{[['']]}
อ่านละคร ขุนเดช ตอนที่ 11 วันที่ 12 พ.ค. 55
ขุนเดชเองก็ร้อนใจเป็นห่วงดารา เขาไปหายงยุทธถามว่าทำไมไม่ห้ามดารา เพราะลำพังผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอ ไม่มีทางที่จะสาวไปถึงพวกมันได้แน่ ยงยุทธย้อนถามว่าทำไมเขารู้เรื่องนี้
“ฉันกับดาราเคยคุยเรื่องนี้กันมาก่อนแล้ว ดารามั่นใจว่า วัตถุโบราณที่ยังตามไม่เจอพวกนั้น น่าจะเป็นใบสั่งของคนคนเดียวกัน” ยงยุทธเดาว่าเป็นพวกนักสะสม ขุนเดชแย้งว่า “ไม่ใช่นักสะสมธรรมดา แต่เป็นอะไรที่แกคาดไม่ถึง”ขุนเดชเองก็ร้อนใจเป็นห่วงดารา เขาไปหายงยุทธถามว่าทำไมไม่ห้ามดารา เพราะลำพังผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอ ไม่มีทางที่จะสาวไปถึงพวกมันได้แน่ ยงยุทธย้อนถามว่าทำไมเขารู้เรื่องนี้
ยงยุทธเริ่มรู้สึกหนักใจ ขุนเดชย้ำว่า ตนเชื่อว่าดาราต้องได้ข้อมูลกลับมา แล้วเขาจะรู้เอง แต่ขอให้ยงยุทธรับปากมาก็พอว่า จะไม่ปล่อยให้ดาราได้รับอันตราย ทั้งสองมองหน้าอย่างวัดใจกัน
ooooooo
หลังจากนั้น ยงยุทธโทรศัพท์ไปหาดาราที่ห้องพักโรงแรมขอร้องให้เธอหยุดเรื่องที่กำลังทำแล้วรีบกลับมา เธอปฏิเสธเพราะพอจะได้หลักฐานแล้วว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังการหายไปของวัตถุโลหะศักดิ์สิทธิ์โบราณ รับปากว่าถ้ามีหลักฐานพร้อมตนจะหยุดทันที ยงยุทธติงว่านั่นไม่ใช่หน้าที่ของเธอ
“อย่ามาเกี่ยงว่าเป็นหน้าที่ใครเลย พวกเราทุกคนล้วนแต่เป็นหนี้บุญคุณบรรพบุรุษที่ช่วยกันสร้างแผ่นดินนี้ไว้ให้เรา เพราะฉะนั้น เราจึงมีหน้าที่ปกป้องสมบัติของบรรพบุรุษไว้เหมือนกัน”
“แต่ผมจะปล่อยให้คุณเป็นอันตรายไม่ได้”
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ฉันดูแลตัวเองได้ และถ้าฉันทำสำเร็จ ฉันก็จะได้ช่วยหยุดวีรบุรุษบาปไม่ให้ก่อกรรมทำเข็ญมากกว่านี้ได้ด้วย” พูดแล้วดาราวางสายเลย
ขณะยงยุทธกำลังหัวเสียที่หยุดดาราไม่ได้นั่นเอง จ่าแท่นเข้ามาเห็นหมวดอารมณ์ไม่ดีก็เดาได้ บอกว่าถ้าเป็นห่วงดาราก็ตามไปพาเธอกลับมาดีกว่า ยงยุทธแย้งว่า แต่เรากำลังตามตัวพวกที่ฆ่าพ่อขุนเดชอยู่ ถามจ่าว่าได้เรื่องยังไงบ้างแล้ว
“ทราบแล้วครับว่าพวกมันไปกบดานอยู่ที่ไหน สันดานพวกมันไม่เคยเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลย”
แล้วยงยุทธก็ไปนั่งร้านกาแฟตรงข้ามสำนักโคมเขียว ครู่หนึ่ง จ่าแต่งนอกเครื่องแบบมาพบ สังเกตเห็นมีพวกเสือแชนกับเสือชิดคอยดูลาดเลาข้างนอกตลอดเวลา จ่าเสนอว่าต้องใช้วิธีล่อพวกมันออกมาติดกับเรา ยงยุทธจะทำเอง จ่าติงว่าหน้าตาอย่างเขาไม่เหมาะ ตนจะปลอมตัวเป็นนักเที่ยวเข้าไปตีสนิทกับมันจะกลมกลืนกว่า
ยงยุทธเป็นห่วง แต่จ่ารับรองว่า ทางนี้ตนเอาอยู่ ตนแค่จะเข้าไปปล่อยข่าวให้พวกมันออกมาติดกับเท่านั้น เมื่อยงยุทธกลับจากไปพาดารากลับมาก็จะได้ลุยด้วยกันเลย
“ไปเถอะครับหมวด ถ้าเกิดอะไรกับอาจารย์ดาราขึ้นมา ผมไม่อยากเห็นหมวดเสียใจที่ไม่ได้ช่วยคนที่หมวดรักเหมือนที่ผมพลาดโอกาสเรียกความยุติธรรมคืนให้พี่เดื่อง”
ที่ประตูร้าน ขุนเดชถือหนังสือพิมพ์ปิดหน้าแอบฟังอยู่ตลอดเวลา!
ooooooo
ที่กรุงเทพฯ ดารานัดสมศรีมาคุยกันที่โรงแรม หลังจากฟังดาราแล้วสมศรีติงว่าเธอควรจะเชื่อยงยุทธให้อยู่ห่างๆเรื่องนี้ไว้ดีกว่า ดารายืนกรานว่าถ้าตนไม่ทำต่อไปก็จะต้องมีคนตายเพิ่มขึ้นอีก สมศรีจึงขอลองไปสืบดูก่อนว่าเรื่องที่เธอเล่ามามีมูลความจริงมากแค่ไหน ถ้ามีหลักฐานแบบดิ้นไม่หลุดตนก็จะช่วยตีแผ่ให้สังคมรู้
แต่สมศรีไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะกลับไปถึงโรงพิมพ์ เพราะเพียงเธอออกจากโรงแรมก็ถูกรถคันหนึ่งพุ่งชนตายคาที่ ดาราโผกอดศพเพื่อน ระหว่างนั้นเธอเงยหน้าเห็นประดับยืนเอามือล้วงกระเป๋ายิ้มยียวนอยู่ มีชาวบ้านที่แตกตื่นวิ่งตัดหน้าพอมองอีกทีไม่เห็นประดับแล้ว แต่เห็นเบิ้มยืนจ้องหน้าเธออยู่อย่างเอาเรื่อง
เมื่อดารากลับขึ้นห้องมันยังตามไปทุบประตูห้อง เธอไม่ยอมเปิดมันจึงสอดรูปเธอมีเลือดกากบาทที่หน้าเข้าทางใต้ประตู ดาราหน้าเสียกับการข่มขู่ที่ดุร้ายนั้น
ooooooo
บัวทองทนไม่ได้รอคำปันสวดมนต์เสร็จก็เข้าไปถามแม่ว่าลุงจ่าจับพวกโจรได้หรือยัง คำปันตกใจพยายามกลบเกลื่อน แต่บัวทองบอกว่าตนได้ยินแม่คุยกับลุงจ่าแล้ว ทั้งยังบอกแม่ว่าเรื่องสำคัญอย่างนี้ไม่ควรปิดบังขุนเดช ถามคำปันที่พยายามไม่ให้บัวทองพูดเรื่องนี้ว่า
“โธ่แม่...โจรที่ฆ่าพ่อพี่ขุนเดชเดินลอยนวลอยู่ใกล้ตัวแบบนี้ แม่ไม่สงสารพี่ขุนเดชเลยเหรอ” คำปันบอกว่าเพราะสงสารถึงไม่อยากให้รู้ ถ้าขุนเดชรู้แล้วไปฆ่าพวกนั้น ตัวขุนเดชเองก็ต้องติดคุกหมดอนาคต
บัวทองเป็นห่วงขุนเดชขึ้นมา คำปันถามว่าขุนเดชรู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง บัวทองไม่แน่ใจ เพราะวันก่อนตนไปหาหมอน้อยและเล่าเรื่องนี้ให้หมอน้อยฟัง เล่าจนจบจึงเห็นขุนเดชค่อยๆดันตัวออกจากใต้ท้องรถที่มุดเข้าไปซ่อม บัวทองตกใจถามว่าขุนเดชเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถตั้งแต่เมื่อไร เขาตอบหน้านิ่งๆว่าตนซ่อมรถอยู่ตรงนี้นานแล้ว ถามว่าบัวทองมีอะไรหรือ
นี่เอง บัวทองจึงไม่รู้ว่าขุนเดชรู้เรื่องที่ตนคุยกับหมอน้อยหรือเปล่า
ooooooo
จ่าแท่นติดหนวดปลอมใส่วิกผมยกมือพนมขอวิญญาณของเดื่องปกป้องตนให้ลากคอพวกโจรใจบาปมาชดใช้กรรมที่พวกมันก่อไว้ด้วย เรียกขวัญกำลังใจแล้วยืดอกเดินข้ามถนนไปยังสำนักโคมเขียว
ขุนเดชที่เกาะติดจ่าแท่นตลอดเวลา พอเห็นจ่าเดินข้ามถนนไปก็มองตามไปด้วยแววตาน่ากลัว คำรามในใจ
“ไอ้โจรใจบาปอย่างพวกมัน...โทษมันมีสถานเดียวเท่านั้น!!” แล้วเดินข้ามถนนเข้าสำนักโคมเขียวไปอีกคน
จ่าแท่นเข้าไปถามหาเสือแชนบอกว่าตนเป็นลูกน้องเสือเข้ม ป่าสัก ที่ปล้นแล้วถูกตำรวจยิงตาย ตนรอดมาได้ เป็นคนเดียวที่รู้ที่ซ่อนสมบัติที่ปล้นมา พลางเทเพชรจากถุงให้ดู บอกว่านี่เป็นเพียงส่วนเดียว แต่ที่มากกว่านั้นเสือเข้มมีอาคมปิดผนึกสมบัติไม่ให้ใครเข้าใกล้ พอตนรู้ว่าเสือแชนกลับมาสุโขทัยก็เลยมาขอให้ช่วย เพราะรู้ว่าเสือแชนเรียนอาคมมาจากที่เดียวกัน
จ่าถูกลูกน้องเสือแชนจับกดหน้าลงโต๊ะเอามือพาดเอามีดจ่อเตรียมฟันนิ้ว จ่าแท่นร้องลั่น “อย่า...อย่า!!”
ที่อีกมุมหนึ่งในสำนักโคมเขียว ขุนเดชหนุ่มหล่อล่ำคล้ำเข้ม ถูกบรรดาโสเภณีพากันกรี๊ดกร๊าดจองตัว แต่ถูกแม่เล้าดึงตัวเข้าห้องเสียก่อน ซุกไซ้ยั่วยวนขุนเดชสุดฤทธิ์ แต่ผลคือ ถูกขุนเดชเอาสันมือทุบต้นคอทีเดียวสลบเหมือด จากนั้นขุนเดชเอาผ้าขาวม้าพันหน้า ชักดาบดำออกจากฝัก กลายเป็นวีรบุรุษบาปที่พร้อมฆ่า!
เสือชิดชะตาขาดเดินมาเจอวีรบุรุษบาปเข้า พอมันเห็นเขาถือดาบดำก็ตกใจถามว่าเป็นใคร เพราะพวกมีดาบดำถูกตนกำจัดไปหมดแล้ว
“ตราบใดที่คนใจบาปอย่างพวกเอ็งยังไม่ถูกกำจัดให้หมดไป แผ่นดินนี้ก็ยังต้องมีทหารของพระร่วงคอยปกป้อง” สิ้นเสียงพูด วีรบุรุษบาปตะโกน “ฟ้า...ดิน...เป็นพยาน...เพลงดาบเดือนดับ” เงื้อดาบด้วยเพลงดาบเพชฌฆาตฟันดาบเดียวเสือชิดก็หัวกระเด็นจากบ่า! เลือดเสือชิดกระเด็นใส่หญิงโสเภณีเต็มหน้า
ooooooo
เป็นเวลาที่เสือแชนสั่งปล่อยจ่าแท่นแล้วเดินเข้าไปโอบไหล่บอกว่าแค่ล้อเล่น แล้วต่อรองส่วนแบ่งกันถ้าได้สมบัติของเสือเข้มมา ทันใดนั้นเอง โสเภณีที่หนีจากเสือชิดก็วิ่งเลือดเต็มหน้ามาบอกว่าเสือชิดถูกวีรบุรุษบาปฆ่าตายแล้ว
จ่าแท่นตะลึงงัน เสือแชนสั่งลูกน้องจับตัวจ่าแท่นไว้อย่าให้ไปไหน จ่าแท่นต้องยกมือทันทีเมื่อมีปืนมาจ่ออก
เสือแชนออกล่าวีรบุรุษบาปประกาศจะเอาเลือดหัวมาล้างตีนศพเสือชิดให้ได้
วีรบุรุษบาปต่อสู้กับพวกเสือแชนอย่างคล่องแคล่วกล้าหาญ ใช้ร่างลูกน้องเสือแชนมารับกระสุนตายไปหลายคน หลอกล่อเสือแชนให้มุดราวตากผ้าที่มีผ้าถุงตากอยู่ทำให้อาคมเสื่อมดาบไม่คม แต่มันยังตีฝีปากว่าวีรบุรุษบาปก็เป็นโจร ไม่มีสิทธิ์มาทำตัวเป็นตุลาการตัดสินคนอื่น
“ข้ามีสิทธิ์ตัดสินเอ็ง เพราะบาปที่เอ็งทำไว้กับนายเดื่องยังไม่ถูกชำระ”
ทำให้เสือแชนจำเรื่องนายเดื่องได้ ถามว่าวีรบุรุษบาปเป็นพวกทหารพระร่วงคิดจะแก้แค้นให้พวกเดียวกันหรือ
ไม่ทันที่วีรบุรุษบาปจะจัดการเสือแชน กำนันก็ยกกำลังมาช่วย ทำให้วีรบุรุษบาปจำต้องถอยไป
“ขอบใจกำนัน...ไอ้วีรบุรุษบาปกับฉันมันต้องเจอกันอีกแน่” เสือแชนอาฆาตแค้น
จ่าแท่นตกอยู่ในอันตรายเมื่อเสือแชนจำได้ว่าเขาคือจ่าแท่น มันกระชากหนวดปลอมและวิกผมออก พูดใส่หน้าว่า
“นึกแต่แรกแล้วว่าหน้ามันคุ้นๆ พอไอ้วีรบุรุษบาปพูดถึงไอ้เดื่องขึ้นมา ข้าก็เลยนึกถึงเอ็ง...หึๆ วอนหาเรื่องไม่เลิก!”
เสือแชนหันไปเอาปืนจากลูกน้อง จ่าแท่นหลับตาปี๋ แต่มันไม่ยิง หากแต่ใช้ด้ามปืนทุบต้นคอทีเดียวจ่าก็หมดสติ
ooooooo
บัวทองร้อนใจ คืนนี้ไปหาขุนเดชที่กระท่อมถามว่าเขาอยู่ที่นี่ตลอดเลยหรือ ขุนเดชบอกว่าเปล่า ตนไปที่โบสถ์ ถามบัวทองว่ามีอะไรหรือเปล่า บัวทองอึกอัก ขุนเดชเลยพูดเสียเองว่า
“สงสัยใช่ไหม ว่าพอพี่รู้เรื่องพวกโจรที่ฆ่าพ่อพี่แล้ว พี่จะตามไปแก้แค้นมัน” บัวทองตกใจที่เขารู้ ขุนเดชบอกว่าตนได้ยินเธอคุยกับอาหมอ ปลอบใจว่า “แต่บัวทองไม่ต้องห่วง พี่ไม่มีหน้าที่ไปตัดสินความผิดใคร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ดีกว่า”
“คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบ...พี่หมายถึงใคร ตำรวจหรือวีรบุรุษบาป”
“ใครก็ได้ที่สามารถหยุดพวกมันไม่ให้ทำบาปต่อไปได้อีก”
“ถ้าพี่หมายถึงวีรบุรุษบาปละก็...เขาลงมือแล้ว เขาฆ่าพวกมันได้แล้วคนหนึ่ง แต่ลุงจ่า...” บัวทองน้ำตาคลอพูดไม่ออก
“เกิดอะไรขึ้นกับจ่าเหรอบัวทอง” ขุนเดชตกใจ
ooooooo
วันนี้ ขณะดาราอยู่ในห้องพักที่โรงแรม ยงยุทธไปที่ห้องไม่พบใคร จู่ๆก็มีปืนมาจ่อที่ข้างหลัง แต่เขาอาศัยประสบการณ์แย่งปืนไปได้ จับเธอพลิกกลับมา ดาราจึงเห็นว่าเป็นยงยุทธนั่นเอง
ยงยุทธมาหว่านล้อมให้ดาราเลิกล้มความตั้งใจของเธอเสียเพราะเธอตัวคนเดียว อย่าอยู่เสี่ยงอันตรายเลยให้กลับไปพร้อมกันเสีย ตนจะยอมให้คนที่ตนรักต้องเจ็บปวดหรือตายไม่ได้
“ขอบใจนะยงยุทธ แต่ฉันต้องการพิสูจน์ให้วีรบุรุษบาปเห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีการนองเลือด ฉันก็ยังปกป้องสมบัติของแผ่นดินได้”
แล้วเธอก็เข้าไปหลังฉากเปลี่ยนเป็นชุดเดรสยาวออกมา ยงยุทธถามว่าจะไปไหนก็ไม่ตอบ เธอเดินออกไปจากห้อง ยงยุทธตามไปหว่านล้อมอีก เธอตอบอย่างเด็ดเดี่ยวว่า
“เพื่อนฉันต้องสังเวยชีวิตไปเพราะอิทธิพลของพวกมัน ฉันไม่ยอมให้เพื่อนตายฟรีหรอก”
“แต่ถ้าคุณไป คุณไม่ทันได้เปิดโปงพวกมันหรอก เพราะมันจะฆ่าคุณ”
“ถ้ามันกล้าปิดปากฉันต่อหน้าสาธารณชนก็ลองดู” แล้วเธอก็ขึ้นรถโรงแรมออกไป ทิ้งยงยุทธให้ยืนเครียดอยู่ตรงนั้น
ooooooo
เสือแชนพูดถึงนายเดื่อง กำนันคิดไม่ออกถามว่าเดื่องไหนหรือ พอเสือแชนพูดถึงพระศิลาที่ถ้ำเขาหลวงเมื่อ 20 ปีที่แล้ว กำนันก็ร้อง
“อ๋อ...พระศิลา ที่ข้าตามพวกเอ็งให้ไปตัดเศียรน่ะเหรอ ข้าจำได้แล้ว ไอ้เดื่องมันเป็นคนของราชการที่ข้าเคยไปเจรจาขอให้มันเปิดทางให้พวกเราเข้าไปลักตัดพระศิลา มันหัวแข็งไล่ตะเพิดข้าซะเสียหน้ากำนัน ข้าก็เลยให้พวกเอ็งตัดคอมันเสียด้วยเลย”
“นั่นแหละ แต่ไอ้เดื่องไม่ใช่หัวหน้าขุดแต่งกรุของราชการธรรมดา มันเป็นทหารพระร่วง พวกที่สาบานตนว่าจะปกป้องสมบัติแผ่นดินโดยมีดาบดำเป็นอาวุธ”
“ชื่อนี้อีกแล้ว ข้าล่ะเบื่อไอ้พวกสติไม่เต็มบ้าบอ เต็มทนแล้ว”
“มันไม่ใช่พวกบ้าอย่างที่เอ็งคิดหรอกกำนัน ไอ้พวกนี้มันมีอยู่จริง ฉันนี่แหละที่ตามคอยเล่นงานพวกมันมานักต่อนักแล้ว นึกว่าจะปราบพวกมันจนหมดแล้ว แต่ดันยังเหลือเชื้ออยู่อีก ไอ้วีรบุรุษบาป” เสือแชนขบกราม อย่างเจ็บใจ
เหตุนี้เอง กำนันจึงให้เสือแชนกำจัดวีรบุรุษบาปให้ตัดคอมาให้ได้เหมือนตัดคอนายเดื่อง จะเอาคนเท่าไรก็ได้ แต่เสือแชนไม่เอา บอกว่าลำพังตนกับคนที่เหลือก็เอาอยู่แล้ว และตอนนี้ตนมีตำรวจที่รู้จักนายเดื่องเป็นตัวประกันอยู่ กำนันอยู่เฉยๆ รอฟังข่าวก็แล้วกัน
การเข้าไปฆ่าเสือแชนครั้งนี้ของวีรบุรุษบาป สร้างความไม่พอใจแก่คำปันที่ทำให้จ่าแท่นถูกจับเป็นตัวประกัน ขุนเดชเองก็บอกกับหมอน้อยว่า ครั้งนี้เป็นความผิดของตน หมอน้อยถามว่าแล้วจะทำอย่างไรต่อไป
“ต้องช่วยจ่าให้ได้ ส่วนพวกมันยังไงก็ต้องรับโทษที่มันทำไว้กับพ่อ” ขุนเดชแววตาแข็งกร้าว
ooooooo
คุณหญิงกับปราชญ์ขัดใจกันรุนแรง เพราะวันนี้ เป็นวันเกิดคุณหญิงจะมีงานที่บ้าน แต่ปราชญ์บอกประดับว่าตนจะไม่ลงไปร่วมงาน จะอยู่ในห้องสมบัติ ให้ประดับดูแลความเรียบร้อยให้ด้วย แต่ตนได้จัดของขวัญเป็นเครื่องเพชรชุดใหญ่ให้คุณหญิงเหมือนทุกครั้งแล้ว คุณหญิงไม่พอใจบ่นกับประดับว่าเครื่องเพชรตนมีจนล้นตู้เซฟแล้ว ตนไม่อยากได้อีก
ขณะคุณหญิงกำลังอ่อยประดับอยู่นั้น ได้ยินเสียงปารมีอาเจียนไม่หยุด เลยเดินเข้าไปถาม สงสัยว่าอาการแบบนี้ไม่ใช่อาหารเป็นพิษเสียแล้วกระมัง แล้วคาดคั้นให้บอกความจริง สองแม่ลูกเสียงดังใส่กัน ประดับเข้ามาไกล่เกลี่ยว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณหญิงอย่าอารมณ์เสียเลย คุณหญิงจึงให้ประดับดูแลปารมีแทนตน แต่ก่อนไปยังกำชับประดับและปรามปารมีว่า
“เอาความจริงจากปากยัยปามาให้ได้ ถ้าแกทำให้ฉันเสื่อมเสียอับอายขายหน้าละก็...อย่าหวังว่าแกจะได้สุขสบายอยู่ที่นี่อีก ฉันจะไม่เลี้ยงทั้งแก ทั้งลูกแก แล้วก็ไอ้ผัวใจแตกของแกด้วย”
เมื่อคุณหญิงไปแล้ว ประดับทั้งกล่อมทั้งขู่ปารมีให้ไปเอาเด็กออก ปารมีกลัวถูกไล่ออกจากบ้านแล้วต้องไปลำบากจึงยอม ประดับให้เบิ้มเป็นคนพาเธอไป
ดาราในชุดเดรสสวยงามมาร่วมงานได้อย่างแนบเนียน กลมกลืน แต่ถูกเบิ้มเห็นและจำได้ ก่อนพาปารมีไป เบิ้มบอกประดับว่าตนเห็นดารามาในงาน ประดับจึงไปตามหา ปรากฏว่าเจอยงยุทธแต่งเท่อยู่ในงาน เลยเข้าไปทักอย่างหาเรื่องว่ามางานนี้ได้ยังไง ยงยุทธบอกว่าตนมาแทนผู้การทรงยศเพราะท่านติดงาน ทั้งยังมีบัตรเชิญมาโชว์ให้ดูด้วย
ooooooo
ดาราหลบหลีกจนแอบขึ้นชั้นบนได้ เป้าหมายคือห้องเก็บสมบัติของปราชญ์ ยงยุทธเห็นจึงรีบตามขึ้นไป
คุณหญิงขึ้นมาต่อว่าปราชญ์ที่ไม่ไปช่วยรับแขก เกิดโต้เถียงกันรุนแรง คุณหญิงหาว่าเขาเห็นแก่เศษอิฐเศษดินมากกว่าตน ขู่ว่าจะหย่า ปราชญ์ท้าให้หย่าเลย แต่หย่าแล้วเธอจะไม่ได้อะไรไปเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว
“ไอ้บ้า...ฉันเป็นเมียแกนะ ฉันไม่ใช่วัตถุโบราณที่แกสะสมไว้บนหิ้ง...ไอ้บ้า!!” คุณหญิงด่าพลางกระแทกเท้าออกไป
ดารารีบหลบบังหลังเสา พอคุณหญิงเดินผ่านไป เธอถอนใจโล่งอก แต่แล้วก็ตกใจสุดขีดเมื่อมีมือมาจับบ่าจากข้างหลัง พอหันไปก็ทั้งแปลกใจทั้งโล่งใจที่เห็นเป็นยงยุทธ
ยงยุทธหว่านล้อมให้ดารากลับไปเสีย เธอบอกว่าเกือบจะได้หลักฐานสำคัญอยู่แล้ว ยังไงก็ไม่ยอมกลับ ยงยุทธเลยช่วยเธอทำเสียเลย เขาบอกเธอว่า ชีวิตตนอนาคตตน ถ้าไม่มีเธออยู่ก็ไม่มีความหมายอะไร
ขณะนั้นเอง ทั้งสองได้ยินเสียงประดับสั่งลูกน้องว่า
“พวกแกสองคนไปเฝ้าห้องสมบัติของท่านไว้ อย่าให้ใครเพ่นพ่านเข้าไป ส่วนพวกแกแยกกันไปตามหาพวกมันให้เจอ แล้วก็จำไว้อย่าทำให้แขกคนอื่นแตกตื่น”
ยงยุทธบอกดาราว่าเราคงอยู่ไม่ได้แล้ว แต่ดาราก็ยังไม่ยอมไป บอกว่าถ้าตนไม่ได้หลักฐานนี้ไปวีรบุรุษบาปก็ยังจะต้องทำร้ายคนอีกหลายคน ทำให้ยงยุทธคิดว่าเธอเป็นห่วงวีรบุรุษบาป เธอชี้แจงว่าถ้าวีรบุรุษบาปไม่ต้องฆ่าคนก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับเขาที่เป็นตำรวจ ยงยุทธ จึงค่อยสงบลง
แต่แล้ว ยงยุทธกับดาราก็ถูกลูกน้องของประดับเห็นจนได้ มันกรูกันจะมาจับให้ได้ ยงยุทธจึงพาดาราหนี บอกว่าเราต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน เรื่องนั้นไว้ค่อยหาทางอื่นภายหลัง ดาราจึงจำต้องตัดใจ
ยงยุทธตัดสินใจยิงปืนขึ้นฟ้า ทำให้แขกแตกตื่นแล้วพากันหลบออกไปอย่างปลอดภัย เพราะประดับสั่งลูกน้องห้ามยิง กลัวแขกจะถูกลูกหลง สั่งลูกน้องให้ตามไปจัดการกับสองคนข้างนอก
เมื่อพากันหนีกลับมาถึงโรงแรม ยงยุทธเก็บของอย่างเร็วแล้วพาดาราที่ยังละล้าละลังหลบออกไปได้อย่างเฉียดฉิว เมื่อประดับพาลูกน้องมาถึงโรงแรมจึงพบแต่ห้องเปล่า มันแค้นแทบคลั่ง สบถลั่น
“โธ่เว้ย...ไอ้ยงยุทธ!!”
ooooooo
ที่ป่าช้าวัดเกาะน้อย...ขุนเดชไปไหว้และบอก กล่าวนายเดื่องผู้เป็นพ่อ โดยมีหมอน้อยยืนดูอยู่ข้างๆ
“ไอ้คนที่มันทำร้ายพ่อ ฉันจัดการส่งลงนรกไปได้แล้วคนนึง เหลืออีกคนฉันจะส่งมันตามไป พวกมันจะต้องชดใช้กรรมที่ทำไว้กับพ่อ ทำไว้กับแผ่นดินอย่างสาสม”
อ่านละคร ขุนเดช ตอนที่ 11 วันที่ 12 พ.ค. 55
ละคร ขุนเดช บทประพันธ์ โดย: สุจิตต์ วงศ์เทศ
ละคร ขุนเดช บทโทรทัศน์ โดย : แพรพริมา
ละคร ขุนเดช กำกับการแสดง โดย : สยาม น่วมเศรษฐี
ละคร ขุนเดช ผลิต โดย : บริษัท พอดีคำ จำกัด โดยธงชัย - มณีรัตน์ ประสงค์สันติ
ละคร ขุนเดช แนวละคร โดย : ดราม่า แอ็คชั่น อิงประวัติศาสตร์
ละคร ขุนเดช ออกอากาศ : วันพุธ-วันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ
No comments:
Post a Comment