อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 10 วันที่ 10 พ.ค. 55

{[['']]}
อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 10 วันที่ 10 พ.ค. 55
“สรุปว่า วันนี้ฉันได้เจอฮีโร่ที่ช่วยชีวิตคนอย่างเจ้านายฉัน แล้วก็ยังเจอคนเซ่อซ่าดูแลตัวเองไม่ได้อย่างนายด้วย”

จักรทำเป็นโวยวายแก้เกี้ยวว่านึกว่าจะเป็นห่วงแถมยังยกเรื่องเจ้านายตัวเอง มาเปรียบเทียบซ้ำเติมกันอีก แววสวนไปทันทีว่า คนที่ตนควรจะห่วงคือเจ้านายตนต่างหาก ถูกจักรโยงไปด่าเรื่องเธอชอบคนรวยอีกจนได้ แววฉุนกึกโต้ว่า“มันไม่เกี่ยวกับเรื่องรวยไม่รวยสักหน่อย ฉันก็ปลื้มทุกคนที่ทำอะไรดีๆนั่นแหละ” จักรถามว่าแล้วที่ทะเลาะกับตนอยู่นี่ล่ะ แววเหยียดปากพูด “หลงตัวเอง พูดเองเออเองว่าเป็นคนดีอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วจะให้ใครเขามาปลื้มยะ”

“ผมไม่มีอะไรดีในสายตาคุณจริงๆเหรอ” ถามแล้วเห็นแววนิ่งไป เลยพูดกลบเกลื่อนว่า “นี่...คุณ ผมก็พูดไปเรื่อยเปื่อยนั่นแหละ อย่าคิดมากนะ”

พอแววย้อนถามอย่างถือดีว่ารู้ได้ไงว่าตนคิดมาก เขาอ้างว่าแววตาเธอโกหกใครไม่ได้

แววรู้สึกถูกคนรู้ทันอีกแล้ว รีบขอตัวเข้าบ้านระหว่างนั้น เธอหันมองไปทางบ้านจักรพูดลอยๆว่า

“ถึงนายจะเซ่อซ่าอย่างนั้น แต่นายก็ทำให้ฉันรู้สึกดีได้เหมือนกันนั่นแหละ”

จักรยังยืนอยู่ตรงนั้น เขายิ้มกว้างกับคำพูดของเธอ พึมพำ “สยุมภูว์...นายจักร...ใครกันนะที่อยู่ในใจคุณ...”


ooooooo

คำรพพาวัณณรีเข้าม่านรูด เธอไม่ขัดขืนแถมยังอ่อยยั่วจนคำรพตายใจ ขณะคำรพเข้าห้องน้ำนั่นเอง วัณณรีหนีออกจากห้อง ทิ้งนักเพาะกาย 4 คนคอยต้อนรับคำรพที่กำลังหื่นหน้ามืดจนสะบักสะบอม

วัณณรีกลับไปเล่าให้มาลตีฟัง สองแม่ลูกพากันหัวเราะที่แก้เผ็ดคำรพได้ แววกลับมาเห็นแม่กับน้องกำลังขำอะไรกันอยู่ พอรู้เรื่องก็เอ่ยทึ่งว่า “พี่ไม่เคยคิดเลยนะว่ายัยวัณจะบู๊เป็นกับเขาด้วย”

“แหม...คนเรามันก็มีหลายด้านนะพี่ เพียงแต่ว่าเราอยากปิดเปิดด้านไหนให้ใครเห็น แต่วัณน่ะไม่ถึงขนาดแอบๆซ่อนๆ ปิดซะทุกด้านเหมือนเจ้านายพี่หรอกนะ”

ฟังวัณณรีแล้วทำให้แววคิดขึ้นได้ เข้าไปในห้องนอนเปิดไอแพดออนไลน์กับสยุมภูว์แต่ไม่มีสัญญาณ นึกถึงที่เลขาพูดถึงสยุมภูว์ที่สู้กับแก๊งแพนด้าแล้วก็ยิ่งเป็นห่วง ได้แต่ภาวนา...“หวังว่าคุณจะไม่เป็นอะไรมากนะคะ คุณสยุมภูว์”

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น ที่ห้องลับในร้านขายต้นไม้ เพิ่มพงษ์บอกสยุมภูว์ว่า เมื่อวานนี้ที่สถานีรถไฟ นอกจากแก๊ง แพนด้าแล้วยังมีลูกน้องของนิติภูมิด้วย สยุมภูว์ถามว่าไม่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือ

เพิ่มพงษ์บอกว่ามันบังเอิญเกินไป ตนไม่รู้ว่านิติภูมิส่งลูกน้องไปที่นั่นทำไม แต่พวกนั้นก็ไม่ได้แสดงบทบาทอะไร เพราะแก๊งแพนด้าทำงานได้ดีกว่า แต่เชื่อว่านิติภูมิต้องมีแผนอะไรแน่ๆ แต่ผิดแผนเสียก่อนเลยไม่ได้ลงมือ

พอดีมีโทรศัพท์จากนิติธรเข้ามาคุยกับเพิ่มพงษ์

หลังจากนั้น สยุมภูว์กับเพิ่มพงษ์ก็ไปที่ห้องพักของมิสเตอร์เหลียงในโรงแรมหรู จึงรู้ว่า ที่แท้มิสเตอร์เหลียงกับเลขาของเขาสลับตัวกัน โดยมิสเตอร์เหลียงปลอมเป็นเลขาและเลขาก็ปลอมเป็นมิสเตอร์เหลียง

มิสเตอร์เหลียงชี้แจงว่า ตนจำเป็นต้องทำอย่างนั้นเพื่อความปลอดภัย สยุมภูว์ติงว่าเขาไม่จำเป็นต้องมาเปิดตัวกับตนก็ได้ มิสเตอร์เหลียงพูดจากใจจริงว่า

“เพราะคุณทำให้ผมไว้ใจไงครับ ผมถึงต้องเปิดเผยตัวเองกับคุณ” ครั้นสยุมภูว์ถามว่าเรื่องเป็นอย่างไร เขาถึงต้องปลอมตัวกันแบบนี้ มิสเตอร์เหลียงตอบแบบรู้กันว่า “ผมคิดว่าคุณน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดีนะ...”

เมื่อสยุมภูว์นิ่งอย่างพร้อมฟัง มิสเตอร์เหลียงเล่าว่า

“ผมก็ไม่ได้อยากเล่นละครตบตาคุณหรอกนะ แต่ที่ทำไปมันก็ทำให้ผมรู้ว่าทำไมพ่อถึงเลือกทำงานใหญ่กับทศพลกรุ๊ปมาตั้งแต่แรก ผมตัดสินใจแล้วว่า ผมจะร่วมงานกับบริษัทของคุณ”

หลังจากนั้น มิสเตอร์เหลียงมอบกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งให้สยุมภูว์บอกว่า “นี่เป็นของที่พ่อผมทิ้งไว้ก่อนจะจากไป ท่านขอให้ผมนำมันมาให้คุณเพราะคิดว่าของข้างในมีความหมายกับคุณมาก”

“คุณทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของคนคนหนึ่งมากเลยครับ” สยุมภูว์เอ่ยขณะหยิบกระเป๋าเดินออกไป

“คุณหมายถึง...” มิสเตอร์เหลียงพูดทิ้งไว้อึดใจ จึงพูดต่อ “มันไม่มีประโยชน์ที่คุณจะปิดบังใครต่อใครแล้วล่ะครับ ถ้าคุณเจอคนที่คุณไว้ใจที่สุดแล้ว...คือ...คนที่คุณจะพร้อมยอมเสี่ยงได้ทุกอย่างเพื่อคนคนนั้นน่ะครับ”

เมื่อสยุมภูว์กลับถึงห้องนอนที่บ้านเช่า เปิดกระเป๋าดู ในนั้นมีม้วนฟิล์มเก่าขนาด 8 มม.อยู่ม้วนหนึ่ง เขาพึมพำ

“ฟิล์มม้วนนี้เนี่ยนะ...ของสำคัญ”

ooooooo

แววมาหานิติธรที่โต๊ะทำงานในทศพลกรุ๊ปเตือนว่าจวนได้เวลาไปเยี่ยมมิสเตอร์เหลียงกันแล้ว จึงรู้ว่ามิสเตอร์เหลียงหนีออกจากโรงพยาบาลและเวลานี้กำลังคุยอยู่กับสยุมภูว์ ทำให้แววโล่งใจเมื่อรู้ว่าสยุมภูว์ปลอดภัย ขาแค่ฟกช้ำดำเขียวเล็กน้อยเท่านั้น

แววกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน ครู่เดียว นิติภูมิก็ชวนไปทานข้าวกลางวันกับเขา แววตอบรับทั้งที่ใจยังคิดเรื่องสยุมภูว์อยู่

ขณะนั่งทานข้าวกันนั่นเอง แววได้รับโทรศัพท์จากนิติธร เธอพูดอย่างตื่นเต้นว่า ทานข้าวเสร็จจะรีบเข้าออฟฟิศเลย นิติภูมิที่กำลังหาข่าวอยู่ถามว่ามีอะไรหรือ

“คุณสยุมภูว์จะจัดงานเลี้ยงขอบคุณมิสเตอร์เหลียงค่ะ แล้วก็ถือเป็นงานเปิดตัวคุณสยุมภูว์ต่อวงสังคมด้วย แววว่าเรารีบทานให้เสร็จดีไหมคะ คุณนิติธรอยากให้แววไปคุยเรื่องหาคนนัดงานให้เพราะเรามีเวลาเตรียมงานไม่กี่วันเอง”

เมื่อแววกลับไปนั่งคุยกับนิติธรที่ออฟฟิศ นิติธรหนักใจว่างานกระชั้นชิดมาก คงต้องจ้างบริษัทจัดเลี้ยงมาดูแลแทน แววมั่นใจว่าตนมีคนรู้จักกันอยู่บ้างน่าจะขอให้มาช่วยดูแลได้ ถามจำนวนแขกที่จะมาร่วมงาน และรูปแบบงานว่าสยุมภูว์ต้องการแบบไหน

“เห็นว่าอยากให้เป็นปาร์ตี้หน้ากากน่ะหนูแวว”

“ปาร์ตี้หน้ากากหรือคะ??” แววทำหน้าตื่นเต้นแกมประหลาดใจ

นิติภูมิได้ข้อมูลเรื่องมิสเตอร์เหลียงจะจัดเลี้ยงขอบคุณสยุมภูว์ และตัวสยุมภูว์เองก็จะเปิดตัวในงานนี้ด้วย ก็โทร.สั่งศักดา ย้ำว่าคราวนี้อย่าให้พลาดอีก

ส่วนชลธิชากับเริงใจ พอรู้เรื่องนี้จากแวว เริงใจเชื่อว่าสยุมภูว์ต้องมีแรงบันดาลใจอะไรสักอย่างแน่ๆถึงได้ยอมเปิดตัว แววเชื่อว่าคงเพราะเขาแน่ใจว่าจะไม่มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นอีกแล้ว

เริงใจแกล้งกระเซ้าแววว่า ไม่แอบคิดเข้าข้างตัวเองบ้างหรือว่า สยุมภูว์ยอมเปิดตัวเพราะเธอ แววปฎิเสธเขินๆ เริงใจพูดอย่างจับผิดว่า “อย่าบอกนะว่าไม่เคยคิด” แววปฏิเสธพัลวันกลบเกลื่อนที่ถูกเพื่อนพูดแทงใจดำ

ooooooo

แป้งร่ำหาทางใกล้ชิดเอกรินทร์ โดยทำทีขอผูกมิตรเป็นเพื่อนกับชลธิชาและเริงใจ อ้างว่าเราทั้งสามคนก็เป็นได้แค่เพื่อนของเอกรินทร์เท่านั้น ชลธิชาไม่ปฏิเสธแต่เริงใจรู้ทันไม่เล่นด้วย เธอมองชลธิชากับแป้งร่ำที่ยิ้มแย้มแจ่มใสกัน พึมพำ

“ขอให้เป็นเพื่อนกันไปตลอดรอดฝั่งก็แล้วกัน”

ทำทีผูกมิตรเป็นเพื่อนกันแล้ว แป้งร่ำก็มาที่ร้านกาแฟเพราะรู้ว่าเอกรินทร์มาขลุกอยู่ที่นี่ ขอเจอกันก็ประจ๋อ–

ประแจ๋กันอย่างสนิทสนม จนเริงใจชี้ให้ชลธิชาดูว่า อาการมันเกินเพื่อนรึเปล่า ชลธิชาก็ยังเชื่อแป้งร่ำมั่นใจว่าเธอคงไม่ผิดคำพูด

เริงใจยังไม่ยอมญาติดีกับแป้งร่ำ วันนี้เอกรินทร์จึงชวนทั้งสามสาวไปทานอาหารร้านอร่อยในโรงแรมหยอดท้ายกับเริงใจว่าถ้าชวนแววไปด้วยก็ดี ทำให้เริงใจเชื่อว่าเอกรินทร์ยังหวังในตัวแววอยู่ ชลธิชาก็ได้แต่บ่นว่าไม่รู้เขาจะรอแววไปถึงไหน แต่เธอก็เอาใจช่วยเขา

เมื่อไปพบกันตามนัดที่โรงแรม เริงใจก็ยังทำปึ่งกับแป้งร่ำที่พยายามเกาะติดเอกรินทร์ ทั้งยังอ้อนเรียกคะแนนสงสารจากเขาว่า คงอีกนานกว่าจะเจรจาสงบศึกจนเริงใจยอมรับตน

“ผมจะเอาใจช่วยนะครับ” เอกรินทร์ให้กำลังใจ แป้งร่ำยิ้มให้เขาแทนคำขอบคุณ

ooooooo

ฝ่ายแจ็คประสบผลสำเร็จโดยบังเอิญที่พูดส่งเดชจนตรงกับรหัสทำให้ประตูห้องลับเปิดออกแจ็ค

ดีใจมากเข้าไปตะโกนเรียกน้าเพิ่มกับจักร เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ แจ็คก็เดินกดปุ่มเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เล่นไปเรื่อย จนเพิ่มพงษ์เข้ามา จึงหยุดหันไปอวดว่าตนทำสำเร็จแล้ว เข้าห้องลับนี้ได้สำเร็จแล้ว

แจ็คยังทำตัวสอดรู้สอดเห็นถามเพิ่มพงษ์ว่าใครคือสยุมภูว์ เพิ่มพงษ์โกหกว่าสยุมภูว์คือหัวหน้าโปรเจกต์

ลับจับพวกค้ายานี้ แจ็คมองหน้าเพิ่มพงษ์อย่างไม่เชื่อ ส่วนเพิ่มพงษ์สังเกตแจ็คแล้วก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

ส่วนแวว แม้จะฉลาดและทันคน แต่ก็สู้ความฉลาดและเจ้าเล่ห์ของจักรไม่ได้ เมื่อแววสงสัยว่าจักรกับสยุมภูว์จะเป็นคนเดียวกัน จักรก็ทำทียอมรับว่าใช่ แต่เธอก็ไม่เชื่อเพราะโดนหลายคนหลอกมาหลายครั้งแล้ว

ooooooo

เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลง เพื่อความปลอดภัย เพิ่มพงษ์จึงย้ายมิสเตอร์เหลียงไปอยู่โรงแรมใหม่ พอนิติภูมิรู้ก็เอะใจว่า ในเมื่อแก๊งแพนด้าก็ถูกรวบตัวไปหมดแล้วยังจะกลัวอะไร ฉุกคิดว่า “หรือว่ามันรู้แผนของเรา??”

ศักดาถามว่าแล้วจะให้ตนทำอย่างไรต่อไป นิติภูมิบอกให้รอถึงวันจัดงานเลี้ยงก่อนแล้วเราจะลงมือกัน

แววได้ชลธิชาติดต่อโรงแรมที่คุณพ่อเธอใช้บริการบ่อยๆ ให้ดูแลเรื่องงานเลี้ยง แต่สถานที่จะใช้ที่คฤหาสน์ทศพล วันนี้ทั้งสองจึงไปดูสถานที่กัน

ระหว่างนั้น ทั้งสองคุยกันถึงเอกรินทร์ แววถามว่าเขายังพูดถึงตนอยู่หรือเปล่า ชลธิชาพูดทำนองว่าเอกรินทร์คงตัดใจได้แล้ว คาดว่าเขาคงคิดว่าเธอกับนิติภูมิคบกัน แต่ก็เชื่อว่าเอกรินทร์คงไม่เลิกล้มความตั้งใจง่ายๆ จากการคุยกันทำให้ชลธิชารู้ว่าที่แท้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแววกับนิติภูมินั้นแววทำเพื่อตบตาเอกรินทร์เท่านั้น

“แล้วถ้าเขาคิดว่าเธอหลอกเขาล่ะ” ชลธิชาติง ทำให้แววอดกังวลขึ้นมาไม่ได้เหมือนกัน

เมื่อเจอนิติธรและพากันเดินสำรวจเตรียมสถานที่จัดงานกัน ครู่เดียว นิติธรก็ให้แววเป็นคนดูแลเพื่อนแทน ทั้งสองพยายามมองหารูปเจ้าของบ้านก็ไม่เห็น แววบอกว่าเพราะสยุมภูว์เป็นคนเก็บตัว

ชลธิชาถามว่าแววจะชวนตนมางานนี้ด้วยไหม แววบอกว่าเธอช่วยตนถึงขนาดนี้แล้วไม่ชวนได้ยังไง ทั้งยังให้ชวนเริงใจมาด้วยอีกคน พอเริงใจรู้ก็ดีใจสุดๆที่จะได้ลุ้นว่าถ้าได้เจอเอกรินทร์ในงานก็จะได้เปิดเผยความในใจกับเขาเสียเลย

ooooooo

ดูสถานที่แล้วก็พากันกลับไปโรงแรมที่จะให้จัดงาน เจอเพิ่มพงษ์กำลังจะออกรถพอดี แววเห็นแว้บๆ แต่เพิ่มพงษ์เห็นแววก่อนจึงทำทีเอนเบาะหลบพลางโทร.บอกสยุมภูว์แต่เขาไม่รับสาย เพิ่มพงษ์จึงรีบออกรถไป

แววมาเจอสยุมภูว์กำลังเดินมาทางลิฟต์พอดี เธอแปลกใจว่าจักรมาที่นี่ทำไม บอกชลธิชาว่าให้เดินล่วงหน้าไปก่อนแล้วเธอก็รีบตามจักรไป ปรากฏว่าจักรไปเข้าห้องน้ำชาย เธอเลยรออยู่ตรงนั้น

แต่เพียงครู่เดียวก็มีคนเดินออกมาในชุดที่จักรใส่เมื่อกี้นี้ แววเลยคิดว่าตัวเองตาฝาด แต่ยังติดใจสงสัยตะโกนที่หน้าห้องน้ำขอเข้าไปหน่อยแล้วเดินเข้าไป เจอชายคนหนึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาถูพื้นอยู่ในชุดพนักงานทำความสะอาดโรงแรม

แววมองๆแล้วเดินออกมา สยุมภูว์ที่กำลังทำความสะอาดพื้นอยู่แอบมองแล้วถอนใจโล่งอกแบบ... เกือบไป...

หลังจากนั้นไม่นาน สยุมภูว์ในชุดพนักงานทำความสะอาดก็เดินหลบๆ ผู้คนออกมาขึ้นรถแท็กซี่ที่เพิ่มพงษ์เอามารอที่หน้าโรงแรม พอขึ้นรถแล้ว เพิ่มพงษ์บอกว่าตนเช็กกับทางโรงแรมแล้ว แววมาติดต่อฝ่ายจัดเลี้ยงให้ไปจัดงาน

“ป่านนี้จะคิดออกหรือยังว่าเพิ่งไปเจอใครมา” สยุมภูว์พึมพำทั้งขำทั้งกังวล

ส่วนแววก็ยังคิดว่า จักรอาจจะมาที่นี่ในฐานะคนสวน แล้วก็พูดเหมือนตัดใจว่า

“ไม่เป็นไร อีกไม่นานฉันคงได้รู้ว่า สิ่งที่ฉันสงสัยมันเป็นจริงหรือฉันเพ้อเจ้อไปเอง”

ooooooo

กลับถึงบ้านคืนนี้ แววก็ยังเฝ้าครุ่นคิดเรื่องที่ไปเจอจักรที่โรงแรม แล้วจู่ๆสยุมภูว์ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่หันหลังให้ เขาถามแววว่าคิดอะไรอยู่ อยากรู้ว่าตนเป็นใครใช่ไหม

“ผมจะช่วยอะไรคุณได้บ้างเนี่ย...คุณอยากเห็นหน้าผมใช่ไหม” พูดแล้วก็ค่อยๆหันหน้ามา แววใจเต้น ตึ้กตั้ก แต่พอเขาหันมาจริงๆ ใบหน้าเขากลับซ่อนอยู่ภายใต้ หน้ากากเสียอีก! เขาบอกเธอว่า “แล้วเจอกันที่งานนะแวว ผมให้คนเตรียมชุดราตรีให้คุณแล้ว หวังว่าคุณจะชอบนะ”

อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 10 วันที่ 10 พ.ค. 55
ละคร แววมยุรา บทประพันธ์โดย : พนมเทียน
ละคร แววมยุรา บทโทรทัศน์ : ทองเอก และ วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ละคร แววมยุรา กำกับการแสดง : ชานนท์ สัมฤทธิ์
ละคร แววมยุรา แนวละคร : โรแมนติก
ละคร แววมยุรา ผลิต : บริษัท เวฟมีเดีย เวิลด์ จำกัด โดย ตู่-ปิยวดี มาลีนนท์
ละคร แววมยุรา ออกอากาศทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.30 น.ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ
Share this game :

No comments:

Post a Comment

 

Copyright ©2011- 2013 เรื่องย่อละคร ดูละครย้อนหลัง ดูทีวีออนไลน์ 3,5,7,8,9,tpbs ดูละคร, ละครย้อนหลัง, ซิทคอม, รายการ