อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 14/3 วันที่ 5 พ.ค. 55

{[['']]}
อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 14/3 วันที่ 5 พ.ค. 55
เช้า ตรู่วันหนึ่ง ภายในห้องนอนปรียากมล ตระกูลหลับสนิท ลืมตาขึ้นมาอาการงงนิดๆ แล้วลุกขึ้นนั่งเอนๆ เห็นปรียากมลนั่งห้อยเท้าอยู่ข้างเตียง หันหลังให้ใส่เสื้อคลุมนอน นั่งกุมหัวอยู่ในกิริยาครุ่นคิดเหนื่อยหน่าย
“ปรียากมล” ตระกูลเรียก
ปรียากมลหันหลังมาสีหน้าเรียบเฉย “ป่านนี้คุณเพ็ญพักตร์ถือปืนคอยคุณแล้วมั้ง” ส่งเสื้อกางเกงให้ “รู้มั้ยนี่ตี 5 แล้ว”
ตระกูลดึงเสื้อกางเกงไปอย่างรวดเร็ว
ครู่เดียวเท่านั้น ปรียากมลถือกาแฟยืนจิบอยู่ ตระกูลมาเร็วๆ แล้วเข้ามากอด
ปรียากมลยืนนิ่งสักครู่ ดันตัวตระกูลออกไป
“รีบไป”

“ผมไม่อยากไปเลย” ตระกูลออดอ้อน
“รีบไปเร็วๆ”
“ปรียากมล” ตระกูลจับมือปรัยากมลขึ้นมาจูบ “ขอบคุณมาก ขอบคุณที่คุณ....” จะพูดต่อเรื่อง...เมื่อคืน
“ไม่ต้องขอบคุณให้มากความ มันไม่ได้เกิดจากความรู้สึกอะไรทั้งสิ้น”
ตระกูลยืนนิ่งอึ้ง เพราะรู้อยู่เต็มอก
“แต่ก็....แล้วค่อยคุยกัน วันนี้คุณไปก่อน”
“ผมรักคุณ...ขอให้คุณรู้ไว้แค่นี้และผมพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้คุณ” ตระกูลออกไปอย่างรวดเร็ว

เช้ามืดวันเดียวกันนั้น ไม่นานต่อมาตระกูลเปิดประตูค่อยๆ เข้ามาในห้อง เสื้อผ้าของตระกูลทั้งกอง ลอยเข้ามาเต็มๆ หน้า ไม่บอกก็รู้ว่า เพ็ญพักตร์รอเอาเรื่องอยู่แล้วทั้งคืน
“คุณเพ็ญ...อะไรกันเนี่ย”
“ไปอยู่กับมัน...ไปวันนี้เลย วันไหนฉันจัดการเรื่องหย่าเสร็จ ฉันจะส่งไปให้เซ็น แล้วอย่าหวังว่าจะได้แบ่งอะไรไป” เพ็ญพักตร์ไล่ตะเพิด
ตระกูลยืนนิ่ง อึดอัดเต็มกลืน
“มาแต่ตัวก็ไปแต่ตัว...ไป...ไปเลย” เพ็ญพักตร์พูดสำทับ
“ผมก็ไม่เอาอะไร...เอาแค่ที่มีสิทธิ์” ตระกูลบอก
เพ็ญพักตร์วีนแตก คว้าอะไรตรงนั้นได้ ปาไปเต็มแรง
“นี่แน่ะ แค่มีสิทธิ์ ทุเรศ...ทุกอย่างมันเป็นสินเดิม...นึกว่าชั้นโง่เหรอ...ไป๊”


อุ๊ยืนปิดปากแน่นอยู่หน้าห้อง เนื้อตัวสั่นเทา น้ำตาเต็มหน้า สุดสวยเปิดประตูวิ่งออกมาจากห้องตัวเอง ทั้งชุดนอน
“ใครเป็นอะไร...ใคร...อุ๊ เสียงแม่เธอนี่ เป็นอะไร”
อุ๊ตวาด “อย่ายุ่ง”
“อะไรนะ...ตวาดชั้นเหรอ...ฮะ แกจะบ้าเหรอ...บ้าเหรอ...บ้าเหรอ”
อุ๊ผลักสุดสวยไปเต็มแรง สุดสวยกรี๊ดลั่นบ้าน

ตอนสายวันนั้น อุ๊มาทำงานในฐานะเลขาของอัศนัย อุ๊สวมแว่นตาดำตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนดูสมุดนัดหมายของอัศนัย และแจ้งคิวงาน
“เช้านี้....ผู้จัดการอัศวาเซรามิกจะมาพบอานัย เขาจะพาลูกค้าคือ G.M.โรงแรมแกรนด์ไฮแอทภูพนามาพบ อานัยต้อง sign contract ด้วยค่ะเขาจะสั่งสินค้าของเรา ทานกลางวันกับเพรสซิเดนท์แผนกลูกค้าสัมพันธ์ของอมตะคอร์ปอเรชั่นเขาจะสั่งสินค้าเราล็อตใหญ่ปีใหม่นี้ บ่ายอานัยมีนัดประชุมที่....” กิริยาของอุ๊ดูฝืนให้เป็นปกติเต็มที่
อัศนัยรับรู้แล้ว “อุ๊....เป็นอะไร”
“คะ...เปล่านี่คะ”
“ถอดแว่นซิ”
อุ๊จับแว่นตาดำอันโต แต่ไม่ถอด “ไม่...ไม่มีอะไรค่ะ”
“มา...อาถอดเอง” อัศนัยถอดแว่นออก “เป็นอะไรบอกอาซิ” เอามือแตะคางเบาๆ “นัยน์ตาบวมอย่างนี้ร้องไห้ทั้งคืนสิ”
อุ๊หมดความอดทนแล้ว ร้องไห้ประดังขึ้นมา แน่นอกไปหมด
อัศนัยตกใจไปเหมือนกัน “ใครเป็นอะไรหรืออุ๊...ใคร คุณพ่อหรือคุณแม่”
อุ๊ก้มลงร้องไห้เต็มแรง อัศนัยตบไหล่ปลอบ
อุ๊เอนตัวเข้าหาอ้อมอก อัศนัยลูบหลังปลอบโยนอยู่ไปมา
อุ๊ รู้สึกดีขึ้นแล้ว สอดแขนโอบรอบตัวอัศนัย เหมือนหาที่ยึดเหนี่ยว ความรู้สึกตื้นตันฉายชัดเต็มหน้า

เวลาเดียวกัน สองคนย่ากับหลานชาย หารือกันอยู่ในโรงแรม
“He wants us moving to his hotel. - เขาอยากให้เราย้ายไปโรงแรมของเขา” เอ็ดดี้เอ่ยขึ้น
“No, I don ‘t think so - ย่าไม่ไป” มิสซีสเบนส์บอก
“Why not grandma. - ทำไมครับย่า”
“Because Angela has to move with us. Do you like it. - เพราะแอนเจล่าต้องไปกับเรา เธอชอบหรือ”
“I still do not understand - ผมยังไม่เข้าใจ”
“เอ็ดดี้” มิสซีสเบนส์พูดเสียงช้า ชัดๆ “เธอคือเด็กน้อย เธออยากให้แอนเจล่าใกล้ชิดกับภักดิ์ภูมิมากกว่าเวลาทำงานด้วยกันรึ”
“อา....ผมเข้าใจแล้ว ผมไม่แคร์ภักดิ์ภูมิ อัศนัยต่างหาก”
“Both…..Eddie…both - ทั้งสองคน...เอ็ดดี้ ทั้งสองคน” มิสซีสเบนส์บอก

ภักดิ์ภูมิเข้ามาห้องทำงาน เห็นดอกโศกอยู่ในห้องแล้ว
“แอนเจล่า” ภักดิ์ภูมิเดินเข้ามาเร็วรี่ “ผมคิดว่าจะมาก่อนคุณ...ไม่ทันอีกตามเคย”
ดอกโศกยิ้มแจ่มใส “ดิฉันตื่นแต่เช้าจนชินค่ะ”
“ตื่นมาทำไมหรือครับ” เป็นความรู้ใหม่สำหรับชายหนุ่ม
“ทำขนมค่ะ ยายดิฉันขายขนมหลายอย่าง ขนมไทยทำยุ่งยากมาก”
ภักดิ์ภูมิแปลกใจ “คุณทำได้ด้วยหรือ”
“ทำได้ทุกอย่างค่ะ” ดอกโศกบอก ยิ้มๆ
“ไม่อร่อยมั้ง ท่าทางคุณน่าจะทำขนมเค้กอร่อยกว่า”
คราวนี้ดอกโศกหัวเราะเบาๆ “ทำไม่เป็นซักอย่างขนมฝรั่ง”
ภักดิ์ภูมิมองดอกโศกเพลินตา ใบหน้าสวยแจ่มกระจ่าง
ดอกโศก ค่อยๆ คลายยิ้ม
“เอ้อ...วันนี้ผมมีนัดที่ไหนบ้างครับแอนเจล่า”
ดอกโศกหยิบสมุดเล่มเล็กๆ ออกมาเปิดดู
“เชิญทางนี้ดีกว่าครับ”
ดอกโศกลุกขึ้นตามไป ภักดิ์ภูมิทำมือให้ไปยืนริมหน้าต่าง มองออกไปเห็นต้นไม้เขียวชอุ่ม
ดอกโศกทำท่าจะอ่านสมุด ภักดิ์ภูมิบอกอยู่ในที เดี๋ยว...ดูนี่ก่อน
“ผมชอบยืนตรงนี้ มองออกไปดูสวน แอนเจล่าดูสิครับ...” ภักดิ์ภูมิชี้ออกไป “ตรงโน้น ต้นไม้หมู่โน้น..ผมปลูกกับมือทุกต้น”
“เหรอคะ...ไหนคะ”
ภักดิ์ภูมิชี้ และแตะตัวดอกโศกอย่างสุภาพให้มาใกล้หน้าต่าง “เมื่อประมาณยี่สิบปีที่แล้ว คุณแม่พาผมมาปลูกต้นไม้ใหญ่รอบบริเวณ ที่ดินนี้เป็นมรดกของท่าน”
“ท่านคงเป็นคนที่อ่อนโยนมาก ท่านถึงคิดอะไรที่ดีๆ มากๆ ล่วงหน้าตั้งเป็นสิบปี” ดอกโศกว่า
“ครับ เราไม่มีต้นไม้ที่ซื้อมาลงตอนโตเลย ต้นไม้ของเราปลูกตั้งแต่ยังเป็นกล้าทุกต้น”
ระหว่างนั้นฉัตรทองเปิดประตูเข้ามาไม่ได้เคาะประตูเช่นทุกครั้ง เห็นสองคนดูใกล้ชิดกันมาก
ฉัตรทองจ้อง ภักดิ์ภูมิพูด ดอกโศกเงยหน้าขึ้นฟัง ยิ้มแย้มกัน ฉัตรทอง ค่อยๆ ถอยและปิดประตูเบาๆ

ฉัตรทองยืนพิงผนังหน้าห้อง เงยหน้าไม่ให้น้ำตาไหล กัดฟันแน่น

ในห้องเวลานั้น ภักดิ์ภูมิ กับดอกโศกคุยกันต่อ
“ผมบอกชื่อต้นไม้ได้ทุกต้นเพราะทุกต้นมีความทรงจำ”
ดอกโศกมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของภักดิ์ภูมิ
สีหน้าภักดิ์ภูมิ ละมุนละไม ยิ้มนิดๆ มองออกไปข้างนอก
“ความทรงจำของผมกับคุณแม่แต่ไม่มีคุณพ่อเพราะท่านอยู่กับภรรยาใหม่และลูกใหม่ของท่าน”
“โถ....” ความสงสารพลุ่งขึ้นมา เพราะเหมือนชีวิตตนเอง
ภักดิ์ภูมิ หันกลับมามองดอกโศก “โถ...ไม่มีใครพูดคำนี้ได้เพราะเท่าคุณ”
สองคนจ้องมองกันสักอึดใจหนึ่ง
“ดิฉันไม่มีทั้งพ่อไม่มีทั้งแม่”
“โถ.....” คราวนี้ภักดิ์ภูมิทำเสียงล้อๆ
สองคนเลยหัวเราะกันเบาๆ ดอกโศกเดินมาจะนั่งหน้าโต๊ะภักดิ์ภูมิ
“คุณแม่คุณภักดิ์ภูมิ...ประทานโทษค่ะ ท่านอายุเท่าไหร่แล้ว”
ภักดิ์ภูมิเดินตามมา “ท่านหยุดอายุตัวเองไว้ที่ 65 ปีเท่านั้น”
ดอกโศกหันมา ตัวเซนิดๆ ภักดิ์ภูมิจับแขนจนทรงตัวยืนแล้วปล่อย
“ขอบคุณค่ะ....ท่านเอ้อ...ท่านคงคิดถึงสวนนี้มาก”
“ครับ เพราะท่านบอกผมจนถึงวันที่ท่านเจ็บหนักว่าถ้าจะต้องขยายโรงแรมแล้วต้องตัดต้นไม้ ท่านให้เลือกต้นไม้ไม่ต้องขยายโรงแรม”
“ท่าน...น่ารักมากค่ะ”
“ผมเสียดาย ท่านไม่ได้เห็นคุณ ท่านอยากมีลูกสาวเพราะชอบเด็กผู้หญิง ถ้าท่านเห็นคุณท่านคง...ชอบคุณมาก”
ดอกโศกหัวเราะนิดๆ ไม่รู้จะตอบอย่างไร “ขอบคุณค่ะ”
สายตาภักดิ์ภูมิมองดวงหน้าดอกโศกเพลินอีก แล้วนึกอะไรได้ ถอยออกมา
“วันนี้คุณอัศนัยจะมารับไปทานอาหารกลางวันหรือเปล่าครับแอนเจล่า” ภักดิ์ภูมิกลับไปนั่งที่โต๊ะ แสดงด้วยกิริยารู้ว่าเขามีแฟนแล้วต้องยับยั้งใจ
“ไม่ทราบคุณนัยมีนัดหรือเปล่า ถ้าไม่มีคงมาค่ะ”

เวลาเดียวกัน ที่ออฟฟิศอัศนัย เพ็ญตระการคุยปรับทุกข์อยู่อัศนัย ใต้เงาต้นไม้ร่มรื่นสวยงามในบริเวณโรงงาน มีคนงานเดินผ่านมาเป็นระยะ
“คุณพ่อคุณแม่เขาทะเลาะกันทุกวัน” อุ๊เล่าหน้าหมอง ความสะเทือนขึ้นมาเป็นริ้วๆ แล้ว
อัศนัยมอง คอยฟังต่อ
“เช้านี้คุณพ่อเพิ่งกลับบ้าน”
นัยน์ตาอัศนัย รู้แล้วว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับปรียากมล
“คุณแม่ไล่ให้ออกจากบ้าน” สะอึกสะอึ้นขึ้นมาอีก “บอกว่าคุณพ่อมาแต่ตัวให้ไปแต่ตัว”
“อุ๊....เรื่องของผู้ใหญ่ อุ๊เป็นเด็กอาอยากให้อุ๊ยังไม่ต้องรับรู้ หันมาตั้งใจดูหนังสือเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย...” อัศนัยปลอบ
อุ๊ฟัง
“อีกอย่าง เรื่องมันยังไม่จบ อุ๊อย่าเพิ่งคิดอะไรร้ายๆ ไปล่วงหน้า”
“อุ๊รู้จักคุณแม่ คุณแม่พูดคำไหนคำนั้น”
“เรื่องบางอย่างเปลี่ยนแปลงได้ คุณแม่อาจจะคิดใหม่ได้ ท่านคงไม่อยากให้อุ๊แยกจากคุณพ่อ”
“ไม่ ถ้าคุณพ่อไป” สีหน้าเพ็ญตระการนิ่งคิด “บางทีอุ๊จะไปกับคุณพ่อ”
เพ็ญพักตร์ยืนอยู่หลังต้นไม้ ได้ยินทั้งหมด เสียใจมาก
อัศนัยประหลาดใจ ถามเบาๆ “ทำไม”
“อยู่กับคุณพ่อไม่มีเรื่อง”

กลับบ้านรัตนชาติพัลลภมา เพ็ญพักตร์นั่งนิ่ง สายตาเจ็บช้ำ สลับเศร้า สลับแค้น แล้วคิดตรึกตรอง ด้วยสายตา
สุดสวยผ่านมา ตรงรี่เข้ามาทันที “พี่เพ็ญ...อุ๊ไปไหน อุ๊น่ะ...อุ๊ไปไหน”
เพ็ญพักตร์ไม่ตอบ ลุกขึ้น เดินจะขึ้นบ้าน
“พี่เพ็ญ ถามได้ยินมั้ย อุ๊น่ะ...อุ๊ไปไหน ตอบมาสิ”
“สุดสวย อย่าเพิ่งยุ่งกับชั้น” เพ็ญพักตร์บอกเสียงต่ำ..เบา
“ไม่...จะหาอุ๊....อุ๊ไปไหน” อารมณ์ขึ้นแล้ว เขย่าแขนพี่สาว
“ทำไม” เพ็ญพักตร์ปรี๊ดขึ้นมาเหมือนกัน “จะหายายอุ๊ทำไม ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวกับยายอุ๊”
“เกี่ยว....เกี่ยว......เกี่ยว”
“เกี่ยวอะไร ฮะ...ยายอุ๊มันไม่เกี่ยวกะคน...” เกือบหลุดคำว่าบ้า แต่ตัดใจเดินหนีไป
“อุ๊ร้องไห้....ร้องไห้มีน้ำตาเต็มเลย....ชั้นจะเช็ดน้ำตาให้มันเข้าใจมั้ยล่ะ...เข้าใจอ๊ะเปล่า...” สุดสวยว่า
เพ็ญพักตร์หยุดชะงักทันที หันหลังให้สุดสวย
สุดสวยเดินบ่นออกไป “จะไปหาผ้า....มาเช็ดน้ำตา...มาเช็ดน้ำตา”

เพ็ญพักตร์มองตามน้องสาว...สีหน้าอ่อนลง
เวลาต่อมา ดอกโศกนั่งดูจดหมายนัดของภักดิ์ภูมิอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวเอง ในขณะที่ภักดิ์ภูมิกำลังคุยเรื่องงานกับใจเอื้อ...เลขาสาวใหญ่วัย 40 ปีกว่าๆ บุคลิกเงียบนิ่ง เรียบร้อยทำงานเก่ง พูดน้อยได้ใจความ สองคนพูดกันเสียงเบาๆ พอได้ยิน

“ผมเห็นข่าวผู้ว่า ททท.ไปพูดที่สมาคมโรงแรมเรื่องวิสัยทัศน์ท่องเที่ยวไทย สำหรับ AEC ปีหนึ่งห้า พี่ใจเอื้อลองติดต่อโรงแรมให้รวมตัวกันเชิญมาพูดให้เราฟังก็ดีนะครับ”
“ค่ะ” ใจเอื้อจด ในสมุดเล่มเล็กๆ จดเร็วๆ แบบชวเลข “คุณภูมิรีบแค่ไหน”
“เร็วก็ดีครับพี่ใจเอื้อ เราจะได้รีบวางแผนงานตั้งแต่เนิ่นๆ ปีนี้ 12 เหลืออีก 3 ปีเท่านั้น”
“พรุ่งนี้บ่ายพี่ส่งรายงาน” ใจเอื้อลุกยืน หันมายิ้มให้ดอกโศกนิดหน่อย แล้วไป
“สมาร์ทจัง พรุ่งนี้บ่ายส่งรายงาน” ดอกโศกชื่นชม
“เราวางเป้าหมายเสมอทำให้เรารู้ว่าเส้นทางที่จะไปถึงใกล้-ไกลแค่ไหนอย่างเรื่องนี้พี่ใจเอื้อมีเวลาวันนี้กับเช้าพรุ่งนี้”
“แน่ใจยังไงคะว่าจะทำได้ในเวลานั้น”
“ประสบการณ์ เขาประเมินตัวเอง ประเมินตัวงาน เขาคิดว่าทำได้ เราตั้งเป้าไว้ไม่เสียเงินไม่ถึงเป้าตำรวจไม่จับ ถ้าถึงก็โอเคไปเลย”
ดอกโศกยิ้มหวาน “ดีจังค่ะ ดอกโศกจะทำมั่ง” พูดเร็วแบบเผลอไป
ภักดิ์ภูมิ มองดอกโศกนิ่งนาน
“เอ้อ....อะไรคะ”
ภักดิ์ภูมิ ลุกมายืนใกล้ “เรียกตัวเองว่าดอกโศกกับผมนะแอนเจล่า”
ดอกโศกยิ้มค้าง คิดถึงอัศนัย

ในวันที่สองคนคียงกันอยู่ที่สวนสวยแห่งหนึ่ง เวลานั้นใบหน้าอัศนัยใกล้หน้าดอกโศกมาก มองจ้องดอกโศก
“อย่าทำสายตาอย่างนี้กับใคร”
“ค่ะ”
อัศนัยเข้ามาใกล้ๆ แก้ม “อย่าเรียกตัวเองว่า ดอกโศกกับใคร เรียกได้กับคุณนัยคนเดียว”

เสียงภักดิ์ภูมิบอกย้ำ “นะ...ดอกโศก” ดึงดอกโศกออกมาจากภวังค์
“แอนเจล่าดีกว่าค่ะ”
ภักดิ์ภูมิหลุดปาก “ทำไม”
“เพราะว่าแอนเจล่าสัญญาว่าจะเรียกชื่อดอกโศกกับคุณนัยคนเดียวค่ะ” เสียงดอกโศกแผ่วเบา และก้มหน้าตอบ
ภักดิ์ภูมิอึ้งไปทันที “ผมเข้าใจ ขอโทษนะครับผมไม่ควร....” เดินกลับไป
ดอกโศกลุกขึ้นทันทีเข้าไปหา “คุณภักดิ์ภูมิคะ แอนเจล่าไม่เคยเรียกชื่อนี้กับใครเลย จะเรียก
แอนเจล่ากับคุณภักดิ์ภูมินะคะ”
ภักดิ์ภูมิ ยิ้มออก “ครับ ขอบคุณครับ”
ต่างคนมองกันอยู่สักครู่หนึ่ง ดอกโศกมองสายตาบริสุทธิ์สดใส ภักดิ์ภูมิมองอย่างลึกซึ้งซ่อนเร้น
เสียงโทรศัพท์ของดอกโศกดังก้อง จนสองคนสะดุ้ง
ดอกโศกกดรับ “ค่ะ....ดอกโศกพูดค่ะ จำเป็นเสียงใครคะ” แซวอัศนัยขำๆ
ภักดิ์ภูมิรู้ทันทีว่าเป็นใครโทร.มา หน้าหมองลง เดินออกจากห้องไป
“มาไม่ได้หรือคะ”

“คุณนัยจะไปรับตอนเย็นนะครับ” อัศนัยบอกดอกโศกทางปลายสาย
“ค่ะ กลางวันติดอะไรหรือคะ” ดอกโศกนึกได้ “อ๋อ ใช่แล้ว คุณนัยบอกว่ามีคนจาก...”
อัศนัยสวนคำออกมาก่อน “เขาแคนเซิลแล้วคนที่จะมาไม่สบายกะทันหัน แต่คุณนัยจะพาอุ๊ไปทานข้าว
ได้ยินชื่ออุ๊ ดอกโศกนิ่งอึ้งทันที
“ดอกโศก...”
ดอกโศกนิ่ง
“ดอกโศก ได้ยินคุณนัยมั้ยจ๊ะ”
ดอกโศกยังนิ่งอยู่อย่างนั้น
“ดอกโศก คุณนัยขอโทษนะไม่ได้รู้มาก่อน แต่ว่า...เผชิญ”
“คุณนัย ดอกโศกทราบแล้วค่ะว่าคุณนัยจะพาอุ๊ไปทานข้าวกลางวัน สวัสดีค่ะ” ดอกโศกกดปิดสาย
“ดอกโศก...ดอกโศก เดี๋ยว”
อุ๊ ฟังอยู่สีหน้านิ่งสนิท

อัศนัยนั่งทานข้าวกับอุ๊ สีหน้าอุ๊ยิ้มแย้มแจ่มใส ดีใจไม่เว่อร์ หรือทำหน้าตามีแผนการณ์ร้ายใดๆ พูดคุย ตักอาหารให้อัศนัย ในขณะที่อัศนัยหน้านิ่งขรึม

ดอกโศกนั่งนิ่ง ขณะทานอาหารอยู่กับเจนนิเฟอร์ในห้องอาหารของโรงแรม แต่ทานไม่ค่อยลง เจนนิเฟอร์มองประหลาดใจ
“เป็นอะไรอภิรมย์”
“เปล่า....ไม่เป็น”

“แต่อุ๊ก็สงสารคุณแม่” อุ๊ปรารภขึ้นกลางโต๊ะ
อัศนัยมองนัยน์ตาเป็นคำถาม
“อุ๊ไม่อยากทิ้งทั้งสองคน” น้ำตาอุ๊ทะลักออกมา ร้องไห้แบบอัดอั้นสุดขีด ทนไม่ไหวแล้ว “ทำไมคุณแม่ต้องข่มคุณพ่อ จนคุณพ่อต้องมีเมียน้อย”
อัศนัยพูดปลอบ “อุ๊ อาบอกแล้วว่าอย่าคิด คิดแต่เรื่องของอุ๊เถอะ อ้อ...พี่บุรี มีอะไรครับ” อัศนัยหันไปเห็นบุรีเดินเข้ามา
“ทางเชียงใหม่แจ้งมาว่า เขาพบกลิ่นไม่ดีทางบัญชีของโรงงาน”
อัศนัย มองรอให้บุรีเล่าต่อ
บุรีเหลือบมองอุ๊ เป็นเชิงว่าพูดไม่ได้
อัศนัยรับทราบ “โอเค.....ให้เขารายงานมา”
“ครับ” บุรีเดินออกไป
“อะไรเหรอคะ กลิ่นไม่ดี” อุ๊อยากรู้
“แปลว่ามีคนโกง”
เวลาเดียวกันตระกูลคุยโทรศัพท์มาตามทางเดินไปห้องปรียากมลที่คอนโด
“เรียบร้อยนะ....แน่ใจว่าปิดสนิทจริงๆ ไม่รั่วแน่นะ โอเค...จ่ายเงินผู้ตรวจบัญชีได้”

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 14/3 วันที่ 5 พ.ค. 55
ละครเรื่อง ดอกโศก บทประพันธ์ : ศรีทอง ลดาวัลย์
ละครเรื่อง ดอกโศก บทโทรทัศน์ : ศัลยา
ละครเรื่อง ดอกโศก กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ
ละครเรื่อง ดอกโศก ผลิต : บ. เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง ดอกโศก แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง ดอกโศก ออกอากาศทุกวัน จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง ดอกโศก ออกอากาศตอนแรก เริ่มวันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ