อ่านละคร แก้วกลางดง ตอนที่ 7/3 วันที่ 5 พ.ค. 55

{[['']]}
อ่านละคร แก้วกลางดง ตอนที่ 7/3 วันที่ 5 พ.ค. 55
บัวคลี่สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงร้อง...
“เสียงอะไร คุณพี่ได้ยินมั้ยค่ะ”
ทนงโผล่ออกมาผ้าห่ม
“ไม่มีอะไรหรอกคุณ ดึกป่านนี้แล้ว คุณคงหูแว่วมากกว่า อย่าสนใจเลยต่อเถอะกำลังได้ที่เลย นะ”
ทนงอ้อนเต็มที่ บัวคลี่พยักหน้ายิ้มให้อย่างเขินๆ
“เอ๊า” ทะนงยื่นไม้ปั่นหูให้
บัวคลี่รับมาปั่นหูให้ทนงต่อ ทนงคิกๆคักๆ อย่างจั๊กกะจี้
ที่สนาม...กิ่งไม้ที่ตกลงมาอยู่กับพื้นทับเมียวดีกับทรงเผ่าอยู่ ในลักษณะ เมียวดีอยู่ข้างล่างทรงเผ่านอนทับคร่อมอยู่บนตัวเธอ

“โหย พูดอะไรไม่เคยฟังเลยนายเนี่ย ดื้อเหมือนเดิมไม่มีผิด!”
“ใครจะไปรู้ล่ะ ว่ามันจะเปราะแบบนี้ โอ๊ย ไม่รู้ซี่โครงจะหักอีกรอบหรือเปล่า”
“หักอีกก็ต่ออีกจะไปยากอะไร แต่ตอนนี้ลุกขึ้นก่อนได้มั้ย ก่อนที่ซี่โครงเราจะหักบ้างเพราะนายทับเราอยู่”
ทรงเผ่าเพิ่งรู้สึกตัว ว่าหน้าใกล้กันแบบแทบประกบกัน สองคนมองหน้ากันนิ่ง ก่อนที่เมียวดีจะเรียกสติทรงเผ่ากลับมา
“นาย! ค้างอยู่ทำไม ขยับออกไปซิ หรือจะนอนตากน้ำค้างที่นี่กันทั้งคืน”
“รู้แล้ว” ทรงเผ่าฟอร์ม “ฉันกำลังคิดวางแผนดูลู่ทางอยู่”
เมียวดีงง!
“แค่คลานออกไป ไม่เห็นต้องคิดอะไรเลย”
ทรงเผ่าฮึดฮัดประมาณเธอไม่รู้อะไรหรอก แล้วก็พยายามขยับ เมียวดีก็ขยับด้วย เลยปรากฏหว่าหน้าผากโขกกันพอดี
“โอ๊ย”
เมียวดียิ่งโมโห
“โธ่นาย นายไปอีกทางซิมาทางเดียวกันทำไม”
“รู้แล้ว” ทรงเผ่าอดบ่นไมได้ “ไม่มีใครในบ้าน คิดจะมาช่วยบ้างหรือไง”
“อย่าบ่นหน่อยเลยน่า ตอนอยู่ในป่าหนักกว่านี้อีกยังรอดมาได้ ตกต้นไม้แค่นี้ไม่ตายหรอก เอาล่ะ เดี๋ยวเรานับ 1 2 3 แล้วนายรีบดันตัวออกนะ”


เมียวดีช่วยเอามือดันกิ่งไม้ เพื่อนให้ทรงเผ่าโก่งตัว ออกได้ เริ่มนับ
“1”
วงศ์ ฟ้าลั่น เชอรี่วิ่งมาเพราะได้ยินเสียง ฟ้าลั่นพอมาเห็นก็ยืนหัวเราะขำ
“ตายแล้ว คุณเผ่า คุณเหมียว” วงศ์ร้องอย่างตกใจ
สองคนชะงัก เงยขึ้นไปมอง ฟ้าลั่นเสียงดัง
“ฮะๆ ๆ นั้นนายคิดจะปล้ำอีเมียวเหรอนาย”
เชอรี่ตกปากฟ้าลั่นทันทีอยากแรง
“นี่แนะ”
“น้องเชอรี่ ตบพี่ฟ้าทำไม”
เชอรี่รีบแก้ตัว
“ฉันตบแทนคุณแม่บ้านนะ พี่พูดจาไม่รู้จักคิด คุณเผ่าจะปล้ำคุณเหมียวทำไม” เชอรี่หันไปพูดกับวงศ์ “ใช่มั้ยค่ะ คุณแม่บ้าน”
“เอาล่ะ พอได้แล้ว ไปช่วยยกกิ่งไม้เร็ว ทั้งสองคนนั้นแหละ”
เชอรี่กับฟ้าลั่นเข้าไปเข้าไปช่วย ขณะที่เมียวดีตะโกนด่าฟ้าลั่นไปด้วย
“เร็วๆซิว่ะ ไอ้หมาลั่น ไอ้ปากเน่า”

วงศ์ช่วยประคองทรงเผ่ามานั่งบนเตียงในห้องนอน
“น่าตีจริงๆเลย โตป่านนี้แล้ว ยังไปปีนต้นไม้เล่นอีก”
“อ้าว เป็นอันว่าผมโดนดุ แล้วยายกระแตป่าละครับ”
“ก็คุณเหมียวนะ แกทโมนอยู่แล้ว แต่คุณเผ่านะแทนที่จะห้าม กลับขึ้นไปด้วยเสียนี่ ตัวเองก็ยังไม่หายดีเลย ดีนะที่เป็นอะไร”
“โอ้โห้มาเป็นชุด แสดงว่าตอนนี้เมียวดี ขึ้นแท่นเป็นคนโปรดแทนผมแล้วใช่มั้ยครับ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ แต่คุณเหมียวเธอพลัดที่พลัดบ้านมา น่าสงสารแกออก”
“ฮะๆๆๆ สมควรแล้ว ที่คุณพ่อยกให้ป้าวงศ์เป็นพระพี่เลี้ยงเมียวดี”
“ตายจริง คุณท่านเนี่ย...ดิฉันก็ดูแล ตามคำสั่งของคุณท่าน กับคุณบัวคลี่นั้นแหละค่ะ ก็ช่วยกันดู ช่วยกันสอนกันไป ป้าถามจริงเถอะค่ะ คุณเผ่าคิดจะเลี้ยงดูคุณเหมียวไปถึงเมื่อไหร่ค่ะป้าหมายถึง จนกว่าแกจะแต่งงานออกเรือน หรือว่า จนกว่า แกจะช่วยเหลือตัวเองได้”
“ก็...แล้วแต่แกมั่งครับ ผมยังไม่ได้คิดไกลไปขนาดนั้น”
“การที่เราพาคนๆหนึ่งออกมาจากชีวิตเดิมๆของเค้า เปลี่ยนชีวิตเค้าใหม่ เราก็ต้องรับผิดชอบชีวิตเค้าไปทั้งชีวิตนะคะ จะมาทิ้งขว้างกลางทางกันคงไม่ได้ ชีวิตคนนะคะ ไม่ใช่สิ่งของ”
“นี่ป้าวงศ์ ไม่เชื่อใจผมเหรอครับ”
“นิสัยคุณเผ่าเป็นไงป้ารู้ดีค่ะ แต่คนอื่นป้าไม่รู้”
“ป้าหมายถึงใครงั้นเหรอครับ”
“ไม่มีหรอกค่ะ แต่ป้าแค่พูดเผื่อเอาไว้ ก็อนาคตมันไม่มีอะไรแน่นอนไม่ใช่เหรอคะ เอาละค่ะ แน่ใจนะคะ ว่าไม่อยากไปเช็คที่โรงพยาบาลอีกรอบ”
ทรงเผ่าส่ายหน้า ยิ้มให้
“ไม่ต้องครับ ผมโอเคทุกอย่าง”
“งั้น ไม่มีอะไรแล้วป้าไปนอนก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวครับ อันนี้ลืมไม่ได้”
ทรงเผ่าหอมแก้ม วงศ์หัวเราะชอบใจก่อนออกไป ทรงเผ่าเหวี่ยงแขนดู แล้วก็รู้สึกเคล็ดนิดหน่อย หยิบยามาทาแล้วก็ชะงักเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่จ้องตาเมียวดี ตอนกิ่งไม้หล่นทับ
“เพิ่งรู้นะว่ายายเด็กนั้นตาสวยเหมือนกัน”
ทรงเผ่ารีบเตือนสติตัวเอง
“เผลอคิดเรื่องอะไรไปเนี่ยเรา”
ทรงเผ่ารีบตั้งใจทายาต่อเหมือนไม่ยอมรับว่าตัวเองแอบหวั่นไหว

อัญชิสาล้วงคอตัวเองอยู่ในห้องน้ำ รำพาเดินผ่านมาได้ยินเสียง ตาโตรีบเข้ามาดู
“คุณลูกหวานขา โอ้ว นี่ นี่ลูกท้องเหรอคะ กับใครบอกแม่มา”
อัญชิสารีบกดชักโครก
“หนูไม่ได้ท้องค่ะ” อัญชิสาลุกขึ้นไปล้างปาก
“อย่า อย่าปฎิเสธเลย ก็เห็นอยู่ตำตา” รำพาดีใจขึ้นมาทันที “นี่ก็แปลว่า ลูกจะได้แต่งงานแล้วใช่มั้ย แม่ดีใจจนพูดไม่ถูกเลย เป็นคุณทรงเผ่า หรือใครจ๊ะ แม่รับได้หมด แต่ขอให้รวยเท่านั้น”
อัญชิสาเดินออกมาข้างนอก รำพาเดินตาม
“คุณแม่ขา ช่วยตั้งสติก่อนได้มั้ยคะ หนูไม่ได้ท้องนะคะ เพียงแต่ไปบ้านคุณเผ่ามา กินเข้าไปเยอะไปหน่อยเท่านั้นเอง เลยต้องมาเอาออก”
“หนูทำแบบนี้อีกแล้วเหรอ แม่ว่า หนูควรไปหาหมอนะ กินแล้วมาล้วงคอแบบนี้มันไม่ดีนะจ๊ะ”
“ขืนไปหาหมอได้เป็นข่าวกันพอดี แบบนี้ใครจะจ้างหนูอีก หนูเพิ่งรับงานเปิดตัวอาหารสุขภาพไปนะคะ หนูรู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่”
“ถูกจ๊ะ นักข่าวนะมันชอบสอดรู้สอดเห็นเหลือเกิน ลูกทำถูกแล้ว ต้องออกงานสังคมวันล่ะ 4 - 5 งาน เดี๋ยวเบรค เดี๋ยวดินเนอร์ กินกันทั้งวัน ใครจะมีเวลาออกกำลังกาย รักษาหุ่นให้เป๊ะอยู่ได้ล่ะ ถ้าไม่ทำแบบนี้”
“ใช่ค่ะ หนูละหมั่นไส้เหลือเกิน ยายเด็กชาวป่าที่คุณเผ่าเอามาเลี้ยง มันกินข้าวทีละเป็นกาละมัง มันบอกไม่กลัวอ้วนซักนิด ผู้หญิงที่ไหนก็กลัวอ้วนกันทั้งนั้นแหละ ทำเป็นปากดี เชอะ”
“แต่ว่า อาจจะจริงก็ได้นะคะลูก ก็มันอยู่ในป่าในเขา เดินขึ้นเขาลงเขาเป็นลูกๆ แบบนั้น กินเท่าไหร่มันก็เผาผลาญหมด ได้ข่าวว่าเป็นพรานด้วยใช่มั้ยเหรอ”
อัญชิสาปี๊ดทันที
“คุณแม่ นี่คุณแม่เข้าข้างใครคะ”
รำพานึกขึ้นได้ รีบเปลี่ยน
“ต๊าย มันคงโกหกให้ดูดีไปงั้นแหละ แหมกินเหมือนยัดทะนานขนาดนั้น ไปตายอดตายอยากมาจากไหนกันยะ”
อัญชิสาค่อยพอใจหน่อย
“ลูกหวานจ๋า”
รำพากระแอมนิดหน่อย
“หนูพอมีเงินติดกระเป๋า ซัก 5-6 หมื่นมั้ย พอดีพรุ่งนี้แม่นัดเพื่อนๆไว้ จะแวะไปแบงค์ก็กลัวไม่ทัน”
“เมื่อวันก่อนคุณแม่ก็พูดแบบนี้ แล้วหนูก็เพิ่งให้ไป หมู่นี้แม่เล่นหนักไปมั้ยคะ”
“โอ๊ย ไม่ได้หนักอะไร เล่นกันขำๆในหมู่เพื่อนฝูงๆกัน ทั้งนั้น”
รำพาหลบสายตานิดหน่อย เหลือบมองลูกสาว เห็นเงียบจะไม่ให้ รำพารีบเปลี่ยนท่าที
“นี่หนูจะให้แม่โทรไปบอกเค้าเหรอ ว่าพรุ่งนี้แม่ไปไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน คนอย่างคุณหญิงรำพานี่นะ ช็อตเงิน! ไม่อยากเชื่อ แล้วต่อจากนี้หน้าตาของเราสองแม่ลูกในวงสังคมจะเป็นยังไง ก็คงหมดกัน”
รำพาฟูมฟายเต็มที่ อัญชิสาถอดหายใจ ต้องยอม
“หนูไม่มีเงินสดหรอกนะคะ เป็นเช็ดได้มั้ย”
“โอ้...ได้จ๊ะ ดาลิ่ง”
อัญชิสาเซ็นเช็คให้แม่อย่างเซ็งๆ รำพาได้เช็คมาก็เข้ามาหอมลูกสาวซ้ายขวาฟอดใหญ่

เช้าวันใหม่...อัญชิสาลงมากินอาหารเช้า นิดเอาน้ำส้มมาเสิร์ฟ
“คุณแม่ล่ะ”
“ออกไป ตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ สั่งให้เรียนคุณหวานว่าเย็นนี้คงกลับดึก”
อัญชิสาเซ็ง
“อีกแล้วเหรอ”
นิดอึกๆอักๆ อยากจะพูดแต่ก็ไม่กล้า อัญชิสาดุใส่
“มีอะไร”
“เงินเดือนหนูยังไม่ออกเลยค่ะ เลยมาจะครึ่งเดือนแล้ว หนูต้องส่งให้ที่บ้านต่างจังหวัด”
“แต่หน้าที่จ่ายเงินเดือนเธอ เป็นของคุณแม่นะ เธอก็ไปทวงกับเค้าซิ จะมาทวงอะไรกับฉัน”
“หนูบอกคุณหญิงแล้วค่ะ คุณหญิงบอกว่าลืม ให้คุณหวานจ่ายให้ก่อน”
อัญชิสาโมโห แต่พยายามสงบติอารมณ์
“อะไรกันเนี่ย เล่นแบบนี้เลยเหรอ”
“ริบค่ากับข้าวประจำอาทิตย์ ยังมีเลยค่ะ คุณหญิงบอกว่าไม่มีใครกลับมาทานข้าวที่บ้าน คุณหวานก็ไปงาน คุณหญิง ก็กินอยู่ที่วงไพ่ เลยขอริบค่ากับข้าวประจำอาทิตย์นั้นไป”
อัญชิสาทั้งโกรธทั้งอาย ยกมือห้าม
“พอแล้ว...เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจะเอาเงินให้ แล้วก็รูดซิบปากให้สนิทนะ อย่าเอาเรื่องในบ้านนี้ ไม่เมาท์กับคนข้างนอกเด็ดขาด”
“ค่ะ”
นิดออกไป เสียงโทรศัพท์ดัง อัญชิสาหงุดหงิด
“โทรกันมาทำไมตั้งแต่เช้าเนี่ย”
แต่พอหยิบมาดู เห็นชื่อสาทิศโทรเข้า อัญชิสาปรับอารมณ์นิดหนึ่ง ก่อนจะรับสาย เสียงหวาน
“มอร์นิ่งค่ะ คุณสาทิศ”

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ...ทรงเผ่าเปิดประตูออกมากับตำรวจ หลังจากที่คุยกันเรียบร้อยแล้ว
“ขอบคุณนะครับที่อุตส่าห์แวะมาให้ปากคำกับเราเพิ่มเติม บางทีอาจจะต้องรบกวนคุณทรงเผ่าอีก”
“ถ้าเป็นประโยชน์กับทางราชการ ผมยินดีครับท่าน เอ๊ะ ทางตำรวจจะตามเรื่องนี้ต่อเหรอครับ ผมคิดว่าเรื่องจบตั้งแต่เราทลายโรงงานได้แล้ว” ทรงเผ่าย้อนถามอย่างแปลกใจ
“ ผู้ใหญ่สั่งให้ติดตามเรื่องนี้ต่อครับ เราเชื่อว่าน่าจะสาวไปถึงผู้บงการใหญ่ของมันได้”
“อ๋อครับ งั้นผมลาละครับ”
ทรงเผ่าไหว้ลา เดินออกมา เจอกับอั๋นเดินสวนมาพอดี
“อ้าว พี่เผ่า มาทำอะไรครับ แหมพอดีเลย”
“เดี๋ยวๆ ที่นี่ สำนักงานตำรวจใช่มั้ย”
อั๋นงง
“ใช่ครับ มีอะไรเหรอครับพี่เผ่า”
“ฉันคิดว่าเดินอยู่แถวสยามเสียอีก แกนะ จะแต่งตัวหล่อไปไหน”
อั๋นหัวเราะเสียงดังชอบใจ เมื่อถูกทรงเผ่าแซวที่เขาแต่งไปรเวทอย่างหล่อเต็มที่

อั๋นชวนทรงเผ่ามาที่งานกุศล ซึ่งจัดในโรงแรมหรูด้วยกัน อั๋นลงทะเบียนหน้างานเสร็จ เดินกลับมาหาทรงเผ่าที่รออยู่
“ตกลง แกเป็นตำรวจ หรือว่าเซเล็บรับจ้างออกงานวะ เจ้าอั๋น”
“โธ่พี่ อันนี้ก็งานของผมอย่างหนึ่ง ตำรวจต้องเป็นมิตรกับประชาชน ผมก็กำลังทำหน้าที่รักษาภาพลักษ์ของตำรวจที่ดีที่อยู่เคียงข้าง และเป็นเพื่อนกับประชาชนอยู่ไงครับ”
ทรงเผ่าส่ายหน้า
“ฉันบ้าจี้มากับแกได้ยังไงเนี่ย”
“พี่มากับผมนะถูกแล้ว งานนี้สาวๆเพียบๆรับรอง”
อั๋นบอกอย่างมั่นใจ แต่ทรงเผ่าส่ายหน้ายิ้ม ๆ

ในงาน...อั๋นที่ถือเครื่องดิ่มอยู่ หน้าเอ๋อ ตาค้าง เมื่อเห็นคุณหญิง คุณนาย แต่หัวฟูเดินผ่านมา
“น้องอั๋น เดี๋ยวอย่าลืมให้ลูกโป่งอาบนเวทีเยอะๆ นะคะ ถือว่าช่วยทำบุญให้เด็กๆ”
“ได้ครับ คุณอา”
คุณหญิงอีกคนเดินเข้ามา
“น้องอั๋น ต๊ายน่ารักจริง มางานนี้ด้วย คุณพ่อให้มาเป็นตัวแทนหรือค่ะ” อั๋นได้แต่ยิ้ม กับพยักหน้า “มาค่ะถ่ายรูปกันหน่อย”
“ได้ครับ คุณป้า”
คุณหญิงรีบหยิบมือถือในมือออกมา ทรงเผ่ารีบกุลีกุจอช่วยอย่างขำๆ
“ผมช่วยถ่ายให้ดีกว่าครับ”
“ขอบคุณค่ะ แหมลืมเอาแว่นตามา เลยมองไม่ค่อยถนัด”
คุณหญิงยื่นมือถือให้ อั๋นรู้ว่าทรงเผ่าแกล้งแอบตีหน้ายักษ์ใส่ ทรงเผ่ายิ่งแกล้ง
“ชิดๆหน่อยครับ นั้นแหละครับ น่ารักมาก”
ทรงเผ่าถ่ายเสร็จ ยื่นคืน คุณหญิงเดินแยกไป ทรงเผ่าขำอั๋นมาก
“สาวๆ น่ารักจริงๆว่ะ แต่ต้องจินตนาการย้อนกลับไปอีกหลายปี มีประกวดนางงามใจกุศลด้วยใช่มั้ย ไม่รู้จะใส่ทูพีทกันขึ้นเวทีหรือเปล่านะ”
“แน่นอนพี่ แว่นตากับฟันปลอม นี่...พี่เผ่า อย่าเยาะเย้ยกันได้มั้ย ผมแค่ดูการ์ดเชิญผิดงานไปหน่อยเท่านั้นเอง เรารีบแผ่นกันดีกว่านี้ เอ๊ะเดี๋ยว...”
อั๋นส่งสัญญาณให้ดู อีกทาง มองผ่านคนไปเห็น ผู้หญิงใส่ชุดเปิดหลัง ยืนหันหลังให้อยู่ ก่อนเพื่อนอีกคนจะเดินเข้ามา
“นี่ ทั้งงานมันก็ต้องมีแจ่มๆกันบ้าง สองคนพอดีเลยพี่”
“แกคนเดียวเถอะ ไม่ต้องเผื่อฉัน เดี๋ยวฉันไปรอแกทางโน้นดีกว่า”
“โหพี่ ไปด้วยกันซิ ผมไม่บอกคุณหวานหรอกน่า”
อั๋นหยิบแก้วเครื่องดื่มค็อกเทลจากบริกรที่เดินผ่านมาแก้วหนึ่ง แล้วลากทรงเผ่าไปทันที

อั๋นลากทรงเผ่ามา ยืนข้างหลังอัญชิสา กับจินนี่
“คอแห้งมั้ยครับ ผมเอาเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับสาวสวยที่สุดในงานนี้มาให้”
จินนี่หันมาก่อน ก่อนจะเป็นอัญชิสาที่หันมา
“อ้าว คุณหวาน!”
“คุณอั๋น คุณเผ่า!”
อัญชิสาตกใจ แล้วก็กลับมายิ้มหวานให้เหมือนเดิม
“มางานนี้ด้วยเหรอค่ะ ไหนบอกไม่ชอบงานแบบนี้ไง”
“บังเอิญเจอเจ้าอั๋นนะครับ มันเลยลากผมมา แต่นานๆมาที ก็สนุกดีเหมือนกันนะครับ”
“งั้นต่อไปหวานจะชวนเผ่ามาบ้างห้ามปฏิเสธอีกนะคะ เกือบลืมแนะนำ นี่จินนี่เพื่อนหวานเอง นี่หมวดอั๋นจ๊ะเป็นรุ่นน้องคุณเผ่า”
จินนี่ดูตกใจ หลุกหลิก มองหน้าอัญชิสาตลอดเหมือนมีอะไร
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ เอ๊ะ คุณจินนี่เป็นอะไรหรือครับ ดู...กระสับกระส่าย”
“อ๋อ เอ่อ ปวดท้องนะคะ”
“งั้นไปนั่งพักตรงโน้นมั้ยครับ มาครับ” อั๋นกุลีกุจอจะพาไป
“ไม่ค่ะ ไม่ต้อง คือ...อยากไปเก็บดอกไม้ หน่อยนะค่ะ”
อั๋นกับทรงเผ่าเริ่มเข้าใจ
“เดี๋ยวขอตัวซักครู่นะคะ หวานไปด้วยกันมั้ย”
จินนี่ขยิบตากับอัญชิสา
“เอาซิ... เดี๋ยวมานะคะ”
จินนี่กับอัญชิสารีบเดินออกไป

อ่านละคร แก้วกลางดง ตอนที่ 7/3 วันที่ 5 พ.ค. 55
ติดตามละคร แก้วกลางดง ได้ทุกวัน จันทร์ - อาทิตย์ เวลา 7.30 ,10.30 ,20.00 และ 23.00 ทาง ช่อง 8
ละคร แก้วกลางดง ประพันธ์ โดย ทมยันตี
ละคร แก้วกลางดง บทโทรทัศน์โดย ธนินทร อุชุภาพ
ที่มา manager.co.th
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ