อ่านละคร ขุนศึก ตอนที่ 5-6 วันที่ 10 พ.ค. 55

{[['']]}
อ่านละคร ขุนศึก ตอนที่ 5
“ขอพระราชทานแม่เรไรแล้วรึ ควรแล้ว ศึกหงสาครานี้ท่านขุนมีความชอบนัก เพียงแค่ขอพระราชทานแม่เรไร พระองค์ต้องทรงโปรดเป็นแน่” บัวเผื่อนยิ้มเย้ยมาทางขันกับพุฒ

ทั้งสองขบกรามแน่น แค้นแทบกระอักเลือด รีบเดินหนีไป
ในวัง...สมเด็จพระนเรศวร และสมเด็จพระเอกา-ทศรถ เรียกขุนรามเดชะกับลำภูเข้าเฝ้าเพื่อขอเรไรให้กับเสมา แต่ขุนรามเดชะกับลำภูรู้เรื่องนี้มาก่อน จึงอ้างกับทั้งสองพระองค์ว่า ได้รับปากหมั้นหมายเรไรกับหมื่นชาญ-ณรงค์แล้ว แต่ถ้าเป็นพระประสงค์พวกตนก็จะขอคืนของหมั้นให้แก่หมื่นชาญณรงค์

“ไม่ต้องดอก ทำเช่นนั้นก็เหมือนดั่งเราทำให้พวกเจ้าเสียสัตย์ แล้วเราจะตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมได้อย่างไร”“เมื่อไม่อาจพระราชทานนางข้าหลวงเรไรได้ สมเด็จพี่ก็พระราชทานของอื่น ให้แก่ขุนศึกไชยชาญแทนเถิดพระพุทธเจ้าข้า” สมเด็จพระเอกาทศรถกราบทูล

สมเด็จพระนเรศวรพยักหน้าเห็นดีด้วย ขุนรามเดชะและลำภูลอบสบตากันอย่างหวาดๆ ด้วยกลัวที่โกหก

ทั้งสองพระองค์ แต่เพราะไม่อยากได้เสมาเป็นเขยเลยจำเป็นต้องทำ

คํ่าแล้ว เสมาเดินถือตะเกียงเดินคุยมากับจำเรียงด้วยความผิดหวัง จำเรียงปลอบใจพี่ว่า คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกัน เสมายอมรับฟัง แล้วเสนอจะเอาเงินทองที่ได้พระราชทานไปไถ่ตัวน้อง จำเรียงยิ้มเศร้าๆ บอกให้พี่ชายนำเงินไปปลูกเรือนและสร้างโรงเหล็กให้พ่อกับแม่ก่อน เพราะถูกพวกพม่าเผาวอดไปแล้ว


เสมาขบกรามแน่น น้อยใจในโชคชะตาพูดไม่ออก ดึงน้องสาวเข้ามากอด “เอ็งกตัญญูดีนักจำเรียง ข้าจักต้องไถ่เอ็งเป็นไทให้ได้ในเร็ววัน”

ooooooo

หลังจัดหาที่นอนในวัดให้พ่อกับแม่แล้ว เสมาอาศัยแคร่หน้าเรือนของพันอินเป็นที่พักชั่วคราว

ครั้นใกล้สาง ศรีเมืองลงมาหุงหาอาหาร เห็นเสมานอนอยู่ก็ตกใจรีบเข้าปลุก เสมาบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง ศรีเมืองเห็นใจเข้าไปจัดหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้เปลี่ยน แล้วจะเอาชุดเก่าที่เหม็นเหงื่อเต็มที่ไปซักให้

เสมาเกรงใจดึงเสื้อไว้ แต่ออกแรงมากไป ศรีเมืองจึงเสียหลักโผเข้าหาเสมา แม่สาวน้อยเอียงอายอยู่ในอ้อมกอดชายหนุ่ม เพลานั้นพันอินกลับมาเห็นเข้า

“พูดไปก็อับอายนัก เอาเป็นว่าหากอ้ายเสมามันกระทำบัดสีกับแม่ศรีเมืองถึงบนเรือนของพี่พันอินบ้าง พี่พันอินยังจะเลี้ยงมันไว้อีกหรือไม่เล่า” เสียงขุนรามเดชะผุดขึ้นในความคิด

“อ้ายเสมา” พันอินตวาด

เสมาและศรีเมืองตกใจ รีบผละออกจากกันทันที พันอินมองเสมาด้วยสายตาโกรธจัดก่อนเดินหัวเสียขึ้น

เรือนไป เสมาและศรีเมืองหันมามองหน้ากัน ด้วยสีหน้าไม่

สบายใจนัก รีบตามไปอธิบาย แต่พันอินไม่รับฟังสั่งให้เสมาออกไปให้พ้นเรือน เพราะขืนอยู่สืบไปก็จะไม่พ้นขายหน้า

เสมารู้ว่า พูดอะไรไปก็ไม่มีผลแล้วจึงก้มลงกราบพันอิน แล้วลุกเดินจากไป พันอินมองตามพลางพึมพำด้วยความเจ็บใจ “กลับจากศึกครานี้ ตั้งใจจักมาเตือนแลหามูลนายให้สังกัดโดยแท้ จะได้สุขสบายเสียที แต่เมื่อเนรคุณเช่นนี้ก็ลำบากยากจนต่อไปเถิด”

ooooooo

พันอินกลัวเสมาจะลักลอบมาพบศรีเมืองอีก จึงพามาฝากฝังกับเรไรให้พาอยู่กับในวังด้วย

เรไรแอบเคืองเสมา ด้วยคิดว่าไปติดพันศรีเมืองจริงๆ เธอนำเรื่องนี้ไปปรึกษาดวงแขหวังหาคนปลอบใจ แต่ดวงแขกลับหึงศรีเมืองเสียเอง จึงแกล้งใช้งานสาวน้อยสารพัด แถมพูดเหน็บให้เจ็บใจอยู่ร่ำไป

วันหนึ่ง ขณะที่ศรีเมืองฝึกงานในวังอยู่กับดวงแข บัวเผื่อนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกว่า พระมหาธรรมราชาทรงประชวรหนักให้จัดเวรเฝ้าตลอดคืน

ด้านพระมหาธรรมราชาทรงเห็นว่า ทรงชรามากแล้วจึงเรียก สมเด็จพระนเรศวรกับสมเด็จพระเอกาทศรถ เข้ามาสั่งความ “หงสาทำศึกไม่หยุดหย่อน อาณาประชาราษฎร์เดือดร้อนนัก ชำนะได้ด้วยกำลัง แต่ไม่อาจชำนะใจผู้คนได้นานไปย่อมต้องพ่ายแพ้ แต่เจ้าอย่าวิตกเลย เมื่อเราชำนะศึกหงสาได้ บารมีก็จะมากขึ้น จนกลับมาเข้มแข็งดังก่อนได้แน่ แต่สิ่งสำคัญคือสามัคคี ที่อโยธยาต้องเสียแก่หงสา ก็เพราะขาดซึ่งสามัคคีระแวงแก่กันเองจนพ่ายต่อศัตรู เจ้าทั้งสองจงระวังอย่าให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก”

สมเด็จพระนเรศวร และสมเด็จพระเอกาทศรถขรึมลง คิดตามที่พระมหาธรรมราชาตรัส เพราะเกรงจะเกิดเหตุเหมือนครั้งท้าวศรีสุดาจันทร์แลขุนวรวงศาขึ้นอีก

สมเด็จพระนเรศวรหันมาตรัสกับสมเด็จพระเอกาทศรถว่า หากพระองค์เป็นอะไรไปให้สมเด็จพระเอกาทศรถ ขึ้นครองราชย์แทน และอย่าให้อโยธยาต้องแตกแยกดังเช่นที่ผ่านมา

สมเด็จพระเอกาทศรถนิ่งคิดก่อนยกมือพนมรับคำสั่ง สมเด็จพระนเรศวรพยักหน้ารับทราบด้วยความสบายใจพร้อมตบบ่าขอบใจน้องชาย ด้วยทรงมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติสำคัญกว่าทุกสิ่ง

3 เดือนต่อมา

ขณะที่สมบุญฝึกทหารใหม่อยู่ที่ลานวัดพุทไธสวรรย์ สินเดินบ่นมากับลูกพี่ว่า เสียทีได้เป็นแม่กองทหารอาสากลับต้องเอาลานวัดเป็นที่ฝึกปรือทหาร เพราะตนไม่เคยเห็นออกขุนผู้ใดในอโยธยา ไม่มีเรือนฝึกปรือทหารเช่นเสมา

“ข้าก็มีเรือนโว้ยอ้ายสิน แต่เรือนข้าเพิ่งปลูกใหม่แลคับแคบนัก จะให้รับคนเป็นร้อยกระไรได้วะ”

“ข้อนี้ฉันก็ประหลาดใจนัก ฝีมือพี่ก็ถือได้ว่าเป็นเอกในอโยธยา แล้วเหตุใดไม่มีพระคุณท่านใดรับพี่สังกัดมูลนายบ้าง ปล่อยให้พี่เป็นทหารอาสาอยู่เช่นนี้ได้” สมบุญเข้ามาสมทบ

“ข้าคงไม่มีวาสนากระมัง ช่างเถิด ได้ออกรบฉลองคุณบ้านเมืองเช่นนี้ ข้าก็พอใจแล้ว” เสมาหน้าจ๋อยขยับจะเปลี่ยนเรื่องคุย ยามเอื้อยแตงหน้าตาตื่นเข้ามา บอกให้รีบกลับบ้านเพราะบุญเรือนไข้หนัก เพ้อไม่ได้สติ

เสมาตกใจรีบกลับเรือน เห็นแม่นอนไข้ขึ้นเพ้อหาแต่จำเรียง พ่อทหารหนุ่มสงสารแม่จึงตัดสินใจไปพบดวงแขเพื่อขอตัวจำเรียงกลับมาดูใจแม่สักครา

ดวงแขลำบากใจนัก เพราะนายเงินคือขันไม่ใช่เธอ แต่เมื่อเสมาอ้อนหนักเข้า แม่สาวผิวเข้มก็ใจอ่อนยอมพาจำเรียงมาเยี่ยมบุญเรือน

บุญเรือนมีความสุขขึ้นมาทันทีที่ได้เห็นหน้าลูกรัก นางหันมาขอบอกขอบใจดวงแขที่เมตตา

“อย่าพูดเช่นนั้นเลยจ้ะแม่ป้า แม่ป้ารักษาตัวให้หายเถิด เอ่อ...ฉันจึงไม่ได้หยิบกระไรติดไม้ติดมือมาฝาก ขอขมาด้วยเถิดจ้ะ” ดวงแขส่งยิ้มให้

“ไม่ต้องฝากดอกแม่หญิง แค่ฉันได้เห็นหน้าลูก ก็ดีใจนักแล้ว” บุญเรือนกอดจำเรียงด้วยความรักและคิดถึงมาก

มั่นหันไปพูดกับเสมา ว่าเช่นนี้ บุญเรือนคงหายไข้โดยเร็วเป็นแน่ เสมายิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะยิ้มเลยไปให้ดวงแข ทำให้สาวเจ้าเอียงอาย แลทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาเอื้อยแตงที่ขว้างค้อนตาเขียว

ครู่ต่อมา เสมาคว้าไซลงไปดักปลา ตั้งใจจะเอามาทำอาหารเลี้ยงดวงแข เอื้อยแตงเดินหน้าบึ้งเข้ามาแดกดันว่า แม่หญิงชาววังคงกินกับข้าวชาวบ้านร้านตลาดไม่ได้

“เอ็งยังเคืองแม่หญิงดวงแขอยู่อีกรึเอื้อยแตง อย่าถือโกรธกันเลย แม่หญิงถือศักดิ์ด้วยเป็นข้าหลวงในวัง แลมีพ่อเป็นถึงออกหลวง แต่โดยน้ำใจแล้วดีนัก ไม่เช่นนั้นจักยอมให้จำเรียงกลับมารึ”

“เพียงนี้ก็ถือว่าดีแล้วรึ มิน่าเล่า ผู้คนถึงบอกว่าขุนศึกไชยชาญโง่งมนัก แม่หญิงดวงแขผู้นี้มิได้ซื่อนักดอก ยามยิ้มแย้มอาจจักถือมีดซ่อนไว้ด้านหลัง ผิดกับแม่หญิงเรไรของพี่นัก พี่คอยดูเถิดว่า จะสมกับคำที่ฉันพูดหรือไม่”

“เอ็งก็แกล้งว่าแม่หญิง ถามจริงเถิด...” เสมาพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงดวงแขหวีดร้องดังขึ้น

“หยุดเถิดพี่ขัน พี่ขันอย่า...”

เสมาและเอื้อยแตง ตกใจเมื่อรู้ว่าขันมาถึงเรือน ทั้งคู่รีบวิ่งไปตามเสียงทันที

ooooooo
อ่านละคร ขุนศึก ตอนที่ 6
ขันกระทำการอุกอาจ เข้าฉุดจำเรียงจากเรือน แม้ดวงแขจักห้ามปรามอย่างไรก็ไร้ผล มั่นกับบุญเรือนขอความเมตตา ให้จำเรียงได้อยู่ดูแลแม่ที่ป่วยหนักแต่ขันไม่ยอม อ้างว่าจักนำจำเรียงกลับไปรับโทษโบย ฐานขัดคำสั่งออกจากเรือน ดวงแขทนไม่ไหว ท้าให้พี่ชายโบยตนด้วย เพราะเป็นคนให้จำเรียงกลับมาบ้าน

“แม่ดวงแขไม่ต้องมาออกรับแทนดอก พี่เป็นนายเงินของนังจำเรียง เมื่อพี่ให้มันกลับเรือน มันก็ต้องกลับ” ขันตวาดลั่น

“แต่ที่นี่เป็นเรือนกูขุนศึกไชยชาญ แลนี่ก็เป็นพ่อกู น้องกูมึงก็รู้แต่ยังแสร้งด่า เมื่อหยามกันเช่นนี้ ก็ออกดาบของมึงมาอ้ายขัน หากกูถอยแม้เพียงก้าวอย่านับถือว่าเป็นคนกันเลยวะ” เสมาเดินนำเอื้อยแตงเข้ามา

อ่านละคร ขุนศึก ตอนที่ 5-6 วันที่ 10 พ.ค. 55
ละคร ขุนศึก บทประพันธ์โดย :ไม้เมืองเดิม/สุมทุม บุญเกื้อ
ละคร ขุนศึก กำกับการแสดงโดย: อดุลย์ บุญบุตร
ละคร ขุนศึก บทโทรทัศน์ละครโดย: เอกลิขิต
ละคร ขุนศึก ผลิตโดย: บริษัท ที.วี.ซีน จำกัด
ละคร ขุนศึก แนวละคร : ดราม่า - อิงประวัติศาสตร์
ละคร ขุนศึก ออกอากาศทุกวัน : จันทร์ -อังคาร เวลา 20.30 ทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ