวกับคุณหญิง พาลเข้าไปขย้ำคอเธอระบายแค้น

“จัดการเรื่องที่ให้ไปทำถึงไหนแล้ว ถ่านไฟเก่า ของเธอกับไอ้ทิวเมื่อไหร่จะคุ”

เธอยังหาทิวไม่เจอ รู้สึกไม่ค่อยสบายเลยกลับมาก่อน เทพรีบปล่อยมือจากคอไปโอบเอวเธอแทน ขอโทษที่ทำให้ตกใจ แล้วบอกให้เธอไปพักผ่อนได้ ขวัญตาดีใจหลงคิดว่าเขาเป็นห่วง ที่แท้เขาแค่ห่วงว่าเธอจะทำงานไม่คุ้มเงิน เธอมองตามเขาออกไปกับล้วนอย่างเกลียดชัง ก่อนจะรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอีกครั้ง รีบเอามือปิดปากวิ่งเข้าไปอาเจียนโอ้กอ้ากในห้องน้ำ บุญปลูกผ่านมาพอดี ค่อยๆย่องเข้าไปดูอย่างสอดรู้สอดเห็น

จากนั้น เธอรีบคาบข่าวนี้ไปรายงานผ่องทิพย์ แถมสรุปให้เสร็จสรรพว่าอาการแบบนี้เหมือนคนแพ้ท้องไม่มีผิด นายสาวลุกพรวด ยอมไม่ได้ที่จะให้นังนั่นท้อง แค่นี้เธอก็หัวเน่าไม่มีใครเหลียวแลพอแล้ว

“คุณนายอย่าเพิ่งเครียดไปเลยนะคะ นังขวัญตาอาจจะแค่อาหารเป็นพิษเลยอ้วกแตกก็ได้”

“แล้วมาพูดให้คิดมากทำไม...ไสหัวออกไปเลย” ผ่องทิพย์หน้าเครียดต้องหาทางกำจัดขวัญตาให้ได้...

ไม่นานนัก ทิวกลับมาที่ห้องทำงานในโรงงานน้ำตาลด้วยหน้าตาบึ้งตึง หญิงมานศรียิ้มให้เขากลับไม่ยิ้มตอบ เธอไม่พอใจต่อว่าต่อขานยกใหญ่ เขาต้องขอโทษเธอด้วยที่อารมณ์เสียใส่ พอดีลูกน้องทำให้หงุดหงิด

“ก็ดี ที่เดี๋ยวนี้รู้จักผิดเป็น”

“ต่อไปนี้ ช่วยบอกด้วยแล้วกันว่าผมทำอะไรไม่ดีบ้าง ผมจะได้ปรับปรุง เผื่อคุณจะชอบผม”

หญิงมานศรีเขิน เดินหนี ทิวอมยิ้ม เดินตาม ทั้งคู่ไม่ทันสังเกตเห็นเทพแอบมองอยู่อย่างเคียดแค้น หันมาสั่งล้วนไปเอารถออกเดี๋ยวนี้เลย เขาจะเข้าวังกฤตยา ขืนชักช้ากว่านี้จะไม่ทันการณ์

ooooooo

ทันทีที่ถึงวังกฤตยา เทพแจ้งกับหม่อมสรัสวดี ว่าต้องการให้หญิงมานศรีแต่งงานกับเขาภายในเจ็ดวัน เธอโวยลั่นให้เวลาหนึ่งเดือนยังทำไม่ได้ แล้วจะมาเร่งรัดแบบนี้จะไหวได้อย่างไร เขาหาว่าเธอแกล้งยื้อเวลา อย่าคิดว่าที่เขาขู่ไว้เป็นเรื่องเล่นๆแล้วกระชากตัวเธอมากอด

“คุณเทพ กรุณาอย่าทำตัวป่าเถื่อน ที่นี่วังกฤตยาไม่ใช่ฮาเร็มความโลกีย์ของคุณนะ” เธอเสียงดังเข้าข่ม

“อีกหน่อยที่นี่ก็จะเป็นฮาเร็มของผมเหมือนกัน”

จังหวะนั้น ชายคำรณเพิ่งกลับจากทำงานพอดี ขอร้องให้เขาปล่อยหม่อมแม่ เทพค่อยๆคลายมือออก

“ขอโทษจริงๆครับหม่อม ผมลืมตัวไปชั่วขณะ...

แล้วจะไม่ให้ผมโกรธได้ยังไงล่ะครับคุณชาย ในเมื่อหม่อมไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับผม ผมก็ต้องมาทวง” เทพแอบยิ้มที่ทุกอย่างเข้าแผน

“สัญญาอะไรครับหม่อมแม่” ชายคำรณมองเธออย่างรอคำตอบ หม่อมสรัสวดีไม่พอใจที่โดนแฉ ส่วนเทพยิ้มสะใจที่เอาระเบิดมาวางสำเร็จ แล้วเดินอย่างสบายอารมณ์กลับไป รอเวลาให้ระเบิดทำงานของมันเอง...

เทพไม่ต้องรอนาน ทันทีที่รถของเขาลับสายตา สองแม่ลูกมีปากเสียงกัน ชายคำรณตัดพ้อต่อว่าด้วยความเสียใจเมื่อรู้เรื่องที่หม่อมแม่ทำข้อตกลงไว้ กับเทพ ไม่เข้าใจทำไมท่านต้องโกหกเราสองพี่น้องด้วย

“ถ้าแม่ไม่โกหก ชายจะยอมรับเงินไปแก้ไขสถานการณ์หรือ ธุรกิจต้องดำเนินต่อไป จะให้แม่ไปเอาเงินที่ไหนมาช่วยชาย ถ้าไม่ใช่จากคุณเทพ”

“แต่ไม่ใช่การเอาตัวน้องหญิงเป็นเดิมพัน มันไม่ต่างอะไรกับการขายลูกกิน”

หม่อมสรัสวดีโมโหตบหน้าลูกชายผัวะ เท่านั้นยังไม่พอเธอกลับโยนความผิดเรื่องนี้ไปให้เขา หาว่าทำงานไม่ได้เรื่อง มีปัญหามาให้แก้ทุกวัน เธอจึงต้องหาทางออกแบบนี้แล้วแกล้งบีบน้ำตา

“หญิงมานศรีเป็นทางรอดทางเดียวของกฤตยา แม่จำเป็นต้องทำ แม่จำเป็น...”

“ชายเข้าใจครับ แต่ชายยอมทำใจรับมันไม่ได้ ชายขอโทษที่ชายไม่ได้เรื่อง แต่หม่อมแม่ครับ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สำคัญกว่าเงินครับ” เขารู้สึกผิดที่พูดจารุนแรง แต่ก็ไม่พอใจกับสิ่งที่ท่านทำมองด้วยสายตาตำหนิ

“ถึงแม่จะทำผิด แต่แม่ก็ยังเป็นแม่ของชายนะ อย่ามองแม่แบบนี้” หม่อมสรัสวดีแหวลั่น

ชายคำรณเดินหนี ไม่อยากเถียงด้วย หม่อมสรัสวดี ตามไปจะเอาเรื่อง ร้องเรียกให้กลับมาคุยกันก่อน เขาไม่สนใจเดินลิ่วๆออกไป เธอหมดแรงตาม ท้อแท้ทั้งกายทั้งใจ ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรดี

ooooooo

ในเวลาเดียวกัน ขณะที่หญิงมานศรีนั่งมองพระจันทร์อย่างเพลิดเพลินอยู่หน้าบ้านพักพนักงาน พิไลพรเห็นที่นี่มีแต่เรื่องวุ่นๆ แนะให้กลับวังกฤตยากันดีกว่า เธอยืนยันจะอยู่ที่นี่ต่อไป แต่ถ้าพิไลพรจะกลับไปก่อนก็ได้

“แล้วให้คุณหญิงอยู่ที่นี่คนเดียวหรือคะ...คุณหญิงจะได้อยู่คนเดียวก็ต่อเมื่อพรตายไปแล้วนั่นแหละค่ะ”

“พรอย่าพูดแบบนี้สิ...หญิงไม่ชอบ”

“ไม่พูดก็ได้ค่ะ เข้านอนเถอะค่ะ อย่าอยู่ข้างนอกนานนัก น้ำค้างลงแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบาย”

เธอเดินตามพิไลพรเข้าข้างในอย่างว่าง่าย ทิวแอบมองอยู่อีกมุมหนึ่งอย่างมีความสุข แม้หญิงมานศรีจะเข้าบ้านไปพักหนึ่งแล้ว เขายังยืนอยู่ที่เดิมได้เห็นแค่หลังคาบ้านก็ยังดี ดูจนอิ่มใจ หันหลังจะกลับ ต้องตกใจที่เห็นหญิงมานศรียืนอยู่ เธอสงสัยเขามายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ ทิวหาข้อแก้ตัวไม่ทัน รีบขอตัวกลับ

“เดี๋ยว...ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้าง”

เขาเล่าเรื่องลุงมิตรให้เธอฟังระหว่างเดินไปยังบ้านพักของเขา แต่เมื่อไปถึงที่นั่น ลุงมิตรหลับไปแล้ว หญิงมานศรียืนมองชายแก่เขม็ง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชายคนนี้เป็นลุงมิตรของทิวจริงๆ

“นับว่าเทวดายังไม่ทอดทิ้งผมเสียทีเดียวนัก อีกไม่นานเมื่อความจำของลุงมิตรกลับคืนมาทั้งหมด วันนั้นจะเป็นวันที่ไอ้เทพพบจุดจบ”

จังหวะนั้น วิวัฒน์เข้ามาเห็นหญิงมานศรี ต่างฝ่าย ต่างชะงัก ทิวรีบออกตัวว่าเขาให้วิวัฒน์มาช่วยดูแลลุงมิตรอยู่ที่นี่ เธอไม่ค่อยสบายใจนัก ถ้าเกิดเทพรู้เข้าต้องเป็นเรื่องแน่ๆ

“มันฉลาดเกินกว่าจะคิดว่าผมโง่ เอาตัวลุงมิตรมาไว้ใกล้จมูกมันแบบนี้”

ทันใดนั้น ลุงมิตรลืมตาตื่นขึ้นมา ร้องเอะอะว่า “รูปพี่ทัด...รูปพี่ทัด...ข้างหลัง”

“ใช่แล้ว...หลังรูปพ่อนายในห้องทำงานคุณเทพที่ฉันเคยเล่าให้นายฟัง อาจจะมีความสำคัญกับลุงมิตร... ไม่ใช่เซฟของคุณเทพ” หญิงมานศรีตั้งข้อสังเกต อาการปวดหัวของลุงมิตรกำเริบขึ้นอีก ลงไปนอนร้องโอดโอย

“นาย...จะเอาตัวลุงซ่อนไว้รอให้ความจำค่อยๆฟื้นคืนมาทีละนิดๆแบบนี้หรือครับ ดูลุงเจ็บปวดและทรมานมากเลยนะครับ” วิวัฒน์อดสงสารลุงมิตรไม่ได้

“นั่นสิ...เชื่อใจหมอธีนะ พาลุงไปรักษาให้เป็นเรื่องเป็นราวเถอะ” หญิงมานศรีเห็นด้วยกับวิวัฒน์ ทิวสีหน้าครุ่นคิดคล้อยตาม

ooooooo

หลังจากคิดทบทวนมาอย่างหนัก ชายคำรณตัดสินใจขับรถมาที่ไร่ทัดเทพแต่เช้า เพื่อจะบอกหญิงมานศรีเรื่องข้อตกลงระหว่างหม่อมแม่กับเทพด้วยตัวเอง แต่พอเจอหน้าน้องสาวกลับพูดไม่ออก ได้แต่ตำหนิตัวเองว่าเป็นพี่ชายที่แย่มาก เธอกลับเห็นว่าเขาเป็นพี่ชายที่ทำให้เธอภูมิใจเสมอ เสียสละตัวเองเพื่อครอบครัว ทุ่มเทกับงานจนเธอรู้สึกว่าตัวเองแทบไม่ได้ทำอะไรเพื่อครอบครัวเลย ชายคำรณสงสารน้องจับใจ

“น้องหญิงต่างหากที่เสียสละมากกว่าใครทั้งหมด ...โดยที่น้องหญิงไม่รู้”

“พี่ชายหมายความว่ายังไงคะ”

“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ...น้องหญิง...ฟังพี่นะ พี่ยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวของเราคงไว้ซึ่งความเป็นกฤตยาที่แท้ จริง ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตพี่ก็ตาม... โดยเฉพาะ...หงส์แสนสวยและน่าทะนุถนอมของพี่คนนี้... น้องหญิงเกิดเป็นหงส์ที่สูงส่งด้วยสายเลือดและศักดิ์ศรี พี่จะไม่ยอมให้ใครดึงน้องหญิงของพี่ลงต่ำเด็ดขาด”

“ขอบคุณค่ะพี่ชาย...หญิงรักพี่ชายที่สุดเลย” สองพี่น้องกอดกันด้วยความรักและเข้าใจ แต่เธออดไม่สบายใจกับคำพูดแปลกๆของพี่ชายไม่ได้...

ทิวนัดแนะกับชายธีรพลเรียบร้อยแล้วว่าจะนำตัวลุงมิตรไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ เขากับพิไลพรจะรออยู่ที่ รพ.และจะจัดรถพยาบาลไปส่งให้ถึงที่ ถึงเวลานัด ทิวให้วิวัฒน์กับลุงมิตรแอบอยู่ท้ายกระบะรถของเขาปะปนไปกับสุ่มไก่ชนแล้วให้ เข้มเอากระสอบป่านสุมทับอีกชั้นหนึ่งอำพรางไว้ เขาขับรถยังไม่ทันจะถึงไหน

เจอล้วนกับสมุนตั้งด่านอยู่ ทิวจำเป็นต้องจอดรถ ลงไปเจรจากับล้วน อ้างว่าจะเอาไก่ไปชนในเมือง สมุนคนสนิทของเทพไม่ไว้ใจเดินไปดูที่ท้ายกระบะเห็นเข้มนั่งอยู่บนกระสอบป่าน มีสุ่มไก่วางอยู่เต็ม ลุงมิตรอึดอัดเริ่มดิ้น วิวัฒน์พยายามปิดปากแกไว้ไม่ให้ส่งเสียง ล้วนเห็นบางอย่างขยุกขยิกใต้กระสอบ หันมองหน้าทิว

“อะไรอยู่ข้างใต้กระสอบ....เฮ้ย...พวกเอ็ง...ค้นสิ”

สมุนของล้วนกรูเข้ามาที่ท้ายกระบะ ทิวและเข้มต่างลุ้นระทึกหายใจไม่ทั่วท้อง ทันใดนั้น ขวัญตาปรากฏตัวขึ้นท่าทางร้อนรนเดินแหวกเหล่าสมุนตรงไปหาทิว ขอร้องให้ช่วยพาไปหาหมอ เธอไม่ค่อยสบาย เขารีบฉวยโอกาสทันที เร่งให้เธอขึ้นรถ ล้วนไม่ยอมให้ไป ต้องตรวจค้นรถก่อน

“ไอ้ล้วน ไม่ได้ยินหรือว่าฉันไม่สบายต้องรีบไปหาหมอ หรืออยากเห็นฉันชักอยู่ตรงนี้....โอ๊ย” เธอเซไปซบทิว

ล้วนนึกว่าเป็นแผนการกระพือถ่านไฟเก่าที่ขวัญตากับเจ้านายใหญ่วางแผนร่วมกัน สั่งให้สมุนเอาที่กั้นถนนออก ทิวไม่รอช้ารีบขึ้นรถแล้วเร่งเครื่องออกทันที

“มารยาสาไถยได้เนียนจริงๆนะคุณขวัญตา” ล้วนพูดจารีบโทร.รายงานเทพว่าขวัญตาไปกับทิวเรียบร้อยแล้ว เขาพอใจมากที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน เหลือบเห็นกลิ่นท่าทางมีพิรุธกำลังจะออกจากคฤหาสน์รีบสั่งการ

“ล้วน...จัดการพานังกลิ่นกลับบ้านเก่าหน่อย ฉันไม่อยากให้มันเอาเรื่องในบ้านไปพูดกับใคร” เทพมองตามกลิ่นจนลับสายตา แล้ววางสายอย่างอารมณ์ดี หันกลับมาอีกทีต้องแปลกใจที่เห็นชายคำรณยืนอยู่

“อ้าว...คุณชาย...นี่กรุณาให้เกียรติมาหาผมถึงที่นี่เลยหรือครับ”

“ผมไม่ได้ให้เกียรติคุณ แต่ผมมีเรื่องจะเจรจากับคุณ” คำพูดของชายคำรณทำให้เขาไม่พอใจอย่างแรง

ooooooo

อ่านละคร เกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 10-11 วันที่ 19 มิ.ย. 55
ละครเรื่อง เกิดเป็นหงส์ บทประพันธ์ โดย : ชูวงศ์ ฉายะจินดา
ละครเรื่อง เกิดเป็นหงส์ บทโทรทัศน์ โดย : ลายน้ำ
ละครเรื่อง เกิดเป็นหงส์ กำกับการแสดง โดย : หนึ่ง ชัชวาล ศาสวัตกลูน
ละครเรื่อง เกิดเป็นหงส์ แนว : ดราม่า
ละครเรื่อง เกิดเป็นหงส์ ผลิตโดย : บริษัท พอดีคำ จำกัด
ละครเกิดเป็นหงส์ ออกอากาศทุกวันจันทร์ และอังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ
ละครเรื่อง เกิดเป็นหงส์ เริ่มออกอากาศตอนแรก วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ 2555
ที่มา ไทยรัฐ
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ