อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 16/2 วันที่ 12 พ.ค. 55

{[['']]}
อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 16/2 วันที่ 12 พ.ค. 55
“แต่เขารู้ว่านี่คือคนที่รักเขามากที่สุด รองจากดอกโศกหรืออาจจะเท่ากันหรือมากกว่า” เพ็ญพักตร์บอก
อุ๊แม้นัยน์ตาจะยังเศร้า แต่ก็ยังมีความหวังมากขึ้น

สมใจซุบซิบอยู่กับสมปองสองคน หน้าตาเป็นทุกข์ ดูกังวลทั้งคู่ ชุดเสือวางอยู่แถวๆ นั้น
“เอาไงล่ะแม่” สมปองหารือ
“แม่ว่าสุดจิตต์ไม่ยอมปล่อยคุณนัยแน่ๆ โธ่เอ๊ย ทำไมมันถึงใจดำผิดมนุษย์มนาอย่างนี้ ลูกสาวในไส้แท้ๆ มันจะเสียสละให้ลูกไม่ได้เชียวเรอะ”
สมปองหน้าตาไม่ดีแล้วตอนนี้ คิดถึงเรื่องแม่ก็ไม่เสียสละให้สุดจิตต์เหมือนกัน
“แม่จะคร่ำครวญทำไมเนี่ย พี่จิตต์เขาก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเขาไม่รักก็เค้าไม่ได้เลี้ยงมันมา จะให้เค้าเจอหน้าครั้งแรก โผเข้ากอดกันให้ลูกกราบเท้าแม่ แม่ก็ร้องไห้ฟูมฟายว่ารักลูกเหลือเกินแบบในทีวีน่ะเหรอ ชั้นก็ว่าเป็นไปไม่ได้หรอก” สมปองว่า
“ลูกนะนังปอง ลูกในไส้” สมใจว่า
“ลูกก็เหอะ ไม่ได้เลี้ยงมาก็ไม่รักหรอก ใครบอกว่า...อู้ย...คนเรานะต้องมีสัญชาตญาณความเป็นแม่ เฮ่อ...ชั้นไม่เชื่อหรอกให้ตายสิ”
“ทำไม...ทำไมจะไม่มี คนเราเป็นแม่ต้องรักลูก รู้ว่าเป็นลูกยังไงๆ ก็ต้องรักก็เพราะ สัญชาตญาณความเป็นแม่...มันมีอย่าเถียง” สมใจบอก
“แล้วคนที่ขอเด็กมาเลี้ยงทำไมรักล่ะ” สมปองว่าไปนั่น
“อ้าว ก็เค้าเลี้ยงของเค้ามา”
“แม่” สมปองแตะแขนแม่ทันที นัยน์ตาจริงจัง “ถ้าเป็นงั้นน่ะ ทำไมแม่ไม่รักพี่จิตต์เค้าล่ะ ตอนเค้าอยู่กับแม่อ่ะ แม่มีทั้งสัญชาตญาณแล้วก็เลี้ยงเค้ามา แม่ก็ไม่รักเค้าจนเค้าหนี”
สมใจชะงักกึก สีหน้าเหยเก ขยับหันหลังให้สมปอง
“เค้าว่าแม่เลือกผัว รักผัวมากกว่าลูก จริงป่ะล่ะ”
สมใจก้มหน้าซุกลงกับเข่า มีแต่เสียงร้องไห้ดังๆ สมปองเหลียวมองอย่างปลงๆ
สมหวังได้ยินเสียงร้องไห้วิ่งออกมา “นังปอง แม่มึงเป็นอะไร”
สมปองรีบตัดบท ขี้เกียจอธิบายแกมไม่อยากให้พ่อรู้ “จะไปบ้านตานวมใช่มั้ย...ไปเถอะ”
“อ้าว มึงไล่กูทำไม กูอุตส่าห์ถามดีๆ” สมหวังฮึดฮัด
สมปองเสียงดังขึ้นมานิด อารมณ์เสียแล้ว “ตอบไม่ดีตรงไหน”
สมหวังนิ่งมองลูกสาวมากทอดสักครู่ “เออ...กูเห็นมึงซุบซิบกัน หลายวันแล้ว มีเรื่องอะไรไม่บอกกู กูไม่ยุ่งก็ได้วะ เชิญมึงซุบซิบกันต่อไปเหอะเว้ย” ว่าแล้วสมหวังเดินตัวเอียงๆ ไป ตะโกนเสียงโหวกเหวกค่อยๆ ลงตามลำดับ “ไอ้นวม..ไอ้นวมโว้ย มาแล้วโว้ย ตั้งกระดานเล๊ย
สมปองตักน้ำยื่นให้แม่ขันหนึ่งบอก “ล้างหน้าซะ”
สมใจรับไปล้างหน้าลวกๆ
“อยากรู้จริงเรื่องนี้มันจะจบยังไง....ฮึแม่” สมปองอึดอัดใจ กังวลก็ปานกัน


อุ๊นั่งเศร้าซึมอยู่นอกโรงงาน มีหนังสืออยู่ในมือ แต่ไม่มีกะจิตกะใจอ่าน อัศนัยไม่ทันมองกำลังเดินคุยโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดี
“ดอกโศก ทำไมเมื่อคืนโทร.ไปไม่รับสาย”
“คุณนัยคะ อุ๊เขาไปฝึกงานวันไหนบ้างคะ”
“เอ๊ะ คุณนัยบอกดอกโศกแล้วเมื่อวานนี่นา”
“บอกแล้วบอกอีกไม่ได้หรือคะ” ดอกโศกย้อนถาม
“บอกได้ครับ...บอกได้ เขามาฝึกงานช่วงเช้าถึงบ่ายโมงแล้วเขาก็ไปเรียนพิเศษ”
“แต่เมื่อวานเจอเขาจวนห้าโมงเย็นแล้วนะคะ” ดอกโศกบอก
“คุณนัยก็ไม่ทราบ ทำไมเขาถึงกลับมา คุณนัยเห็นเขาออกไปแล้วตอนเที่ยง”
ดอกโศกนิ่งอึ้ง
“ดอกโศกจ๋า...เป็นอะไร”
“เท่านั้นนะคะ” ดอกโศกกดปิด ยืนสีหน้าไม่ดี คิดไม่ตกเรื่องเพ็ญตระการ
อัศนัยงงเล็กๆ ครุ่นคิดเช่นกัน แต่แล้วกลับนึกครึ้มใจหน่อยๆ ว่างานนี้มีหึงแฮะ กำลังอารมณ์ดีๆ อัศนัยมองไปเห็นอุ๊ท่าทางเศร้า ใบหน้าอมทุกข์ จึงเดินเข้าไปหา

ดอกโศกคุยโทรศัพท์จบแล้ว เห็นคุณย่าออกมาจากห้องน้ำ มองดูหลานอย่างพิจารณา ได้ยินหมดทุกคำ
ดอกโศกหันมายิ้มรับ
“แอนเจล่า ย่าจะกลับหัวหินแล้วนะ”
“ค่ะ” ดอกโศกรับคำ
“ย่าจะพาแอนเจล่าไปด้วย” มิสซีสเบนส์บอกเสียงเฉียบขาด
ดอกโศกตะลึงเล็กๆ เพราะไม่อยากไป

“อุ๊กลัวสอบไม่ติด ไม่มีกำลังใจเลย” เพ็ญตระการเป็นทุกข์หนักเรื่องพ่อกับแม่
“มีสิ อุ๊มีคุณพ่อคุณแม่ ญาติพี่น้อง...”
อัศนัยพูดยังไม่จบ อุ๊สวนออกมา
“ไม่มียังดีกว่า” น้ำเสียงนั้นเย้ยหยันตัวเอง
อัศนัยซัก “อุ๊...มีเรื่องอะไร...บอกอานัยซิ”
“คุณพ่อคุณแม่ทะเลาะกันอีกแล้ว คุณพ่อกลับมาวันแรกคุณแม่ก็สั่ง...สั่ง..สั่ง คุณแม่เป็นอย่างนี้ทุกที”
“เรื่องของผู้ใหญ่ อุ๊เป็นเด็กอานัยบอกตั้งหลายครั้งแล้ว” อัศนัยพยายามปลอบ
“อานัยไปบอกผู้ใหญ่อีกคนสิว่าอย่าให้เขามายุ่งกับคุณพ่ออุ๊” อุ๊บอกเป็นนัย
“ใคร”
“คนไม่ดี อุ๊เกลียดเขา เกลียดที่สุด” อุ๊หมายถึงปรียากมล
“ใครเหรออุ๊” อัศนัยถามทั้งที่สีหน้าน่ะรู้แล้วว่าหมายถึงใคร
“อานัยรู้ อย่าให้อุ๊บอก เกลียดจนไม่อยากเรียกชื่อด้วยว้ำ ทำไมล่ะคะ เมื่อก่อนเขาเป็นแฟนอานัยไม่ใช่เหรอ” อุ๊ร้องไห้สะอึกสะอื้น “ทำไมเค้าถึงไม่ดีเค้ามายุ่งกะคุณพ่ออุ๊ทำไม อานัยรู้มั้ยคะ คุณพ่อไม่เคยทำให้คุณแม่เสียใจเลย คุณพ่ออุ๊ดีที่สุด ไม่เจ้าชู้เลย..ยัยคนนี้ทำให้คุณพ่ออุ๊เสียคน เกลียดที่สุด”

เพ็ญตระการบอกอย่างที่ใจคิดว่ารู้จักพ่อดี อัศนัยมอง พูดอะไรไม่ออก
นอกจากจะไม่ได้คิดเลิกรากับปรียากมลแล้ว ตระกูลยังมาป้อนคำหวานว่ากำลังจะหย่ากับเพ็ญพักตร์ แต่ปรียากมลไม่สน เวลานั้นสองคนจึงทะเลาะกันอยู่ภายในห้องที่คอนโด ตระกูลนั้นตื๊อสุดตัว ไม่ยอมเลิกท่าเดียว

“ปรียากมล ฟังผมหน่อยนะ”
“ฉันจะพูดเป็นคำสุดท้าย บอกแล้วไงถ้าอยากเป็นเพื่อนกันก็จากกันไปดีๆ”
“ผมรักคุณ...ผมรักคุณมาก”
“เป็นลูกผู้ชายนะมีศักดิ์ศรีมั่ง มาอ้อนวอนผู้หญิงอื่นทั้งๆ ที่เมียคุณก็มีอยู่ทั้งคน เห็นใจเมียคุณหน่อยซี้” ลดเสียงพูดเบาๆ “เฮอะ ถึงจะไม่ค่อยน่าเห็นใจก็เถอะ”
“ผมบอกแล้วว่าเรากำลังจะหย่า” ตระกูลพูดไม่จริง
ปรียากมลสวนทันที “อย่านะ บอกไว้เลยถ้าคุณหย่า คุณจะเสียทั้งเขาเสียทั้งฉัน”
ตระกูลใจหายผวาเข้าหา คุกเข่ากับพื้นกอดเอวอ้อน “ปรียากมล..ผมรักคุณนะ”
ปรียากมลหงุดหงิดมากที่ตระกูลพูดไม่รู้ฟัง “พอแล้วพูดไม่รู้เรื่องรึไง คุณกลับไปได้แล้ว”
ครู่ต่อมาตระกูลยืนก้มหน้านิ่ง ที่บริเวณหน้าประตูห้องที่เปิดอ้าอยู่ และกำลังจะออกจากห้อง
เหลียวมาเห็นปรียากมล นั่งหันหลัง กิริยาหมองเศร้าทอดถอนใจ
ตระกูล ถอนใจยาวคิดหักใจ หันตัวกลับออกเดิน แต่ต้องชะงักกึก เห็นอัศนัย ก้มหน้าก้มตา เดินมาตามทาง ตระกูลเดินออกไปจนเจอกัน
อัศนัย ไหว้ “คุณตระกูล สวัสดีครับ”
“สวัสดี...ผมขอตัว” ตระกูลรีบไปทันที

ปรียากมลทิ้งตัวลงพิงพนักโซฟา แหงนหน้าสูง อัศนัยเข้าวางกุญแจบนโต๊ะเสียงดังกริ๊กเบาๆ ปรียากมลนึกว่าเป็นตระกูล บอกเสียงหงุดหงิด
“ฉันบอกให้คุณไป...ไปให้พ้นจากชีวิตฉันได้แล้ว โอ๊ย..เบื่อโว้ย อะไรกันนักหนา”
ปรียากมลลุกขึ้นหันไปเห็นเป็นอัศนัย
“ปรียากมล...ผมเอง”
ปรียากมลอึ้ง “อัศนัย” หันหลังให้ทันที “มีธุระอะไร” พูดด้วยสีหน้าเจ็บปวดมาก ไม่คาดฝันว่าจะมาหา “ถ้าไม่มีก็กลับไปก่อนฉันยังไม่อยากพบใคร อยากอยู่คนเดียว”
“อย่างเดียว บอกผมอย่างเดียว คุณจะไม่ติดต่อกับคุณตระกูลอีกได้มั้ย” อัศนัยขอร้อง
“ได้” ปรียากมลตอบทันทีเหมือนไม่ต้องคิด
อัศนัยอึ้งเพราะผิดคาด
ปรียากมลลุกขึ้นหันมา “ได้ ตอบแล้วไง แต่ที่จริงไม่ใช่ฉันหรอกที่คุณจะมาบอกอย่างนี้ เขา...เขา ต่างหากที่คุณควรจะไปบอก ผู้ชายที่ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น”
อัศนัยประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้น”
“เขาว่าเขาจะหย่าเมียเขา...ทุเรศมั้ย” ปรียากมลเย้ยหยันอยู่ในที
“คุณไปทำอะไรล่ะ”
“ฉัน...” น้ำเสียงนั้นเจ็บปวดนัก “ไม่ได้ทำกับเขาเหมือนที่ทำกับคุณหรอก”
อัศนัยอึ้ง
“เขามันบ้าไปเอง”
“เป็นอันว่าจบแน่นะ”
“คุณยุ่งอะไรด้วยอัศนัย” ปรียากมลแปลกใจ
“ผมสงสารลูกสาวเขา” อัศนัยว่า
ปรียากมลทำเสียงบางอย่าง “ชิ เด็กคนนั้นฉันไม่เห็นจะน่าสงสาร ท่าทางยโส หยิ่งจองหอง ดูถูกคน
ยังกะอะไรดี”
“คุณไม่เคยเจอเขารู้ได้ไง” อัศนัยแปลกใจอีก
“ทำไมจะไม่เคย..เอาล่ะ ฉันรู้แล้วกัน...โอเคฉันจบกับตระกูลแล้ว” ปรียากมลตัดบท
“ดีแล้ว ขอบคุณ...แทนครอบครัวของเขา”
“อัศนัย....”
“หือม์”
“อัศนัย คุณรู้มั้ยว่า....” ปรียากมล เหมือนอยากจะบอกบางอย่าง แต่กลับนิ่งไป แล้วถอนหายใจแรงๆ
“อะไรปรียากมล คุณเป็นอะไร” อัศนัยถามน้ำเสียงอ่อนโยน
ปรียากมลมองจ้องอัศนัย ความรักความอาลัยพลุ่งขึ้นจนต้องสะท้อนไปหมด “ฉัน...” ส่ายหน้าไปมาอย่างอัดอั้นตันใจ กิริยาอัดอั้นมาก เดินไปมา “คุณกลับไปก่อน...”
“ปรียากมล ไม่สบายใจเรื่องอะไร ผมช่วยได้มั้ย”
“กลับไปก่อน” ปรียากมล โบกมือให้ไป “ฉันอยากอยู่คนเดียว”
“คุณไม่สบายรึเปล่า” อัศนัยเป็นห่วง
“ฉันอยากอยู่คนเดียว” พูดเสียงดังมาก “อยากอยู่คนเดียว” คราวนี้ตะโกนขึ้นมา “คนเดียว...คนเดียว…”
ปรียากมล ระเบิดเสียงร้องไห้ อย่างแรงที่สุด ฟุบหน้ากับหมอน สะอื้นตัวโยน
อัศนัยยืนมองนิ่งๆ สายตาครุ่นคิด

ปรียากมลพยายามหยุด ไม่ร้องไห้ เช็ดน้ำตา สูดน้ำมูกลุกเดินเอาทิชชู่ไปทิ้งถังขยะใบสวยที่วางอยู่แอบๆ
“โอเค...เล่าได้หรือยังว่าคุณเป็นอะไร”
ปรียากมลกลับมานั่งที่เดิม “ไม่มีอะไรแล้ว”
“ไม่จริง คุณไม่เคยเป็นอย่างนี้ บอกผมเถอะถ้าช่วยได้ผมจะช่วย”
ปรียากมลนิ่งงันไป ซาบซึ้งใจ
“เราเป็นเพื่อนกันมานาน” สองมืออัศนัยจับมือปรียากมลสองมือ
“เพื่อนหรือ?” ปรียากมลถามย้ำ
อัศนัยบอกย้ำ “เพื่อน....เพื่อนที่เคยรักกัน”
คำพูดประโยคนั้นกระแทกเข้าหน้าปรียากมลเต็มคำ สั่นสะเทือนไปทั้งใจ ได้แต่จ้องหน้าอัศนัย
อัศนัยย้ำให้เห็นความจริงทางสายตาและกิริยา
ปรียากมล ก้มหน้าก้มตาเช็ดน้ำตาที่ไหลรินออกมาอีก
“ปรียากมล มันไม่ใช่เรื่องคุณตระกูลใช่มั้ย ผมรู้ว่าเรื่องนี้คุณไม่ได้ซีเรียสกับมัน เอ้อผมไม่รู้นะว่าคุณก้าวไปถึงขั้นไหนแต่ผมรู้ว่าคุณหยุดมันได้ถ้าคุณอยากหยุด” อัศนัยนิ่งไปอีกนิด “และผมขอร้องให้คุณหยุดเพราะอะไรรู้มั้ย เพราะคุณเพ็ญพักตร์เขาน่ากลัวมาก ผมไม่อยากให้คุณมีเรื่องกับเขา คุณอาจถูก...ผมไม่รู้นะ คุณอาจเจ็บตัวหรืออาจจะ...”
ปรียากมลตั้งใจฟัง
“นะ....ปรียากมล” อัศนัยขอร้อง
“คุณบอกว่าสงสารลูกเขา ตอนนี้บอกห่วงฉัน เพราะอะไรกันแน่”
“ทั้งสองอย่าง...ทั้งสองอย่างจริงๆ”
“เที่ยวได้ห่วงลูกสาวเขา แม่เขาล่ะทำอะไรที่ห่วงลูกมั่ง เห็นทำตะละอย่างเสือกไสไล่สงพ่อหนีไปทุกวัน คิดถึงลูกมั่งรึเปล่าล่ะนั่น”
“ก็ใช่อยู่ อุ๊เองก็บ่นแม่อยู่บ่อยๆ ว่าข่มพ่อ นิสัยคุณเพ็ญพักตร์เขาเป็นอย่างนั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ห่วงลูกเขาก็ห่วงอยู่หรอก”
อีกครั้งคำพูดของอัศนัยกระแทกเข้าหน้าปรียากมลเต็มๆ จนนิ่งไปอึดใจ สะอึกพูดไม่ออก
อัศนัยต่อพูดไปเรื่อยๆ ไม่ได้มองปรียากมล “เท่าที่ผมดูเขาก็รักลูก...รักมากด้วยเพราะเป็นลูกสาวคนเดียว แต่เพราะนิสัยเขาเป็นคนอย่างนั้น ผมไม่รู้ว่าเวลาอยู่คนเดียวเขาจะคิดได้ไหมว่าที่เขาทำน่ะ กระทบกระเทือนลูกสาวเขายังไง...ลูกสาวถูกกระทบเต็มๆ ตอนนี้น่าสงสารมาก”
ปรียากมลนิ่งไปอึดใจ แล้วลุกขึ้นเดินเข้าห้องปิดประตู
อัศนัยงง แต่ก็ไม่ว่าอะไร หยิบกุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วออกไป

คืนวันนั้นปรียากมล นั่งอยู่บนเก้าอี้ริมหน้าต่าง มองออกไป สีหน้าเศร้าครุ่นคิด ตรึกตรองและไม่อยากคิดถึงเลย แต่ภาพเหตุการณ์ก่อนเก่าก็ผุดขึ้นมาหลอกหลอนอีกคราครั้ง

คืนนั้นปรียากมลในวัยสาวตั้งท้องแล้ว อยู่กับจอร์จ ในบ้านหลังเล็กในซอยแห่งหนึ่ง สองคนคุยกัน
“ฉันจะกลับบ้านไปขอเงินแม่มาแต่งงานกับเธอนะ แม่จะให้เงิน แม่อยากได้หลาน” จอร์จบอก สีหน้าจริงจัง
“แต่งงาน...จริงเหรอ...จริงนะจอร์จ” ปรียากมลดีใจสุดขีด
“จริง ฉันจะซื้อบ้านใหม่ให้เธอ แม่ฉันมีเงินเยอะ” จอร์จบอก

อีกค่ำคืนหนึ่งหลายเดือนต่อมา
ปรียากมลท้องโตมากแล้ว นั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่หน้าบ้าน กางขา หลังพิงฝา คออ่อนคอพับ ผมรุ่ยร่ายไม่เป็นระเบียบ หน้าไม่แต่ง เพื่อนบ้าน เดินเร็วรี่ ผ่านมา 2 คน เป็นผู้หญิงวัยกลางคนทั้งคู่
ปรียากมลยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นบ่นพึมพำ “ไอ้จอร์จ มึงหลอกกูอย่าให้เจอเชียว” เริ่มเจ็บท้องนิดๆ “อุ๊ย..ทำไมกูต้องมาเจ็บอยู่คนเดียววะ” นิ่วหน้ารู้สึกเจ็บท้องมากขึ้น “เอ่อ....” ปรียากมลส่งเสียงไม่พอใจมองท้องตัวเอง “ไอ้ลูกเวร...น่าจะเอามึงออกให้รู้แล้วรู้รอดเพราะพ่อมึงหลอกกูว่าจะกลับมาซื้อบ้าน เฮอะ...ไอ้ทุเรศจอร์จ เจอกัน กูจะฆ่าซะเลย” ทุกคำพูดพึมพำอยู่ในคอ ด้วยความแค้นเคืองใจ
จู่ๆ ปรียากมลก็รู้สึกเจ็บท้องจี๊ดขึ้นมาร้อง “โอ๊ย” ตัวงอลง
เพื่อนบ้าน 2 คนนั้น หันขวับมาทันที

อีกเหตุการณ์ที่ปรียากมลลืมไม่ลง
ที่บริเวณไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่ง ปรียากมลท้องโตมากแล้ว หน้าตาทรุดโทรม แม้จะพันหัวพันคอ แต่งมิดชิด แต่ยังเผยให้เห็นหน้าทุกข์ระทม หมองคล้ำ
ปรียากมลทำงาน ในบริเวณที่คนงานหญิงทำกัน เหนื่อย ท้อใจ ทำไม่ค่อยไหว หน้าคะมำจวนจะล้ม เจ็บขา เจ็บแขน ทำด้วยความยากลำบาก สุดท้ายเกลียดท้องตัวเอง เกลียดสายเลือดในท้องตัวเองเหลือเกิน

ปรียากมลดึงตัวเองกลับมา ยังนั่งอยู่ท่าเดิม และนั่งริมหน้าต่างอย่างเก่า
จู่ๆ เสียงร้องปวดท้องของตัวเองดังมาจากด้านใน ปรียากมลปวดมาก พร้อมๆ กับที่เสียงร้องไห้จ้าของเด็กแรกเกิดดังก้องอยู่ในหัว
ปรียากมลหลับตานิ่ง เหมือนความเจ็บปวดตอนนั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง

วันรุ่งขึ้น
ขณะที่เฉลยยืนอยู่ที่ประตูบ้านรัตนชาติพัลลภ ทอดสายตามองออกไป สีหน้าเฉลยคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ เมื่อเห็นดอกโศกเดินก้มหน้าก้มตามาตามทาง ตรงขึ้นมายังบริเวณหน้าตึกใหญ่ ก่อนจะเข้ามาในบ้าน มองขึ้นไปชั้นบน
วิชัยที่ไปเปิดประตูให้ดอกโศก เดินไวๆ แยกไปอีกทาง
ดอกโศกอดนึกถึงความหลังต่างๆ ในบ้านผู้ดีตระกูลเก่าหลังนี้ ตอนตัวเองถูกทารุณตั้งแต่เด็กๆ จนโตขึ้นมา แต่เสียงคุ้นหูของเฉลยก็ดึงดอกโศกออกจากภวังค์
“คุณอภิรมย์” เฉลยเรียกมาจากข้างหลัง
ดอกโศกหันขวับมา “ป้าเฉลย” แล้วไหว้อย่างนอบน้อม “อยู่ตรงนี้นานแล้วหรือคะ”
“เห็นตั้งแต่คุณเดินเข้ามา”
“ทำไมไม่ทักหนูล่ะคะ”
“มัวแต่ดีใจเห็นคุณมา คุณสบายดีหรือคะ”
“ค่ะ...หนูสบายดี”
เฉลยเดินนำ ดอกโศกเดินไปด้วย “คุณเอนท์ที่ไหน คุณอ้นคุณอุ๊ก็เอนท์ค่ะ เห็นดูหนังสือกันใหญ่”
ระหว่างนั้นจิ๋วเดินถือไม้กวาดขนไก่เข้ามา เห็นเข้ายิ้มทักทาย ก้มตัวนิดๆ แล้วไป
“หนูจะเรียนที่ ม.สุโขทัยค่ะป้าเฉลยเพราะหนูจะทำงานด้วย”
“โธ่ ทำไมคะ คุณไม่มีเงินมาเอาที่ดิฉันก็ได้ มีเงินที่ท่านให้ไว้ยังไม่ได้ใช้เลย”
ดอกโศกยิ้ม “โถ...ป้าเฉลยใจดีจัง ขอบคุณนะคะ”
เฉลยนึกได้ “อ้อ...อุ๊ย แต่คุณย่าคุณรวย แหมดิฉันลืมไป...บังอาจซะจริง”
ดอกโศกขำ “หนูมาหาน้าสวยค่ะ อยู่มั้ยคะ”

สุดสวยหลับอยู่ในห้องทำงานพ่อ นอนหมอนทรงสูงอ้าปากนิดๆ แขนทอดยาว มีรูปคุณตาอยู่ในมือ ถือแบบเกร็งๆ จิกๆ ประมาณว่าจิตใจว้าวุ่นก่อนหลับ
ดอกโศกมองสงสารเหลือเกิน “โถ.....น้าสวย”
สุดสวยลืมตา อ้าปากหาวยาว บิดตัวไปมากิริยาคนไม่ค่อยปกติ เอารูปคุณตามามอง แล้วเอามากอด เรียก “คุณพ่อ คุณพ่อ” ซบหน้ากับรูป น้ำตาหยด มือดอกโศกแตะแขน สุดสวยเงยหน้าดูแล้วเบะนิดๆ อ้าแขนหา ดอกโศกรับไว้ตบหลังปลอบโยน
สุดสวยหันมาเห็นเฉลย “ไป” ไล่ “บอกน้าว่าคุณพ่อจะมา...ไม่เห็นมาเลย”
“น้าสวยขา คุณตาเสียไปแล้วนะคะ”
“ตายเหรอ ไม่ตายหรอก ไปทำงานเดี๋ยวก็มา ใช่มั้ยเฉลย”
“ใช่ค่ะ”
“ป้าเฉลย ต้องบอกค่ะ น้าสวยคะ คุณตาเสียแล้วนะคะ ไม่มาแล้วค่ะ”
สุดสวยมองดอกโศกนิ่งนาน สายตารู้อยู่เต็มอก พยักหน้า น้ำตาค่อยๆ ไหลริน ซบหน้ากับรูปคุณตา

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 16/2 วันที่ 12 พ.ค. 55
ละครเรื่อง ดอกโศก บทประพันธ์ : ศรีทอง ลดาวัลย์
ละครเรื่อง ดอกโศก บทโทรทัศน์ : ศัลยา
ละครเรื่อง ดอกโศก กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ
ละครเรื่อง ดอกโศก ผลิต : บ. เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง ดอกโศก แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง ดอกโศก ออกอากาศทุกวัน จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ททบ. 5
ที่มา manager.co.th
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ