อ่านละคร ขุนศึก ตอนที่ 4 วันที่ 6 พ.ค. 55

{[['']]}
อ่านละคร ขุนศึก ตอนที่ 4 วันที่ 6 พ.ค. 55
“กระไรได้เล่าเจ้าคะ พี่เสมานั้นดื้อรั้นนัก แลเคยเป็นครูฝึกอยู่ที่บ้านท่านขุนรามเดชะ รู้ทางหนีทีไล่ที่บ้านท่านขุนดี พี่สมบุญยังเคยบอกว่าพี่เสมาเคยลักลอบเข้าไปในบ้านท่านขุนเสียหลายครั้ง แม้แต่ปีนเข้าห้องนอนแม่หญิงก็ยังเคยเลยเจ้าค่ะ” จำเรียงจีบปากจีบคอ
ดวงแขฟังแล้วอึ้งโมโหหึง เธอครุ่นคิดบางอย่างในใจ ก่อนเขียนจดหมายไปฟ้องลำภูเรื่องเสมาแอบลักลอบไปพบกับเรไรถึงในห้องนอน

ลำภูอ่านจดหมายแล้วก็แทบลมจับ นางตัดสินใจเข้าไปดูลูกสาวในห้องก็พบเสมาอยู่ในนั้นจริงดังที่ดวงแขบอก

“งามหน้าแล้วแม่เรไรนี่ต่อหน้าต่อตาจับได้เอง หากเป็นผู้อื่นจะว่าซัดใส่โทษ” ลำภูชี้หน้าด่าลูกสาว

เรไรผวา รีบนั่งพับเพียบกราบเท้าแม่ “แม่ท่าน ผิดลูกเกินตัวที่จะอภัยแล้ว”

“แม่มีลูกแต่คนหนึ่งเป็นเอื้อยหัวปี ก็ประพฤติสมศักดิ์สมรักนัก แน่ะหมื่นศึก ฉันนี้นึกว่าใคร มิคาดเลยว่าจะเป็นหมื่นที่ท่านขุนอุปการะ มาย้อนเนรคุณถึงฟากเรือน”


“สุดแต่เมตตาพระคุณ ใช่ข้าพระเจ้าจักลบหลู่ล่วงเกินพระคุณทั้งสองนั้นหามิได้ หากที่ประพฤตินี้ก็โดยสุดรักแม่หญิงยิ่งอื่นแม้ชีวิตตัว พระคุณจงเมตตาเถิด” เสมาคุกเข่าก้มลงกราบ

“เมตตารึ หมื่นศึกก็รู้แล้ว คำขุนท่านประกาศมิให้เหยียบเรือนเรา แลเมื่อชะล่าเช่นนี้ มิหมายใจจักลองดีเพราะสิ้นเกรงกันรึ”

“หามิได้เลยพระคุณ...”

“พอเถิด แม้เจ้าจักเป็นหมื่นมียศแล้ว ฉันก็ยังมอง อยู่ว่าเป็นช่างเหล็กที่เคยหมอบอยู่ปลายเท้า หากอโยธยาสิ้นบุรุษแล้วนั้นก็จนใจ แต่บัดนี้ เชิญเสียให้พ้นเรือนแต่โดยเร็วเถิด หาไม่จะเรียกไพร่มาจับส่งพระนครบาล”

เสมาขบกรามด้วยความเจ็บใจ แต่จำต้องเอ่ยออกไป “พระคุณกล่าวถูกแล้ว แลเมื่อพระคุณมาลั่นวาจาเสียว่าสิ้นบุรุษแล้วจนใจนั้น ข้าพระเจ้าก็เสียใจอยู่ มิทราบจะขอเมตตาประการใดจึงต้องขอขมาด้วย” เสมาก้มลงกราบอีกทีแล้วหันมามองเรไร เห็นเธอมองตอบด้วยน้ำตานองหน้า แต่สายตายังมั่นคงเต็มเปี่ยม พ่อทหารหนุ่มตัดใจลุกเดินออกจากห้องไป

ลำภูหงุดหงิด สะบัดหน้าพรืดเดินออกไปอีกคน ทิ้งให้แม่หญิงนั่งร่ำไห้เสียใจต่อโชคชะตาอยู่เพียงลำพัง

ooooooo

วันต่อมา เสมา สิน สมบุญ กับทหารไทยอีกจำนวนหนึ่ง เข้าสู้รบทหารพม่าอย่างดุเดือดเพื่อทำลายเสบียงอาหารของข้าศึก สินกับสมบุญเห็นเสมาควงดาบสองมือคู่ใจ บุกตะลุยฆ่าทหารพม่าอย่างบ้าคลั่ง ก็หันมาคุยกันว่า พวกข้าศึกโชคร้ายนักที่มาปะเสมาเพลาเจ็บใจ ที่ถูกแม่นายลำภูหยามหมิ่น

“แต่จะทำกระไรได้เล่า เมื่อท่านขุนกับแม่นาย เห็นศักดิ์ตระกูลแลความมั่งมี เหนือกว่าน้ำใจแลความมานะของพี่เสมาเสียแล้ว” สองคู่หูหันไปมองเสมาที่ฟาดฟันทหารพม่าจนหนีตายกันอลหม่านอย่างเห็นใจ

เวลาผ่านไป สมเด็จพระนเรศวรทรงวางแผน แต่งทัพออกรบกวน ตีเสบียงกองทัพหงสาวดีอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งทัพหงสาวดีได้ ในที่สุดกองทัพหงสาวดีก็ได้ยกเข้าล้อมกรุงศรีอยุธยา โดยตั้งค่ายใหญ่ 3 ค่าย ที่บางปะหันบ้านกุ่มดอง และทุ่งสีกุก

รวมทั้งค่ายเล็กๆ อีกนับสิบค่าย เพื่อเข้าโจมตีกรุงศรีอยุธยาพร้อมกัน

สมเด็จพระนเรศวรมีดำริว่า การตั้งรับหาใช่ยุทธวิธีที่ดีที่สุด พระองค์จึงคิดจะแต่งทัพออกปล้นค่ายที่รายล้อมพระนครอยู่ และเมื่อใดที่ค่ายเล็กระส่ำระสาย ก็จะฉวยบุกตีค่ายใหญ่ อย่าให้ทัพหงสาวดีทำศึกโดยสะดวก

สมเด็จพระเอกาทศรถแย้งว่า เรามีกำลังน้อย จะใช้พลน้อยเข้าตีค่ายที่มีพลมากกว่า จักขัดกับหลักพิชัยสงคราม

“ไม่ดอก เพราะถึงพลน้อย แต่หากมีจิตใจฮึกเหิม คนหนึ่งอาจสู้ได้ถึงสิบ พี่จักนำทัพออกปล้นค่ายด้วยตัวพี่เอง หากไพร่พลเห็นเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ออกรบตะลุมบอนด้วยข้าศึก ขวัญทหารย่อมเข้มแข็งเป็นแน่”

“มิได้พระพุทธเจ้าข้า การบุกตีค่าย ยังอันตรายกว่าการรบกลางแปลงมากนัก สมเด็จพี่เป็นพระมหาอุปราชแห่งอโยธยา จักเสี่ยงภัยเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”

“หากอโยธยาต้องสิ้น แม้ศีรษะบนบ่าก็ยังยากจะรักษาไว้ แล้วตำแหน่งพระมหาอุปราชจะมีความหมายกระไร เชื่อพี่เถิด แม้เสี่ยงภัยเพียงใด พี่ก็จักต้องทำ” สมเด็จพระนเรศวรมุ่งมั่น

สมเด็จพระนเรศวรทรงรบอย่างทระนงองอาจ ถึงขนาดทรงพระแสงดาบคาบค่าย ปีนเข้าตีค่ายหงสาวดีเหมือน ทหารธรรมดาคนหนึ่ง ทรงนำทหารตามตีทัพพม่าที่แตกกระเจิงกองทัพไทยชนะอย่างงดงาม เลือดนักรบของพระองค์สร้างความฮึกเหิมให้กับทหารกรุงศรีอยุธยา จนสามารถตีค่ายของหงสาวดีแตก ทั้งๆที่มีกำลังพลน้อยกว่า แถมยังไล่ตีไปจนถึงค่ายหลวงของพระเจ้านันทบุเรง ทำให้ข้าศึกครั่นคร้ามแก่พระบรมเดชานุภาพยิ่งนัก

ooooooo

เช้าวันใหม่ ที่ค่ายพระเจ้านันทบุเรง ลักไวทำมู เหล่าขุนนางและนายทหารคนสำคัญร่วมประชุมพร้อมหน้า

“ทัพของเราเป็นทัพกษัตริย์ถึงสามทัพ แลมีทัพ หัวเมืองประเทศราชอื่นอีก ไพร่พลรวมถึงห้าแสนแทบจะเหยียบแผ่นดินอโยธยาล่มแล้ว แต่ทัพขององค์พระนเรศมีเพียงหยิบมือ เรากลับพ่ายแพ้ถึงเสียค่ายเช่นนี้ได้กระไร” พระเจ้านันทบุเรงกริ้วหนัก

“องค์พระนเรศทำศึกอาจหาญนักรบเยี่องทหารธรรมดาโดยไม่เกรงภัย ทำให้ไพร่พลมีขวัญเข้มแข็งแม้นมีทหารน้อยก็เหมือนดั่งมีมาก หากเราจับตัวองค์พระนเรศมิได้ ศึกนี้คงยากจะได้ชัยพระพุทธเจ้าข้า” ขุนนางคนหนึ่งเสนอแผนการ ลักไวทำมูรีบพนมมืออาสาจับกุมองค์พระนเรศเอง

อ่านละคร ขุนศึก ตอนที่ 4 วันที่ 6 พ.ค. 55
ละคร ขุนศึก บทประพันธ์โดย :ไม้เมืองเดิม/สุมทุม บุญเกื้อ
ละคร ขุนศึก กำกับการแสดงโดย: อดุลย์ บุญบุตร
ละคร ขุนศึก บทโทรทัศน์ละครโดย: เอกลิขิต
ละคร ขุนศึก ผลิตโดย: บริษัท ที.วี.ซีน จำกัด
ละคร ขุนศึก แนวละคร : ดราม่า - อิงประวัติศาสตร์
ละคร ขุนศึก ออกอากาศทุกวัน : จันทร์ -อังคาร เวลา 20.30 ทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ