{[['']]}
อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 8 วันที่ 5 พ.ค. 55
นิติภูมิหยิบล็อกเกตรูปแม่มาเปิด บอกแม่ว่า “แม่จะต้องได้เห็นความย่อยยับของมันครับ”
oooooooนิติภูมิหยิบล็อกเกตรูปแม่มาเปิด บอกแม่ว่า “แม่จะต้องได้เห็นความย่อยยับของมันครับ”
วัณณรีเรียนจบแล้ว มาลตีเร่งให้รีบหางานทำ แต่เธอยังอยากเที่ยวส่งท้ายให้สนุกก่อน บอกแม่ว่าตนนัดคำรพไว้แล้ว
“ฉันไม่ให้แกไป!!” เสียงแววดังขึ้นพร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางเข้ามา
แววได้รับอนุญาตให้กลับมาพักผ่อน อยากให้กลับไปทำงานเมื่อไรจะโทร.มาบอก แววกลับมาโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า
ขณะนั้นเอง คำรพส่งเสียงร่าเริงเข้ามาถามว่า ใครอยากไปช็อปปิ้ง โชเฟอร์มาแล้ว แววลุกขึ้นหันไปเผชิญหน้าทักทาย พอคำรพเห็นแววเท่านั้นก็ทำตาเยิ้ม พุ่งเข้ามาบอกว่า ขอกอดให้ชื่นใจให้สมกับที่หายหน้าหายตาไปตั้งนาน ถูกมาลตีพรวดเข้าแทรกกลาง คำรพชะงักอ้อนมาลตีให้สงสารตนเถอะ อย่าขวางกั้นความรักของเราสองคนเลย
มาลตีบอกคำรพว่า วันนี้ตนกับวัณณรีไปช็อปปิ้งกับเขาไม่ได้ แล้วบอกโรสให้ส่งแขก พอโรสลากคำรพออกไป สามแม่ลูกก็มองหน้ากันด้วยแววตาอ่อนโยนอย่างเข้าใจกัน
“แววว่าแม่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ” แววชื่นชมมาลตีบอกว่า ตนยังเป็นแม่ที่เป็นยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น วัณณรีมองแววเอ่ยขึ้นว่า แม่ไม่เปลี่ยนแต่แววเปลี่ยนไป พอแววทำหน้างง วัณณรีแจกแจงว่า
“อย่างน้อย พี่ก็ยอมลดลาวาศอกให้แม่บ้าง ไม่ได้อยากเอาชนะคะคานเหมือนแต่ก่อน เป็นอย่างนี้ไปตลอดเลยนะ เราจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน”
สามแม่ลูกกอดกันด้วยความรัก มาลตีเสนอให้ทำหมูกระทะกินกันไหม เพราะนานๆจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอย่างนี้สักที แววเห็นด้วยชวนขึ้นตุ๊กๆไปตลาดด้วยกันเลย
“แท็กซี่ได้ไหมล่ะ เดี๋ยววัณผิวเสีย” วัณณรียังอดห่วงสวยไม่ได้ แววกับมาลตีมองอย่างหมั่นไส้ แต่ก็ด้วยความเข้าใจ แล้วหัวเราะกันอย่างมีความสุข...
ooooooo
หลังจากคืนนั้นที่เอกรินทร์ดื่มจนเมาแล้ว ชล-ธิชากับเริงใจก็ไม่เจอเอกรินทร์อีกเลย ครั้นไปถามที่ออฟฟิศ พนักงานบอกแต่ว่าเอกรินทร์ลาพักร้อนแต่ไปพักร้อนที่ไหนไม่รู้ เริงใจเปรยๆกับชลธิชาว่ารู้สึกเขาหลบ หน้ายังไงไม่รู้ พนักงานหูไวได้ยิน พยักหน้าหงึกบอกว่า
“ค่ะ...หนูว่าเขาอยากหลบหน้าคุณแป้งร่ำน่ะค่ะ พี่เขาเล่นมาตื๊อถึงออฟฟิศเลยนะคะ ทำอย่างกับเป็นแฟนกันงั้นแหละ”
พอได้ยินชื่อแป้งร่ำ ชลธิชากับเริงใจก็ฉุกคิดได้ว่า ต้องเป็นแม่นี่แน่ๆที่ทำให้เอกรินทร์หายเงียบไป
คืนนี้ แววมาหาเพื่อนรักที่ร้านกาแฟ ทั้งสามชนแก้วน้ำแดงกันแต่ท่าทางเริงใจเหมือนเมาเหล้า จนเพื่อนแซวว่าคออ่อนขนาดเห็นโถใส่เหล้าก็เมาแล้ว
แววเล่าถึงการทำงานของตัวเองว่า เหมือนมีเจ้านายที่ไม่ใช่สยุมภูว์ เริงใจบอกว่าจะเป็นใครก็ช่าง ถึงเวลาเขาจ่ายเงินเดือนให้ครบมันก็จบ ชลธิชาเห็นด้วย แซวเพื่อนว่าไปจับผิดเขาอย่างกับจับผิดแฟนงั้นแหละ เขาจะเป็นตัวจริงหรือตัวปลอมก็เจ้านายตัวเองอยู่ดี ไม่เห็นจะต้องสนใจเลย หลังจากต่างเล่าถึงเรื่องค้างคาใจให้ฟังกันแล้ว ชลธิชารำพึงว่า
“เธอตามคุณสยุมภูว์ แต่เราสองคนตามคุณเอก เฮ้อ...นี่มันชีวิตเศร้าของสาวโสดตามหารักเลยนะเนี่ย”
แล้วสามสาวก็ยกแก้วนํ้าแดงขึ้นชนกันเซ็งๆ “หมดแก้ว!!!”
ooooooo
ให้แววกลับมารอคำสั่งที่บ้านแล้ว จักรมาฉีดนํ้าข้ามรั้วรดต้นไม้ให้บ้านแวว พอเจอแววก็ทำไก๋ถามว่ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นบอกตนเลย
ณ นาทีนี้ ทั้งจักรและแววต่างมองอีกฝ่ายอย่างระแวงระวัง แต่จักรเป็นฝ่ายคุมเกมจึงยังดูสบายๆ ส่วนแววนับวันยิ่งระแวงมากขึ้น จักรบอกเพิ่มพงษ์ว่า ณ วันนี้ นอกจากนิติภูมิแล้ว เราอาจต้องเตรียมรับมือกับแววด้วย
“มั่นใจเถอะครับคุณสยุมภูว์ สองคนนี้ไม่มีทางจะร่วมมือกันถล่มเราได้หรอก” เพิ่มพงษ์มั่นใจมาก
“ไม่ได้ร่วมมือกัน แต่มีจุดประสงค์ร่วมกัน”
“คือการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของคุณสยุมภูว์
ใช่ไหมครับ” เพิ่มพงษ์สีหน้าหนักใจขึ้นมา
แล้ววันนี้แววก็มีหลักฐานที่ทำให้มั่นใจมากขึ้นว่าจักรคือสยุมภูว์ เมื่อเธอได้รับจดหมายจากหลินและตงตงที่เขียนมาด้วยความคิดถึง ทั้งยังส่งรูปใบหนึ่งมาให้ด้วย หลังภาพเขียนว่า “คุณสยุมภูว์กลับมาเยี่ยมไร่” เป็นรูปชายคนหนึ่งยืนที่ระเบียงบ้านพักของแววกำลังโบกมือให้กล้องเหมือนทักทาย
เป็นจังหวะที่จักรกับเพิ่มพงษ์กำลังจะออกไปทำงานพอดี แววมองเขาอย่างสังเกต จักรหันมาโบกมือให้ แววสะอึกอึ้ง เมื่อเห็นจักรที่กำลังโบกมือให้ตรงหน้าเหมือนกับสยุมภูว์ในภาพไม่มีผิด!
ไม่ทันที่แววจะคิดอะไรต่อ นิติภูมิก็โทร.เข้ามือถือเธอ นิติภูมิเดินเกมของตนต่อ เขานัดพบแววในแกลเลอรี่ที่กำลังแสดงภาพในหัวข้อ “หน้ากาก” เป็นนัยถึงสิ่งที่เขากำลังต้องการให้แววรู้
แววประหลาดใจมากเมื่อนิติภูมิบอกเธอว่า คนที่เราเข้าใจว่าเป็นสยุมภูว์ที่เชียงใหม่นั้นที่แท้คือนำพล ผู้จัดการไร่ เขายํ้ากับแววว่าเราสองคนถูกหลอก ทำเป็นตั้งข้อสังเกตว่า “ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้านายเราต้องการเล่นสนุกอะไรอยู่”
หลังจากเป่าหูแววจนคล้อยตาม อยากรู้ว่าทำไมสยุมภว์ต้องทำตัวลึกลับ ต้องมีตัวปลอมมาตบตาคนอื่นแล้วนิติภูมิก็ถามว่า
“คุณแววไม่อยากรู้หรือครับว่าใครคือเจ้านายตัวจริงของเรา” เห็นแววยิ้มแทนคำตอบ เขารวบรัดว่า “งั้นผมจะถือว่าเรามีเป้าหมายเดียวกันนะครับ”
“ค่ะ...คุณนิติภูมิ” แววตอบรับอย่างอยากรู้ความจริง ผิดกับนิติภูมิที่อยากรู้เพราะต้องการฆ่า!
ooooooo
เอกรินทร์กลับมาแล้ว กลับมาพร้อมกับข้อเท็จจริง และพยานที่จะมาแฉแผนการของไลลากับแป้งรํ่าฉีก หน้าทั้งสองที่วางแผนมัดมือชกตน
เอกรินทร์แฉไลลาว่า คนขับรถที่ร้านอาหารเป็น พยานให้ได้ว่าเธอกับแป้งรํ่าช่วยกันลากตนกลับเข้าห้องพัก ซํ้ายังเป็นคนฝากกุญแจมอเตอร์ไซค์ของตนกับคนขับรถคนนั้นด้วย
เมื่อมีพยานหลักฐานมายืนยันจนไลลาต้องยอมรับแล้ว เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา นิ่งคิดพึมพำอย่างเจ็บใจ... หนักใจว่า
“จะบอกยัยแป้งยังไงล่ะเนี่ย...”
เป็นเวลาเดียวกับที่แป้งรํ่าไปโวยวายกับชลธิชาและเริงใจที่ร้านกาแฟ ถามว่าสองคนรู้ใช่ไหมว่าเอกรินทร์ อยู่ที่ไหน ถูกชลธิชากับเริงใจกวนประสาทแล้วย้อนถามว่า ไลลาน่าจะรู้ดีกว่าคนอื่นไม่ใช่หรือว่าเอกรินทร์อยู่ไหน แป้งรํ่าพยายามแสดงตัวว่าตนเป็นมากกว่า เพื่อนของเอกรินทร์ เริงใจไม่เชื่อ ยืนยันว่าของแบบนี้ต้องถามเอกรินทร์เอง
“งั้นก็เตรียมใจไว้ได้เลย เพราะคำตอบของคุณเอกอาจจะทำให้คุณสองคนสะเทือนใจจนถึงขั้นรับไม่ได้ เลยล่ะ” แป้งรํ่ายิ้มเยาะ พอดีมีคนโทร.เข้ามือถือ เธอรับสาย อย่างตื่นเต้น “ไลลา...ว่าไงจ๊ะ อะไรนะ...คุณเอกกลับมาแล้ว...” วางสายจากไลลาแล้ว แป้งร่ำปรายตาใส่สองสาว พูดเยาะ “ขอตัวก่อนนะคะ แฟนแป้งกลับมาแล้ว ว่าง เมื่อไหร่แป้งจะให้คุณเอกมายืนยันเรื่องนี้กับคุณสองคนด้วยตัวเองเลยค่ะ” พูดแล้วเดินระริกระรี้ออกไป
“ถ้ามันเป็นจริงอย่างที่คุณแป้งว่า...” ชลธิชาพูดไม่ออก
“เราก็ต้องปลอบใจกันเองน่ะสิ” เริงใจพูดอย่างทำใจไม่ได้ แล้วสองสาวก็มองหน้าแบบคนหัวอกเดียวกัน...
ooooooo
สยุมภูว์ยังคงใช้ห้องทำงานลับที่ร้านขายต้นไม้ เป็นที่ติดต่องาน วันนี้เขาโทร.คุยกับนิติธรที่ได้รับ มอบหมายให้รับผิดชอบดูแลการมาเยี่ยมของมิสเตอร์เหลียง นิติธรบอกว่ามิสเตอร์เหลียงนัดพบเขาในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้านี้ วันเวลาแน่นอน เลขาของมิสเตอร์เหลียงจะคอนเฟิร์มอีกที
นิติธรรายงานอีกว่า เท่าที่ตนสืบข่าวจากเพื่อนฝูง มิสเตอร์เหลียงต้องการมาลงทุนเรื่องการเกษตรในภูมิภาคนี้ เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว คงไม่ไว้ใจที่อื่นเท่าทศพลกรุ๊ป นิติธรพูดตบท้ายอย่างยินดีว่า
“ถ้าเป็นอย่างนั้น นี่ก็คงเป็นข่าวดีที่สุดนับตั้งแต่คุณสยุมภูว์กลับมาเลยล่ะครับ”
วางสายจากสยุมภูว์แล้ว นิติธรหันมองนิติภูมิที่นั่งดื่มกาแฟฟังอยู่ด้วย นิติภูมิถามว่า “พ่อมีอะไรจะคุยกับ ผมไหม” พอนิติธรบอกว่าก็อยากจะชวนกินข้าวเย็นด้วยกัน นิติภูมิผิดหวัง เขาปฏิเสธอ้างว่าเย็นนี้ตนมีนัดแล้วครั้นนิติธรถามว่ามีงานอะไร เขาตอบอย่างยโสว่า
“จะงานอะไรล่ะพ่อ ผมทำงานให้คุณสยุมภูว์ก็ต้องงานของคุณสยุมภูว์สิครับ” พูดแล้วออกจากห้องไปเลย นิติธรมองตามอย่างสงสัยว่าลูกชายไปงานอะไร?
ที่แท้นิติภูมินัดพบกับศักดา เขาถามอาการบาดเจ็บเมื่อศักดาบอกว่าดีขึ้นมากแล้ว นิติภูมิมอบหมายงานใหม่ให้พร้อมกับซองเอกสารที่มีรูปมิสเตอร์เหลียง อธิบายว่า
“มิสเตอร์เหลียงเป็นเพื่อนไอ้สีหราชจะมาตกลงเรื่องธุรกิจกับทศพลกรุ๊ปที่กรุงเทพฯ แกคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับทศพลกรุ๊ป ถ้ามันเป็นอะไรไประหว่างการมาเจรจาธุรกิจพันล้านกับไอ้สยุมภูว์...โดยที่ทุกคนต้องเข้าใจว่าเป็นฝีมือของมันเอง”
นิติภูมิกับถึงคฤหาสน์ทศพลตอนกลางคืน นิติธร ถามอย่างสงสัยว่างานคงเยอะจริงๆ ถึงได้กลับดึกกว่าตนอีก ถูกย้อนถามว่า พ่ออยากรู้จริงๆ หรือต้องการจับผิดตน นิติธรบอกว่าเป็นห่วงเห็นทำงานหนักเกินไป
นิติภูมิขอบคุณประชดกลายๆ เมื่อพ่อบอกให้ไป พักผ่อนเสีย เขาเดินเลี่ยงไป ในขณะที่นิติธรมองตามพึมพำ...
“แกไปทำอะไรให้คุณสยุมภูว์เขาไม่ไว้ใจแกรึเปล่านะ...ไอ้ภูมิ...”
ooooooo
แป้งร่ำไปหาไลลาที่ห้องพัก โกรธเพื่อนที่ยอมรับสารภาพกับเอกรินทร์ง่ายๆ ไลลาปลอบเพื่อนว่าอย่าคิดมากเลย ผู้ชายดีๆมีอีกตั้งเยอะ แป้งร่ำย้อนถามอย่างรับไม่ได้ว่า คิดว่าแทนกันได้หรือ ท้าว่างั้นเธอเลิกจีบคนสวนนั่นได้ไหม แล้วหาผู้ชายดีๆ คนอื่นแทน
ไลลาไม่ตอบ ได้แต่มองอย่างเหนื่อยใจแทนเพื่อน
ส่วนเอกรินทร์ เมื่อจับเท็จไลลากับแป้งร่ำได้แล้ว เขาไปที่ร้านกาแฟ เจอแววนั่งอยู่ก่อนแล้ว เธอฟังชลธิชากับเริงใจเล่าเรื่องแป้งร่ำให้ฟังแล้ว เห็นเอกรินทร์เดินมาอย่างเร่งรีบ ก็โบ้ยให้เพื่อนทั้งสองเคลียร์กับเจ้าตัวเสียให้รู้เรื่อง
“เราสามคนต้องการคำอธิบาย...เอก” แววพูดขึ้นก่อน
“ผมขอน้ำสักแก้วได้ไหมครับ เรื่องนี้เราต้องคุยกันยาว” เอกรินทร์เอ่ยแล้วถอนใจยาว
พอได้น้ำแล้วเอกรินทร์เริ่มเล่าด้วยสีหน้าทั้งเครียด ทั้งรู้สึกตัวเองผิด ส่วนสามสาวก็จ้องเขม็งอย่างอยากรู้ ความจริง
ฟังเอกรินทร์แล้ว ชลธิชาตำหนิตัวเองที่คืนนั้นทิ้งเขาไว้คนเดียว ส่วนเอกรินทร์ก็ยอมรับว่าตัวเองผิดที่ไม่รู้จักประมาณตนถึงได้ดื่มหนักขนาดนั้น พอถูกเริงใจถามว่าดื่มหนักเพราะอะไร เขาตอบคำเดิมว่าเครื่องมันติด ไม่มีเหตุผลอื่น
เมื่อพาแววมาส่งที่บ้าน เอกรินทร์ถามแววว่าจำได้ไหมที่คืนนั้นตนบอกว่าจะรอเธอ แววยืนยันว่าคำตอบของตนเหมือนเดิมคือ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเถอะเอกรินทร์บอกเศร้าๆว่าตนยังจะรอ แววเลยตัดปัญหาทั้งที่ไม่สบายใจว่า
“แต่แววมีคนอื่นแล้ว ตัดใจเสียเถอะเอก เลิกทำให้แววอึดอัดเสียที” เอกรินทร์ถามเหมือนใจจะขาดว่าแววไม่ได้โกหกใช่ไหม เธอกลั้นใจส่ายหน้า เอกรินทร์ยิ้มเศร้าๆ แล้วขี่รถออกไป แววมองตามพึมพำอย่างสะเทือนใจ
“แววขอโทษนะเอก...”
ooooooo
พอแววเข้าบ้าน ก็ได้รับการติดต่อจากสยุมภูว์ทางไอแพด พอเห็นหน้ากันทางจอ เขาถามทันทีว่า รู้แล้วสินะว่าการทำงานใกล้กับเขานั้นอันตรายแค่ไหน แววถามว่าเขาถูกตามล้างแค้นใช่ไหม
“มันไม่ใช่เรื่องการล้างแค้น ผมแน่ใจว่าไม่เคยทำให้ใครเจ็บช้ำน้ำใจขนาดนั้น แล้วผมก็ไม่รู้ใจคนที่มันไล่ฆ่าผมเสียด้วยสิ”
สยุมภูว์เลียบเคียงถามแววว่าเรื่องที่ไร่เธอโกรธและเกลียดตนที่ทำให้เธอเจ็บตัวหรือเปล่า
“ไม่โกรธและไม่เกลียดค่ะ เพราะคุณเองก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้”
“แต่ผมเสียใจที่ทำให้คุณตกอยู่ในอันตราย แล้วก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง เอาเป็นว่าต่อไปนี้คุณกับผมติดต่อกันผ่านระบบนี้เท่านั้น เราจะได้ปลอดภัยกันทั้งสองฝ่าย....ถ้าคุณยังพร้อมที่จะทำงานกับทศพลกรุ๊ปนะ”
“แววพร้อมสำหรับที่นี่ค่ะคุณสยุมภูว์”
“จากวันนี้ งานของคุณจะอยู่ที่ออฟฟิศของทศพลกรุ๊ป คุณนิติธรจะนัดคุยกับคุณเร็วๆนี้ เรามีโปรเจกต์ใหม่ที่ต้องลุยไปด้วยกัน แล้วคงได้เจอกันอีก...ที่นี่นะ คุณมีอะไรจะถามอีกรึเปล่า”
“ไม่มีค่ะ...คุณสยุมภูว์” พอหน้าจอดับ แววพูดกับหน้าจอราวกับเห็นเขาอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยว่า “คุณไม่ให้ใครปลอมเป็นคุณ แล้วคุณจะปลอมตัวเป็นคนอื่นหรือเปล่าคะ...คุณสยุมภูว์??”
ooooooo
อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 8 วันที่ 5 พ.ค. 55
ละคร แววมยุรา บทประพันธ์โดย : พนมเทียน
ละคร แววมยุรา บทโทรทัศน์ : ทองเอก และ วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ละคร แววมยุรา กำกับการแสดง : ชานนท์ สัมฤทธิ์
ละคร แววมยุรา แนวละคร : โรแมนติก
ละคร แววมยุรา ผลิต : บริษัท เวฟมีเดีย เวิลด์ จำกัด โดย ตู่-ปิยวดี มาลีนนท์
ละคร แววมยุรา ออกอากาศทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.30 น.ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ
No comments:
Post a Comment