อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 14/4 วันที่ 5 พ.ค. 55

{[['']]}
อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 14/4 วันที่ 5 พ.ค. 55
สอง คนอยู่ในห้อง ตระกูลเอื้อมมือจะกอด จะจูบ ปรียากมล เบี่ยงตัว จับมือตระกูลถอยไป เดินไปหยิบถ้วย 2 ใบวางแรงๆ จะชงกาแฟ รินน้ำร้อนและเปิดขวดกาแฟ ตระกูล ตามไปพันพัว
“จะชงกาแฟ” น้ำเสียงเริ่มรำคาญ
ตระกูลจูบต้นคอ “หอมจัง”
“ถ้าไม่หยุด ฉันจะเอาน้ำร้อนนี่สาดคุณ”
ตระกูลหยุดชะงักสักอึดใจ แล้วต่อ...รุกหนักขึ้น “ก็อยากหอมทำไม”
ปรียากมล หันกลับไป ยกถ้วยกาแฟร้อนๆ สาดเข้าไปที่กลางลำตัว ต่ำกว่าเอวหน่อยหนึ่ง...เข้าไปพอดีๆ ตรงเป๊ะ
ตระกูลร้องจ๊าก กระโดดโหยง แต่มันไม่ร้อนมากหรอก
“เอาจริงเหรอเนี่ย” ตระกูลคราง
“หยุดหรือยัง...จะหยุดมั้ย”
“โห...” เดินไปนั่ง ลงอย่างแรง “ถึงไม่อยากก็ต้องหยุดล่ะ คร๊าบ”
“จำไว้...ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ผู้ชายจะบอกว่าเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น อย่างนั้นคุณต้องไปอีกที่”
“ผมขอโทษปรียากมล”
ปรียากมลมองดูหน้า ใจเริ่มอ่อนลงนิด “คุณเพ็ญพักตร์เขาว่าไงมั่ง คุณไม่เคยไปค้างที่ไหนเลยใช่มั้ย”
“เคย...”
“เอ๊า...งั้นก็ไม่เป็นไรสิ”
“เป็น”
“เป็นอะไร”
“เขาไล่ผมออกจากบ้าน”
“โอ้ย เรื่องเล็ก บ้านนั้นคุณอยู่มานานเท่าไหร่ เท่าอายุลูกคุณใช่มั้ย ใครจะไล่ง่ายๆ เอาไว้อีกซักห้าวันเจ็ดวันคุณก็เข้าได้แล้ว ตอนนั้นเค้ากำลังคิดถึงพอดี เคยเห็นกันทุกวัน”
“ไม่หรอกเขาไล่จริง”
ปรียากมลนิ่งไป
“ผมคง...ลำบากเหมือนกัน บางทีอาจไปอยู่เชียงใหม่” ตระกูลบอก
“อยู่กะใครที่เชียงใหม่ อ๋อ....ไปทำงานโรงงานเซรามิก line ใหม่ของบริษัทน่ะเหรอ”
ตระกูลพยักหน้า
“ก็ดีนี่ ห่างเขาซักพัก”
ตระกูลผวาเข้ากอดอย่างแนบแน่น “ไม่ดีตรงคิดถึงคุณ ผมก็เลยจะไม่ไป”
“จะบ้าเหรอตระกูล ชั้นกับคุณ...มันไม่ใช่หรอกนะ มันเป็นแค่อุบัติเหตุทางกายเท่านั้น”
“อะไรนะ....อุบัติเหตุทางกาย เอามาจากไหน”
“ไม่รู้จากละครทีวีมั้ง” ปรียากมลลุกขึ้น “กลับได้แล้วตระกูล ฉันจะออกไปข้างนอก”
ตระกูลเข้ามาอีก “เดี๋ยวสิปรียากมล”
“ยังไม่เข็ดใช่มั้ย” ปรียากมลฮุคขวาเต็มแรง....เปรี้ยง...ที่ท้อง
คราวนี้ตระกูลตัวงอ คว่ำลง.... แล้วหันหน้าขึ้นมาช้าๆ ปรียากมลหยิบกระเป๋า กุญแจรถเดินออกไป เสียงฝีเท้าดังก้องและปิดประตูดังเปรี้ยง


ปรียากมลนั่งอยู่ที่คนขับ คิดถึงอัศนัยเหลือเกิน ถอดแว่นตา หงายหน้าพิงพนัก น้ำตาคลอๆ หลับตาลงช้าๆ
“อัศนัย...อัศนัย” ปรียากมลครางเบาๆ
หวนนึกถึงภาพตอนที่อัศนัยแสนดีกับตนเอง ภาพตอนอัศนัย ยิ้ม...พูดด้วย หัวเราะ พูดเย้าหยอก
ภาพอัศนัยหล่อ..ดูแจ่มใส อารมรณ์ดี
ปรียากมลน้ำตาชุ่มโชกใบหน้าแล้ว “ฉันคิดถึงคุณ” น้ำเสียงนั้นแสนเบาหวิว

เย็นวันนั้น อัศนัยเดินเข้ามาในโรงแรม เดินเร็วๆ สายตามองหาดอกโศก
อัศนัยเดินเข้าไปหาพนักงานคนหนึ่ง พูดเบาๆ “คุณแอนเจล่า”
“ค่ะ” พนักงานเดินกลับไป
อัศนัยยืนคอยสักครู่
พนักงานเดินมาบอก “คุณแอนเจล่าให้บอกว่ายังไม่กลับค่ะ”

เสียงเคาะประตูทันที อัศนัยเปิดประตูเข้ามาเลย ภักดิ์ภูมิกำลังบอกใจเอื้อจดงาน ดอกโศกนั่งอยู่ใกล้ๆ ใจเอื้อ ศึกษางานไปด้วย ดอกโศกขยับตัว
“สวัสดีครับ คุณภักดิ์ภูมิ ขอโทษครับ” อัศนัยทักทาย
“ครับ” ภักดิ์ภูมิลุกขึ้นยืนรับแขก
“ผมมารับดอกโศกครับ” อัศนัยจับแขนดอกโศก...บีบแน่น
“แอนเจล่ามีงานที่ต้องอยู่ทำยังไม่เสร็จครับคุณอัศนัย” น้ำเสียงนุ่ม เรียบร้อย สุภาพ “ผมต้องขอโทษด้วยที่ต้องขอให้กลับค่ำหน่อย”
อัศนัยอึ้ง...เขามาแบบเรียบร้อย ยิ้มแย้ม เลยไม่รู้จะทำวิธีไหน “งั้น...ฉันจะรอนะดอกโศก” ค้อมหัวให้ภักดิ์ภูมิ “ผมหวังว่าคงไม่ต้องอยู่จนดึกเกินไป ขอบคุณครับ”
พูดจบอัศนัยปล่อยแขนดอกโศก แขนข้างที่ถูกปล่อยแรงนิดหนึ่ง จนแขนตกไปกระทบตัก
อัศนัยเดินกลับไปแล้ว ดอกโศกนิ่งอึ้ง ใจเอื้อพึมพำขอตัวแล้วลุกเดินออกไป
ภักดิ์ภูมิก็นิ่งอึ้งเหมือนกัน

ที่ห้องพักของมิสซีสเบนส์ในโรงแรม เวลานั้น สองย่าหลานคุยกันอยู่
“แอนเจล่ามี boyfriend แล้ว ฉันเสียใจนะเอ็ดดี้”
“Yes…grandma….I Know”
“You ‘re gentleman. You know what you must not do? - หลานเป็นสุภาพบุรุษ รู้นะว่าต้องทำไง”
เอ็ดดี้รับคำ “ครับ....แกรนด์มา ผมไม่แย่งใคร”
“เราจะกลับหัวหิน” มิสซีสเบนส์เอ่ยขึ้น
“Why so soon” เอ็ดดี้งง
“ย่าจะพาแอนเจล่าไปด้วย” สีหน้าหญิงชราผู้เป็นย่าลึกล้ำ บอกความนัย
เอ็ดดี้มองแล้วเข้าใจทันทีว่าคุณย่าเปิดทางให้ตน
“ที่นั่นจะมีแต่แอนเจล่ากับเอ็ดดี้” มิสซีสเบนส์สำทับ

อัศนัยมานั่งคอยดอกโศกอยู่แล้วที่ลอบบี้โรงแรม ในขณะที่ปรียากมล นั่งกุมหัว กิริยาโศกเศร้า

ดอกโศกนั่งเขียนงานในกระดาษ เหมือนจัดตารางเวลา ภักดิ์ภูมินั่งจ้อง จิตใจว้าวุ่น ดอกโศกหยุดเขียน วางปากกายกมือกุมขมับ เหมือนคิดไม่ตก
“แอนเจล่า...กลับเถอะ มาผมเดินไปส่ง” ภักดิ์ภูมิเดินถึงโต๊ะดอกโศก
ฉัตรทองเคาะแล้วเปิดประตูเข้ามาทันที
ภักดิ์ภูมิหันไป “ฉัตร”
“เด็กบอกว่าพี่ภูมิยังอยู่ ฉัตรก็เลยจะมา...”
“พี่เสร็จพอดี แอนเจล่ากำลังจะกลับคุณอัศนัยคอยอยู่”
“ค่ะ ฉัตรเห็นนั่งคอยอยู่ที่ลอบบี้ อ๋อ คอยแอนเจล่าหรือคะ”
“ค่ะ....”
“โถ...ปล่อยให้แฟนนั่งคอย” ฉัตรทองว่า
“เพิ่งเสร็จค่ะ” ดอกโศกหยิบกระเป๋าสะพาย
“เราเดินไปส่งแอนเจล่ากันเถอะ” ภักดิ์ภูมิบอก

ทั้งสี่คน ยืนพูดคุยกันนิดหน่อย แล้วไหว้ร่ำลากัน
อัศนัยพาดอกโศกไปข้างหน้า ภักดิ์ภูมิและฉัตรทองเดินมา
“หิวข้าวหรือยังครับฉัตร” ภักดิ์ภูมิถาม
ฉัตรทองกัดปากแน่น รู้สึกใจเต้นแรง เพราะเห็นสายตาภักดิ์ภูมิมองดอกโศก
“ฉัตรครับ”
ฉัตรทองสะบัดมือภักดิ์ภูมิที่จูงอยู่แรงๆ อย่างจงใจ “ฉัตรจะกลับ”
ภักดิ์ภูมิ อึ้ง งงงวย “ฉัตร...เป็นอะไร”
“รู้ทุกอย่าง..ถามทำไม” เดินหายไปทันที
ภักดิ์ภูมิทำสีหน้ารู้จริ้งๆ

ภายในห้องวาดรูปบ้านอัศนัย สองคนมองรูปวาดของดอกโศกเลื่อนจากอีกรูปหนึ่ง...ไปอีกรูป,,,อีกรูป
แสดงตามวันเวลา ครั้งแรกที่พบ และต่อไป...ต่อไป
มีเสียงอัศนัยบรรยายประกอบ “ประจักษ์พยานว่าคุณนัยไม่เคยมีใครเลยนอกจาก.......”
อัศนัยแตะคางดอกโศกให้เงยขึ้น ก้มลงจนปากเคลียคลอกับริมฝีปากดอกโศก
“คนนี้คนเดียว”
ดอกโศกหลับตา รับความหวานจากจูบแรกในชีวิต อัศนัยจูบแผ่ว...อย่างทะนุถนอม ดอกโศก โอบแขนไปรอบคออัศนัย
อัศนัยจูบเลื่อนไปที่แก้มที่จมูก แล้วขึ้นไปที่นัยน์ตา หน้าผาก ดอกโศก หลับตา มีหยาดน้ำตาหยุดที่ปลายตา
อัศนัยปาดน้ำตาให้ “ร้องไห้ทำไมจ๊ะ”
ดอกโศกส่ายหน้าไม่ตอบ ก้มหน้างุด
“ไม่ร้องนะ คนดีของคุณนัย”
ดอกโศกสะอื้นแผ่วๆ เบนหน้าหนี...อายแสนอาย
อัศนัยตามไปจูบจนทั่วหน้า แล้วมาหยุดที่ปากแต่ยังไม่จูบยั้งไว้เอ่ยขึ้น “ดอกโศก....”
ดอกโศกมองสบตา สายตาเป็นคำถาม
อัศนัยจูบที่ปาก แผ่วเบา แต่นิ่งนาน สักครู่หนึ่งถอนปากออกนิ้วแตะริมฝีปากดอกโศก
“ปากหวานเป็นยังไง...เพิ่งรู้วันนี้”
“ไม่จริง” ดอกโศกตื้นตันจนเสียงสั่น
“งั้นต้องพิสูน์อีกที” อัศนัยก้มหน้าลงไป
“ไม่ค่ะ” ดอกโศก เบี่ยงตัวหลบ แล้วดึงตัวเองออกมาจากอ้อมกอด
ดอกโศกเดินไป อัศนัยฉวยแขนจนหันกลับมาหา มองตากันนิ่ง
อัศนัยประคองหน้าดอกโศกทั้งสองมือ แล้วดึงเข้ามาในอ้อมกอด กอดเบาๆ อย่างทะนุถนอม
“ไม่ต้องกลัวนะคนดี คุณนัยรักดอกโศกที่สุดจะถนอมไม่ให้ต้องช้ำเลย” เสียงแผ่วแต่ชัดเจน ไม่รัวเร็ว
“ดอกโศกขออย่างเดียวค่ะ”
“ขอเลย....ให้ทุกอย่าง”
ดอกโศกตั้งใจพูดเสียงเบาๆ แต่น้ำเสียงนั้นกังวานมั่นคง มองตาอัศนัยตลอดเวลา
“ดอกโศกเคยอ่านพบมีคนเขียนไว้ว่า “ดอกรักบานในหัวใจใครทั้งโลก....แต่ดอกโศก....” หยุดมองอัศนัย
อัศนัยมองตั้งใจฟังต่อ
“...แต่ดอกโศกบานในหัวใจฉัน”
อัศนัยพูดสวนคำทันที “ไม่มีวัน”
“ใครจะทำให้ดอกโศกบานในหัวใจดอกโศกก็ได้ ขออย่าให้เป็นคุณนัยคนเดียว”
“แน่นอนคุณนัยจะเป็นคนเดียวที่ไม่มีวันจะทำอย่างนั้น ต่อไปนี้ดอกโศกจะโศกแต่ชื่อเท่านั้น”
ดอกโศกพนมมือกราบลงที่หัวใจอัศนัย
อัศนัยกอดเต็มอ้อมแขน “รักดอกโศกที่สุดนะ รักคุณนัยแค่ไหน”
“เท่ากันค่ะ”
“ฮื้อ น้อยกว่า”
“ไม่น้อยกว่า”
“น้อย” อัศนัยเย้าแซว ขำๆ
“ไม่”
“เชื่อได้ยังไง”
“ก็ที่สุดเหมือนกัน”
อัศนัยหัวเราะชอบใจ จับจมูกสั่นเบาๆ
อัศนัยกอดอีกที ดอกโศกก็โอนอ่อนตาม ตอบสนองด้วยการกอดตอบ จูบตอบอย่างนุ่มนวล อ่อนโยน ซาบซึ้ง

ปรียากมลขับรถมา จอด นั่งนิ่งมองเข้าไปในบ้าน

“อีกเดือนเดียวก็ต้องไปเรียนแล้วนะ” อัศนัยว่าพลางจัดผมที่รุ่ยร่ายนิดหน่อยให้เข้าที่
“ค่ะ....ดอโศกตื่นเต้นจัง”
“ห้ามนะ”
“ค่ะ” ดอกโศกรับคำ
“รู้ด้วย...อะไร”
ดอกโศกบอก “ห้ามไม่ให้คุยกับเพื่อนผู้ชาย”
“โอ๊ะ...แหม คุณนัยไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า คุยด้ายแต่....”
ดอกโศกต่อให้อีกคำ “ไม่คุยก็ดี”
อัศนัยหัวเราะขำ “ไม่หรอก คุณนัยเชื่อใจดอกโศกที่สุดในโลก ไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงคนไหนที่ดื้อเหมือน”
“อ้าว!”
“หมายความว่า เชื่อความคิดตัวเองอย่างมาก...มาก...มาก เช่นตัวอย่างนะ ไม่ยอมให้ออกค่าเล่าเรียนให้”
คราวนี้ดอกโศกยิ้มรับ
“แกรนด์มาออกให้แล้วใช่ไม๊” อัศนัยหมายถึงมิสซีสเบนส์
“ไม่ค่ะ...ดอกโศกออกเอง ดอกโศกเป็นคนเรียนก็ต้องจ่ายเองสิคะ คนอื่นไม่ได้มาเรียนกับดอกโศกนี่”
“ทำไม คุณนัยเรียนก็ให้พ่อแม่จ่าย ใครๆ ก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น” พูดไปแล้วนึกขึ้นได้ หันขวับมามองดอกโศก “ขอโทษ”
ดอกโศกมองจ้องอัศนัย กดข่มความรู้สึกเศร้าหมองลงไป
อัศนัยอ้าแขนให้ ดอกโศกโผเข้าสู่อ้อมแขน
“คุณนัยเป็นพ่อให้ดอกโศกก็ได้”
ดอกโศกยิ้มนิดๆ
อัศนัยสัพยอก “เป็นแม่ให้ด้วย...เอ้า”

เวลานั้น ปรียากมล ยืนมองประตูเล็ก อยู่นอกบ้าน แล้วจับกดลงทันที หมายจะเปิดเข้าไป แต่ไม่ได้ ประตูล็อคไว้ ปรียากมลชะเง้อดู เห็นหมื่นไวๆ อยู่แถวๆพุ่มไม้
ปรียากมลร้องเรียก “หมื่น”
หมื่นเปิดประตูเล็ก ปรียากมลเดินเข้า หมื่นปิดประตูและตั้งท่าวิ่งจะไปบอกอัศนัย
ปรียากมลรู้ทัน “หยุด....ถ้าแกก้าวเกินฉันไป...มีเรื่องแน่”
“เอ้อ....ปวดท้องครับ” หมื่นใช้วิชาลื่น...
ปรียากมลเหลียวขวับมา ยืนประจันหน้า “ฉันมีธุระสำคัญจะพูดกับคุณนัย แกคิดว่าฉันจะไปฆ่าเขาหรือถึงต้องรีบวิ่งไปบอกเขา...ว่าไง....ฉันนี่มันโจรผู้ร้ายใจโหดหรือไง”
หมื่นจ๋อย
“คุยซัก 2-3 คำเท่านั้น แล้วฉันก็จะไป” ปรียากมลบอก

เวลาเดียวกัน ดอกโศกวางถ้วยกาแฟที่ไปชงมาให้ตรงหน้าอัศนัย พูดเย้า
“ลูกชงกาแฟมาให้พ่อแม่ค่ะ”
อัศนัยฟังแล้วอดขำไม่ได้ “ไม่...เสียใจหรือ พ่อแม่ไม่รู้อยู่ไหน”
“เกินเสียใจแล้วค่ะ”
“คนเก่ง....ตัวจริง” อัศนัยยิ้ม

ด้านปรียากมล เดินมาตามถนนในบ้านด้วยฝีเท้ามั่นคง ตรงมาเรื่อยๆ หมื่นตามมาห่างๆ สีหน้าปรียากมลสงบนิ่ง ได้ยินเสียงที่เตรียมมาเพื่อจะพูดกับอัศนัยดังก้องในใจ
“คุณโทษฉันไม่ได้ ฉันไม่อยากผิดสัญญาที่ว่าจะไม่มาหาคุณอีกแต่ต้องโทษความคิดถึง...ฉันคิดถึงคุณมากที่สุดจนฉันไม่มาหาคุณไม่ได้”

ปรียากมลเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ จนถึงประตูหน้าบ้าน ยินเสียงพูดกันในบ้านเบาๆ
“ป้าหม่อน..ป้าหม่อนครับ”
ปรียากมลยืนคอย
“อ้อ ป้าหม่อน”
“คะ คุณนัย”
“ผมซื้อของไว้ให้ดอกโศก อยู่ในห้องผม”
“เห็นแล้วค่ะ ให้เอามาใช่มั้ยคะ”
“ช่วยหน่อย ขอบคุณมาก....ผมจะได้ให้ดอกโศกไปวันนี้เลย”
ปรียากมลได้ยินเต็มสองหู ถอยไปสองก้าว แล้วหันหลังกลับ จะเดินออกไป
อัศนัยเรียกไว้ “ปรียากมล”
ปรียากมลหยุดกึก
“คุณจะไปไหน” อัศนัยถาม
ปรียากมลหันกลับเดินเข้าไปหาอัศนัย เป็นจังหวะเดียวกับที่ ดอกโศกเดินออกมาพอดี

ทั้งสองคนหยุดมองหน้ากัน แต่ด้วยความรู้สึกที่แปลกต่าง คนหนึ่งเป็นแม่ อีกคนไม่รู้ว่าตนนั้นเป็นเลือดเนื้อ...ของผู้หญิงตรงหน้า!!!
จากสอง...กลายเป็นสาม อัศนัยมองดอกโศก แล้วมองปรียากมล สามคนยืนประจันหน้ากัน

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 14/4 วันที่ 5 พ.ค. 55
ละครเรื่อง ดอกโศก บทประพันธ์ : ศรีทอง ลดาวัลย์
ละครเรื่อง ดอกโศก บทโทรทัศน์ : ศัลยา
ละครเรื่อง ดอกโศก กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ
ละครเรื่อง ดอกโศก ผลิต : บ. เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง ดอกโศก แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง ดอกโศก ออกอากาศทุกวัน จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ททบ. 5
ที่มา manager.co.th
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ